สาวน้อยบนดวงจันทร์

กระทู้คำถาม
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ได้รับแรงบันดาลใจจากเพลง  Girl on the moon   ของวง   Foreigner

มันคือ ค่ำคืนอีกครา เวียนมาถึง
...
...

เดือนเพ็ญเดือนเพ็ญเดือนเพ็ญเดือนเพ็ญเดือนเพ็ญ

รัตติกาล ผ่านมา หาอีกครั้ง
จิตภวังค์ ตั้งเวลา คราเที่ยวท่อง
การเดินทาง เวิ้งว้าง กาลครรลอง
คอยเมียงมอง ใบหน้าใคร ไม่อาจเจอ
 
รัตติกาล จันทรา เวียนมาถึง
พักตร์ผ่องซึ้ง ตรึงใจ ให้รอเก้อ
หลับตาหวัง  หยั่งทางใน  ใจละเมอ
เฝ้าพร่ำเพ้อ เผลอจิต คิดอ้อนวอน
 
ดาราราย พรายพร่าง สว่างจิต
ไม่เคยคิด พบหน้า กันมาก่อน
สัมผัสมือ ถือสนิท ชิดบังอร
แสนอาวรณ์ จรไป  ในสายลม
 
ลิ่วลอยล่อง ราวท่อง ทะเลทราย
พรรณราย หายลับ ดับใจข่ม
กลับคืนใหม่ ได้ไหม  ฤทัยตรม
จิตขื่นขม ไม่สมจินต์  สิ้นราตรี
 
เธอดั่งราว สาวน้อย ลอยจันทรา
ภาพมายา คราพบ พลันหลบหนี
ความหลังเก่า เก็บฝัน คุ้นกันดี
หวังคืนนี้ ครองนาง อย่างสมบูรณ์
 
ขอร้องหนัก  มากไป  แล้วใช่ไหม
ฤาปล่อยใจ อาลัย ไม่เคืองขุ่น
เธอเป็นใคร จากไหน ไร้ข้อมูล
โอ... เกิร์ล ออฟ เดอะ มูน... วุ่นหัวใจ


moonstarmoonstarmoonstarmoonstarmoonstar 

              การนอนรับสายลมชมจันทรา เป็นสิ่ง และ วิเศษสุดจะบรรยาย



             Foreigner วง ชาวต่างชาติ วงสมัย 7-11^^ แนวเพลง  Hard-pop rock  ฟังกันแบบสบายหู ที่ไม่หนักถึงขึ้นต้องเคลือบหูรูด้วยสแตนเลสก่อนฟัง และก็ไม่ถึงกับป้อบจ๋า ชมพูแหววแบบวงบอยแบนด์ สมัยนั้น (สมัยไหน อ้อ ก็มัย 7-11นั่นละ)^^   ถ้าใครที่ชอบฟังเพลงร็อค  ก็น่าจะเคยฟังเพลงของวง  Foreigner มาบ้างละ เพราะเด็กฟังได้ ผู้ใหญ่ฟังดี   เพียงแต่ในเมืองไทยอาจไม่เปรี้ยงปร้างเท่าไร ถ้าไม่ใช่นักเพลง อาจไม่รู้จัก ก็เป็นได้

             ในความรู้สึกของผู้เขียนเพลง  Girl on the moon เป็นเพลงที่ชอบที่สุดของที่สุดของวง  Foreigner  ทำคะแนนทิ้งห่างเพลง  Waiting for a Girl Like You  ประมาณสองศอกกับสองหุน  ด้วยท่วงทำนองที่ไพเราะแปลกประหลาด พิเศษ  ต่างไปจากเพลงอื่น ๆ ของวง และเป็นเพลงที่ไม่เคยล้าสมัยไปกับ space and time เลย ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านมายาวนาน ฟังกี่ครั้งก็ไม่มีคำว่าเบื่อ  ด้วยความรู้สึกเหมือนกำลังฟังโลกของเพลงที่มี ไซไฟแฟนตาซี ผสมอยู่นิด ๆ 

             ที่จริงผู้เขียนชอบเพลงนี้ตั้งแต่เห็นชื่อเพลงครั้งแรกแล้วละ  เพราะสมัยอยู่ชนบท  กลางคืนมาจะชอบนอนนอกชาน (บ้านสมัยใหม่ไม่มี นอกชานอาจมีระเบียง แต่ระเบียงนอนชมจันทร์ไม่สะใจ  เวลาผีมาหลอกก็ไม่สะใจ เพราะที่วิ่งหนี มันคับแคบ วิ่งหนีไม่สนุก  บ้านหลังไหนไม่มีระเบียง ถ้าอยากนอนชมจันทร์  อาจต้องใช้วิธี ปีนขึ้นไปนอนชมจันทร์บนหลังคาบ้าน ซึ่งก็เสี่ยงต่อการตกลงมาตายกลางแสงจันทร์   จะไปนอนชมจันทร์สนามหญ้า ก็ไม่แนะนำ เพราะโจรผู้ร้ายมันเยอะ อาจส่งผลให้ต้องไปนอนชมศาลาวัดแทน  นอกจากว่า คุณจะมีสนามเพลาะ กับดัก ลวดหนาม รายรอบพร้อมปืนประจำตัวพร้อมบอดี้การ์ด ทุกวันนี้อันตรายรอบด้าน แม้แต่ในโรงเรียนอนุบาล )
 
