พระ ฆ่า พระ ... บาป ไหม ?



https://pantip.com/topic/40252723
ฆ่าคนในเกมบาป ?
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ลักษณะของบุญ
http://webboard.abhidhammaonline.org/old/thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php@user=dokgaew&topic=10815

บุญ คือ อะไร? บุญคือสภาพที่ทำจิตใจให้สะอาดให้ผ่องใส ฉะนั้น ลักษณะของบุญในความหมายแรกนี้ จึงหมายถึงสภาพของจิตหรือคุณภาพของจิตที่ผ่องใส


อีกอย่างหนึ่ง บุญ หมายถึง ความสุข ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายอย่ากลัวต่อบุญเลย คำว่า บุญนี้ เป็นชื่อของความสุข" ฉะนั้น ลักษณะของบุญในความหมายที่สองนี้ จึงหมายถึงความสุขความเจริญ


อีกอย่างหนึ่ง บุญ หมายถึง การทำความดี ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า "พึงสั่งสมบุญ ทั้งหลาย อันจะนำความสุขมาให้" ฉะนั้น ลักษณะของบุญในความหมายที่ ๓ นี้ หมายถึงการทำดี เช่น การให้ทาน การรักษาศีล เป็นต้น

***************************************

บาปและบุญ..เรื่องเก่าแต่ต้องการสอน  โดย หลวงพ่อเสือ
http://www.abhidhamonline.org/Ajan/Sua/pape.doc

บาปคือสภาพธรรมะที่ไม่ดีงาม
บุญคือสภาพธรรมะที่ดีงาม

ธรรมะเป็นสิ่งที่ละเอียดมาก เพราะเกิด ดับเร็ว อย่างจิตเจตสิกเกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน บางครั้งเป็นกุศล บางครั้งเป็นอกุศลแล้วก็สลับกัน บางครั้งบอกไม่ถูกว่า ขณะนั้นเป็นกุศลหรือ อกุศล จีงต้องอาศัยการศึกษาให้ละเอียดพอสมควร ถึงจะรู้ว่า ขณะใดที่เป็นบาป หรืออกุศล คือขณะนั้นเป็น โลภะ โทสะ โมหะ และอกุศลจิตอื่น ๆ ที่เราเคยได้ฟัง เช่น อิสสา มัจฉริยะ เป็นลักษณะของธรรมะที่เป็นอกุศลทั้งนั้น

ถ้าเป็นกุศลหรือเป็นบุญ ก็ตรงกันข้าม คือเป็นธรรมะที่ดีงาม คือขณะที่จิตเจตสิกที่ดีงามเกิดร่วมกัน และมีทาง ของจิตคือ กาย วาจา เป็นทางของกุศลและอกุศล เพราะเหตุว่าไม่มีแต่จิต เรามีรูปด้วย ถ้ามีแต่จิตที่ เป็นกุศลหรืออกุศลคนอื่นจะเดือดร้อนไหม? (ไม่เดือดร้อน) แต่เพราะว่าเรามีรูปด้วย เวลาที่ อกุศลจิตเกิดก็มีทางคือ กาย วาจา ที่ไม่ดี ซึ่งเกิด จากอกุศลนั้น เบียดเบียนบุคคลอื่นให้เดือดร้อน

ความจริง เวลาที่อกุศลจิตเกิดขึ้นนั้น เบียดเบียนเราก่อน ดังนั้น คนมีอกุศล ไม่สบายเลย

แต่ว่าขณะที่เป็นโลภะ เราคิดว่า ดี เป็นความติดข้องต้องการสิ่งหนี่งสิ่งใด เวลาที่ได้มาแล้วดีใจมาก เพลิดเพลินเป็นสุข สนุกสนาน คิดว่าขณะนั้นก็ดี

เพราะฉะนั้นดีของเรา กับ ดีของธรรมะ เป็นคนละอย่าง ดีของเราคือความรู้สีกเป็นสุข แต่จริงๆ แล้วคือ อกุศล เพราะว่าขณะนั้นเป็นสภาพที่ติดข้อง ติดข้องนิดหน่อยๆก็ไม่พอใจ ไม่สมใจ ต้องมากกว่านั้นให้โสมนัสเลย ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ต้องการโสมนัสเวทนา ไม่ใช่เพียงอุเบกขาเวทนา เพราะฉะนั้นจะเห็นได้จริงๆว่า ถ้าไม่ศึกษาธรรมะ จะเข้าใจธรรมะผิดๆ อย่างเวลาที่เราสบายใจ ไปนั่งสมาธิ เราก็คิดว่า ขณะนั้นเป็นกุศลแล้ว โดยที่ไม่รู้ว่าขณะนั้นมีโลภะ แล้วก็มีโมหะ มีความไม่รู้และมีความติดข้อง

