รักมีครีม “เห็นผลไวๆ” ให้ใช้มั้ย?

เป็นคำถามยอดฮิต ที่เจอบ่อยมั่กๆๆ
รู้มั้ยคำว่าเห็นผลไว สร้างปัญหามาแค่ไหนแล้ว
#อยากขาวไว -> ได้ฝ้ามาแทน
#อยากหน้าใส -> ได้ผิวบางมาแทน
#อยากหายสิว -> ได้หน้าแห้ง ได้สิวเพิ่ม?
ถ้าเห็นผลไว แล้วได้แบบที่รักบอก จะอยากเห็นผลไวอีกมั้ย?
บอกตามประสบการณ์ที่คิดสูตรมาหลายปีเลย
ว่าสูตรไหนที่รักต้องทำให้เห็นผลไวๆ โอกาสการแพ้ก็จะสูงมาก
นี่ยังไม่นับว่าสูตรปกติ แต่ใช้แบบผิดๆเลยนะคะ
เห็นมั๊ยว่า อะไรก็ตาม ที่ได้มาง่าย ได้มาไว มันก็ต้องแลกทั้งนั้นแหละ
เพราะรอยโรค หรือปัญหา ก็เหมือนกัน
เพราะฉะนั้น มันก็ต้องแก้ด้วยกลไกเหมือนๆกัน
ไม่เกี่ยวกับราคาเลยจะถูกจะแพง!!! แก้ปัญหาให้ตรงจุด เสริมให้ตรงประเด็นคือสิ่งสำคัญที่สุด
ยิ่งกว่านั้นพอปรับสูตรให้มันแรงขึ้น มันก็จะเสี่ยงขึ้นอีกหลายเท่า
ลองคิดแบบสมการนี้กันดีกว่า
จาก Income = Value x Time แต่ขอดัดแปลงเป็น
Outcome = Value x Time
ถ้าอยากให้ผลลัพธ์มาไว โดยจำกัดเวลาเท่าเดิม เราก็ต้องใส่ value เพิ่ม
แต่ถ้า Value ในที่นี้ก็คือ ใช้สารที่แรงขึ้น ใช้ความเข้มข้นที่สูงขึ้น ใช้หลายๆตัว ใช้เยอะๆ
#ได้ผลนะ แต่แค่ช่วงแรกเท่านั้นแหละ
พอใช้เรื่อยๆ ปัญหาก็จะตามมา แล้วต้องไปแก้เปัญหาที่เกิดขึ้นมาใหม่
#วนลูปไม่จบสิ้น ยกตัวอย่างง่ายๆ
อยากขาวไว -> ไปลอกหน้า
ได้หน้าขาวมาแหละ แต่ได้
ผิวหน้าบางพ่วงมาด้วยแน่ๆ
แล้วหมอก็จะสั่งว่าต้องหลบแดด เพราะผิวจะบางไวต่อแสง โดนแสงในชีวิตประจำวันก็เกิดปัญหาตามมาแล้ว แต่ถ้าเกิดจังหวะที่หลบแสงไม่ได้ล่ะ?
กลายเป็นฝ้า หรือหน้าอักเสบ เท่ากับได้ปัญหาใหม่ ต้องมาแก้ฝ้าต่อซะงั้น
เพราะฉะนั้น ใจเย็นๆ อยากหาย อยากสวย อยากหล่อ ต้องใช้เวลาตามที่มันควรจะเป็น ดูแลสม่ำเสมอทั้งนั้นแหละ
ปัญหาผิวหนักๆ ส่วนใหญ่มันก็ใช้เวลาสะสมอาการ จนปะทุออกมา
ดังนั้น มันไม่มีทางลัด สำหรับปัญหาที่สะสมมานานหรอก
แล้วก็ไม่มีอะไรที่ได้ไวแล้วไม่ต้องแลก
การซื้อเวลา กับการดูแลปัญหาผิวหน้า ร้อยทั้งร้อย ไม่เคยคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย
ค่อยๆแก้ ค่อยๆหาย ไม่มีปัญหาต่อท้ายให้ปวดหัว คุ้มกว่าเยอะ
💯 วิธีที่จะทำให้ครีมเห็นผลไวที่สุดคือ
การดูแลให้ผิวหน้าเราแข็งแรงสมบูรณ์
แล้วจะเสริมเรื่องอะไรจะเห็นผลไวมาก หรือจะแก้เรื่องอะไรก็ใช้เวลาน้อยที่สุดแล้วค่า
เหมือนกับประโยคที่ว่า
ถ้าคุณใช้เวลานานเพื่อรักใครซักคน
คุณอาจต้องใช้เวลานานกว่าเพื่อลืม...
