

:: รีวิว SOFT POWER ::
ผู้เขียน : Roundfinger
เรื่องราวโดย Cherprang BNK48
สำนักพิมพ์ : Matichon Book - สำนักพิมพ์มติชน
-------------------------
วันนี้ เป็นวันแรกที่ผมได้รับหนังสือเรื่อง Soft Power
หนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวของเมมเบอร์คนแรกที่ผมไปจับมือด้วย
จริงๆ ความคาดหวังของผมตอนที่สั่งซื้อหนังสืออย่างแรกเลย คือ
.
"ของมันต้องมี" "ยังไงก็ต้องซื้อ"
.
แต่ความรู้สึกที่สองหลังจากที่ผมได้อ่านหนังสือเล่มนี้จบ
ผมพบว่า ทุกตัวอักษรที่ถูกบอกเล่าอยู่ในหนังสือเล่มนี้
เต็มเปี่ยมไปด้วย Soft Power ในตัวของมันเองท้ังสิ้น
.
ขอบคุณพี่เอ๋ นิ้วกลม ที่เรียบเรียงบทสัมภาษณ์ออกมาได้อย่างดี
และพาเราไปเยี่ยมเยือนพื้นที่สองแห่งในหัวใจของเฌอปรางได้จริงๆ
ผมเห็นด้วยที่พี่เอ๋บอกไว้ว่า เป็นความยากอย่างยิ่ง
ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของเฌอปรางในมุมที่ต่างออกไป
เพราะตลอดระยะเวลาที่เฌอสวมบทเป็นกัปตันของวง
เฌอคือเมมเบอร์ที่ถูกสัมภาษณ์มากที่สุดคนหนึ่ง จนผมเองก็นึกไม่ออก
ว่าจะมีเรื่องไหนอีกบ้าง ที่เฌอยังไม่ถูกตั้งคำถาม
.
แต่ถึงกระนั้น Soft Power ก็สามารถถ่ายทอดได้อย่างชวนติดตาม
และทำให้ผมได้สัมผัสอีกหลายแง่มุมมากในชีวิตของเฌอปราง
จนรู้สึกเหมือนกับว่า ผมได้เป็นคนไปนั่งสัมภาษณ์เฌอด้วยตัวเอง
.
จุดแรกที่ผมอยากพูดถึงหนังสือเล่มนี้ คือ การจัดเรียงเรื่องเล่า
ด้วยความยาวของหนังสือเกือบ 300 หน้า
Soft Power แบ่ง Chapter ออกเป็น 10 Chapter + 2 Special
ประกอบไปด้วย
.
01 : จุดเริ่มต้นของไอดอลคือการซักถุงเท้า
02 : เรื่องไร้สาระไม่มีจริง
03 : คำตอบไม่เดินมาหาเรา
04 : การทำเต็มที่พาเราไปไหน
05 : BNK48 ในสายตาแคปเฌอ
06 : กรีดร้องให้ก้องโลก
07 : หินแม่น้ำ
08 : ขอบคุณที่รักกัน
09 : ยังไม่ใช่บทสุดท้ายของชีวิต
10 : LAST CHAPTER
และ Special Chapter ที่พูดถึงบันทึกก่อนและหลังงาน Fanmeet
.
แต่ละบทจะทำหน้าที่พาเราเข้าไปสำรวจในแต่ละพื้นที่ของ เฌอปราง
ตั้งแต่ที่ยังเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆในวัย 5 ขวบ
จวบจนถึงวันที่เฌอได้ก้าวสู่จุดสูงสุดในฐานะไอดอล
ผ่านคำถามที่พี่เอ๋ นิ้วกลม คัดสรรมาอย่างดี
ไม่มีการหาคำพูดมาอ้อมค้อมให้เสียเวลา และผมรู้สึกว่า
ฝั่งของเฌอเอง ก็ตอบได้อย่างมั่นใจ และตรงไปตรงมามากจริงๆ
.
