[SR] รีวิว Synology DS220j NAS 2BAY Personal Cloud สำหรับผู้เริ่มต้น

ปัจจุบันนี้ ด้วยข้อมูลต่างๆที่มีขนาดใหญ่ขึ้นทั้งรูปภาพ ไฟล์งาน หรือไฟล์ Video ทำให้ความต้องการอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลก็จะต้องมีขนาดความจุที่มากขึ้น และสะดวกขึ้น และบางคนอาจจะมีอุปกรณ์มากกว่า 1 ชิ้นเช่น Notebook , Smart phone หรือ Desktop PC ทำให้การจัดเก็บหรือแชร์ ไฟล์ระหว่างอุปกรณ์เหล่านั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ซึ่งโซลูชั่นที่เหมาะกับงานแบบนี้คงต้องพึ่งอุปกรณ์จำพวก NAS (Network Attached Storage) ให้เข้ามาช่วยจัดการ

วันนี้ทางผมจะมารีวิว NAS จาก Synology รุ่น DS220j ที่เป็น NAS รุ่นเริ่มต้น ขนาด 2BAYs ที่เหมาะกับใช้งานในบ้าน หรือ ออฟฟิตขนาดเล็ก ที่มีผู้ใช้งานประมาณ 5-10 Users
ตัวแพ็คเกจมาแบบเรียบง่ายกล่องสีน้ำตาลมี สติ๊กเกอร์บอกรุ่นและสเป็ค


Spec ของ NAS Synology DS220j คร่าวๆมีดังนี้
CPU - Realtek RTD1296 Quad Core 64Bit 1.4 GHz (ARM Base)
RAM DDR4 512MB
HDD 2 BAY (SATA)
1 PORT 1GB LAN
2 PORT USB 3
หรือรายละเอียดตาม Link ด้านล่าง
https://www.synology.com/th-th/products/DS220j#specs

เปิดกล่องมาจะพบกับตัวเครื่องในถุงสีขาว และอุปกรณ์ bundle ในกล่องเล็ก



อุปกรณ์ที่แถมมาก็มี คู่มือบางๆ , น๊อตต่างๆ , สาย LAN , สายไฟ AC และ Adapter ขนาด 60W



หน้าตาของ DS220j ก็ยังคงมี Design ที่เหมือนรุ่นก่อนๆ ตัวเครื่องเป็นพลาสติกสีขาว ด้านหน้ามีไฟสถานะการทำงานต่างๆ  (สามารถตั้งค่าเปิด ปิด หรี่แสงได้ ) และปุ่ม Power มุมล่างซ้ายของตัวเครื่องมีรหัสรุ่น DS220j



เปรียบเทียบกับรุ่นเก่า DS216j ไม่มีข้อแตกต่างใดๆ



ด้านข้างตัวเครื่องทั้งซ้ายขวา จะมี Logo Synology ที่ออกแบบให้เป็นช่องระบายความร้อนในตัว รวมถึงใต้ตัวเครื่องจะมีช่องอากาศเข้าขนาดใหญ่ โดยจะมีพัดลมขนาด 92mm ระบายความร้องออกทางหลังเครื่อง



Port เชื่อมต่อหลังเครื่องก็จะมี 
- Gigabit LAN 1 Port
- USB 3.0 Type A 2 Port
- Port DC Adapter 
- และ Kensington Lock

NAS นั้นโดยปกติแล้วจะไม่แถม HDD มาให้ ซึ่งการติดตั้ง HDD ในตัว DS220j นั้นจะต้องเปิดฝาเครื่องออกมาก่อน (NAS รุ่นสูงบางรุ่นจะมี Bay แบบ Hot Swap มาให้) การติดตั้งนั้นก็ไม่ยาก สไลด์ให้เข้ากับ Port SATA แล้วยึดน๊อตให้แน่น
ภายในบริเวณจุดยึดน๊อด HDD มียางกันสั่นมาให้เรียบร้อย



พัดลมระบายความร้อน 92mm.



