HP นั้นถือว่าเป็นแบรนด์ที่ทำคอมพิวเตอร์สายทำงานออกมาเรื่อยๆรวมถึงมีหลากหลายตระกูลในการใช้งานทำงานและล่าสุดนั้นก็ได้เปิดตัว HP ENVY รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับคุณภาพแน่นๆเช่นเดิม รวมถึงรองรับการทำงานแบบเต็มที่มากขึ้นทั้งเรื่องของ วัสดุดูดีสวยงาม คุณภาพหน้าจอที่จัดเต็มรวมถึงสเปกในการใช้งานที่ตอบโจทย์ทั้งสายทำงานและสายทั่วไปรวมถึงยังไปเล่นเกมก็ได้ครบๆ ตัวเดียวสามารถรองรับการทำงานได้สบายๆ และทางตระกูลนี้ HP ENVY นั้นจะเน้นในเรื่องของน้ำหนักที่เบา พาพาได้ง่ายด้วยเช่นกันในรุ่นนี้มาพร้อมกับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานการสร้างคอนเทนต์ในกลุ่มครีเอเตอร์ มอบความคล่องตัว สะดวกสบายในการพกพาและทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งในยุคนี้หลายๆคนนั้นก็จะเน้นไปการทำงานที่บ้าน ทำงานนอกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งภาพ ทำสีต่างๆรวมถึงการตัดต่อ คลิป วีดีโอ ซึ่งแน่นอนว่าสายออกแบบต่างๆก็รองรับรวมไปถึงในเรื่องของทำงานพื้นฐานด้วย
HP ENVY 15 นั้นมาพร้อมกับการใช้งาน intel Core i7-10750H ตัวล่าสุด 2.60 GHz, 12 MB L3 Cache, up to 5.00 GHz และใช้งาน NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti MAX-Q ที่ใช้งาน (6GB GDDR6) และจัดเต็มทางด้าน RAM 16GB DDR4 2933Mhz รวมถึงใช้งาน SSD 512 GB PCIe/NVMe M.2 และมาพร้อมกับหน้าจอคุณภาพสูงในขนาด 15.6″ นิ้วความละเอียด FULL HD พร้อมหน้าจอแบบ IPS WLED และใช้งานหน้าจอ ANTI-GLARE หรือหน้าจอแบบด้านด้วย รองรับความสว่าง 300NITS 72% NTSC พร้อมกับการใช้งานลำโพง ของค่ายระดับเทพ Bang & Olufsen เป็นลำโพงคู่ Dual speakers และรองรับ HP Audio Boost 2.0 ส่วนทางด้านการเชื่อมต่อนั้นรองรับการใช้งาน WIFI 6 และ Bluetooth 5.0 เป็นพื้นฐาน เรียกได้ว่าสเปกในภาพรวมนั้นถือว่าตอบโจทย์ได้สบายๆอีกทั้งยังมาพร้อมกับ วัสดุงานประกอบที่ไว้ใจได้มีความสวยงามดูหรูหราและแข็งแรง ส่วนทางด้านของราคานั้นทาง HP จะค่อนข้างปรับแต่งสเปกได้แต่ในรุ่นที่รีวิวจะเป็นตัวเรท ราคา 50,900 บาท
DESIGN
งานออกแบบของทาง HP นั้นต้องบอกว่ามีความเรียบง่ายแต่จะเน้นไปในวัสดุของตัวเองให้มีความพรีเมี่ยมเวลามองหรือสัมผัสได้ดีมากๆทั้งในแง่ของโทนสีตัวเครื่องเส้นสายที่เรียบๆ และความบางเบาจึงไม่แปลกใจว่าทำไมเวลาเห็นของจริงแล้วตัวเครื่องดูแพงดูดีอย่างมากสมราคากับเหมาะแก่การใช้งานทำงาน หรือจะไปคุยงานก็ดูดีเช่นกัน ทางด้านงานออกแบบ โลโก้มีความสวยงามและเข้ากับรูปแบบใหม่ และสายงานออกแบบหรือไปในแนวทำงานก็รองรับได้ ตัวเครื่องนั้นมีขนาดกำลังดี ไม่ได้หนาและไม่ได้ใหญ่มากนัก รวมถึงมีน้ำหนักกำลังดีที่ 2.1 กิโลกรัมด้วยสำหรับรุ่นนี้