ถ้าเปรียบกับภาพยนตร์ Soft Power ก็เล่าเรื่องแบบสลับไปมา
เดี๋ยวก็สลับไปฝั่งคนธรรมดา เดี๋ยวก็สลับมาฝั่งไอดอล
แต่ทุกๆเรื่องราว ต่างสอดคล้องกัน
ความรู้สึกจากการทำงาน ส่งผลต่อความรู้สึกที่บ้าน
ความชอบ ประสบการณ์ และตัวตนที่เฌอเป็น
หล่อหลอมให้เธอกลายเป็น "เฌอปราง อารีย์กุล"
.
คำพูดหนึ่งที่ผมชอบมากในหนังสือเล่มนี้ คือ
"วิธีเหลาอัตตาของเรา
คือการนำมันไปพบเจออัตตาที่แตกต่าง"
.
เราอยู่บนโลกที่สื่อต่างๆ พยายามหาสิ่งที่เราชอบมาวางไว้ตรงหน้าเรา
ทำให้เราคิดว่า ทุกคนบนโลกคิดเหมือนกันกับเรา
แต่ความจริง คือ ยังมีคนอีกมากมายเลยที่เห็นต่างจากเรา
คิดไม่เหมือนเรา และเป็นขั้วตรงข้ามกับเราอย่างที่สุด
ดังนั้น ไม่ว่าเราจะทำงานอะไร ย่อมมีคนที่ชอบ และไม่ชอบอย่างแน่นอน
คำถาม คือ งานที่เราทำอยู่ เราทำมันดีที่สุด เต็มที่ที่สุดแล้วหรือยัง?
.
การเป็นไอดอลก็เช่นกัน แน่นอนว่าระบบของมันเต็มไปด้วยการแข่งขัน
มีทั้งคนแพ้ คนชนะ คนที่ต้องผิดหวัง และไม่ได้รับโอกาส
แต่ในการแข่งขันนั้น ล้วนมี "มิตรภาพ" อยู่ด้วย
คนที่ได้โอกาสดีกว่า ต่อให้พยายามช่วยคนที่ได้โอกาสน้อยกว่ามากแค่ไหน
แต่ถ้าคนๆนั้น ไม่พยายามให้มากพอก็ไปไม่ถึงเส้นชัยอยู่ดี
นี่คือสิ่งที่แต่ละคนต้องตอบตัวเอง ว่าเราทำดีที่สุดแล้วหรือยัง
.
อีกส่วนนึง ที่ผมชอบไม่แพ้กัน คือ ส่วนที่พูดถึงแฟนคลับ
และนิยามคำว่าครอบครัว นี่คือส่วนที่แฟนคลับของเฌอต้องภูมิใจ
เพราะเฌอพูดถึงพวกเราไว้ในหลายๆแง่มุม
โดยเฉพาะเรื่องราวจากบันทึกก่อนและหลัง Fanmeet
ถือเป็นไฮไลท์ที่ทำให้ผมรัก และภูมิใจในตัวเด็กคนนี้มาก
.
สุดท้ายนี้ ผมอยากขอบคุณทุกคนที่มีส่วนในหนังสือเล่มนี้
โดยเฉพาะ พี่เอ๋ นิ้วกลม และกองบรรณาธิการ ที่เลือกจะเล่าเรื่องราวของเฌอ
เพราะสำหรับคนที่รัก"เฌอปราง" เธอไม่ใช่ภูเขาน้ำแข็งที่เยือกเย็น
หรือหุ่นยนต์ที่ไร้หัวใจ แต่เธอคือแมวตัวน้อยที่กล้าหาญ ผู้รักการผจญภัย
และเป็น Soft Power ที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้คนอีกมากมายที่ได้รู้จักเธอ
=============================
Cr. การรีวิวจากเพจ OTA Story
https://www.facebook.com/1971444183111253/posts/2694311094157888/
:: รีวิว หนังสือ SOFT POWER :: ยิ่งพบเฌอ ยิ่งได้รู้จัก ยิ่งรักเธอหมดใจ
:: รีวิว SOFT POWER ::
ผู้เขียน : Roundfinger
เรื่องราวโดย Cherprang BNK48
สำนักพิมพ์ : Matichon Book - สำนักพิมพ์มติชน
-------------------------
วันนี้ เป็นวันแรกที่ผมได้รับหนังสือเรื่อง Soft Power
หนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวของเมมเบอร์คนแรกที่ผมไปจับมือด้วย
จริงๆ ความคาดหวังของผมตอนที่สั่งซื้อหนังสืออย่างแรกเลย คือ
.
