ปกติ ล/ค ทำธุรกรรม ระบบรายเดือน ระบบเติมเงิน
เวลาลูกค้าต้องการตรวจสอบ และเปลี่ยนแปลง
*ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
*ที่อยู่ในการจัดส่งใบแจ้งค่าบริการ
*เปลี่ยนโปรโมชั่น
*ข้อมูลเกี่ยวกับ True ID
*ขอรายละเอียดในการโทร
พนักงาน จะถาม คำถาม เพื่อแสดงตนความเป็นเจ้าของ
โดยการ
สอบถาม *** *ชื่อและนามสกุล* *** ของเจ้าของหมายเลข
ถ้าตอบไม่ได้ ก้อจะถาม ***เลขที่บัตรประชาชน*** แทน
ก้อสามารถแจ้งและเปลี่ยนแปลงธุรกรรมในหมายเลขนั้นๆ(ทุกProduct)
อยากแนะนำ ให้ True มีมาตราการรักษาความปลอดภัยข้อมูลล/ค มากกว่านี้
เพราะ
1.ปัจจุบัน การโจรกรรมข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ ข้องข้างมีมาก ไม่ว่าจะเป็นธุรกรรมด้านการเงินที่ล/ค อาจผูกกับหมายเลขของทรูได้
2.อาจสร้างปัญหา เกี่ยวกับครอบครัวของเจ้าของหมายเลข เช่น ภรรยาโทรตรวจสอบข้อมูลของสามี หรือจากบุคคลที่ 3
3.บริษัทเกี่ยวกับการประภันภัย ประกันชีวิต สามารถ รู้ข้อมูลของล/ค โทรมาเสนอขาย สร้างความวุ่นวายให้กับล/ค
4.ข้อมูลเกี่ยวแอพโซเชี่ยล อาทิ เช่น line, Facebook,Agoda ฯ
5.และอาจมีปัญหาอื่นๆ อีกที่อาจเกิดขึ้นได้
ตัวอย่าง
ล/ค สมัครงานกับบริษัทต่างๆ ใน Resume จะมีทั้ง เบอร์ติดต่อ ล/ค สำเนาบัตรประชาชน(เห็น ทั้งเลขที่บัตร และ ชื่อนามสกุล)
ล/ค เข้าพัก ตามโรงแรมต่างๆ จะมีทั้ง เบอร์ติดต่อ ล/ค สำเนาบัตรประชาชน(เห็น ทั้งเลขที่บัตร และ ชื่อนามสกุล)
อีกทั้ง โรงพยาบาล ,คลีนิค,Fitness ฯลฯ..
ข้อมูลเหล่าลูกค้าอาจรั่วไหลได้ ถ้าเกิด มีมิจฉาชีพ ที่ตั้งใจโจรกรรมข้อมูลของล/ค
จริงอยู่ ปกติ ล/ค เจ้าของหมายเลขโทรเข้าไปเอง ใช้เบอร์ ตัวเอง บริษัททรูเลยมั่นใจ ว่าสอบถามข้อมูลแค่นี้ก็ปลอดภัย
แต่ถ้า
มิจฉาชีพ ทราบ ชื่อ-นามสกุลลูกค้า (อาจมีข้อมูลตามที่ยกตัวอย่าง)
ใช้ ** *เครือข่ายอื่นที่ไม่ใช่ทรูโทร**** เข้าไป
ใน *ระบบอัตโนมัติ* จะให้
****กดหมายเลขที่ต้องการสอบถามหรือตรวจสอบ***
ถ้ามิจฉาชีพ เสียงเป็นเพศเดียวกับเจ้าของหมายเลข
True จะตรวจสอบได้อย่างไร ว่าเป็นเจ้าของหมายเลขที่แท้จริง?
