รีวิว นอนเต็นท์ 2 วัน 1 คืน ที่น้ำตกกระทิง จ.จันทบุรี คนเดียวก็เที่ยวได้

น้ำตกกระทิง ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เข้าออกด้วยรถยนต์ส่วนตัวครับ ค่าเข้า 70 บาทรวมรถ 1 คัน จนท บอกว่าเดินชมน้ำตกได้ตั้งแร่เวลา 8.30 - 16.30 น. แต่ถ้าใครพักอยู่ที่อุทยานช่วงเช้าสามารถขึ้นเร็วกว่านี้ได้ครับ

กระทู้นี้ ผมมาแชร์ประสบการณ์ของคนที่กังวลว่าการเดินป่า คนเดียว นอนเต็นท์คนเดียวในช่วงหน้าฝนจะไหวไหม สำหรับทริปนี้ลุล่วงด้วยดีครับ เปียกบ้าง ชื้นบ้าง แต่ก็พอไหวนะ

การเที่ยวคนเดียว ของใช้จำเป็นต้องพร้อมก่อนเลย แนะนำสิ่งของที่ขาดไม่ได้เวลานอนเต็นท์
1. เต็นท์ รุ่นกันน้ำซึมได้จะดีมาก
2. Ground sheet ต้องมีนะ ไม่งั้นเต็นท์ชื้นแน่นอน
3. Fly sheet ไปนอนช่วงหน้าฝน ควรมีพกไว้ แต่ที่อุทยานบางจุดมีศาลาริมน้ำ สามารถกางใต้ศาลาได้เลย ไม่ต้องใช้ฟลายชีท
4. ไฟฉาย
5. เตาแก๊สพกพา
6. เบาะรองนอน + หมอน + ถุงนอน
7. เสบียง ที่นี่มีร้านอาหารเล็กๆขายของด้วย แต่ปิดประมาณสี่โมงเย็น
8. ยาสามัญ + สเปรย์กันยุง
9. เสื้อกันฝน สำหรับคนที่พกกล้องไปถ่ายรูป ถ้าไม่มีอะไรกังวล เดินลุยฝนรอเล่นน้ำตกต่อได้เลย
10. ขาตั้งกล้อง

รีวิวสั้น
[การเดินทาง] ใช้รถยนต์ส่วนตัว เส้นทางไม่ยาก เก๋งมาได้
[ห้องน้ำ] สะอาด เพียงพอ น้ำเย็นสดชื่น
[บรรยากาศ] จนท ตรวจตราดีครับ เสียงรบกวนเวลานอนจึงน้อยมาก ที่นี่เริ่มเงียบตั้งแต่ช่วงสองทุ่ม สงบมากๆเหมาะสำหรับการมาพักผ่อนจริงๆ
[ความยากในการเดิน] 2/5 ระยะทางชันแต่ทางเดินทำไว้ดี แต่ละชั้นอยู่ใกล้ๆกันจึงเดินได้ง่ายมาก


ต่อไปก็ลงรายละเอียดการเดินทางครับ
10 ตค 2020
8.30   ผมเริ่มออกเดินทางจากชลบุรี มุ่งหน้าเข้า อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จริงออกไวกว่านี้จะดีขึ้นเพราะจุดกางเต็นท์จะมรให้เลือกมากขึ้น
12.00 แวะกินข้าวเที่ยงพร้อมกับเตรียมเสบียงที่เซเว่นก่อนเข้าพัก
12.15 เข้าอุทยานฯ และมองหาจุดกางเต็นท์
13.00 ได้ทำเลแล้วก็มากางเต็นท์ ตอนนั้นเหมทอนจะกางไปพร้อมกับฝนตกที่ปรอยๆ อย่างแรกที่ต้องกางก่อนคือฟลายชีทครับ
14.00 กางเสร็จปุ๊บ ฝนก็ตกครับ เห็นพี่ข้างๆกำลังกางก็เลยได้ไปช่วยกางก่อนรอเวลาที่จะได้ไปเดินถ่ายรูป
15.00 - 16.30 รอไม่ไหวแล้วครับ ฝนพอลุยได้ ก็สะพายกล้อง ขาตั้งกล้อง แล้วขยับตัวเลย ด้วยเวลากำหนดลงจากน้ำตกก่อนบ่ายสี่ครึ่ง ทำให้วันนี้ถ่ายไปได้ 3  ชั้นคือ 3 4 และ 5
16.30 - 19.00 พักผ่อน + ทำข้าวเย็นกิน และหลังจากนั้นก็พักผ่อน