#ครีมเห็นผลก็เช่นกัน
#ฝากไว้ให้คิส
#เภสัชกรรัก
มีครีม “เห็นผลไวๆ” ให้ใช้มั้ย คำถามยอดฮิตสร้างปัญหาชีวิต 🙀
เป็นคำถามยอดฮิต ที่เจอบ่อยมั่กๆๆ
รู้มั้ยคำว่าเห็นผลไว สร้างปัญหามาแค่ไหนแล้ว
#อยากขาวไว -> ได้ฝ้ามาแทน
#อยากหน้าใส -> ได้ผิวบางมาแทน
#อยากหายสิว -> ได้หน้าแห้ง ได้สิวเพิ่ม?
ถ้าเห็นผลไว แล้วได้แบบที่รักบอก จะอยากเห็นผลไวอีกมั้ย?
บอกตามประสบการณ์ที่คิดสูตรมาหลายปีเลย
ว่าสูตรไหนที่รักต้องทำให้เห็นผลไวๆ โอกาสการแพ้ก็จะสูงมาก
นี่ยังไม่นับว่าสูตรปกติ แต่ใช้แบบผิดๆเลยนะคะ
เห็นมั๊ยว่า อะไรก็ตาม ที่ได้มาง่าย ได้มาไว มันก็ต้องแลกทั้งนั้นแหละ
เพราะรอยโรค หรือปัญหา ก็เหมือนกัน
เพราะฉะนั้น มันก็ต้องแก้ด้วยกลไกเหมือนๆกัน
ไม่เกี่ยวกับราคาเลยจะถูกจะแพง!!! แก้ปัญหาให้ตรงจุด เสริมให้ตรงประเด็นคือสิ่งสำคัญที่สุด
ยิ่งกว่านั้นพอปรับสูตรให้มันแรงขึ้น มันก็จะเสี่ยงขึ้นอีกหลายเท่า
ลองคิดแบบสมการนี้กันดีกว่า
จาก Income = Value x Time แต่ขอดัดแปลงเป็น Outcome = Value x Time
ถ้าอยากให้ผลลัพธ์มาไว โดยจำกัดเวลาเท่าเดิม เราก็ต้องใส่ value เพิ่ม
แต่ถ้า Value ในที่นี้ก็คือ ใช้สารที่แรงขึ้น ใช้ความเข้มข้นที่สูงขึ้น ใช้หลายๆตัว ใช้เยอะๆ
#ได้ผลนะ แต่แค่ช่วงแรกเท่านั้นแหละ
พอใช้เรื่อยๆ ปัญหาก็จะตามมา แล้วต้องไปแก้เปัญหาที่เกิดขึ้นมาใหม่
#วนลูปไม่จบสิ้น ยกตัวอย่างง่ายๆ
อยากขาวไว -> ไปลอกหน้า
ได้หน้าขาวมาแหละ แต่ได้ผิวหน้าบางพ่วงมาด้วยแน่ๆ
แล้วหมอก็จะสั่งว่าต้องหลบแดด เพราะผิวจะบางไวต่อแสง โดนแสงในชีวิตประจำวันก็เกิดปัญหาตามมาแล้ว แต่ถ้าเกิดจังหวะที่หลบแสงไม่ได้ล่ะ?
กลายเป็นฝ้า หรือหน้าอักเสบ เท่ากับได้ปัญหาใหม่ ต้องมาแก้ฝ้าต่อซะงั้น
เพราะฉะนั้น ใจเย็นๆ อยากหาย อยากสวย อยากหล่อ ต้องใช้เวลาตามที่มันควรจะเป็น ดูแลสม่ำเสมอทั้งนั้นแหละ
ปัญหาผิวหนักๆ ส่วนใหญ่มันก็ใช้เวลาสะสมอาการ จนปะทุออกมา
ดังนั้น มันไม่มีทางลัด สำหรับปัญหาที่สะสมมานานหรอก
แล้วก็ไม่มีอะไรที่ได้ไวแล้วไม่ต้องแลก
การซื้อเวลา กับการดูแลปัญหาผิวหน้า ร้อยทั้งร้อย ไม่เคยคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย
ค่อยๆแก้ ค่อยๆหาย ไม่มีปัญหาต่อท้ายให้ปวดหัว คุ้มกว่าเยอะ
💯 วิธีที่จะทำให้ครีมเห็นผลไวที่สุดคือ การดูแลให้ผิวหน้าเราแข็งแรงสมบูรณ์
แล้วจะเสริมเรื่องอะไรจะเห็นผลไวมาก หรือจะแก้เรื่องอะไรก็ใช้เวลาน้อยที่สุดแล้วค่า
เหมือนกับประโยคที่ว่า
ถ้าคุณใช้เวลานานเพื่อรักใครซักคน
คุณอาจต้องใช้เวลานานกว่าเพื่อลืม...
#ครีมเห็นผลก็เช่นกัน
#ฝากไว้ให้คิส
#เภสัชกรรัก