ผมกลียดการเลี้ยงสุนัข

กระทู้สนทนา
ด้วยความอาลัย กับคนรักหมา  เขียนยาวมากครับ ผ่านก่อนก็ได้
  ตามธรรมดาบ้านผมก็เป็นคนรักสัตว์อยู่แล้วหาก
มีสัตว์จรจัดลงมาอยู่ด้วยก็มักจะเลี้ยงดู โดยเฉพาะภรรยาผมจะรักพวกหมาแมวเป็นพิเศษ ทำให้ที่บ้านมีพวกหมาแมวที่ไม่มีสกุลรุนชาติอยู่หลายตัว.  น่าจะ10กว่าปีก่อน. หมาตัวเมียที่หลงมาที่โรงเรียน แถวสนามบาส ตัวเล็กๆ สีขาว ขนยาวแบบแข็งไร้ความอ่อนนุ่ม ตอนขากลับก็วิ่งตามรถผม สงสารเลยหอบกลับมาเลี้ยงที่บ้านตั้งชื่อว่า นางมอมแมม  เอ่ยถึงมอมแมนเมื่อไหร่ ก็จะนึกถึงนักบาสเกตบอลคนนึงที่ตาโตๆ ตอนนี้เป็นตำรวจแล้ว. เพราะนางเป็นคนหอบเอาหมามาขึ้นรถผม. อยู่มาไม่กี่ปีมอมแมนก็พลาดท่าให้หนุ่มในซอยก็ให้กำเนิด ลูกสุนัข 2 ตัว มีสีดำกับสีลายน้ำตาล. ก็เลยเลือกไว้ 1 ตัว. และตั้งชื่อมันว่าเจ้า อังเปา. ลักษณะเด่นคือ คล้ายสุนัขพันธุ์บีเกิ้ล. แต่น่าแบบมีเชื้อสายแบบ ห่างๆมากๆ. แค่สีและใบหูคล้ายกัน.   เจ้าอังเปา จะมีลักษณะพิเศษกว่าตัวอื่นคือเป็นอันธพาลในกลุ่มหมาที่บ้าน คือจะไม่ยอมใคร ระรานเค้าไปทั่ว.  ทานข้าวแต่ละทีก็ต้องทานก่อนเค้าโดนอุบัติเหตุรถชนก็2ครั้ง แต่ก็รอดมาได้ กลายเป็นหมาที่ขาหลังจะวิ่งเขยกๆ แต่ก็ซ่าและวิ่งเร็วเหมือนเดิม.   แต่ที่พิเศษและผูกพันกับผมมากกว่าสุนัขตัวอื่นก็คือ. ถ้าเวลาตอนกลางวัน. เวลาภรรยาผมเดินไปไหน บริเวณบ้าน เจ้านี่จะเดินตามไม่ห่างและนอนเฝ้าตลอดเวลา. และนอนเฝ้าพร้อมกับกรอกตามองตามตลอด ใครแปลกหน้ามาใกล้ๆภรรยาผม มันก็จะต้องคำรามเบาๆจนต้องบอกให้หยุดมันถึงจะทำคอตกแล้วก็เงียบไป. ทุกคืนก็จะนอนเฝ้าที่หน้าประตูที่เป็นกระจก ตอนเช้าเวลาลงมาข้างล่าง. จะต้องเห็นหน้าเจ้าอังเปานิ ส่องหน้าผ่านประตูกระจกมองเข้ามาทุกครั้ง. รอว่าเราจะเปิดประตูออกไปข้างนอกตอนไหน. ทุกเข้าเวลาผมไปทำงาน. มันก็จะต้องรอวิ่งเอาตัวมาลอดขาทุกครั้ง เราต้องระวังกลัวล้มต้องเอ็ดเอา พอตวาดว่ามัน ต่อไปมันก็จะนอนหงายท้อง ให้เอาเท้าเขี่ยซะก่อน พร้อมส่งเสียงครางอย่างมีความสุข และหลังจากนั้นก็จะวิ่งตามผมไปที่จอดรถเพื่อส่งผมขึ้นรถไปและวิ่งตามรถไประยะนึงและหยุดยืนพร้อมส่งสายตาตามผมจนลับตาค่อยเดินกลับเข้าบ้าน. ตอนเย็นก็จะมานั่งรอ ผมที่หน้าประตูรั้ว พอได้ยินเสียงเห็นรถผมวิ่งผ่านถนนขากลับ. ก็จะรีบวิ่งมารับผมลงจากรถ พร้อมทั้ง ต้องนอนแผ่ท้องให้ผมเอาเท้าเขี่ย. ก่อนวิ่งมุดลอดขาผมอย่างเดิม. ถ้าจอดรถแล้วนั่งไม่ลงมา มันก็จะเริ่มโดดตะกุยส่องดูกระจกจนรถผมเป็นรอย เลยรู้ว่าเวลาจอดรถแล้วต้องรีบลงจากรถ เป็นแบบนี้ทุกวันๆ. ที่จริงผมว่า สุนัขนิเหมือนมันรู้ภาษาคนนะครับ. บอกหรือดุด่าว่ากล่าวก็เหมือนกับเค้ารับรู้ ยังจำหน้าเจ้าอังเปาได้เวลาเราตวาดว่าให้ ก็จะหยุดทำหน้าจ๋อยๆ. รึเวลาพวกผมรึคนในบ้านออกไปพร้อมกันจนหมดต้องปิดรั้ว เค้าจะวิ่งตามออกไปเราก็จะบอกว่า ไม่ตัองตามให้เฝ้าบ้าน. มันก็จะเดินหงอยๆเข้าไปในรั้ว แล้วก็ให้เราปิดรั้วมันก็จะนั่งมองเราออกไป. และจะนั่งนอนรออยู่หน้าประตูจนกลับมาทุกครั้งไป. เหตุเกิด