งานออกแบบในภาพรวมในการใช้งานโลโก้ตัวใหม่พร้อมกับงานออกแบบรุ่นนี้ทำให้ดีไซน์ในภาพรวมนั้นมีความเรียบง่ายและเหมาะแก่การทำงานในหลายๆด้านรวมถึงในเรื่องของสายงานออกแบบต่างๆรวมถึงในแง่ของการออกแบบในยุคใหม่ที่มีหน้าจอขอบบาง ทำให้ขนาดตัวเครื่องเล็กลงกว่าเดิมและทางด้านวัสดุของตัวเครื่องนั้นใช้งานเป็นวัสดุเดียวกันทั้งหมด ในด้านหลังและด้านในของตัวเครื่อง ส่วนทางด้านหน้าจอนั้นเป็นขอบสีดำด้านทั้งหมด รวมถึงตัวหน้าจอด้วยเช่นกันในรุ่นนี้จะเป็นหน้าจอแบบด้านซึ่งเหมาะแก่การทำงานข้างนอกช่วยลดเรื่องแสงรบกวนได้
ทางด้านขอบหน้าจอนั้นจะค่อนข้างบางแต่ก็ยังคงใส่เรื่องของกล้องหน้ามาให้พร้อมกับการรองรับการเปิด/ปิดในส่วนของเลนส์กล้องได้โดยกดปุ่มที่ตัวเครื่อง ถือว่ายังคงเน้นในเรื่องของความปลอดภัย ได้ดี และมีปุ่มเปิด/ปิดไมค์มาให้ด้วย ส่วนขอบหน้าจอด้านล่างนั้นถือว่ามีความหนาระดับนึงเป็นปกติของบรรดาคอมพิวเตอร์ที่เน้นในเรื่องของความบางเพราะตัวฐานนั้นต้องรองรับในเรื่องของขนาด และที่วางมือจึงทำให้เรื่องของขนาดขอบจอนั้นบางได้ไม่เท่าไรนัก
ในส่วนของตัวแป้นพิมพ์นั้นในด้านหลังนั้นไม่มีช่องระบายอากาศอะไร ซึ่งมันจะเป็นการยิงตรงลงมาด้านล่างจะไม่ได้ยิงออกมาตรงหน้าจอ ก็ถือว่าในเรื่องของความร้อนจะไม่ได้ส่งผลต่อหน้าจอเท่าไรนักจะเน้นยิงลงไปข้างล่างแทน ส่วนการกางนั้นรองรับได้สูงสุดประมาณในภาพ และ การวาง Layout ลำโพงนั้นจะยิงตรงออกมาด้านหน้าเลยวางแยกซ้าย ขวา จากทาง B&O ในเรื่องของคุณภาพและเสียงนั้นถือว่าตอบโจทย์ได้ดี และเล่นลวดลายเส้นสายสามเหลี่ยม
ทางด้านขอบเครื่องด้านหลังนั้นจะมีการเขียนชื่อรุ่นไว้ ENVY ฟอนต์สวยงามในมุมซ้ายและเล่นลวดลายขีดๆในด้านหลังขอบเครื่องจะเห็นว่ามีช่องระบายอากาศในด้านล่างและยิงออกมาทั้งด้านหลังและยิงลงพื้นเป็นคล้ายๆทรง 3 มิติ แต่จะไม่มีการระบายออกบนหน้าจอ ซึ่งแตกต่างกับตัวอื่นๆ และในด้านฐานเครื่องก็ดูดลมเข้ามาได้ด้วยเช่นกัน
ฐานเครื่องด้านหลังนั้นเราจะเห็นว่ามีช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ตรงส่วนด้านหลังของเครื่อง และเป็นทรงสี่เหลี่ยมในด้านหลังตรงช่วงของพัดลมหลักๆในการดูดอากาศเข้าจากด้านล่างนั้นเอง แต่จะเห็นว่าลำโพงในขอบเครื่องด้านข้างทั้ง 2 นั้นมีมาให้ด้วยเป็นตัวลำโพง ตัวเสริมนอกเหนือจากด้านขอบบนทำให้เสียงในภาพรวมนั้นออกมาได้มีหลากหลายทิศทางมากขึ้น และมิติของเสียงนั้นตอบโจทย์การใช้งานพอสมควร ใน การทำงาน ดูหนัง ตัดต่อต่างๆ
