ใครเคยรู้สึกหมดไฟในตัวเองบ้างคะ ตอนนี้เราอยู่ ม.6 ค่ะ ช่วงประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาเรารู้สึกไม่อยากเรียนเลยค่ะ ปกติเราถูกเรียกว่าเด็กเรียน แต่ ณ ตอนนี้เรารู้สึกเบื่อหน่ายกับการเรียนมาก ๆ เลย เราหาสาเหตุว่าเกิดจากกอะไร ทำให้เราเข้าใจว่า เกิดจากการที่เรียนมากเกินไป
เราเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง เราเรียนมาปีนี้ก็ปีที่ 6 แล้วค่ะเรียกได้ว่าเราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายของโรงเรียน ทั้งคุณครู ระบบการเรียน ผู้อำนวยการ และอีกหลาย ๆ อย่าง จนตอนนี้ทำให้เราคิดว่าคำที่ว่า "เวลาเปลี่ยน อะไร ๆ ก็เปลี่ยน" มีอยู่จริงนะคะ ตอนที่เราเข้ามาเรียนตอน ม.1 ตอนนั้นด้วยความที่เป็นเด็กมาก ๆ และยุคนั้นมือถือก็ไม่ค่อยมีบทบาทมากมายถ้าเทียบกับม.1 ในปัจจุบัน เราว่าการเรียนการสอนตอนนั้นดีมาก ๆ เลยค่ะ อาจจะด้วยเพราะเราอยู่ช่วงชั้น ม.ต้น ด้วยมั้งค่ะ ด้วยวิชาเรียนที่ไม่มาก การบ้านไม่เยอะ ทุกอย่างยังดูเบสิกไปหมด มีวันสบาย วันว่าง ๆ มากมาย
แต่พอเราขึ้นชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เหมือนเราโตขึ้น และเข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่างมากขึ้น ทำให้เรารู้ว่าการเรียนการสอนเหมือนแค่คำเรียกเท่านั้น การเรียนที่เหมือนแค่ให้ผ่าน ๆ ไปในแต่ละวัน กับการบ้านที่สั่งไม่รู้เมื่อไหร่จะเสร็จ แต่สั่งวันนี้ส่งวันนี้ก็มีอยู่จนปัจจุบัน เช่น วิชาชีววิทยา ครูสั่งงานอย่างเดียวโดยไม่สอน โดยสิ่งที่สั่งแน่นอนว่าไม่เคยเรียนมาก่อน แต่สั่งทีไม่ใช่นิดเดียวนะคะ แบบฝึกหัด 20 - 30 ข้ออัพ ไหนจะต้องเขียนโจทย์อีก แถมต้องส่งในคาบด้วย ล่าสุดให้นักเรียนวาดเกี่ยวกับร่างกาย ครูเน้นย้ำว่าให้วาดสวย ๆ จะเอาไปโชว์ที่จะมีการประเมิน แต่ต้องส่งวันนี้นะคะ ทั้งที่พรุ่งนี้คือเสาร์อาทิตย์ ในห้องมีนักเรียน 40 คน ครูก็พูดก่อนที่จะเห็นชิ้นงานว่าเอาของคนไหน ๆ ประมาณ 6 -7 คน เพราะคนกลุ่มนี้ทำสวยค่ะ แล้วถ้าผู้อ่านเป็นกลุ่มคนที่เหลือจะรู้สึกอย่างไรคะ เราเข้าใจนะคะว่า เราไม่ได้วาดรูปสวย แต่ก็น่าจะถนอมน้ำใจกันบ้าง แต่ในทุก ๆ งาน เราก็ตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดในแบบของเรานะคะ /// ครูอีกคนเป็นครูสังคม วันดีคือนดีเดินเข้าไปในห้องเรียนพูดว่า "สอบ" เด็กทุกคนมองหน้ากัน คืองงมาก ๆ เลยค่ะ ครูคนนี้ทำให้นักเรียนส่วนมากต่างเรียกกันว่าครูเป็น "ไบโพล่า" เพราะเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย /// จริง ๆ มีมากกว่านี้มาก ๆ เลยค่ะ