"ของมันต้องมี" "ยังไงก็ต้องซื้อ"
.
แต่ความรู้สึกที่สองหลังจากที่ผมได้อ่านหนังสือเล่มนี้จบ
ผมพบว่า ทุกตัวอักษรที่ถูกบอกเล่าอยู่ในหนังสือเล่มนี้
เต็มเปี่ยมไปด้วย Soft Power ในตัวของมันเองท้ังสิ้น
.
ขอบคุณพี่เอ๋ นิ้วกลม ที่เรียบเรียงบทสัมภาษณ์ออกมาได้อย่างดี
และพาเราไปเยี่ยมเยือนพื้นที่สองแห่งในหัวใจของเฌอปรางได้จริงๆ
ผมเห็นด้วยที่พี่เอ๋บอกไว้ว่า เป็นความยากอย่างยิ่ง
ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของเฌอปรางในมุมที่ต่างออกไป
เพราะตลอดระยะเวลาที่เฌอสวมบทเป็นกัปตันของวง
เฌอคือเมมเบอร์ที่ถูกสัมภาษณ์มากที่สุดคนหนึ่ง จนผมเองก็นึกไม่ออก
ว่าจะมีเรื่องไหนอีกบ้าง ที่เฌอยังไม่ถูกตั้งคำถาม
.
แต่ถึงกระนั้น Soft Power ก็สามารถถ่ายทอดได้อย่างชวนติดตาม
และทำให้ผมได้สัมผัสอีกหลายแง่มุมมากในชีวิตของเฌอปราง
จนรู้สึกเหมือนกับว่า ผมได้เป็นคนไปนั่งสัมภาษณ์เฌอด้วยตัวเอง
.
จุดแรกที่ผมอยากพูดถึงหนังสือเล่มนี้ คือ การจัดเรียงเรื่องเล่า
ด้วยความยาวของหนังสือเกือบ 300 หน้า
Soft Power แบ่ง Chapter ออกเป็น 10 Chapter + 2 Special
ประกอบไปด้วย
.
01 : จุดเริ่มต้นของไอดอลคือการซักถุงเท้า
02 : เรื่องไร้สาระไม่มีจริง
03 : คำตอบไม่เดินมาหาเรา
04 : การทำเต็มที่พาเราไปไหน
05 : BNK48 ในสายตาแคปเฌอ
06 : กรีดร้องให้ก้องโลก
07 : หินแม่น้ำ
08 : ขอบคุณที่รักกัน
09 : ยังไม่ใช่บทสุดท้ายของชีวิต
10 : LAST CHAPTER
และ Special Chapter ที่พูดถึงบันทึกก่อนและหลังงาน Fanmeet
.
แต่ละบทจะทำหน้าที่พาเราเข้าไปสำรวจในแต่ละพื้นที่ของ เฌอปราง
ตั้งแต่ที่ยังเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆในวัย 5 ขวบ
จวบจนถึงวันที่เฌอได้ก้าวสู่จุดสูงสุดในฐานะไอดอล
ผ่านคำถามที่พี่เอ๋ นิ้วกลม คัดสรรมาอย่างดี
ไม่มีการหาคำพูดมาอ้อมค้อมให้เสียเวลา และผมรู้สึกว่า
ฝั่งของเฌอเอง ก็ตอบได้อย่างมั่นใจ และตรงไปตรงมามากจริงๆ
.