             สรุปว่าบ้านสมัยเก่ามีนอนชานว่างั้นเถอะ ให้นอน นั่ง ชมจันทร์ บอกเลยว่าเป็นอะไรที่ฟิลที่สุด นอกจากจะอาบแสงจันทร์โดยไม่ต้องกลัวว่าจะกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าแล้ว เรายังจะได้อ่าน ‘นิยายบนท้องฟ้า’  เป็นของแถม โดยไม่ต้องเสียเงิน เพราะหมู่เมฆ จะลอยมาให้เราจินตนาการเป็นภาพเป็นเรื่องเป็นราว มากมายสุดใจฝัน ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่หลงไหลในแสงจันทร์ มาตั้งแต่อ้อนแต่ออก ชอบนอนมองท้องฟ้าราตรีจนหลับไป ยอมทนกลิ่นยากันยุงหน่อย ชนบทสมัยก่อนยุงยังไม่ชุม พอรับไหว

             เคยมีคนบอกว่า ถ้าเห็นดาวตกวิ่งผ่านมา ให้อธิษฐานสามครั้ง ถ้าทำได้ คำอธิษฐานจะเป็นจริง ผู้เขียนเคยทำได้หลายครั้ง เพราะหมายหัวไว้แล้ว คำขอก็ท่องจนติดปาก พอเห็นดาวตกวูบมาก็รีบอธิษฐานทันที   ผลนะหรือ..  เกือบเป็นจริง!  ที่ไม่เป็นจริงเพราะผู้เขียนไม่ให้เป็นจริงเอง   เรียกว่าถ้าตั้งใจทำให้เป็นจริงก็ได้เลย  แต่ผู้เขียนพลาดเอง  ส่วนคำอธิษฐานนั้นคืออะไร  อย่ามาถามเลย จ้างก็ไม่บอก เพราะเขิลล์อายเป็นเหมือนกัน^^

             มีอีกอย่างที่แปลกใจ ปู่ย่าตายาย  คนเฒ่าคนแก่ มักบอกให้มองเห็นภาพกระต่ายบนดวงจันทร์   แต่ตั้งแต่จำความได้ จนถึงทุกวันนี้  ผู้เขียนมองดวงจันทร์วันเพ็ญยังไง ก็ไม่เคยจินนาการเห็นภาพกระต่ายบนดวงจันทร์เลยสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกระต่ายตำข้าว กระต่ายนั่งด้านข้าง  กระต่ายตื่นตูม อย่างที่หลายคนบอก ไม่เคยนึกเห็นเลย  แต่เห็นภาพอย่างอื่นแทน ทำให้เริ่มกลัวตั้งแต่เด็กเลยว่า เรานี่จัดเป็นพวกคนไม่ใช่คนหรือเปล่า – ...นี่หรือคน... ไม่เห็นสิ่งที่คนอื่นอยากให้เห็น  แต่เห็นสิ่งที่คนอื่นไม่อยากให้เห็น ....เปล่าทะลึ่งนะ!  อย่าคิดมาก   หมายถึงกระต่ายบนดวงจันทร์ ไม่ใช่อย่างอื่น แบบว่ารู้ตัวตั้งแต่เด็กว่า จินตนาการตัวเองไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไป  (มิน่า...รักษายาก ดื้อยา) พักหลังมายิ่งอาการหนัก มองดวงจันทร์มาก ๆ แล้วเกิดความรู้สึกอยากกัดคน^^
 
             เพลง Girl on the moon อยู่ในอัลบัม 4 (ชื่ออัลบัม) ที่ตั้งชื่อว่า 4 เพราะเป็นอัลบัมชุดที่ 4 ของ วง และสมาชิกก็เหลือ 4 คนอีกต่างหาก เป็นอัลบัมที่ขายดี และโด่งดังที่สุดของวง หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ โรยราลง แม้ว่าเพลงจะทำออกมาดี แต่สู้กระแสเพลงแนวใหม่ไม่ไหว  ทั้งกรันจ์  อัลเทอร์เนทีฟ ฮิปฮอป   ฟังก์  หมอลำซิ่ง  บลา ๆ...  ที่กำลังรุ่งพุ่งแรงแซงทางโค้งมาจากยุค 7 -11 หลังจากซุ่มเงียบอยู่นาน  แต่ว่าก็ว่าเถอะ ในความเห็นส่วนตัว ผู้เขียนยังรู้สึกว่าเพลงยุค 7 -11  มีความงดงามทางศิลปะมาก   แต่ก็อย่างว่า ลางเนื้อชอบลางยา ชอบไม่เหมือนกัน 

             หลังจากปี 2009 เป็นต้นมา  Foreigner ที่ล้มลุกคลุกคลาน มาจนถึงปัจจุบัน ก็ไม่ได้มีผลงานในห้องบันทึกเสียงอีก สมาชิกก็ชราภาพ 70 อัพไปตามวัย  แต่ยังเห็นมีข่าวออกแสดงดนตรีอยู่เรื่อย ๆ แบบไม่ต้องขายหน้าตา ถ้าเจ๋งจริงก็ทำได้ จนทุกวันนี้  และบทเพลงของพวกเขาก็ยังฟังได้ทุก พ.ศ. โดยไม่รู้สึกว่าล้าสมัยแต่ประการใด
 
             แล้วที่เขียนมายาว ๆ ข้างบนคืออะไร อ๋อ... ไม่มีอะไร ก็เพียง : Adlib -Improvise (แปลว่าอะไรก็ไม่รู้  รู้แต่ว่าพอพูดแล้วมันเท่ดี^^)  ไปตามอิสระแห่งอารมณ์เพลง และอารมณ์พิเศษเท่านั้น ไม่ได้ยึดติดกับ หลักการอะไรทั้งนั้น นะจะบอกให้^^

                                                                                          ถอดรหัสใจถอดรหัสใจถอดรหัสใจถอดรหัสใจถอดรหัสใจ
 
 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่