ด้วยความที่เราอยากเป็นครูมาก ๆ มาตั้งแต่เด็ก ๆ และบวกกับสิ่งที่เราได้เรียน ได้รับรู้ในการเรียนการสอน เหตุการณ์ต่าง ๆ ทำให้เรายิ่งมั่นใจมากขึ้นมาก ๆ เลยค่ะว่า "จะเป็นครูให้ได้" แต่ก่อนเราเคยได้ยินกลุ่มคนบอกกันว่า สมมติครูเคยตีเรา 10 ครั้ง โตขึ้นไปเป็นครูจะเอาสิ่งที่โดนไปทำกับนักเรียน เราเชื่อว่าผู้อ่านต้องเคยได้ยินแน่ ๆ ค่ะ แต่สำหรับเราความคิดนี้ไม่เคยมีอยู่ในหัวเราเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการโดนตี โดนด่า โดนว่า การบ้าน หรือสิ่งต่าง ๆ ที่เรารู้สึกว่าไม่ควรทำแบบนี้ ที่เราโดนที่เราพบเห็นต่าง ๆ เราจะไม่ทำ ไม่เป็นครูแบบนี้เด็ดขาด เหมือนเป็นการตอกย้ำว่า "ฉันจะไม่เป็นครูแบบนี้" เรามักพูดคำนี้กับตัวเองบ่อย ๆ ค่ะ
ตอนนี้เราคิดว่าการที่จะเป็นครูในปัจจุบันไม่น่าจะใช่แค่เรียนจบตามหลักสูตร มีใบประกอบวิชาชีพ อันนี้แน่อนว่าต้องมี แต่เราว่าสิ่งที่ต้องมีคือ การสอบการจัดการด้านอารมณ์ และ การสอบว่าคุณอยากเป็นครูจริงหรือป่าว เพราะเราชื่อว่าคนที่รักในการเป็นครูยังรออยู่
ถ้าเราพิมพ์ตรงไหนผิดพลาด หรือใช้คำไม่ถูกต้องเราต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ใครเคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ หรือ การหมดไฟในการเรียนบ้างคะ มาแชร์กันหน่อยคะ
ใครเคยเจอเหตุการณ์ครูแบบนี้บ้างคะ
เราเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง เราเรียนมาปีนี้ก็ปีที่ 6 แล้วค่ะเรียกได้ว่าเราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายของโรงเรียน ทั้งคุณครู ระบบการเรียน ผู้อำนวยการ และอีกหลาย ๆ อย่าง จนตอนนี้ทำให้เราคิดว่าคำที่ว่า "เวลาเปลี่ยน อะไร ๆ ก็เปลี่ยน" มีอยู่จริงนะคะ ตอนที่เราเข้ามาเรียนตอน ม.1 ตอนนั้นด้วยความที่เป็นเด็กมาก ๆ และยุคนั้นมือถือก็ไม่ค่อยมีบทบาทมากมายถ้าเทียบกับม.1 ในปัจจุบัน เราว่าการเรียนการสอนตอนนั้นดีมาก ๆ เลยค่ะ อาจจะด้วยเพราะเราอยู่ช่วงชั้น ม.ต้น ด้วยมั้งค่ะ ด้วยวิชาเรียนที่ไม่มาก การบ้านไม่เยอะ ทุกอย่างยังดูเบสิกไปหมด มีวันสบาย วันว่าง ๆ มากมาย