ถ้าศึกษาธรรมะแล้ว จะทำให้เข้าใจชัดเจนขึ้นว่า.... ขณะที่เป็นกุศล ต้องไม่มีโลภะ โทสะ โมหะ
แล้วเป็นไปในขณะไหนบ้าง เพราะจิตใจเรารู้ยาก แต่ถ้ามีการแสดงออกทาง กาย ทางวาจา พอจะรู้ แต่จะต้องตรง มิฉะนั้น ก็จะถูกลวง หรือเข้าใจผิด การที่เราเห็นคนที่ ยากไร้ และเราคิดที่จะช่วย ขณะคิดเป็นกุศลหรือ อกุศลที่จะช่วย? เพียงคิดก็เป็นกุศล แต่ยังไม่สำเร็จ เพราะยังไม่มีการกระทำ ถ้าอย่างนั้น ทุกคนต้อง รวยกุศล เป็นบุพเจตนา เป็นความคิดก่อน การกระทำ ...ซึ่งไม่แน่ว่า การกระทำนั้นจะเกิด หรือไม่เกิด เพราะฉะนั้นกุศล ก็มีประกอบมีทั้ง กาลก่อนที่จะทำ เรียกว่า บุพเจตนา
ขณะที่กำลังทำ จิตเป็นกุศล และหลังจากทำแล้ว จิตของเราผ่องใสที่ได้ช่วยคนอื่น ให้สะดวกสบายขี้น มีความสบายใจกับเขาที่พ้นทุกข์ เพราะฉะนั้นกุสลมี ๓ กาละ คือ ก่อนทำกุศล กำลังทำ และหลังทำ

อะไรคือสัมมาทิฏฐิ (ปัญญา)
http://pantip.com/topic/33586481/comment25

อำนาจกรรม
http://pantip.com/topic/32278286/comment5

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คู่มือการศึกษา  พระอภิธัมมัตถสังคหะ
ผลแห่งโลภะ โทสะ โมหะ
https://pantip.com/topic/39724147/comment2

อกุสลจิต เป็นจิตที่บาปส่วนมากเป็นเหตุให้ได้รับผลดังนี้

โลภะ เป็นจิตที่มีความอยากได้เป็นมูลเหตุ เป็นผลให้ไปเกิดเป็น เปรต เป็นอสุรกาย ด้วยอำนาจแห่งโลภะ

สมัยใด มนุษย์มีสันดานมากไปด้วยโลภะ สมัยนั้นจะเกิดข้าวยากหมากแพง เป็นเหตุให้อดอยากล้มหายตายจากกันไปเป็นอันมาก

โทสะ เป็นจิตที่มีความโกรธ ความเกลียดเป็นมูลเหตุ เป็นผลให้ไปเกิดเป็นสัตว์นรก อันเป็นที่ทรมานสัตว์ให้เร่าร้อนเช่นเดียวกับสภาวะของโทสะ ที่ดุร้าย ทำลาย ทรมานเผาไหม้หัวใจอยู่ทุกขณะ

สมัยใด มนุษย์มีสันดานมากไปด้วยโทสะ สมัยนั้นจะเกิดอันตรายจากศาตราวุธต่าง เป็นเหตุให้ฆ่าฟันกันล้มหายตายจากกันไปเป็นอันมาก

โมหะ เป็นจิตที่มีความไม่รู้ ความหลงเป็นมูลเหตุ เป็นผลให้ไปเกิดเป็นดิรัจฉาน ด้วยอำนาจแห่งโมหมูลจิต เพราะเป็นสภาพที่ยังสัตว์ให้ลุ่มหลงงมงาย

สมัยใด มนุษย์มีสันดานมากไปด้วยโมหะ สมัยนั้นจะเกิดอันตรายจากโรคร้ายไข้เจ็บ เป็นเหตุให้เป็นโรคระบาด ล้มหายตายจากกันเป็นอันมาก

ฆ่าคนในเกมบาป?

บาป

แต่มีหลายระดับ คงไม่บาปเท่าฆ่าคนจริง  แต่ เจตนาฆ่าคนในเกมส์นั้นประกอบด้วย โลภะ โทสะ โมหะ เกมส์จึงสั่งสมบาปทีละเล็กทีละน้อย

เห็นข่าว ลูกฆ่าแม่ เพราะติดเกมส์ไหมครับ นั้นคือบาปที่สั่งสมมา ให้ทำบาปขั้นรุนแรงได้
ความคิดเห็นที่ 13
บาป คือ อกุศลจิต
บุญ คือ กุศลจิต

การทำบาป คือ การเจริญจิตที่เป็นอกุศล
การทำกรรม คือ การสำเร็จอกุศลจิตให้ครบองค์ของกรรม

บาป และ กรรมต่างกัน
แค่คิดเฉยๆ ก็เป็นบาปได้ แต่ไม่เป็นกรรม
การจะเป็นกรรมได้ (มโนกรรม) ต้องประกอบด้วยเจตนาที่ทำให้จิตแล่นไปคิดเรื่องอกุศลต่อๆไป เช่น เห็นคนที่ชอบใจ เกิดโลภะ ชอบใจเขาเป็นบาปแล้ว แต่ไม่เป็นกรรม เพราะไม่มีเจตนาจะไปแย่งชิง เมื่อใดที่คิดเจตนาจะไปทำทุจริต จะไปแย่งชิงของๆคนอื่น นั้นจึงนับเป็นมโนกรรม




องค์ของปาณาติบาตนั้น มี ๕ อย่าง  คือ

๑. ปาโณ สัตว์มีชีวิต
๒. ปาณสัญิตา รู้ว่าสัตว์มีชีวิต
๓. วธกจิตตัง มีจิตคิดฆ่า
๔. อุปักกโม มีความพยายาม
๕. เตนมรณัง สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น




ฆ่าในเกมส์ บาปไหม?
บาป...ในแง่ ทำการละเล่น ทำจิตให้ฟุ้งซ่าน
ไม่บาป...ในแง่ เจตนาฆ่า เพราะเกมส์ไม่ใช่สัตว์

บางทีการสอนที่ไม่ละเอียดก็ทำให้สับสน เกิดข้อพิพาทได้........ทำให้นึกถึงพระทะเลาะกัน เพราะเหตุข้อวินัยเรื่องน้ำในขัน เมื่อสมัยพุทธกาลเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่