ไทยพบผู้ติดเชื้อ 'โควิด-19' รายใหม่ 2 ราย ผู้ป่วยสะสม 3,636 ราย
 

 
เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 63 เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 2 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine จากซูดานใต้ 1 ราย และญี่ปุ่น 1 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,636 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิตคงเดิม 59 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,451 ราย 
 
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/901971
 
ปิดด่านแม่สอดผวาพบคนขับรถพม่าเข้าไทยติดเชื้อโควิด 2 ราย
 

 
11 ต.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.ตาก สาธารณสุข อ.แม่สอด โรงพยาบาลแม่สอด ทำงานเชิงรุกตั้งจุดตรวจ Covid 19 ที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อ 1=2 วันที่ผ่านมา สามารถตรวจคนขับรถเมียนมาที่เข้ามาซื้อสินค้าในตลาดแม่สอด ซึ่งสามารถตรวจคนขับรถได้วันละประมาณ 60 คัน และก็ไม่ทำให้ผิดหวังเพราะสามารถตรวจเจอคนขับรถชาวเมียนมา ติดเชื้อ Covid 19 จำนวน 2 ราย สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนชาวแม่สอด เป็นอย่างมาก ซึ่งรถเมียนมาส่วนใหญ่จะเข้ามารับสินค้าในบริเวณตลาดสดพาเจริญ เขตเทศบาลนครแม่สอด เป็นตลาดค้าปลีกและส่งใหญ่ที่สุดใน อ.แม่สอด จ.ตาก พบว่าบรรดาพ่อค้า-แม่ค้าต่างสวมหน้ากากป้องกันเกือบทั้งหมด ยกเว้นชาวเมียนมาที่พักอาศัยในแม่สอด ยังการ์ดตกไม่ยอมสวมใส่หน้ากากจำนวนมาก  
 
ต่อมาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแม่สอด โรงพยาบาลแม่สอด นำรถตรวจฉุกเฉิน พร้อมแพทย์-พยาบาลสวมใส่ชุด PPE ไปสอบสวนโรคที่โกดังอารี และตลาดค้าส่งผัก-ผลไม้พาเจริญ เพื่อทำการตรวจโรคบุคคลที่อยู่ในโกดัง เก็บสารคัดหลั่งผู้ที่ต้องสงสัย เสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกับคนขับรถชาวเมียนมา ทั้ง 2 คน
  
ล่าสุดขณะที่มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเมียวดี สหภาพเมียนมา ได้ขอข้อมูลและชื่อคนขับรถ รวมทั้งได้ทำการกักตัวทั้ง 2 รายแล้ว คาดว่าน่าจะพบอีกอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น 
 
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง นำ จิตอาสามอบชุด PPE แว่นตา และFace shield จำนวน 5,000 ชุด มูลค่า 4 ล้านบาท ให้ จนท.ชายแดนไทยและเมียนมา   โดยพล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มอบหมายให้ พ.ต.อ.เอกราษฎร์ อินทร์ต๊ะสืบ “รองต๊ะ” รองผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธร ภาค 6 และจิตอาสาพระราชทาน เดินทางมาร่วมมอบชุดเกราะนักรบชายแดนสู้ภัย Covid 19 ชุดป้องกันการติดเชื้อจากฝอยละอองและจากการสัมผัส (PPE ) พร้อมแว่นตา และFace shield จำนวน 5,000 ชุด มูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท ให้กับหน่วยงานราชการไทย ประกอบด้วยตำรวจ-ทหาร-สาธารณสุข-ปกครอง-และหน่วยงานราชการจังหวัดเมียวดี สหภาพเมียนมา และกองกำลังพิทักษ์ชายแดน BGF ประกอบด้วย สถานีตำรวจภูธร – โรงพยาบาล- ที่อยู่ 5 อำเภอชายแดนจังหวัดตาก (อ.แม่สอด-พบพระ-แม่ระมาด-ท่าสองยาง และ อ.อุ้มผาง) - กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 5 อำเภอชายแดน- ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 แม่สอด- ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก(ด่านแม่สอด)- หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35- กรมควบคุมโรคระหว่างประเทศชายแดนตาก-ตำรวจทางหลวง 
และจากฝั่งประเทศเมียนมา ประกอบด้วยนายอูเดซาอ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดี- ตำรวจเมียวดี-ด่านตรวจคนเข้าเมืองเมียวดี-โรงพยาบาลเมียวดี- กองกำลังพิทักษ์ชายแดน กลุ่มนายพลชิตู่ – กลุ่มพันเอกเสว่ะ(ด้านว่าเลย์)- กลุ่มพันเอกเมาะโต่ง โดยมีการจัดพิธีรับ-มอบ ชุดเกราะนักรบสู้ Covid 19 ที่บริเวณด่านพรมแดน 2 สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก 
 
