วันนี้! ไทยพบผู้ติดเชื้อ 'โควิด-19' เพิ่ม 13 ราย อยู่ใน State Quarantine
เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 63 เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 13 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,665 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 59 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,463 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 143 ราย
ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 13 ราย เป็นคนไทย 9 ราย สัญชาติซีเรีย 1 ราย ทั้งหมดเดินทางมาจากต่างประเทศ จาก เลบานอน 1 ราย เมียนมา 3 ราย เนเธอร์แลนด์ 1 ราย อิตาลี 1 ราย ซูดานใต้ 3 ราย และ เอธิโอเปีย 1 ราย เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine , Alternative State Quarantine Alternative Hosoital Quarantine)
ขณะที่ สัญชาติเมียนมา 3 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ และส่งกลับไปรักษาที่เมียนมา
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/902635
แถวยาวเหยียด ไทย-พม่านับพันคนเข้าคิวรอตรวจโควิดแน่นตลาดดังแม่สอด
วุ่นทั้งตลาด ชาวไทยและชาวเมียนมา ใน อ.แม่สอด จ.ตาก นับพันคน ต่อแถวยาวเหยียดกว่า 100 เมตร รอตรวจหาเชื้อโควิด-19 หลังพบพนักงานขับรถชาวเมียนมาติดเชื้อขณะข้ามมารับสินค้า
วันที่ 13 ตุลาคม 2563 ที่บริเวณตลาดพาเจริญ ต.แม่สอด อ.แม่สอด จังหวัดตาก ชาวเมียนมาหลากหลายอาชีพ เช่น ค้าขาย ขับรถยนต์ สามล้อแดง จักรยานยนต์ และแรงงานในตลาดพาเจริญ ต่างพากันเดินทางไปลงทะเบียนเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากรถตรวจหาเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน
โดยมี อสม.จากชุมชนอิสลาม และชุมชนใกล้เคียงเข้ามาช่วยจัดระเบียบ บรรยากาศค่อนข้างจะชุลมุน เนื่องจากใกล้บริเวณตลาด และมีชาวเมียนมาให้ความสนใจที่จะไปตรวจหาเชื้อจำนวนมาก เนื่องจากพื้นที่ตลาดแห่งนี้มีโกดัง และเป็นตลาดที่พนักงานขับรถชาวเมียนมา จำนวน 3 คน ที่ติดเชื้อโควิด-19 เข้าไปขนถ่ายสินค้า ซึ่งในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ตั้งเป้าไว้ 3,000 คน ให้การบริการฟรีทั้งชาวไทยและชาวเมียนมา
สำหรับบรรยากาศ ทางกลุ่มชาวเมียนมาไปรอตั้งแต่เช้า และทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนทาง อสม.ให้ออกไปต่อแถวจากจุดลงทะเบียน เพราะยืนมุงกันอย่างแออัด จนแถวบนถนนยาวเหยียดนับ 100 เมตร สายหลังตลาดพาเจริญ
และในวันเดียวกันนี้ ทางชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 จะนำรถตรวจหาเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน ไปให้บริการที่มัสยิดมาดีนะฮ์ ในเขตชุมชนวัดหลวงอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นชุมชนของชาวต่างด้าว สัญชาติเมียนมา
https://www.komchadluek.net/news/regional/445949
ต่างชาติ' จดจ่อเข้ารักษาในไทย
สาขาการจัดการและกลยุทธ์ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล นำเสนอรายงาน Strategic Health Tourism Management in Thailand ว่าด้วยการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
ซึ่งประเทศไทยมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 285 พันล้านบาท สูงเป็นอันดับที่ 13 ของโลก คิดเป็น 15.6% ของรายได้จากการท่องเที่ยวโดยรวม กระทั่งวิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากการที่ต้องล็อกดาวน์ประเทศ กระทั่งเมื่อต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลไฟเขียวให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาทำการรักษาโรคในไทยได้ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวดรัดกุม
รายงานนี้ ระบุว่า ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) เดินทางเข้ามารับบริการมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศแถบตะวันออกกลาง เอเชียใต้ เพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยุโรปและอเมริกา โดยชาวยุโรปและอเมริกามักจะใช้บริการผ่าตัดไม่เร่งด่วน เช่น ศัลยกรรมความงาม ขณะที่ชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มักจะใช้บริการเกี่ยวกับการตรวจรักษาหัวใจ หลอดเลือดและกระเพาะอาหาร
งานวิจัยนี้ยังนำเสนอจุดแข็งและจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุง แต่โดยรวมแล้วพึงพอใจกับการบริการและจะบอกต่อหรือแนะนำให้เพื่อน ญาติ คนใกล้ชิด เข้ามาใช้บริการเช่นกัน
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/902656