วันที่สอง 11 ตค
7.00 หลังทำธุระเช้าเสร็จ รีบไปถ่ายชั้นที่เหลือต่อให้เสร็จ
9.00 กลับลงมาเก็บเต็นท์
10.00 อาบน้ำก่อนกลับ
11.00 เดินทางกลับ

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตกประมาณ 900 บาท

รีวิวด้วยรูปเลยนะ
บริเวณลานกางเต็นท์


นี่คือศาลาริมน้ำที่สามรถกางเต็นท์ได้เลย

บรรยากาศน้ำ ภูเขา และหมอกช่วงเช้า



ร้านอาหารมีเปิดนะครับ ไม่ทำอาหารกินเอง มาซื้อร้านนี้ได้นะ

จำนวนคนเข้าไม่เยอะมาก ดูจากจำนวนรถได้

บ้านพักก็มีนะ

นี่มุมเต็นท์ผม ฟลายชีทขาวนะ


เต็นท์พี่ข้างๆใจดีมากๆ แบ่งอาหารมาให้กินด้วย

น้ำตกชั้นที่ 1 อยู่ข้างหลังบ้านพักเลย ใกล้มาก แต่แยกชั้น 1 กับ 2 ไม่ค่อยออก




น้ำตกชั้นที่ 2 กว้างอยู่นะ สงบด้วย แต่ก็มีปลาตอดขาบ้าง




น้ำตกชั้นที่ 3 ชั้นนี้กว้างมาก มีหลายชั้น มีสะพานแขวนด้วย เล่นน้ำสนุกสุดแล้ว เพราะน้ำไหลกำลังดี แอ่งกว้าง ช่วงล่างปลาเยอะ ช่วงบนปลาน้อย
นี่โซนล่าง


นี่โซนสะพานแขวน





นี่โซนบนของชั้นสาม



น้ำตกชั้นที่ 4 ชั้นนี้ก็สวย ยังสามารถเล่นน้ำได้อยู่นะ




น้ำตกชั้นที่ 5 น้ำแรง ไม่มีพื้นที่ให้เล่น อันตราย


น้ำตกชั้นที่ 6 มุมพักเหนื่อย ลานดินกว้าง น้ำตกยังถือว่าแรงอยู่นะ แถมมีป้ายบอกไม่ให้ปีนป่ายด้วย ฉะนั้นแช่น้ำเล่นๆก็พอแล้ว


เค้าใช้ท่อส่งน้ำจากชั้นนี้ด้วย

น้ำตกชั้นที่ 7 ชั้นนี้มองจากข้างบนว่าสวยแล้ว ลงไปข้างล่างยิ่งสวยกว่า สีน้ำสวย น้ำแรงมีแอ่ง แต่ก็ดูอันตรายอยู่ถ้าจะลงไปเล่น ถ่ายรูปก็น่าจะพอแล้ว






น้ำตกชั้นที่ 8 ชั้นเกือบสุดท้าย สวยยย พอเล่นได้เป็นจุดๆ น้ำเยอะควรค่าแก่การนอนแช่น้ำที่สุด







น้ำตกชั้นที่ 9 ชั้นสุดท้ายนี้จริงๆน่าจะยังขึ้นไปได้อีก แต่เอาตาม จนท บอกไว้ละกัน ชั้นนี้เลยกลายเป็นชั้นบนสุดของที่นี่ไปแล้ว จากจุดนี้มองเห็นหลังคาบ้านได้เลย สูงขนาดนี้น้ำยิ่งเยอะ ไหลกระทบหินทีน้ำกระจายเป็นละอองเต็มบริเวณหน้าผาตรงนี้เลย เล่นไม่ได้นะ







การมาเดินน้ำตกหน้าฝน
ข้อดีเลยคือน้ำเยอะมาก ที่น้ำตกกระทิงน้ำไม่ขุ่นด้วย มาไม่เสียเที่ยวแน่นอน
ข้อเสียคือ เรื่องของเต็นท์ ที่ต้องสู้กับฝน น้ำนองพื้น และความชื้นจากดินเข้าเต็นท์ ถ้าโชคดีไม่มีพายุ ก็แค่นอนฟังเสียงฝนกล่อมให้หลับไปเอง แต่ถ้าเจอก็ต้องลุ้นเอาแล้วววว

ขอบคุณที่ติดตามครับ แล้วพบกันกระทู้หน้านะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่