SPEC
- Intel® Core™ i7-10750H (2.6 GHz base frequency, up to 5 GHz with Intel® Turbo Boost Technology, 12 MB L3 cache, 6 cores)
- Windows 10 Home 64
- 15.6″ diagonal FHD, IPS, anti-glare, micro-edge, WLED-backlit, 300 nits, 72% NTSC (1920 x 1080)
- NVIDIA GTX 1660TI MAX-Q 6GB DDR6
- 16 GB DDR4-2933 SDRAM (2 x 8 GB)
- 512 GB PCIe® NVMe™ M.2 SSD
- Intel® UHD Graphics
- 1 year limited parts and labour
PERFORMANCE
ในรุ่นนี้ใช้งาน CPU i7-10750H 14nm 2.60GHz 12MB 6 Core/12 Thread ส่วนการ์ดจอ นั้นยังคงใช้งานของ NVIDIA GeForce GTX 1660TI MAX-Q มาพร้อมกับ 6GB GDDR6 และ ทางด้าน Ram ให้มา 8GB DDR4 bus 2933 ส่วน SSD 512GB PCIe® Gen3 SSD M.2 ให้มาเรียบร้อย มาพร้อมกับ Windows 10 เรียบร้อยพร้อมใช้งานในรุ่นนี้ถือว่าสเปกนั้นทำได้ดีและความเร็วในการอ่านเขียนสูงมากๆ ทำให้ใช้งานได้ดีทีเดียวกับ SSD ที่ใส่เข้ามา และรองรับการใช้งานได้สบายๆทั้งการรองรับทำงานหนักๆรวมถึงเรนเดอร์งาน
PCMARK
คะแนนไปได้ค่อนข้างสูงมากๆแน่นอนว่าตัว i7 Gen10 ก็ถือว่าแรงพอสมควร ไปได้ 3658 คะแนน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ เรนเดอร์ 3 มิติ งานเขียนงานวาดแปลนบ้านทุกอย่าง และ รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้งหมดถือว่าชิลๆและดีกว่าตัว i7 9750H อยู่ด้วยในคะแนนส่วนนี้ ส่วนในการทดสอบนั้นเป็นอุณหภูมิปกติ เช่นเดิมไม่ได้เปิดแอร์ แต่ถ้าเปิดแอร์นั้นจะได้คะแนนประมาณ 3,990 คะแนน แน่นอนว่าถ้าเทียบกับ 4800HS ตัวนั้นจะยังคงทำได้แตะ 5000 ก็เป็นจุดที่ยังคงมีความแตกต่างกันอยู่นิดหน่อย ทางด้านอีกค่ายจะแรงกว่านิดหน่อยถ้าวัดกัน
3D MARK
นั้น ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงในการทดสอบทั้ง 4 แบบนะครับ ตัว FIRESTRIKE EXTREAM ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้ 5862 ถือว่าดี และ ทดสอบตัว FIRESTRIKE ทำไปได้ 11446 คะแนนในแบบที่โหดๆขึ้นมานั้นเอง แน่นอนว่าทางด้าน GTX 1660TI ก็ถือว่าใช้งานทั่วไปสบายเล่นเกมได้สบาย แต่ถ้าเน้นทดสอบ คะแนนอาจจะยังไม่โหดเท่าพวก RTX แต่ก็ถือว่าตามราคาครับต้องบอกว่าผ่านการทดสอบใช้งานของ 3D Mark สบายๆ และการทดสอบ TIME SPY ทำได้ 4925 คะแนน และ แบบโหดนั้นทำไป 2262 คะแนน ส่วนในเรื่องความร้อน CPU 86 GPU 80 ประมาณนี้ เพียงพอสำหรับสายทำงานเรนเดอร์ทั่วไปเหลือๆ
