สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
ไม่มีผิดไม่มีถูกหรอกครับ อยู่ที่ว่าสบายใจจะเก็บแบบไหน ผมเคยคิดว่าเก็บ Hardware wallet ปลอดภัยสุด แต่พอเก็บจริงก็กังวลหลายๆ เรื่องกลัวลืมที่ซ่อน ลืมรหัส กลัวพังกู้คืนไม่ได้ ดังนั้นถ้าคุณสบายใจที่เก็บใน exchange bitkub ก็เก็บเลยครับ เหรียญของเราเราตัดสินเองดีที่สุด
กรณีโดนแฮคผมว่าอยู่ที่ความระวังของเราเป็นหลัก ถ้าเราไม่ประมาท ทำตามข้อควรทำอย่างมีระเบียบตลอดเวลา ไม่ต้องกลัวครับ ถ้าประมาทไม่ว่าจะเก็บไว้ที่ไหนสูญหายได้หมดครับ
กรณีโดนแฮคผมว่าอยู่ที่ความระวังของเราเป็นหลัก ถ้าเราไม่ประมาท ทำตามข้อควรทำอย่างมีระเบียบตลอดเวลา ไม่ต้องกลัวครับ ถ้าประมาทไม่ว่าจะเก็บไว้ที่ไหนสูญหายได้หมดครับ
ความคิดเห็นที่ 8
แชร์จากประสบการณ์ สะสมเหรียญหลายตัว และขุดเหรียญตั้งแต่ปี 2517 พอราคาตก ขุดไม่คุ้มค่าไฟ เลยเลิกตั้งแต่ปี 2518 มีบัญชีอยู่ ทั้ง TDEX BX. COINASSET โดยเก็บเหรียญไว้ทีทั้ง exchange และ Hardware wallet โคยมี Ledger Nano S สองตัว Trezor 1 หนึ่งตัว ไว้เก็บเหรียญหลักๆ
ส่วนเหรียญที่เป็น Token และ ERC32 ที่ exchange ไม่รับฝาก และลง HW ไม่ได้ ก็ต้องฝากไว้กับ MyEtherWallet(MEW)
พอสอง exchange ปิด เหลือแต่ TDEX ( Satang Pro) ก็ต้องย้ายเหรียญ ลง HW สามตัว แล้วก็เลิกสนใจไปเลย
อาทิตย์ก่อน กลับมาดู HW หลังจากทิ้งไว้ สามปี ปรากฎว่า Ledger Nano S หนึ่งตัวเปิดหน้าจอไม่ได้ มืดสนิท อีกตัวมีตัวอักษรขึ้น แต่อ่านไม่ได้ เพราะpixel ดับไปกว่าครึ่ง ส่วน Trezor ยังok อยู่
การแก้ปัญหา ต้องสั่งซื้อ Nano S ตัวใหม่ มา Recovery ด้วย Seed. 24 ตัว หรือ ใช้ Trezor ตัวใหม่ มา Recovery ด้วย Seed 24 ตัว ของ Nano S ก็ได้เช่นกัน แต่วิธีใช้ Trezor แทนนี้ไม่แนะนำหาก Nano S ตัวที่เสีย มีเหรียญตระกูล Etherium (ERC32) เก็บอยู
ข้อแนะนำสำหรับมือใหม่
1. หาก port เหรียญเล็ก ทำใจตัดสูญ ได้ ฝากไว้ที่ exchange ในประเทศ ก็สดวก ปลอดภัยดี เพราะมีทั้ง แบงค์ชาติ และ กลต. ช่วยคุ้มครอง ดูแลอยู่ แต่หากเป็น exchange ต่างประเทศ ควรเก็บใน HW โดยมี หรือไม่มีตัวสำรองก็ได้
2. หาก port ใหญ่ แนะนำให้ แยกเก็บ รายการเหรียญหลัก เช่น ส่วนที่เกิน 5BTC หรือ 100ETH เก็บใน HW โดย แยก HW หนึ่งอันเก็บเพียงเหรียญชนิดเดียว และ แต่ละอันกำหนด สูงสุดไว้ เช่น ไม่เกิน 10 BTC
