เราจะค่อยๆเล่าเหตุการณ์นะคะ
มันเริ่มจาก 28 ก.ค. 63 มีนักโทษพึ่งพ้นโทษมาขอพักที่บ้านเรา (เป็นญาติของคุณยายข้างบ้านค่ะ แต่ตอนนี้คุณยายมาอยู่บ้านเราเพราะเป็นผู้ป่วยติดเตียง บ้านแกก็ทุบไปแล้ว) แล้วทีนี้แม่เราเลยให้นอนหน้าบ้าน ครั้งแรกที่เจอกันเขาน่ากลัวมากเลยค่ะ เป็นผู้ชายผิวเข้ม (คล้ายๆสมคิด พุ่มพวงที่เพิ่งเป็นข่าวไปเลยค่ะ) เวลาเราเดินไปไหนก็ชอบจ้องตลอดเลย ทำให้คืนนั้นเราค่อนข้างวิตกกังวลเพราะแม่บอกว่าล็อคบอกว่าเขาติดยา เคยจะข่มขืนภรรยาเก่าตัวเอง แล้วก็เคยแหกคุกด้วย ส่งผลเราให้นอนไม่หลับจนถึงประมาณตี 3 แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวจนต้องนอนอยู่ดีค่ะ เราตื่นมาตอนประมาณ 6 โมงเขาก็ยังไม่ไปและขอตังค์แม่เราด้วย แม่เราก็ให้ๆไป หลังจากเขาไปเราก็เริ่มวิตกกังวลมากขึ้นกว่าเก่า เพราะวันนั้นเรานอนกับคุณยาย(ยายของเรานะคะ ไม่ใช่คนที่ติดเตียง) อยู่ชั้นล่างซึ่งมีแค่ม่านกั้น แล้วหลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์เราน่ามืดและเวียนหัว ไม่อยากอาหาร เศร้า อยากร้องไห้อยู่ตลอด จนต้องไปนอนกับแม่ แต่หลังจากนั้นประมาณ 7-8 วันมันก็หายไปค่ะ (เราใช่วิธีเบี่ยงความสนใจไปดูซีรี่ย์แทน)
แล้วทีนี้วันที่ 2 ก.ย. 63 เขากับมาอีกครั้งนึงค่ะ เพราะเขาต้องติดตามพฤติกรรมของคนเสพสารเสพติด ต้องติดตามทุก 1 อาทิตย์ แต่เขาไปทำงานตจว.เลยไปๆมาๆ เขาเลยขอว่าจะมาเดือนละครั้งได้มั้ย พยาบาลก็ปฏิเสธบอกว่าไม่ได้ต้องมาทุกอาทิตย์ ทำให้เขาไม่พอใจและหลุดพูดกับคุณยายเราออกมาว่า ถ้าพยาบาลที่คุมพฤติกรรมเขาอยู่ยังเรื่องมากอีกเขาจะข่มขืนให้จบๆไป ยิ่งทำให้เรากังวลมากกว่าเดิม
คืนนั้นเขาขโมยรถพ่อของเราไปประมาณช่วงตี 2 และขับรถไปสถานีตำรวจ(ตำรวจบอกว่าขับรถไปมาตั้งแต่ตี2 - ตี5เลยค่ะ) พอตอนเช้าพ่อเราตื่นมาจะเอารถไปทำงานรถก็หายไปแล้ว ไปแจ้งตำรวจ เหมือนตำรวจก็ไม่ค่อยอยากจับเท่าไหร่(บอกว่าเขาเป็นคนบ้าค่ะ เลยไม่อยากจับ) บอกให้ไปตามหารถเอาเอง แล้วจะลงยันทึกประจำวันไว้ พ่อแม่เราก็ไปตามหารถจนเจอ เขาเอารถไปซ่อนไว้ตอนแรกแม่เราไปเจอก่อน แล้วถอดกุญแจมาแล้ว แต่เหมือนเขาจะหาอะไรแงะรถแล้วขับไปต่ออีก ทีนี้ก็ไปจับกันได้ที่ร้านอาหารแม่เราก็ด่าไปเจ็บพอสมควรพร้อมบอกว่าจะไม่ให้เขากลับมาเหยียบบ้านเราอีก หลังจากวันนั้นอาการเดิมของเราก็กลับมาอีก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ หายใจเร็ว หัวใจเต้นแรงจนเหมือนจะหลุดออกมา ทั้งทรมานและ กลัวมากๆเลย บางวันก็ต้องเดินวนรอบๆบ้านอีกรอบเพื่อนเช็คประตูหน้าต่าง แต่อาการมันก็ยังไม่หายสนิทเหมือนครั้งแรก