CINEBENCH R20 R15 / SSD
R15 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูง เลยแหละ R15 นั้นทำได้ 1050 / 127.60 FPS ประมวลผลหนักๆได้แบบสบายมากๆ และดีกว่าพวกรุ่นก่อนหน้านี้แบบชัดเจน ส่วนเรื่องความร้อนนั้นตามที่แจ้งไป ทดสอบในอุณหภูมิห้อง ไม่มีเปิดแอร์ R20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผลตัวโหดกว่า R15 คะแนนก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน ดีกว่ารุ่นก่อนเยอะมาก และทำได้ดีกว่าตัว i7 9750H ด้วยนะ ในตัว R20 นั้นที่ประมวลผลหนักหน่วงกว่าเดิม ทำคะแนน 2211 CB เลยครับ ดีกว่าพวกรุ่นปกติเยอะเลย และ เช่นเดิมทดสอบในสภาพอากาศปกติไม่มีแอร์ ทำได้ดีทั้ง Single และปกติ ส่วนตัว SSD นั้นทำการอ่านเขียนไป 3173MB/s และ 2743 MB/s ถือว่าเร็วแรงมากๆเมื่อเทียบกับคู่แข่งบางตัวจะได้แค่พันต้นๆในการเขียนตัวนี้เหลือๆใช้งานสบายครับ
SCREEN
หน้าจอในรุ่นนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงมาใช้หน้าจอแบบ WLED ในความละเอียด FullHD HDR ครับหน้าจอในรุ่นนี้รองรับการใช้งานตัดต่อ แต่งภาพ รวมถึงดูหนังอะไรได้คมชัดเลยแหละ จากที่ใช้งานหน้าจอของมันในแง่ของสีสันต่างๆทำออกมาได้ดี และหน้าจอแบบด้านแน่นอนว่าภาพอาจจะไม่ได้สวยสดสะใจมาก แต่มีข้อดีในแง่ของการใช้งานทั่วไปในสภาพแสงข้างนอกอาคารหรือที่เจอแสงเยอะๆ แต่เท่าที่ทดสอบนั้นเหมือนจะไม่ค่อยสู้แสงเท่าไรนักในตัวจอนี้ หน้าจอเป็นจอแบบ WLED มาให้ในขนาด 15.6″ นิ้วพร้อมกับ diagonal FHD ใช้งานหน้าจอแบบ IPS หน้าจอด้านแบบ anti-glare ขอบหน้าจอแบบ micro-edge และใช้งาน WLED-backlit ความสว่างรองรับสูงสุด 300 nits และค่าค่าแม่นยำสีประมาณ 72% NTSC หรือเทียบเท่า sRGB 100% ได้เลยนั้นเองถือว่าโหดมากๆ ซึ่งอย่างที่แจ้งไปนั้น รุ่นนี้รองรับการทำงานในเรื่องของสีที่สวยงามเหมาะแก่การตัดต่อได้ด้วยนั้นเอง
หน้าจอในมุมมองอื่นๆนั้นรุ่นนี้ถือว่ารองรับการใช้งานได้ดีเหมือนกันในแง่ของโทนสีต่างๆนั้นไม่ได้เพี้ยนอะไรเยอะ แต่ความดรอปหรือความสว่างในการสู้แสงอาจจะไม่ได้โหดเท่าไรในแง่ของมุมมองเอียงๆเป็นปกติ แต่ถ้าเทียบกับในรุ่นที่มี Sure view นั้นจะดรอปลงกว่านี้ชัดเจนมากๆ เลยทำให้ในรุ่น ENVY ตัวนี้ยังคงตอบโจทย์ในการใช้งานได้มากกว่าแต่ก็แลกกับไม่มีโหมดพวกนั้นมาให้ ส่วนโทนสีมุมมองนั้นไม่มีปัญหาแน่นอนในการใช้งานจริงๆรุ่นนี้
[SR] รีวิว HP ENVY 15 สายทำงาน วัสดุพรีเมี่ยม จอสวย พร้อม GTX-1660TI MAX-Q !