แต่พอเราขึ้นชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เหมือนเราโตขึ้น และเข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่างมากขึ้น ทำให้เรารู้ว่าการเรียนการสอนเหมือนแค่คำเรียกเท่านั้น การเรียนที่เหมือนแค่ให้ผ่าน ๆ ไปในแต่ละวัน กับการบ้านที่สั่งไม่รู้เมื่อไหร่จะเสร็จ แต่สั่งวันนี้ส่งวันนี้ก็มีอยู่จนปัจจุบัน เช่น วิชาชีววิทยา ครูสั่งงานอย่างเดียวโดยไม่สอน โดยสิ่งที่สั่งแน่นอนว่าไม่เคยเรียนมาก่อน แต่สั่งทีไม่ใช่นิดเดียวนะคะ แบบฝึกหัด 20 - 30 ข้ออัพ ไหนจะต้องเขียนโจทย์อีก แถมต้องส่งในคาบด้วย ล่าสุดให้นักเรียนวาดเกี่ยวกับร่างกาย ครูเน้นย้ำว่าให้วาดสวย ๆ จะเอาไปโชว์ที่จะมีการประเมิน แต่ต้องส่งวันนี้นะคะ ทั้งที่พรุ่งนี้คือเสาร์อาทิตย์ ในห้องมีนักเรียน 40 คน ครูก็พูดก่อนที่จะเห็นชิ้นงานว่าเอาของคนไหน ๆ ประมาณ 6 -7 คน เพราะคนกลุ่มนี้ทำสวยค่ะ แล้วถ้าผู้อ่านเป็นกลุ่มคนที่เหลือจะรู้สึกอย่างไรคะ เราเข้าใจนะคะว่า เราไม่ได้วาดรูปสวย แต่ก็น่าจะถนอมน้ำใจกันบ้าง แต่ในทุก ๆ งาน เราก็ตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดในแบบของเรานะคะ /// ครูอีกคนเป็นครูสังคม วันดีคือนดีเดินเข้าไปในห้องเรียนพูดว่า "สอบ" เด็กทุกคนมองหน้ากัน คืองงมาก ๆ เลยค่ะ ครูคนนี้ทำให้นักเรียนส่วนมากต่างเรียกกันว่าครูเป็น "ไบโพล่า" เพราะเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย /// จริง ๆ มีมากกว่านี้มาก ๆ เลยค่ะ
ด้วยความที่เราอยากเป็นครูมาก ๆ มาตั้งแต่เด็ก ๆ และบวกกับสิ่งที่เราได้เรียน ได้รับรู้ในการเรียนการสอน เหตุการณ์ต่าง ๆ ทำให้เรายิ่งมั่นใจมากขึ้นมาก ๆ เลยค่ะว่า "จะเป็นครูให้ได้" แต่ก่อนเราเคยได้ยินกลุ่มคนบอกกันว่า สมมติครูเคยตีเรา 10 ครั้ง โตขึ้นไปเป็นครูจะเอาสิ่งที่โดนไปทำกับนักเรียน เราเชื่อว่าผู้อ่านต้องเคยได้ยินแน่ ๆ ค่ะ แต่สำหรับเราความคิดนี้ไม่เคยมีอยู่ในหัวเราเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการโดนตี โดนด่า โดนว่า การบ้าน หรือสิ่งต่าง ๆ ที่เรารู้สึกว่าไม่ควรทำแบบนี้ ที่เราโดนที่เราพบเห็นต่าง ๆ เราจะไม่ทำ ไม่เป็นครูแบบนี้เด็ดขาด เหมือนเป็นการตอกย้ำว่า "ฉันจะไม่เป็นครูแบบนี้" เรามักพูดคำนี้กับตัวเองบ่อย ๆ ค่ะ
ตอนนี้เราคิดว่าการที่จะเป็นครูในปัจจุบันไม่น่าจะใช่แค่เรียนจบตามหลักสูตร มีใบประกอบวิชาชีพ อันนี้แน่อนว่าต้องมี แต่เราว่าสิ่งที่ต้องมีคือ การสอบการจัดการด้านอารมณ์ และ การสอบว่าคุณอยากเป็นครูจริงหรือป่าว เพราะเราชื่อว่าคนที่รักในการเป็นครูยังรออยู่
ถ้าเราพิมพ์ตรงไหนผิดพลาด หรือใช้คำไม่ถูกต้องเราต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ใครเคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ หรือ การหมดไฟในการเรียนบ้างคะ มาแชร์กันหน่อยคะ