- วิทยาศาสตร์ปัจจุบัน แทบไม่มีความรู้ใดๆ ในเรื่องที่นอกเหนือจากเรื่องสสารพลังงาน ที่พวกเขาศึกษาด้วยการใช้วิธีของตรรกะได้เลย คือ ไม่มีความรู้ในเรื่องของธรรมชาติลึกๆ ที่เรียกว่า จิต และสิ่งอื่นๆ ที่เกี่ยวกับจิตหรือนอกเหนือจากจิต นอกเหนือจากหลักการของตรรกะ รวมทั้งเรื่องกรรมและสิ่งอื่นๆที่นอกเหนือจากสสสารและพลังงาน
- ทฤษฏีต่างๆของวิชาวิทยาศาสตร์ จึงไม่จบ ไม่อาจจะสรุปลงอย่างชัดเจนได้ มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตามยุคสมัยที่มีการค้นพบข้อมูลใหม่ๆเพิ่มขึ้น มีปัญหาใหม่ๆเพิ่มขึ้น  แม้ว่าวิทยาศาสตร์จะสามารถเอาวิชาต่างๆที่ค้นมา มาใช้ได้ในระดับหนึ่ง ก็ตาม
- จิต  เจตสิก  รูป  นิพพาน  กรรม ...เหล่านี้ วิทยาศาสตร์จะรู้บางส่วนในเรื่องของ รูป  เท่านั้น ... ตามหลักธรรมในศาสนาพุทธ  สสารและพลังงานต่างๆ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของ รูป ที่เป็นมหาภูตรูป 4 เท่านั้น .. แต่รูปในหลักธรรมของพุทธมีถึง 28 ประเภท  ....ส่วนรูปอีก 24 ประเภท นักวิทยาศาสตร์ไม่รู้เลย

- เรื่องของกรรม ยิ่งละเอียดกว่ารูปมากมาย กรรมและผลของกรรมแฝงเร้นอยู่ในจิต และอาจจะติดตามไปหลายๆภพหลายๆชาติ  ซึ่งจะไม่มีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ใดๆสามารถจะตรวจเช็คได้หรือมองเห็นเลยแม้นิดเดียว  มีแต่จิตที่มีญาณวิเศษเท่านั้น จึงจะตรวจเช็คได้ มองเห็นได้
- แต่ยังไงก็ตาม กรรมยังเป็นเรื่องหยาบ  เพราะยังเป็นเรื่องของสังขารหรือการปรุงแต่งด้วยปัจจัย  ยังมีสิ่งที่นอกเหนือการปรุงแต่ง นอกเหนือปัจจัย นอกเหตุเหนือผล คือ นิพพาน  ซึ่งยากที่สุดที่จะตรวจเช็คได้

- การไปถามนักวิทยาศาสตร์เรื่องของกรรม เรื่องของจิต เรื่องของการเวียนว่ายตายเกิด ภพชาติ  นิพพาน ก็เปรียบเหมือนเราไปถามคนที่ตาบอดมาแต่กำเนิดในเรื่องของ แสงสีต่างๆ ภาพวิวทิวทัศน์ต่างๆบนโลกนี้