สำหรับรีวิวนี้ HDD ที่ใช้ทดสอบเป็น WD RED EFRX (CMR) ขนาด 2TB 2 ลูก ทำ RAID 0
WD RED ที่ขายในตลาดจะมีแบบ SMR (รหัส EFAX) และ CMR (รหัส EFRX) อย่าใช้ปนกันเวลาทำ RAID เด็ดขาด

ติดตั้ง HDD เสร็จพร้อมทดสอบ



การ Setup ครั้งแรกจากเปิดเครื่องจะใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที สำหรับมือใหม่ทาง Synology จะมี Wizard คอยช่วยเหลือตลอดจนพร้อมใช้ ส่วน Advance User จะสามารถข้ามส่วนนี้เพื่อเข้า Manual Setup เองได้ โดย Quick Setup จะ Default ให้ใช้ RAID 1 ตามมารตฐาน ผมขอข้ามส่วนนี้ไปเพราะต้องการใช้ RAID 0 เพื่อทดสอบ Performance



เมื่อ Setup เสร็จแล้วเครื่องจะรีบูทเพื่อเข้าสู่ GUI ของ Synology ชื่อว่า DiskStation Manager (DSM)
Interface เรียบร้อยสวยงาม โดยจะมีการแสดงผลเป็น Icon เมนูหลักอยู่บริเวณมุมซ้ายบน 



หน้า Control Panel ที่ใช้จัดการกับตัว NAS การสร้าง User จัดการสิทธิในการเข้าถึง ดู Service ต่างๆ จัดการเรื่อง IP รวมถึง Security ฯลฯ
UI เป็น Icon สวยงามเข้าใจง่าย



การจัดกรุ๊ปของหัวข้อการตั้งค่าต่างๆ เรียบร้อยเป็นระเบียบและหาง่าย
หมวด Hardware & power ที่สามรถตั้งค่า เสียง Beeb, ปรั้บรอบพัดลม, ปรั้บแสงไฟ LED สถาณะการทำงาน



รองรับ UPS ที่มี SNMP Card ด้วย โดยเมื่อไฟฟ้าดับ UPS จะส่งข้อมูลผ่าน SNMP Protocol มาแจ้งที่ตัว NAS ซึ่งเราจะตั้งค่าได้ว่าจะให้ NAS เข้า Safe mode เมื่อผ่านไปกี่นาที ซึ่งจะช่วยป้องกันข้อมูลใน HDD เสียหายได้



Storage Manager ที่ไว้จัดการ HDD, มีบอกสถานะการทำงานของ RAID Volume รวมถึงบอกสุขภาพของ HDD, อุณหภูมิ และ Bad Sector



Package Center

ตัวนี้เป็นพระเอกของงานนี้เลยก็ว่าได้ เพราะ NAS เองก็คือ Computer 1 เครื่อง ที่จะต้องประกอบไปด้วย Hardware และ Software ซึ่ง Package Center ก็เปรียบเสมือน App Store ของ NAS นั่นเอง เราสามารถ Download Application ต่างๆมาติดตั้งลงบน NAS เพื่อเพิ่มฟังชั่นการใช้งานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้ 

ทาง Synology ก็มี Application ต่างๆที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับ NAS ให้สามารถใช้งานได้หลายหลายมากขึ้น ไม่เพียงแค่ไว้ใช้เก็บไฟล์อย่างเดียว
โดยที่แนะนำให้โหลดก็จะมี 

- Cloud Sync ที่ไว้ Sync ข้อมูลจาก Cloud ตัวนี้ก็รองรับ Google Drive, One Drive และ Cloud ชั้นนำอื่นๆอีกมากมาย 

- Download Station ตัวนี้เหมาะสำหรับคนที่เน้นใช้ NAS โหลดบิท หรือ โหลดจากเว็บ Share file ชื่อดังต่างๆ

- iTunes Server ตัวนี้ สำหรับ Apple User สามารถแชร์เพลง, Video ระหว่างอุปกรณ์ Apple ได้

- Hyper Backup ตัวนี้สำหรับใช้ Backup ข้อมูลจาก NAS ไปเก็บไว้บน External Device อื่นๆ

- Media Server สำหรับคอหนังที่ใช้ NAS เก็บไฟล์หนังต่างๆ สามารถ Stream หนังผ่าน DLNA ไปที่ Smart TV ที่รองรับได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาเอาไฟล์หนังใส่ USB ไปเสียบที่ TV เพื่อรับชม

- Surveillance Station สำหรับทำ NAS เป็น Server ของกล้องวงจรปิด รองรับ IP Camera โดยตัวนี้ทาง Synology ให้ Free License มา 2 กล้อง (หากต้องการต่อมากกว่า 2 กล้อง ต้องซื้อเพิ่ม)