คือเราพยายามหาวิธีแก้แล้วนะคะ ทั้งดูคลิปของจิตแพทย์(หมอประเวช) ดูคลิปธรรมะ ฝึกสติต่างๆ แต่มันก็เหมือนแค่ประคองอาการไปเรื่อยมากกว่า ทำอะไรก็ไม่มีความสุขเหมือนแต่ก่อน อารมณ์ฉุนเฉียว เวลาใครทำอะไรนิดหน่อยก็อยากร้องไห้ เหมือนมีก้อนสะอื้นอยู่ในคอตลอดเวลา คิดซ้ำๆวนๆ กลัวตัวเองเป็นบ้าเข้าสักวันจริงๆ
จนปัจจุบันก็ยังไม่หายดีเท่าไหร่ ตอนนี้กลัวใจตัวเองมากเลยค่ะ เราทั้งกลัวเขากลับมาทำร้าย หรือทำอะไรที่ร้ายแรงกว่านั้น นึกถึงแต่เรื่องเลวร้าย พอไปเรื่อยก็เริ่มกลัวคนที่มีลักษณะคล้ายๆเขา ไม่กล้าอยู่คนเดียว กลัวแม้แต่ความคิดด้านลบของตัวเอง
พอจะมีวิธีอะไรแนะนำหน่อยได้มั้ยค่ะ ตอนนี้เรากำลังซิ่วอ่านหนังสืออยู่บ้านค่ะ เลยไม่ค่อยได้ออกไปไหน แล้วเรื่องจิตแพทย์เราอยากรอให้สอบติดก่อนค่ะ เราจะไปพบแน่นอน ตอนนี้บ้านอยู่ไกลรพ.ที่มีจิตแพทย์มากๆเลยค่ะ การเดินทางค่อนข้างลำบาก แล้วเราก็ไม่อยากให้พ่อแม่รู้ด้วย กลัวพวกเขาจะผิดหวังที่เราสิ้นคิดแบบนี้
คิดมาก คิดซ้ำ กลัวเกิดเรื่องร้ายๆขึ้นกับตัวเองแก้ยังไงดี
มันเริ่มจาก 28 ก.ค. 63 มีนักโทษพึ่งพ้นโทษมาขอพักที่บ้านเรา (เป็นญาติของคุณยายข้างบ้านค่ะ แต่ตอนนี้คุณยายมาอยู่บ้านเราเพราะเป็นผู้ป่วยติดเตียง บ้านแกก็ทุบไปแล้ว) แล้วทีนี้แม่เราเลยให้นอนหน้าบ้าน ครั้งแรกที่เจอกันเขาน่ากลัวมากเลยค่ะ เป็นผู้ชายผิวเข้ม (คล้ายๆสมคิด พุ่มพวงที่เพิ่งเป็นข่าวไปเลยค่ะ) เวลาเราเดินไปไหนก็ชอบจ้องตลอดเลย ทำให้คืนนั้นเราค่อนข้างวิตกกังวลเพราะแม่บอกว่าล็อคบอกว่าเขาติดยา เคยจะข่มขืนภรรยาเก่าตัวเอง แล้วก็เคยแหกคุกด้วย ส่งผลเราให้นอนไม่หลับจนถึงประมาณตี 3 แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวจนต้องนอนอยู่ดีค่ะ เราตื่นมาตอนประมาณ 6 โมงเขาก็ยังไม่ไปและขอตังค์แม่เราด้วย แม่เราก็ให้ๆไป หลังจากเขาไปเราก็เริ่มวิตกกังวลมากขึ้นกว่าเก่า เพราะวันนั้นเรานอนกับคุณยาย(ยายของเรานะคะ ไม่ใช่คนที่ติดเตียง) อยู่ชั้นล่างซึ่งมีแค่ม่านกั้น แล้วหลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์เราน่ามืดและเวียนหัว ไม่อยากอาหาร เศร้า อยากร้องไห้อยู่ตลอด จนต้องไปนอนกับแม่ แต่หลังจากนั้นประมาณ 7-8 วันมันก็หายไปค่ะ (เราใช่วิธีเบี่ยงความสนใจไปดูซีรี่ย์แทน)