🔴มาลาริน/15 ต.ค.ไทยพบโควิด13รายมาจากตปท./ไทย-พม่านับพันคนเข้าคิวรอตรวจ/ ต่างชาติ' จดจ่อเข้ารักษาในไทยที่ไม่ใช่โควิด
เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 63 เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 13 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,665 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 59 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,463 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 143 ราย
ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 13 ราย เป็นคนไทย 9 ราย สัญชาติซีเรีย 1 ราย ทั้งหมดเดินทางมาจากต่างประเทศ จาก เลบานอน 1 ราย เมียนมา 3 ราย เนเธอร์แลนด์ 1 ราย อิตาลี 1 ราย ซูดานใต้ 3 ราย และ เอธิโอเปีย 1 ราย เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine , Alternative State Quarantine Alternative Hosoital Quarantine)
ขณะที่ สัญชาติเมียนมา 3 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ และส่งกลับไปรักษาที่เมียนมา
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/902635
แถวยาวเหยียด ไทย-พม่านับพันคนเข้าคิวรอตรวจโควิดแน่นตลาดดังแม่สอด
วุ่นทั้งตลาด ชาวไทยและชาวเมียนมา ใน อ.แม่สอด จ.ตาก นับพันคน ต่อแถวยาวเหยียดกว่า 100 เมตร รอตรวจหาเชื้อโควิด-19 หลังพบพนักงานขับรถชาวเมียนมาติดเชื้อขณะข้ามมารับสินค้า
วันที่ 13 ตุลาคม 2563 ที่บริเวณตลาดพาเจริญ ต.แม่สอด อ.แม่สอด จังหวัดตาก ชาวเมียนมาหลากหลายอาชีพ เช่น ค้าขาย ขับรถยนต์ สามล้อแดง จักรยานยนต์ และแรงงานในตลาดพาเจริญ ต่างพากันเดินทางไปลงทะเบียนเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากรถตรวจหาเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน
โดยมี อสม.จากชุมชนอิสลาม และชุมชนใกล้เคียงเข้ามาช่วยจัดระเบียบ บรรยากาศค่อนข้างจะชุลมุน เนื่องจากใกล้บริเวณตลาด และมีชาวเมียนมาให้ความสนใจที่จะไปตรวจหาเชื้อจำนวนมาก เนื่องจากพื้นที่ตลาดแห่งนี้มีโกดัง และเป็นตลาดที่พนักงานขับรถชาวเมียนมา จำนวน 3 คน ที่ติดเชื้อโควิด-19 เข้าไปขนถ่ายสินค้า ซึ่งในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ตั้งเป้าไว้ 3,000 คน ให้การบริการฟรีทั้งชาวไทยและชาวเมียนมา
สำหรับบรรยากาศ ทางกลุ่มชาวเมียนมาไปรอตั้งแต่เช้า และทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนทาง อสม.ให้ออกไปต่อแถวจากจุดลงทะเบียน เพราะยืนมุงกันอย่างแออัด จนแถวบนถนนยาวเหยียดนับ 100 เมตร สายหลังตลาดพาเจริญ
และในวันเดียวกันนี้ ทางชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 จะนำรถตรวจหาเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน ไปให้บริการที่มัสยิดมาดีนะฮ์ ในเขตชุมชนวัดหลวงอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นชุมชนของชาวต่างด้าว สัญชาติเมียนมา
https://www.komchadluek.net/news/regional/445949
ต่างชาติ' จดจ่อเข้ารักษาในไทย
สาขาการจัดการและกลยุทธ์ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล นำเสนอรายงาน Strategic Health Tourism Management in Thailand ว่าด้วยการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
ซึ่งประเทศไทยมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 285 พันล้านบาท สูงเป็นอันดับที่ 13 ของโลก คิดเป็น 15.6% ของรายได้จากการท่องเที่ยวโดยรวม กระทั่งวิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากการที่ต้องล็อกดาวน์ประเทศ กระทั่งเมื่อต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลไฟเขียวให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาทำการรักษาโรคในไทยได้ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวดรัดกุม
รายงานนี้ ระบุว่า ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) เดินทางเข้ามารับบริการมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศแถบตะวันออกกลาง เอเชียใต้ เพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยุโรปและอเมริกา โดยชาวยุโรปและอเมริกามักจะใช้บริการผ่าตัดไม่เร่งด่วน เช่น ศัลยกรรมความงาม ขณะที่ชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มักจะใช้บริการเกี่ยวกับการตรวจรักษาหัวใจ หลอดเลือดและกระเพาะอาหาร
งานวิจัยนี้ยังนำเสนอจุดแข็งและจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุง แต่โดยรวมแล้วพึงพอใจกับการบริการและจะบอกต่อหรือแนะนำให้เพื่อน ญาติ คนใกล้ชิด เข้ามาใช้บริการเช่นกัน
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/902656