ถ้าเปรียบกับภาพยนตร์ Soft Power ก็เล่าเรื่องแบบสลับไปมา
เดี๋ยวก็สลับไปฝั่งคนธรรมดา เดี๋ยวก็สลับมาฝั่งไอดอล
แต่ทุกๆเรื่องราว ต่างสอดคล้องกัน
ความรู้สึกจากการทำงาน ส่งผลต่อความรู้สึกที่บ้าน
ความชอบ ประสบการณ์ และตัวตนที่เฌอเป็น
หล่อหลอมให้เธอกลายเป็น "เฌอปราง อารีย์กุล"
.
คำพูดหนึ่งที่ผมชอบมากในหนังสือเล่มนี้ คือ
"วิธีเหลาอัตตาของเรา
คือการนำมันไปพบเจออัตตาที่แตกต่าง"
.
เราอยู่บนโลกที่สื่อต่างๆ พยายามหาสิ่งที่เราชอบมาวางไว้ตรงหน้าเรา
ทำให้เราคิดว่า ทุกคนบนโลกคิดเหมือนกันกับเรา
แต่ความจริง คือ ยังมีคนอีกมากมายเลยที่เห็นต่างจากเรา
คิดไม่เหมือนเรา และเป็นขั้วตรงข้ามกับเราอย่างที่สุด
ดังนั้น ไม่ว่าเราจะทำงานอะไร ย่อมมีคนที่ชอบ และไม่ชอบอย่างแน่นอน
คำถาม คือ งานที่เราทำอยู่ เราทำมันดีที่สุด เต็มที่ที่สุดแล้วหรือยัง?
.
การเป็นไอดอลก็เช่นกัน แน่นอนว่าระบบของมันเต็มไปด้วยการแข่งขัน
มีทั้งคนแพ้ คนชนะ คนที่ต้องผิดหวัง และไม่ได้รับโอกาส
แต่ในการแข่งขันนั้น ล้วนมี "มิตรภาพ" อยู่ด้วย
คนที่ได้โอกาสดีกว่า ต่อให้พยายามช่วยคนที่ได้โอกาสน้อยกว่ามากแค่ไหน
แต่ถ้าคนๆนั้น ไม่พยายามให้มากพอก็ไปไม่ถึงเส้นชัยอยู่ดี
นี่คือสิ่งที่แต่ละคนต้องตอบตัวเอง ว่าเราทำดีที่สุดแล้วหรือยัง
.
อีกส่วนนึง ที่ผมชอบไม่แพ้กัน คือ ส่วนที่พูดถึงแฟนคลับ
และนิยามคำว่าครอบครัว นี่คือส่วนที่แฟนคลับของเฌอต้องภูมิใจ
เพราะเฌอพูดถึงพวกเราไว้ในหลายๆแง่มุม
โดยเฉพาะเรื่องราวจากบันทึกก่อนและหลัง Fanmeet
ถือเป็นไฮไลท์ที่ทำให้ผมรัก และภูมิใจในตัวเด็กคนนี้มาก
.
สุดท้ายนี้ ผมอยากขอบคุณทุกคนที่มีส่วนในหนังสือเล่มนี้
โดยเฉพาะ พี่เอ๋ นิ้วกลม และกองบรรณาธิการ ที่เลือกจะเล่าเรื่องราวของเฌอ
เพราะสำหรับคนที่รัก"เฌอปราง" เธอไม่ใช่ภูเขาน้ำแข็งที่เยือกเย็น
หรือหุ่นยนต์ที่ไร้หัวใจ แต่เธอคือแมวตัวน้อยที่กล้าหาญ ผู้รักการผจญภัย
และเป็น Soft Power ที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้คนอีกมากมายที่ได้รู้จักเธอ
=============================
Cr. การรีวิวจากเพจ OTA Story
https://www.facebook.com/1971444183111253/posts/2694311094157888/