น่าจะอาทิตย์ที่แล้ว วันที่ 25 ก ย. ผมมีเหตุที่ต้องไปเอาของบ้าน ที่อยู่ด้านหลัง ซึ่งเป็นเขตของเจ้าหมูเด้ง. เป็นหมาพันธุ์โกลเด้น. ตอนเจ้าหมูเด้งตอนเล็กๆจะโดนเจ้าอังเปากดขี่เรื่อยมา จนเก็บความแค้นไว้จนโต พอโตขึ้นตัวโตกว่าเลยแก้แค้นกัดเจ้าอังเปา จนต้องแยกอณาเขตกันโดยทำประตูรั้ว คั่นกลางไว้. ด้วยเหตุมันถึงคาดรึอย่างไร ตอนเอาของออกมา ผมปิดรั้วเผอิญตอนปิด ประตูรั้วได้หนีบมือผม. ทำให้ผมปิดประตูรั้วไม่สนิท. เจ้าหมูเด้งเวลาผมเข้าไปมันก็จะมาหยอกเล่นกับผมอยู่แล้วจนมันวิ่งตามผมมาที่ประตูรั้วนะแหละครับ พอประตูหนีบมือ ผมเลยรมย์เสีย รีบเดินจากออกมา ทำให่ปิดรั้วใส่กลอนไม่สนิท. เท่านั้นละคับ. สักครู่นึง ไม่รู้มันแอบย่องออกมาตอนไหน วิ่งเข้าขย้ำคอเจ้าอังเปา คนที่บ้านก็ช่วยกันจับดึง เพราะเจ้าหมูเด้งตัวมันใหญ่กว่าจะดึงออกจนเอาน้ำสายยางฉีด ออกมา เจ้าอังเปาก็โดนขย้ำคอไปเป็นรอยเขี้ยวเลย. ด้วยความชล่าใจ นึกว่าบาดเจ็บแค่นั้น ไม่ได้รีบไปหาหมอดูอาการ. จนวันต่อมา เห็นซึมๆ เลยพาไปหาหมอ ก่อนจะให้น้ำเกลือ. หมอก็จะเจาะเลือด และแจ้งว่า อาการหนัก เพราะเลือดจาง ค่าตับไตสูงมาก อีกอย่างอายุเยอะและมีอาการพิการด้วย ให้ทำใจ แต่ก็พยายามดูแลเค้า เผื่อมีหวัง. แต่ก็ไม่มีปฏิหาริย์ ตัวผมยังแปลกใจตัวเองว่า ได้พยายามเสาะหาตัวยาในอินเตอร์เน็ต. กระปุกละ2-3000 ผมยังกล้าสั่งมาให้สุนัขทาน เผื่อหาย.   และในวันนี้ก็ได้พาไปพบหมอเพื่อเข้าน้ำเกลือ คุณหมอยังแปลกใจที่เค้ายังอยู่ได้จนถึงวันนี้ หมอ บอกว่า เค้าน่าจะไม่รอดเกิน1-2วันหลังจากพบหมอวันนั้นที่เค้าอยู่ได้เพราะเค้าสู้มากคงเพราะไม่อยากที่จะจากเจ้าของไป ในช่วงเวลาที่เจ้าอังเปาไม่สบายภรรยาผม จะนั่งนอนดูแลมันไม่ห่าง.ภรรยาผมเล่าว่า จะเดินไปไหนไกลๆมันก็จะส่งเสียงครางเรียก จนมองเห็นว่าเราอยู่ใกล้ๆถึงจะเงียบ. ช่วงมันนอนซม ภรรยาผมก็จะเทียวอุ้มเปลี่ยนอริยาบท เพลิกตัวให้ทุก1-2ชั่วโมง. จนเสียชีวิต ภรรยาผมเล่าว่า ก่อนจะมันจะหมดลม ภรรยาผมที่นอนเฝ้าดูแลมันตลอดได้ยินเสียงครางเบาๆเลยลุกไปอุ้มขยับตัวมันตามเคย เห็นมันอ่อนเพลียมากเลยเอาพระมาตั้งบอกมันว่า ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องทนแล้วและตัวภรรยาผมเองก็บอกว่า เค้าก็เหนื่อยเหมือนกัน. ให้หยุดสู้เถอะถ้าเหนื่อยและไม่ไหวจริงไ อย่าทนอีกเลยพร้อมกับอุ้มเค้ามานอนหนุนตัก. เหมือนมันรู้เรื่อง. ภรรยาผมเล่าทั้งน้ำตาว่า มันก็หลับตาลงแล้วก็นอนหยุดหายใจ คาที่ตักภรรยาผมนั่นเอง. #ต่อไปตื่นเช้า คงไม่เห็นแววตา ที่ส่องเข้ามารอเปิดประตู. ไม่ได้ตวาดเพราะว่ากลัวจะล้มเพราะมีสุนัขวิ่งมาลอดขา. ไม่มีตัวเดินนำหน้ามาส่งขึ้นรถไปทำงาน. ไม่มีตัววิ่งมารับตะโกนเสียงเห่า เมื่อลงจากรถไม่ว่า จะเมามารึกลับมาดึกแค่ไหน. แปลกใจเหมือนกัน เขียนแล้วย้อนกลับมาอ่าน ยังอดน้ำตาคลอไม่ได้เลย  RIP. อังเปา.



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่