HP นั้นถือว่าเป็นแบรนด์ที่ทำคอมพิวเตอร์สายทำงานออกมาเรื่อยๆรวมถึงมีหลากหลายตระกูลในการใช้งานทำงานและล่าสุดนั้นก็ได้เปิดตัว HP ENVY รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับคุณภาพแน่นๆเช่นเดิม รวมถึงรองรับการทำงานแบบเต็มที่มากขึ้นทั้งเรื่องของ วัสดุดูดีสวยงาม คุณภาพหน้าจอที่จัดเต็มรวมถึงสเปกในการใช้งานที่ตอบโจทย์ทั้งสายทำงานและสายทั่วไปรวมถึงยังไปเล่นเกมก็ได้ครบๆ ตัวเดียวสามารถรองรับการทำงานได้สบายๆ และทางตระกูลนี้ HP ENVY นั้นจะเน้นในเรื่องของน้ำหนักที่เบา พาพาได้ง่ายด้วยเช่นกันในรุ่นนี้มาพร้อมกับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานการสร้างคอนเทนต์ในกลุ่มครีเอเตอร์ มอบความคล่องตัว สะดวกสบายในการพกพาและทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งในยุคนี้หลายๆคนนั้นก็จะเน้นไปการทำงานที่บ้าน ทำงานนอกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งภาพ ทำสีต่างๆรวมถึงการตัดต่อ คลิป วีดีโอ ซึ่งแน่นอนว่าสายออกแบบต่างๆก็รองรับรวมไปถึงในเรื่องของทำงานพื้นฐานด้วย
HP ENVY 15 นั้นมาพร้อมกับการใช้งาน intel Core i7-10750H ตัวล่าสุด 2.60 GHz, 12 MB L3 Cache, up to 5.00 GHz และใช้งาน NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti MAX-Q ที่ใช้งาน (6GB GDDR6) และจัดเต็มทางด้าน RAM 16GB DDR4 2933Mhz รวมถึงใช้งาน SSD 512 GB PCIe/NVMe M.2 และมาพร้อมกับหน้าจอคุณภาพสูงในขนาด 15.6″ นิ้วความละเอียด FULL HD พร้อมหน้าจอแบบ IPS WLED และใช้งานหน้าจอ ANTI-GLARE หรือหน้าจอแบบด้านด้วย รองรับความสว่าง 300NITS 72% NTSC พร้อมกับการใช้งานลำโพง ของค่ายระดับเทพ Bang & Olufsen เป็นลำโพงคู่ Dual speakers และรองรับ HP Audio Boost 2.0 ส่วนทางด้านการเชื่อมต่อนั้นรองรับการใช้งาน WIFI 6 และ Bluetooth 5.0 เป็นพื้นฐาน เรียกได้ว่าสเปกในภาพรวมนั้นถือว่าตอบโจทย์ได้สบายๆอีกทั้งยังมาพร้อมกับ วัสดุงานประกอบที่ไว้ใจได้มีความสวยงามดูหรูหราและแข็งแรง ส่วนทางด้านของราคานั้นทาง HP จะค่อนข้างปรับแต่งสเปกได้แต่ในรุ่นที่รีวิวจะเป็นตัวเรท ราคา 50,900 บาท
DESIGN
งานออกแบบของทาง HP นั้นต้องบอกว่ามีความเรียบง่ายแต่จะเน้นไปในวัสดุของตัวเองให้มีความพรีเมี่ยมเวลามองหรือสัมผัสได้ดีมากๆทั้งในแง่ของโทนสีตัวเครื่องเส้นสายที่เรียบๆ และความบางเบาจึงไม่แปลกใจว่าทำไมเวลาเห็นของจริงแล้วตัวเครื่องดูแพงดูดีอย่างมากสมราคากับเหมาะแก่การใช้งานทำงาน หรือจะไปคุยงานก็ดูดีเช่นกัน ทางด้านงานออกแบบ โลโก้มีความสวยงามและเข้ากับรูปแบบใหม่ และสายงานออกแบบหรือไปในแนวทำงานก็รองรับได้ ตัวเครื่องนั้นมีขนาดกำลังดี ไม่ได้หนาและไม่ได้ใหญ่มากนัก รวมถึงมีน้ำหนักกำลังดีที่ 2.1 กิโลกรัมด้วยสำหรับรุ่นนี้
