อยากจะฝากไว้ให้คิดนะครับ

เวลาจะเปรียบเทียบกัน ระหว่างรถ 2 คัน ที่ประหยัดน้ำมัน แตกต่างกัน ... คุณต้องเอา

" เงินที่จ่ายต่างกัน ต่อ กม.ที่รถวิ่ง มาคำนวณนะครับ "

อย่าง ถ้า C-HR Hybrid ประหยัดน้ำมันได้ 30 โล/ลิตร (ผมสมมติให้สุดๆ ไปเลย)
แต่ ECOCAR ได้แค่ดีสุด ก็ 20 โล/ลิตร ... เท่ากับว่า C-HR Hybrid ประหยัดกว่า 10 โล/ลิตร

เอาราคาน้ำมัน E20 ปัจจุบันมาคิดนะ ราคาตอนนี้ ลิตรละ 20 บาท (คำนวณคร่าวๆ ง่ายๆ)
C-HR Hybrid  20 Baht/l หารด้วย 30 km/l  =  0.67 Baht/km
ECOCAR       20 Baht/l หารด้วย 20 km/l  =  1.00 Baht/km

ส่วนต่างความสิ้นเปลืองน้ำมัน ต่อ กม.ที่รถวิ่ง คือ  1.00 - 0.67  =  0.33 Baht/km

เลข 0.33 บาท/ลิตร เลขนี้ คือ จะเอามาคำนวณครับ ว่า
เทียบกับเงินที่จ่ายแพงขึ้นกว่าหลายแสน เพื่อจะไปเอารถ Hybrid มันคุ้มค่ามั้ย ???

อย่างตอนนี้ ราคา ECOCAR รุ่นท็อป ราวๆ 600,000.-  ในขณะที่ C-HR Hybrid ราคาราว 1 ล้าน เท่ากับว่า ต่างกันถึง 400,000.-  ...
ในขณะที่ ราคาตอนถึงวันขายต่อ ผมบอกตรงๆ ว่า เดาไม่ถูกว่า รถ Hybrid ราคามือสอง ณ วันขายจะเป็นยังไง
ผมเลยขอเอา เปรียบเทียบแค่ ราคาที่ต่างกันตอนวันซื้อ คือ 400,000.- นี้ละกัน  ไม่ต้องไปเอาราคาวันขายทิ้งมาหักลบอีก

ลองคิดดูว่า ต้องจ่ายแพงกว่า 400,000 บาทตั้งแต่วันแรกที่ออกรถ แล้วไปประหยัดเงินค่าน้ำมันแค่ 0.33 บาท/กม. !!!
ถ้าจะให้คุ้มเงิน 400,000 บาทนี้ ... นั่นหมายความว่า คุณต้องขับ C-HR Hybrid ไปถึงเลขไมล์ที่ .. 400,000 / 0.33  =  1.2 ล้านกิโลเมตร !!!!
มันคุ้มค่ากันมั้ยครับ ????    คุณมองเห็นภาพหรือยัง ว่า มันต่างกันมากขนาดไหน ????

แต่ .. ถ้าคุณพอใจจะซื้อรถ C-HR Hybrid และมีเงินจะจ่ายได้โดยไม่เดือดร้อน
ก็ไม่ต้องมาเปรียบเทียบกันกับ ECOCAR ครับ  เพราะมีอีกหลายๆ อย่างที่รถ ECOCAR มันสู้ C-HR Hybrid ไม่ได้

อย่างเช่น จะขับมันไปจีบสาวสวยๆ ที่ถูกใจคุณ ... ผมว่า ขับ C-HR มีโอกาสสำเร็จมากกว่าขับ ECOCAR แน่นอน
นี่ .. ผมเอาความจริงในชีวิตจริงๆ มาพูดนะ ... ใครจะมาออกความเห็นในแง่ทัศนคติแบบอุดมคติ ผมขอผ่านไปครับ ขี้เกียจเถียงด้วย