เพียงแค่ คำถาม1ใน2ตามที่แจ้ง เพื่อ ตรวจสอบความเป็นเจ้าของ และแจ้งข้อมูลหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้
เนื่องจาก ปัจจุบัน ข้อมูลต่างๆ มีผลต่อการใช้ แอพพิเคชั่น ออนไลน์ เกือบทั้งสิ้น
ทางทรูควรพิจารณา มีมาตราการ รักษาความปลอดภัยข้อมูลของ ล/ค ให้รัดกุมมากกว่านี้
เพื่อ รักษาผลประโยชน์และความปลอดภัย ล/ค ของ true ด้วย
True ควรเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลของ ล/ค มากกว่านี้
เวลาลูกค้าต้องการตรวจสอบ และเปลี่ยนแปลง
*ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
*ที่อยู่ในการจัดส่งใบแจ้งค่าบริการ
*เปลี่ยนโปรโมชั่น
*ข้อมูลเกี่ยวกับ True ID
*ขอรายละเอียดในการโทร
พนักงาน จะถาม คำถาม เพื่อแสดงตนความเป็นเจ้าของ
โดยการ
สอบถาม *** *ชื่อและนามสกุล* *** ของเจ้าของหมายเลข
ถ้าตอบไม่ได้ ก้อจะถาม ***เลขที่บัตรประชาชน*** แทน
ก้อสามารถแจ้งและเปลี่ยนแปลงธุรกรรมในหมายเลขนั้นๆ(ทุกProduct)
อยากแนะนำ ให้ True มีมาตราการรักษาความปลอดภัยข้อมูลล/ค มากกว่านี้
เพราะ
1.ปัจจุบัน การโจรกรรมข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ ข้องข้างมีมาก ไม่ว่าจะเป็นธุรกรรมด้านการเงินที่ล/ค อาจผูกกับหมายเลขของทรูได้
2.อาจสร้างปัญหา เกี่ยวกับครอบครัวของเจ้าของหมายเลข เช่น ภรรยาโทรตรวจสอบข้อมูลของสามี หรือจากบุคคลที่ 3
3.บริษัทเกี่ยวกับการประภันภัย ประกันชีวิต สามารถ รู้ข้อมูลของล/ค โทรมาเสนอขาย สร้างความวุ่นวายให้กับล/ค
4.ข้อมูลเกี่ยวแอพโซเชี่ยล อาทิ เช่น line, Facebook,Agoda ฯ
5.และอาจมีปัญหาอื่นๆ อีกที่อาจเกิดขึ้นได้
ตัวอย่าง
ล/ค สมัครงานกับบริษัทต่างๆ ใน Resume จะมีทั้ง เบอร์ติดต่อ ล/ค สำเนาบัตรประชาชน(เห็น ทั้งเลขที่บัตร และ ชื่อนามสกุล)
ล/ค เข้าพัก ตามโรงแรมต่างๆ จะมีทั้ง เบอร์ติดต่อ ล/ค สำเนาบัตรประชาชน(เห็น ทั้งเลขที่บัตร และ ชื่อนามสกุล)
อีกทั้ง โรงพยาบาล ,คลีนิค,Fitness ฯลฯ..
ข้อมูลเหล่าลูกค้าอาจรั่วไหลได้ ถ้าเกิด มีมิจฉาชีพ ที่ตั้งใจโจรกรรมข้อมูลของล/ค
จริงอยู่ ปกติ ล/ค เจ้าของหมายเลขโทรเข้าไปเอง ใช้เบอร์ ตัวเอง บริษัททรูเลยมั่นใจ ว่าสอบถามข้อมูลแค่นี้ก็ปลอดภัย
แต่ถ้า
มิจฉาชีพ ทราบ ชื่อ-นามสกุลลูกค้า (อาจมีข้อมูลตามที่ยกตัวอย่าง)
ใช้ ** *เครือข่ายอื่นที่ไม่ใช่ทรูโทร**** เข้าไป
ใน *ระบบอัตโนมัติ* จะให้
****กดหมายเลขที่ต้องการสอบถามหรือตรวจสอบ***
ถ้ามิจฉาชีพ เสียงเป็นเพศเดียวกับเจ้าของหมายเลข
True จะตรวจสอบได้อย่างไร ว่าเป็นเจ้าของหมายเลขที่แท้จริง?
เพียงแค่ คำถาม1ใน2ตามที่แจ้ง เพื่อ ตรวจสอบความเป็นเจ้าของ และแจ้งข้อมูลหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้
เนื่องจาก ปัจจุบัน ข้อมูลต่างๆ มีผลต่อการใช้ แอพพิเคชั่น ออนไลน์ เกือบทั้งสิ้น
ทางทรูควรพิจารณา มีมาตราการ รักษาความปลอดภัยข้อมูลของ ล/ค ให้รัดกุมมากกว่านี้
เพื่อ รักษาผลประโยชน์และความปลอดภัย ล/ค ของ true ด้วย