งานออกแบบในภาพรวมในการใช้งานโลโก้ตัวใหม่พร้อมกับงานออกแบบรุ่นนี้ทำให้ดีไซน์ในภาพรวมนั้นมีความเรียบง่ายและเหมาะแก่การทำงานในหลายๆด้านรวมถึงในเรื่องของสายงานออกแบบต่างๆรวมถึงในแง่ของการออกแบบในยุคใหม่ที่มีหน้าจอขอบบาง ทำให้ขนาดตัวเครื่องเล็กลงกว่าเดิมและทางด้านวัสดุของตัวเครื่องนั้นใช้งานเป็นวัสดุเดียวกันทั้งหมด ในด้านหลังและด้านในของตัวเครื่อง ส่วนทางด้านหน้าจอนั้นเป็นขอบสีดำด้านทั้งหมด รวมถึงตัวหน้าจอด้วยเช่นกันในรุ่นนี้จะเป็นหน้าจอแบบด้านซึ่งเหมาะแก่การทำงานข้างนอกช่วยลดเรื่องแสงรบกวนได้
ทางด้านขอบหน้าจอนั้นจะค่อนข้างบางแต่ก็ยังคงใส่เรื่องของกล้องหน้ามาให้พร้อมกับการรองรับการเปิด/ปิดในส่วนของเลนส์กล้องได้โดยกดปุ่มที่ตัวเครื่อง ถือว่ายังคงเน้นในเรื่องของความปลอดภัย ได้ดี และมีปุ่มเปิด/ปิดไมค์มาให้ด้วย ส่วนขอบหน้าจอด้านล่างนั้นถือว่ามีความหนาระดับนึงเป็นปกติของบรรดาคอมพิวเตอร์ที่เน้นในเรื่องของความบางเพราะตัวฐานนั้นต้องรองรับในเรื่องของขนาด และที่วางมือจึงทำให้เรื่องของขนาดขอบจอนั้นบางได้ไม่เท่าไรนัก
ในส่วนของตัวแป้นพิมพ์นั้นในด้านหลังนั้นไม่มีช่องระบายอากาศอะไร ซึ่งมันจะเป็นการยิงตรงลงมาด้านล่างจะไม่ได้ยิงออกมาตรงหน้าจอ ก็ถือว่าในเรื่องของความร้อนจะไม่ได้ส่งผลต่อหน้าจอเท่าไรนักจะเน้นยิงลงไปข้างล่างแทน ส่วนการกางนั้นรองรับได้สูงสุดประมาณในภาพ และ การวาง Layout ลำโพงนั้นจะยิงตรงออกมาด้านหน้าเลยวางแยกซ้าย ขวา จากทาง B&O ในเรื่องของคุณภาพและเสียงนั้นถือว่าตอบโจทย์ได้ดี และเล่นลวดลายเส้นสายสามเหลี่ยม
ทางด้านขอบเครื่องด้านหลังนั้นจะมีการเขียนชื่อรุ่นไว้ ENVY ฟอนต์สวยงามในมุมซ้ายและเล่นลวดลายขีดๆในด้านหลังขอบเครื่องจะเห็นว่ามีช่องระบายอากาศในด้านล่างและยิงออกมาทั้งด้านหลังและยิงลงพื้นเป็นคล้ายๆทรง 3 มิติ แต่จะไม่มีการระบายออกบนหน้าจอ ซึ่งแตกต่างกับตัวอื่นๆ และในด้านฐานเครื่องก็ดูดลมเข้ามาได้ด้วยเช่นกัน
ฐานเครื่องด้านหลังนั้นเราจะเห็นว่ามีช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ตรงส่วนด้านหลังของเครื่อง และเป็นทรงสี่เหลี่ยมในด้านหลังตรงช่วงของพัดลมหลักๆในการดูดอากาศเข้าจากด้านล่างนั้นเอง แต่จะเห็นว่าลำโพงในขอบเครื่องด้านข้างทั้ง 2 นั้นมีมาให้ด้วยเป็นตัวลำโพง ตัวเสริมนอกเหนือจากด้านขอบบนทำให้เสียงในภาพรวมนั้นออกมาได้มีหลากหลายทิศทางมากขึ้น และมิติของเสียงนั้นตอบโจทย์การใช้งานพอสมควร ใน การทำงาน ดูหนัง ตัดต่อต่างๆ