แล้วทีนี้วันที่ 2 ก.ย. 63 เขากับมาอีกครั้งนึงค่ะ เพราะเขาต้องติดตามพฤติกรรมของคนเสพสารเสพติด ต้องติดตามทุก 1 อาทิตย์ แต่เขาไปทำงานตจว.เลยไปๆมาๆ เขาเลยขอว่าจะมาเดือนละครั้งได้มั้ย พยาบาลก็ปฏิเสธบอกว่าไม่ได้ต้องมาทุกอาทิตย์ ทำให้เขาไม่พอใจและหลุดพูดกับคุณยายเราออกมาว่า ถ้าพยาบาลที่คุมพฤติกรรมเขาอยู่ยังเรื่องมากอีกเขาจะข่มขืนให้จบๆไป ยิ่งทำให้เรากังวลมากกว่าเดิม
คืนนั้นเขาขโมยรถพ่อของเราไปประมาณช่วงตี 2 และขับรถไปสถานีตำรวจ(ตำรวจบอกว่าขับรถไปมาตั้งแต่ตี2 - ตี5เลยค่ะ) พอตอนเช้าพ่อเราตื่นมาจะเอารถไปทำงานรถก็หายไปแล้ว ไปแจ้งตำรวจ เหมือนตำรวจก็ไม่ค่อยอยากจับเท่าไหร่(บอกว่าเขาเป็นคนบ้าค่ะ เลยไม่อยากจับ) บอกให้ไปตามหารถเอาเอง แล้วจะลงยันทึกประจำวันไว้ พ่อแม่เราก็ไปตามหารถจนเจอ เขาเอารถไปซ่อนไว้ตอนแรกแม่เราไปเจอก่อน แล้วถอดกุญแจมาแล้ว แต่เหมือนเขาจะหาอะไรแงะรถแล้วขับไปต่ออีก ทีนี้ก็ไปจับกันได้ที่ร้านอาหารแม่เราก็ด่าไปเจ็บพอสมควรพร้อมบอกว่าจะไม่ให้เขากลับมาเหยียบบ้านเราอีก หลังจากวันนั้นอาการเดิมของเราก็กลับมาอีก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ หายใจเร็ว หัวใจเต้นแรงจนเหมือนจะหลุดออกมา ทั้งทรมานและ กลัวมากๆเลย บางวันก็ต้องเดินวนรอบๆบ้านอีกรอบเพื่อนเช็คประตูหน้าต่าง แต่อาการมันก็ยังไม่หายสนิทเหมือนครั้งแรก
คือเราพยายามหาวิธีแก้แล้วนะคะ ทั้งดูคลิปของจิตแพทย์(หมอประเวช) ดูคลิปธรรมะ ฝึกสติต่างๆ แต่มันก็เหมือนแค่ประคองอาการไปเรื่อยมากกว่า ทำอะไรก็ไม่มีความสุขเหมือนแต่ก่อน อารมณ์ฉุนเฉียว เวลาใครทำอะไรนิดหน่อยก็อยากร้องไห้ เหมือนมีก้อนสะอื้นอยู่ในคอตลอดเวลา คิดซ้ำๆวนๆ กลัวตัวเองเป็นบ้าเข้าสักวันจริงๆ
จนปัจจุบันก็ยังไม่หายดีเท่าไหร่ ตอนนี้กลัวใจตัวเองมากเลยค่ะ เราทั้งกลัวเขากลับมาทำร้าย หรือทำอะไรที่ร้ายแรงกว่านั้น นึกถึงแต่เรื่องเลวร้าย พอไปเรื่อยก็เริ่มกลัวคนที่มีลักษณะคล้ายๆเขา ไม่กล้าอยู่คนเดียว กลัวแม้แต่ความคิดด้านลบของตัวเอง
พอจะมีวิธีอะไรแนะนำหน่อยได้มั้ยค่ะ ตอนนี้เรากำลังซิ่วอ่านหนังสืออยู่บ้านค่ะ เลยไม่ค่อยได้ออกไปไหน แล้วเรื่องจิตแพทย์เราอยากรอให้สอบติดก่อนค่ะ เราจะไปพบแน่นอน ตอนนี้บ้านอยู่ไกลรพ.ที่มีจิตแพทย์มากๆเลยค่ะ การเดินทางค่อนข้างลำบาก แล้วเราก็ไม่อยากให้พ่อแม่รู้ด้วย กลัวพวกเขาจะผิดหวังที่เราสิ้นคิดแบบนี้