รายงานข่าวแจ้งว่า จากสถานการณ์ปัจจุบัน ได้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสCovid -19 ในจังหวัดเมียวดีสหภาพเมียนมาร์และอาจส่งผลกระทบต่อชายแดน อ.แม่สอด จ.ตากทำให้มีการนำ PPE แว่นตา และFace shield จิตอาสาฯ มาแจกให้กับข้าราชการผู้ปฏิบัติงานชายแดนริมแม่น้ำเมย ทั้งฝั่งไทยและเมียนมา เพื่อไว้ใช้ในการป้องกัน covid-19 
 
และล่าสุดจากสถานการณ์ COVID 19 ที่แพระระบาดในจังหวัดเมียวดี และพบผู้ติดเชื้อ ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์บรรทุกสินค้า 2 ราย และคาดว่าอาจจะเพิ่มขึ้น ทำให้นายศุภภิมิตร เปาริก  รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก – ผู้อำนวยการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน จังหวัดตาก ได้มีคำสั่งจังหวัดตาก ที่ 2661/2563 เรื่องระงับการเข้า-ออก ของบุคคล ยานพาหนะและสิ่งของ ณ.จุดผ่านแดนถาวร จังหวัดตาก 

https://www.thaipost.net/main/detail/80109
 
 
ญี่ปุ่นเล็งผ่อนปรน 12 ประเทศรวม "ไทย" เสี่ยงโควิด-19 ต่ำ เดินทางเข้าประเทศ
เผยแพร่: 11 ต.ค. 2563 11:22   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. ได้อัปเดตสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 โดยระบุข้อมูลว่า ญี่ปุ่นผ่อนปรน 12 ประเทศ เสี่ยงโควิดต่ำรวมไทย อนุญาตเข้าประเทศได้ 
กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น กำลังพิจารณาผ่อนปรนมาตรการห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศแก่ 12 ประเทศและดินแดนที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในระดับต่ำ

หากการพิจารณาดังกล่าว ได้รับความเห็นชอบ จะทำให้ 12 ประเทศและดินแดนนี้พ้นจากประเทศใน "ระดับ 3" ที่แนะนำให้ยกเลิกการเดินทางมาอยู่ใน "ระดับ 2" หรือแนะนำให้ยกเว้นการเดินทางมายังญี่ปุ่น 12 ประเทศและดินแดนดังกล่าว คือ เกาหลีใต้, จีน, ไต้หวัน, ไทย, นิวซีแลนด์, บรูไน, มาเก๊า, มาเลเซีย ,เวียดนาม, สิงคโปร์, ออสเตรเสีย และฮ่องกง

หากประเทศใดอยู่ในระดับ 2 จะไม่ถูกพนักงานตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นปฏิเสธให้เข้าประเทศเหมือนกับระดับ 3 

ไม่ใช่แค่นั้น...รัฐบาลญี่ปุ่นยังมีแผนการยกเว้นการตรวจหาสารพันธุกรรมไวรัส (พีชีอาร์) เมื่อเดินทางเข้าญี่ปุ่นให้กับผู้ที่มีสัญชาติของประเทศระดับ 2 ด้วย

https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000103752

ยอดติดเชื้อโควิดรายวันในสหรัฐฯหวนสู่ระดับเกือบ6หมื่น สูงสุดรอบ2เดือน



ยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายวันในสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดรอบ 2 เดือนในวันศุกร์(9ต.ค.) ด้วยจำนวนมากกว่า 58,000 คน 

ขณะที่ตัวเลขผู้เข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆในแถบมิดเวสต์ก็ทุบสถิติสูงสุด 5 วันติดต่อกัน ตามการวิเคราะห์ของสำนักข่าวรอยเตอร์

จากข้อมูลของรอยเตอร์พบว่า 10 จาก 50 รัฐ รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงสุดนับตั้งแต่ระบาดในวันศุกร์(9ต.ค.) ในนั้นรวมถึงรัฐต่างๆทาง มิดเวสต์ อย่างอินดีแอนา, มินนิโซตา, มิสซูรี และโอไฮโอ ส่วน วิสคอนซินและอิลลินอยส์ รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิน 3,000 คนเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ตัวเลขรวม 2 วันอันสูงลิ่วแบบที่ไม่พบเห็นแม้กระทั่งในช่วงพีคสุดของการแพร่ระบาดระลอกแรกในฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา

ส่วนรัฐต่างๆทางตะวันตกอย่างมอนแทนา, นิวเม็กซิโกและไวโอมิง ก็รายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันเดียวมากสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดเช่นกัน เช่นเดียวกับโอคลาโฮมาและเวสต์เวอร์จิเนีย

ตามข้อมูลดังกล่าว พบว่ามีรัฐต่างๆอย่างน้อย 19 รัฐ ที่ทุบสถิติจำนวนผุ้ติดเชื้อใหม่รายวันตั้งแต่เข้าสู่เดือนตุลาคม

ท่ามกลางเคสผุ้ติดเชื้อที่กลับมาพุ่งขึ้นทั่วประเทศ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเร็วๆนี้ติดเชื้อโควิด-19 ได้กล่าวปราศรัยกับบรรดาผู้สนับสนุนจากระเบียงของทำเนียบขาวในวันเสาร์(10ต.ค.) ก้าวย่างแรกของการหวนคืนสู่การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง

ทรัมป์และรัฐบาลของเขาเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อการรับมือกับโรคระบาดใหญ่ เช่นเดียวกับกรณีไม่สวมหน้ากากและไม่ใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในทำเนียบขาว 

แม้ว่าตัวเลขผุ้เสียชีวิตทั่วประเทศยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง แต่สหรัฐฯต้องสูญเสียผู้คนเฉลี่ยแล้ว 700 รายต่อวัน และมีอยู่ 3 รัฐที่ทุบสถิติมีผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดตั้งแต่ระบาดในวันศุกร์(9ต.ค.) ได้แก่ อาร์คันซอ, มิสซูรีและมอนแทนา ขณะเดียวกันพวกผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตคือตัวบ่งชี้ที่ตามมีทีหลัง ซึ่งปกติแล้วจะเพิ่มขึ้นหลายสัปดาห์หลังยอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะยาน

ทั้งนี้คาดหมายกันว่าจำนวนผู้เสียชีวิตโควิด-19 จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงฤดูหนาวนี้

ประมาณการว่าอัตราการเสียชีวิตรายวันของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น 3 เท่าในช่วงกลางเดือมกราคม เป็น 2,250 คนต่อวัน และตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมน่าจะแตะระดับ 395,000 คนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2021 จากการอัพเดทข้อมูลใหม่ของมหาวิทยาลัยวอชิงตันซึ่งอ้างอิงโมเดลอย่างกว้างๆ

อย่างไรก็ตามสถาบันเพื่อการวัดและประเมินสุขภาพของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน อ้างอิงข้อมูลของคณะทำงานเฉพาะกิจรับมือโควิด-19 ของทำเนียบขาว ระบุว่าหากอเมริกันชนหันมาสวมหน้ากากมากขึ้นในระดับเดียวกับสิงคโปร์ จำนวนผู้เสียชีวิตในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ จะลดลงเหลือ 316,000 คน เท่ากับว่ามีถึง 79,000 ชีวิตที่ได้รับการปกป้อง

ปัจจุบัน รัฐบาลกลางไม่มีคำสั่งบังคับสวมหน้ากาก แลมีอยู่ 17 รัฐที่ไม่บังคับประชาชนสวมหน้ากากป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น พบว่าโรงพาบาลต่างๆในหลายรัฐกำลังตกอยู่ในภาวะตึงเครียดต่อการรับมือกับคนไข้โควิด-19 ที่ไหลบ่ามาไม่ขาดสาย 
มีอยู่ 7 รัฐที่รายงานในวันศุกร์(9ต.ค.) ว่ามีจำนวนคนไข้โควิด-19 เข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆสูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด ประกอบด้วย อาร์คันซอ, แคนซัส, มิสซูรี, มอนแทนา, นอร์ทดาโคตา, โอคลาโฮมาและวิสคอนซิน

ในแถบมิดเวสต์ ผู้เข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆพุ่งขึ้นเป็นเกือบ 9,000 คน ทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันจันทร์(5ต.ค.) เป็นต้นมา
(ที่มา:รอยเตอร์)

https://mgronline.com/around/detail/9630000103698

ไทยยังคงปลอดภัยในประเทศไม่มีการติดเชื้อโควิด

แต่รัฐบาลก็ไม่ประมาทค่ะ ดูแลอย่างเต็มที่

ติดตามข่าวเพื่อนบ้านและทั่วโลกที่ยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง

ทุกคนระมัดระวังตัวอย่าการ์ดตกนะคะ