SPEC
- Intel® Core™ i7-10750H (2.6 GHz base frequency, up to 5 GHz with Intel® Turbo Boost Technology, 12 MB L3 cache, 6 cores)
- Windows 10 Home 64
- 15.6″ diagonal FHD, IPS, anti-glare, micro-edge, WLED-backlit, 300 nits, 72% NTSC (1920 x 1080)
- NVIDIA GTX 1660TI MAX-Q 6GB DDR6
- 16 GB DDR4-2933 SDRAM (2 x 8 GB)
- 512 GB PCIe® NVMe™ M.2 SSD
- Intel® UHD Graphics
- 1 year limited parts and labour
PERFORMANCE
ในรุ่นนี้ใช้งาน CPU i7-10750H 14nm 2.60GHz 12MB 6 Core/12 Thread ส่วนการ์ดจอ นั้นยังคงใช้งานของ NVIDIA GeForce GTX 1660TI MAX-Q มาพร้อมกับ 6GB GDDR6 และ ทางด้าน Ram ให้มา 8GB DDR4 bus 2933 ส่วน SSD 512GB PCIe® Gen3 SSD M.2 ให้มาเรียบร้อย มาพร้อมกับ Windows 10 เรียบร้อยพร้อมใช้งานในรุ่นนี้ถือว่าสเปกนั้นทำได้ดีและความเร็วในการอ่านเขียนสูงมากๆ ทำให้ใช้งานได้ดีทีเดียวกับ SSD ที่ใส่เข้ามา และรองรับการใช้งานได้สบายๆทั้งการรองรับทำงานหนักๆรวมถึงเรนเดอร์งาน
PCMARK
คะแนนไปได้ค่อนข้างสูงมากๆแน่นอนว่าตัว i7 Gen10 ก็ถือว่าแรงพอสมควร ไปได้ 3658 คะแนน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ เรนเดอร์ 3 มิติ งานเขียนงานวาดแปลนบ้านทุกอย่าง และ รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้งหมดถือว่าชิลๆและดีกว่าตัว i7 9750H อยู่ด้วยในคะแนนส่วนนี้ ส่วนในการทดสอบนั้นเป็นอุณหภูมิปกติ เช่นเดิมไม่ได้เปิดแอร์ แต่ถ้าเปิดแอร์นั้นจะได้คะแนนประมาณ 3,990 คะแนน แน่นอนว่าถ้าเทียบกับ 4800HS ตัวนั้นจะยังคงทำได้แตะ 5000 ก็เป็นจุดที่ยังคงมีความแตกต่างกันอยู่นิดหน่อย ทางด้านอีกค่ายจะแรงกว่านิดหน่อยถ้าวัดกัน
3D MARK
นั้น ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงในการทดสอบทั้ง 4 แบบนะครับ ตัว FIRESTRIKE EXTREAM ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้ 5862 ถือว่าดี และ ทดสอบตัว FIRESTRIKE ทำไปได้ 11446 คะแนนในแบบที่โหดๆขึ้นมานั้นเอง แน่นอนว่าทางด้าน GTX 1660TI ก็ถือว่าใช้งานทั่วไปสบายเล่นเกมได้สบาย แต่ถ้าเน้นทดสอบ คะแนนอาจจะยังไม่โหดเท่าพวก RTX แต่ก็ถือว่าตามราคาครับต้องบอกว่าผ่านการทดสอบใช้งานของ 3D Mark สบายๆ และการทดสอบ TIME SPY ทำได้ 4925 คะแนน และ แบบโหดนั้นทำไป 2262 คะแนน ส่วนในเรื่องความร้อน CPU 86 GPU 80 ประมาณนี้ เพียงพอสำหรับสายทำงานเรนเดอร์ทั่วไปเหลือๆ
