JJNY : กรุงไทยประเมิน เสี่ยงมีธุรกิจ26%"ซมไข้ยาวนาน"/แบทแมนป่วน/เตือน หลังเสื้อเหลืองใช้ร่มตีจนหัก/น้ำหนึ่ง BNK48 โพสต์

กรุงไทยประเมินพิษโควิด เสี่ยงมีธุรกิจ 26% "ซมไข้ยาวนาน"ถึงปี65
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2393720
 

 
นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ประเมินว่าปี 2564 ยังเป็นปีที่ธุรกิจไทยเผชิญความท้าทาย แม้สถานการณ์โควิด-19 จะดีขึ้น โดยคาดว่ายอดขายที่หดตัวมากถึง 9.0% ในปี 2563 จะยังต่ำกว่าระดับปกติในปี 2564 เป็นปัจจัยกดดันความสามารถในการชำระหนี้ หลังมาตรการพักชำระหนี้เป็นการทั่วไปสิ้นสุดลง ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลงบการเงินในระดับรายบริษัทกว่า 2 แสนราย พบว่าอัตราส่วนความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย (Interest Coverage Ratio: ICR) สะท้อนว่ากิจการมีกำไรจากการดำเนินงานเพียงพอที่จะจ่ายภาระดอกเบี้ยมากน้อยแค่ไหน โดยภาพรวมลดลงจาก 3.62 เท่าในปี 2562 มาอยู่ที่ 3.11 เท่าในปี 2563 และจะใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี ถึงจะกลับไปสู่ระดับเดิม นอกจากนั้น กิจการที่มีกำไรจากการดำเนินงานไม่เพียงพอจ่ายดอกเบี้ย หรือมี ICR ต่ำกว่า 1 เท่า จะมีสัดส่วนมากถึง 28-30% ในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า
 
“สถานการณ์เศรษฐกิจซบเซาที่มีแนวโน้มลากยาว อาจส่งผลให้กิจการซมไข้ยาวนาน หรือ กิจการที่มี ICR ต่ำกว่า 1 เท่า ติดต่อกันเป็นเวลา 3 รอบปีบัญชี มีจำนวนเพิ่มขึ้น จากเดิมเคยอยู่ที่ 9.5% ของกิจการทั้งหมดในปี 2562 เป็น 14% ของกิจการทั้งหมดในปี 2563 และจะพุ่งสูงขึ้นเป็น 26% ภายในปี 2565” นายพชรพจน์ กล่าว
 
นายณัฐพร ศรีทอง นักวิเคราะห์ กล่าวว่าต้องจับตามองธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นพิเศษ หลังพบว่าเป็นธุรกิจที่มีกิจการซมไข้ยาวนานในปี 2563 มากถึง 29% และ 26% ของกิจการทั้งหมด ตามลำดับ และเพิ่มขึ้นเป็น 48% และ 38% ภายในปี 2565ได้ หากไม่มีการช่วยเหลือปรับโครงสร้างหนี้ ทั้งนี้ ยังขึ้นอยู่กับแนวโน้มการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและพัฒนาการของเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีผลต่อธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร และแนวโน้มกำลังซื้อในประเทศ ภาวะการมีงานทำ รวมถึงความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือน เพราะจะกระทบต่อธุรกิจอสังหาฯ โดยตรง นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายธุรกิจที่จะมีจำนวนกิจการซมไข้ยาวนาน สูงกว่าค่าเฉลี่ย เช่น ธุรกิจสื่อและบันเทิง ธุรกิจเครื่องหนัง ธุรกิจเครื่องสำอาง และธุรกิจสิ่งทอ เป็นต้น
 
นายชัยสิทธิ์ อนุชิตวรวงศ์ นักวิเคราะห์ กล่าวสรุปว่าการจัดการกับกิจการซมไข้ยาวนาน ที่จะเพิ่มมากขึ้น คือโจทย์ท้าทายในระยะข้างหน้า ซึ่งการดำเนินนโยบายต่างๆจำเป็นต้องมีความเฉพาะเจาะจง โดยคำนึงถึงพื้นฐานทางการเงินของกิจการ และศักยภาพการกลับมาฟื้นตัวของธุรกิจ รวมถึงต้องคำนึงถึงการป้องกันปัญหา Moral Hazard ที่อาจจะตามมาได้ อีกทั้ง ควรให้การสนับสนุนในมิติอื่นๆ นอกเหนือจากเงินทุน ควบคู่ไปด้วย เช่น การยกเครื่องธุรกิจโดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัล ควบคู่กับการสนับสนุนให้ภาคธุรกิจปรับตัวเพื่อแสวงหาโอกาสในตลาดศักยภาพใหม่ๆ ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่สอดรับกับบริบทนิวนอร์มอลอย่างยั่งยืน



หวิดเดือด! ชายแต่ง ชุดแบทแมนป่วน ผู้ชุมนุมคณะราษฎร เจอสาดน้ำไล่ (ชมคลิป)
https://www.matichon.co.th/politics/news_2394196

หวิดเดือด! ชายแต่ง ชุดแบทแมน ป่วนผู้ชุมนุมคณะราษฎร เจอสาดน้ำไล่
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เวลา 15.00 น. ที่แยกเทวกรรม เกิดเหตุชุลมุนระหว่างผู้สนับสนุ่นกลุ่ม กปปส.ที่มักแต่งกายด้วยชุดแบทแมน ไปปรากฎตัวตามม็อบเสื้อเหลืองต่างๆ ถูกผู้ชุมนุมคณะราษฎร ตะโกนขับไล่ เนื่องจากเจ้าตัวเข้ามาปั่นป่วนระหว่างการเดินขบวนเพียงลำพัง ก่อนจะโดนผู้ชุมนุมสาดน้ำใส่แล้วสงบสติอารมณ์ลง
 
ทั้งนี้ ตลอดเส้นทาง มีประชาชนที่อยู่อาศัยโดยรอบ ต่างออกมายืนชู 3 นิ้ว ที่หน้าบ้านขณะที่ขบวนผ่าน โดยกลุ่มนักเรียนเลว ก็ได้เข้ามาร่วมขบวนด้วย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่