นั่งสมาธิโดยตามดูลมหายใจ (อานาปานสติ) จนจิตสงบ ร่างกาย ลมหายใจดับสนิท จิตเข้าสู่มิติที่เวิ้ง ว้างกว้างใหญ่ ไม่มีทิศ มีทาง มีดวงแก้ว สว่างไสว อยู่กลางความเวิ้ง ว้างนั่น ไม่มีความรู้สึกทางกาย ไม่มีความรู้สึกถึงลมหายใจ มีแต่สติกับสักแต่ว่ารู้ไม่มีความคิดใดๆ ไม่มีสุข ไม่มีทุกข์ แต่รู้ทุกความเป็นไป วางตัวรู้อยู่กับดวงแก้วที่สว่าง ไสวนั่น (ดวงแก้วตรงกลางใส รัศมีสีขาว สาดส่องไปทั่วทั้งจักรวาล :มิติเวิ้งว้างกว้างใหญ่)
เกิดปัญญาว่า “กายเรา ความคิดเรา ล้วนไม่ใช่เราทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเรา หรือแม้แต่กายเรา ความคิดเรา ล้วนเกิดจากอวิชชาปรุงแต่ง” ปัญญานี้เมื่อออกจากสมาธิทำให้มองโลกแตกต่างจากเดิมมากๆ ทำลายความเป็นอัตราตัวตนทั้งหมด
เมื่อความคิดก็เริ่มเข้ามาในมิติได้ ความรู้สึกถึงลมหายใจก็ซัดเข้ามาเหมือนน้ำซัดเขื่อนแตก เมื่อลมเข้ามา ความสุขก็เข้ามา ไม่มีสุขใดในโลกเทียบ ความรู้สึกทุกข์ใจ เศร้าใจ หายไปหมด มีแต่ความสุข ชื่นใจไปทั่วร่างกาย ออกจากสมาธิจิตแจ่มใส เบิกบาน ไม่ง่วง ไม่หิวไป 3 วัน 3 คืน
นักปฏิบัติเรียกสภาวะนึ้ว่าอะไรครับ
ใครเคยฝึกอานาปานสติแล้วเกิดสภาวะเช่นนี้บ้าง
เกิดปัญญาว่า “กายเรา ความคิดเรา ล้วนไม่ใช่เราทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเรา หรือแม้แต่กายเรา ความคิดเรา ล้วนเกิดจากอวิชชาปรุงแต่ง” ปัญญานี้เมื่อออกจากสมาธิทำให้มองโลกแตกต่างจากเดิมมากๆ ทำลายความเป็นอัตราตัวตนทั้งหมด
เมื่อความคิดก็เริ่มเข้ามาในมิติได้ ความรู้สึกถึงลมหายใจก็ซัดเข้ามาเหมือนน้ำซัดเขื่อนแตก เมื่อลมเข้ามา ความสุขก็เข้ามา ไม่มีสุขใดในโลกเทียบ ความรู้สึกทุกข์ใจ เศร้าใจ หายไปหมด มีแต่ความสุข ชื่นใจไปทั่วร่างกาย ออกจากสมาธิจิตแจ่มใส เบิกบาน ไม่ง่วง ไม่หิวไป 3 วัน 3 คืน
นักปฏิบัติเรียกสภาวะนึ้ว่าอะไรครับ