โคโรน่าไวรัส เราตระหนักเพราะเห็นว่าควรตระหนัก ไม่ตระหนักเพราะเค้าอยากให้ตระหนัก....จากปู่เอง

กระทู้คำถาม
   ...ช่วงที่รัฐอยากให้ประชาชนตระหนักมาตรการก็ดูจะตึงไป.. ช่วงที่ประชาชนไม่ตระหนักมาตรการก็ดูจะหย่อนไป...


    ...เมื่อค่ำวาน ปู่ขับรถเล่นตามประสาคนชีวิตดี๊ดี    ก็แวะห้างซื้อโน่นนี่นั่น  แล้วก็เลยเข้าไปเที่ยวตลาดโต้รุ่งในตัวเมือง  ..

แวะซื้อนมปั่นแก้วนึง ปู่วางแก้วส่วนตัวบนเค้าเตอร์ สั่งแม่ค้าให้เทใส่แก้วปู่เลย  ..แม่ค้า "ได้ค่ะ"   แม่ค้าปั่นเสร็จก็เทให้ ระหว่างเทนมปั่น แม่ค้าก็คุยกับคนนั้นคนนี้บริเวณใกล้เคียงไปด้วย  ที่ปู่กังวลคือ แม่ค้าไม่ใส่เมสก้มเทนมไปพูดคุยไป ถ้าเกิดมีเชื้อโคโรน่าไวรัส คงล่องลอยจากปากลงใส่นมปั่นแก้วนั้นแน่ๆ..

   ปู่ไม่กลัวเชื้อโรคนะครับ เพราะปู่แข็งแรงและมีเครื่องอบฆ่าเชื้อส่วนตัวตามประสาคนพอมีอันจะกิน...  แต่ตลาดโต้รุ่งที่เป็นที่รวมคนหลากหลายฐานะมาทานอาหาร  ปู่ว่ามาตรการด้านสุขอนามัยจาก "ศบค" ควรเข้มงวดกว่านี้นะครับ  อย่างน้อยแม่ค้าโต้รุ่งก็ควรใส่เมส และไม่ควรพูดคุยระหว่างทำอาหารให้ลูกค้า..

    ฝาก "ศบค" เข้มงวดเรื่องนี้กับตลาดโต้รุ่งทั่วทุกจังหวัดด้วยนะครับ โดยเฉพาะจังหวัดติดชายแดนพม่าที่กำลังมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดสูง..

ปู่เคยต่อต้านการเคอร์ฟิวที่ทำให้แม่ค้าโต้รุ่งขาดรายได้ไปมาก และปู่ก็ยังมีความคิดเช่นเดิม คือสงสารแม่ค้าโต้รุ่ง ไม่อยากให้กลับมาใช้เคอร์ฟิวอีก  ..แต่แม่ค้าโต้รุ่งก็ต้องตระหนักถึงอาชีของตัวเองด้วยนะครับ  อะไรที่ช่วยกันทำเพื่อลดความเสี่ยงได้ก็ควรทำ เพื่อจะได้ทำมาหากินกันได้โดยสะดวก..

  เวลาออกมาตรการเข้มมาก แม่ค้าก็แย่...เวลาปล่อยให้ค้าขายก็ไม่ควรหย่อนยานนะครับ...ศบค.ออกประกาศให้แม่ค้าตระหนักนิดนึง ..นะ.  จะได้ไม่ต้องกลับมาติดแหง็กกับล๊อกดาวน์กันอีก.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่