HW ทุกอันต้องทำสำรองไว้เสมอ เป็นตัว mirror โดยควรใช้ต่างยี่ห้อกัน. และควรซื้อ HW รุ่นที่ใช้ ตัวใหม่เก็บสำรองไว้หลายๆตัว
3. แผ่น seed + PIN HW. และ HWตัวสำรอง ต้องแยกเก็บคนละที่
ส่วนเหรียญที่เป็น Token และ ERC32 ที่ exchange ไม่รับฝาก และลง HW ไม่ได้ ก็ต้องฝากไว้กับ MyEtherWallet(MEW)
พอสอง exchange ปิด เหลือแต่ TDEX ( Satang Pro) ก็ต้องย้ายเหรียญ ลง HW สามตัว แล้วก็เลิกสนใจไปเลย
อาทิตย์ก่อน กลับมาดู HW หลังจากทิ้งไว้ สามปี ปรากฎว่า Ledger Nano S หนึ่งตัวเปิดหน้าจอไม่ได้ มืดสนิท อีกตัวมีตัวอักษรขึ้น แต่อ่านไม่ได้ เพราะpixel ดับไปกว่าครึ่ง ส่วน Trezor ยังok อยู่
การแก้ปัญหา ต้องสั่งซื้อ Nano S ตัวใหม่ มา Recovery ด้วย Seed. 24 ตัว หรือ ใช้ Trezor ตัวใหม่ มา Recovery ด้วย Seed 24 ตัว ของ Nano S ก็ได้เช่นกัน แต่วิธีใช้ Trezor แทนนี้ไม่แนะนำหาก Nano S ตัวที่เสีย มีเหรียญตระกูล Etherium (ERC32) เก็บอยู
ข้อแนะนำสำหรับมือใหม่
1. หาก port เหรียญเล็ก ทำใจตัดสูญ ได้ ฝากไว้ที่ exchange ในประเทศ ก็สดวก ปลอดภัยดี เพราะมีทั้ง แบงค์ชาติ และ กลต. ช่วยคุ้มครอง ดูแลอยู่ แต่หากเป็น exchange ต่างประเทศ ควรเก็บใน HW โดยมี หรือไม่มีตัวสำรองก็ได้
2. หาก port ใหญ่ แนะนำให้ แยกเก็บ รายการเหรียญหลัก เช่น ส่วนที่เกิน 5BTC หรือ 100ETH เก็บใน HW โดย แยก HW หนึ่งอันเก็บเพียงเหรียญชนิดเดียว และ แต่ละอันกำหนด สูงสุดไว้ เช่น ไม่เกิน 10 BTC
HW ทุกอันต้องทำสำรองไว้เสมอ เป็นตัว mirror โดยควรใช้ต่างยี่ห้อกัน. และควรซื้อ HW รุ่นที่ใช้ ตัวใหม่เก็บสำรองไว้หลายๆตัว
3. แผ่น seed + PIN HW. และ HWตัวสำรอง ต้องแยกเก็บคนละที่
แสดงความคิดเห็น
คนที่ถือ crypto ไว้ตอนนี้เก็บไว้ไหนบ้างครับ ผมถืออยู่ที่ ledger เริ่มกังวลครับ
พอดีมานั่งคิดๆ exchange น่าจะปลอดภัยกว่าไหม
เพราะ bitkub ดู promising มาก มากๆ (พอดีผมตามคุณท้อป (เจ้าของ bitkub) ในเฟสอยู่ด้วย)
ขณะที่ leger ผม (nano s) มีความเสี่ยง
1. หาย
2. พัง (ข้อนี้น่ากลัวที่สุด)
3. hardware / software จู่ๆไม่ compatible หรือ work properly
ขณะที่บน exchange อย่างบิทคับ (สมมุติถ้าพูดเฉพาะในไทย)
เรามีเสี่ยงแค่บิทคับโดยแฮกจากคนนอก แค่นั้น
ซึ่งผมว่าแทบเป็นไปไม่ได้เลย
ปกติเงินผมอยู่ใน ledger มาตลอด
ผมย้ายมาบน exchange หมดเลยดีไหมครับ