ในส่วนของ Mobile Application สำหรับใช้งานบนมือถือ ระบบ Android ก็สามารถโหลดได้ใน Play Store เลย



การทดสอบประสิทธิภาพ 

โดยจะทดสอบ การ Read / Write ผ่านทาง สาย LAN และ Wi-Fi
ซึ่งตาม Spec ที่ Synology เคลมมา 112 MB per sec  (ตันที่ LAN 1Gbps) จะทำได้ตามที่เคลมหรือไม่ ลองมาดูผลกันครับ

Copy ไฟล์ขนาด 15GB จาก NAS ไปที่ Desktop PC ได้ผลตรงตามที่เคลม แรงสุดสาย LAN 1Gb จะทำได้แล้วครับ



ทดสอบ Write โดย Copy จาก SSD ของ PC ไปที่ NAS



มาลองดูผ่านทาง Wi-Fi บ้าง หากต้องการความเร็วที่เต็มประสิทธิภาพควรใช้ Wi-Fi 6 นะครับ




มาดูระดับการใช้พลังงานกันบ้าง
ในช่วง Idle ก็ใช้พลังงานประมาณ 8W

 

ส่วนเวลามีโหลด การใช้พลังงานเพิ่มขึ้นเฉลี่ยขึ้นๆลงๆ อยู่ราว 10-12W เท่านั้น ถือว่าประหยัดมาก



คำนวนเป็นค่าไฟ แค่ประมาณ 35 บาทต่อเดือนเท่านั้น (คำนวนที่ Unit ล่ะ 4 บาท) ถ้าจะซื้อมาโหลดบิท ปล่อย Seed ยาวๆถือว่าคุ้มมาก

สรุป
NAS จาก Synology รุ่น DS220j ถือว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่กำลังมองหา NAS มาใช้งานสักตัวหนึ่ง ที่ไม่ได้เน้น Performance และการใช้งานที่หนักหน่วง 
DS220j นั้นเหมาะกับการใช้งาน Home use หรือสำหรับ Office ขนาดเล็กที่มี Users 5-10 คน เนื่องจากเป็น NAS รุ่นประหยัดที่ใช้ CPU ไม่ได้แรงมากนัก รวมถึง RAM ที่อาจจะให้มาแค่ 512MB

จากการทดสอบ ไม่ได้เปิด Service อะไรมากมาย ยังใช้ RAM ไป 50% แล้ว แต่ด้วยราคาค่าตัวที่ไม่สูง ถ้าเทียบกับ NAS 2 BAY ในกลุ่ม Home Use ที่ Synology DS220j มีราคาเพียง 6-7 พันบาท (ไม่รวมHDD) มาพร้อม Software DiskStation Manager (DSM) ที่ Stable เป็นอันดับต้นๆ มี UI ที่ใช้งานง่าย หน้าตาสวยงาม แถมมี Update สม่ำเสมอ พร้อมการรับประกันถึง 2 ปี ทำให้ DS220j เหมาะสมและคุ้มค่าสำหรับคนที่กำลังมองหา NAS มาใช้ในบ้านสักตัว
 
Pros
-          CPU 4 Core เพียงพอเหลือ สำหรับผู้ใช้งานตามบ้าน
-          Software เสถียรสมเป็น Synology ที่เป็นผู้นำของตลาด NAS อันดับต้นๆ
-          UI ใช้งานง่าย สวยงาม มี wizard สำหรับมือใหม่ช่วยในการ Setup
-          ราคาต่อประสิทธิภาพคุ้มค่า
-          รับประกัน 2 ปี
Cons
-          ให้ RAM มาน้อยไปหน่อยสำหรับปี 2020 และเพิ่ม RAM ไม่ได้
-          ควรมี LAN 2.5 Gb หรือ LAN 1Gb 2 Port ที่ทำ Link Aggregation ได้แล้ว NASรุ่นเล็กของค่ายอื่นๆมีใส่มากันแล้ว

ขอขอบคุณ Synology Thailand ที่เอื้อเฟื้อ NAS DS220j สำหรับรีวิวนี้

สำหรับท่านที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงรายละเอียดทางเทคนิคสามารถเข้าชมได้ตามลิงค์นี้
https://www.synology.com/th-th/products/DS220j

ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
https://www.synology.com/th-th/wheretobuy/Thailand?utm_source=KoLs&utm_medium=review&utm_campaign=Thai%20KoLs%20Review
ชื่อสินค้า:   ์NAS Synology DS220j
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่