CINEBENCH R20 R15 / SSD
R15 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูง เลยแหละ R15 นั้นทำได้ 1050 / 127.60 FPS ประมวลผลหนักๆได้แบบสบายมากๆ และดีกว่าพวกรุ่นก่อนหน้านี้แบบชัดเจน ส่วนเรื่องความร้อนนั้นตามที่แจ้งไป ทดสอบในอุณหภูมิห้อง ไม่มีเปิดแอร์ R20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผลตัวโหดกว่า R15 คะแนนก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน ดีกว่ารุ่นก่อนเยอะมาก และทำได้ดีกว่าตัว i7 9750H ด้วยนะ ในตัว R20 นั้นที่ประมวลผลหนักหน่วงกว่าเดิม ทำคะแนน 2211 CB เลยครับ ดีกว่าพวกรุ่นปกติเยอะเลย และ เช่นเดิมทดสอบในสภาพอากาศปกติไม่มีแอร์ ทำได้ดีทั้ง Single และปกติ ส่วนตัว SSD นั้นทำการอ่านเขียนไป 3173MB/s และ 2743 MB/s ถือว่าเร็วแรงมากๆเมื่อเทียบกับคู่แข่งบางตัวจะได้แค่พันต้นๆในการเขียนตัวนี้เหลือๆใช้งานสบายครับ
SCREEN
หน้าจอในรุ่นนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงมาใช้หน้าจอแบบ WLED ในความละเอียด FullHD HDR ครับหน้าจอในรุ่นนี้รองรับการใช้งานตัดต่อ แต่งภาพ รวมถึงดูหนังอะไรได้คมชัดเลยแหละ จากที่ใช้งานหน้าจอของมันในแง่ของสีสันต่างๆทำออกมาได้ดี และหน้าจอแบบด้านแน่นอนว่าภาพอาจจะไม่ได้สวยสดสะใจมาก แต่มีข้อดีในแง่ของการใช้งานทั่วไปในสภาพแสงข้างนอกอาคารหรือที่เจอแสงเยอะๆ แต่เท่าที่ทดสอบนั้นเหมือนจะไม่ค่อยสู้แสงเท่าไรนักในตัวจอนี้ หน้าจอเป็นจอแบบ WLED มาให้ในขนาด 15.6″ นิ้วพร้อมกับ diagonal FHD ใช้งานหน้าจอแบบ IPS หน้าจอด้านแบบ anti-glare ขอบหน้าจอแบบ micro-edge และใช้งาน WLED-backlit ความสว่างรองรับสูงสุด 300 nits และค่าค่าแม่นยำสีประมาณ 72% NTSC หรือเทียบเท่า sRGB 100% ได้เลยนั้นเองถือว่าโหดมากๆ ซึ่งอย่างที่แจ้งไปนั้น รุ่นนี้รองรับการทำงานในเรื่องของสีที่สวยงามเหมาะแก่การตัดต่อได้ด้วยนั้นเอง
หน้าจอในมุมมองอื่นๆนั้นรุ่นนี้ถือว่ารองรับการใช้งานได้ดีเหมือนกันในแง่ของโทนสีต่างๆนั้นไม่ได้เพี้ยนอะไรเยอะ แต่ความดรอปหรือความสว่างในการสู้แสงอาจจะไม่ได้โหดเท่าไรในแง่ของมุมมองเอียงๆเป็นปกติ แต่ถ้าเทียบกับในรุ่นที่มี Sure view นั้นจะดรอปลงกว่านี้ชัดเจนมากๆ เลยทำให้ในรุ่น ENVY ตัวนี้ยังคงตอบโจทย์ในการใช้งานได้มากกว่าแต่ก็แลกกับไม่มีโหมดพวกนั้นมาให้ ส่วนโทนสีมุมมองนั้นไม่มีปัญหาแน่นอนในการใช้งานจริงๆรุ่นนี้
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้