เรื่องสั้น: โจร

กระทู้สนทนา
.

               เป็นคนดี ๆ ไม่ชอบ ชอบเป็นโจร

              ค่ำวันหนึ่งผู้คนต่างเดินทางกลับจากการใช้แรงงาน แรงกาย และแรงสมอง แล้วแต่ใครจะใช้อะไร ทว่าต่างคนต่างเหน็ดเหนื่อยพอ ๆ กัน

                   ผู้คนเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวัน อยากรีบกลับถึงบ้านให้เร็วที่สุด อยากพักผ่อน แต่ การจราจรมันไม่เป็นใจเลยสักนิด รถติดกันเป็นแถวยาวเหยียด ขับเคลื่อนตัวไปได้ทีละนิด ผู้คนบางกลุ่มต่างแวะตลาดสดก่อนจะเข้าบ้านกัน

                  สภาพหัวค่ำวันนี้จึงแลดูวุ่นวายไม่น้อย ไม่ใช่บรรยากาศที่ไม่เคยเกิดขึ้น ความวุ่นวายแบบนี้มันเกิดขึ้นทุกวัน ผู้คนแถวนี้ต่างชินชากับมันเสียแล้ว หนึ่งในนั้นก็คือเธอเอง

                  วิภายืนมองรถที่วิ่งสวนกันไปมา อย่าว่าวิ่งเลย อยากพูดว่าเดินต่อเท้ามากกว่าหากพวกรถมันมีขา ยิ่งเป็นเย็นวันศุกร์อย่าได้คิดว่าจะถึงบ้านเร็ว

               หนึ่งทุ่มตรงของค่ำคืนที่เร่งรีบ ผู้คนเดินขวักไขว่สวนทางกัน เหมือนว่าต่างคนต่างรีบไปที่ไหนสักที่ มีชายคนหนึ่งซึ่งไม่ได้รีบร้อนเฉกเช่นทุกคน เขาเดินตามถนนไปเรื่อย ๆ เฉื่อยในความรู้สึก เขาถูกเลิกจ้างเมื่อเดือนที่แล้ว

                  มันคงเป็นกรรมของเขามาแต่ชาติปางก่อน บริษัทย้ายฐานผลิตไปที่ประเทศอื่น เขาเป็นแค่พนักงานของซับคอนแทค ไม่มีค่าเยียวยาชดเชยเหมือนพนักงานประจำ เงินที่ได้มาก็นิดเดียวใช้ไปหมดแล้ว สมัครงานใหม่ก็ยังคงเป็นพนักงานผ่านซับเหมือนเดิม ค่าใช้จ่ายเท่าเดิมแต่รายรับน้อยลง ใครจะไปอยู่ได้ มันต้องหาอาชีพเสริมทำ มันถึงจะพอยาไส้ มันถึงจะพอซื้อเหล้ายาไส้ของเขาต่างหาก

               เขาเริ่มมองหาอาชีพใหม่ โดยหลังเลิกงานเขาจะเดินเรื่อย ๆ ไปตามท้องถนนหาเหยื่อ! หรือไม่บางวันก็ขับมอเตอร์ไซค์ออกล่าหาเหยื่อ มันคืองานอดิเรกของเขา ได้มาไม่ใช่น้อย ๆ เขาเลือกเหยื่อไม่ใช่ใครก็ได้เพราะงานนี้เป็นงานที่มีความเสี่ยงสูงมาก ครั้งแรกเหยื่อรายแรกเขาได้เงินไปห้าพัน ไม่ใช่น้อย ๆ และไม่มีใครตามจับเขาได้ พอครั้งแรกผ่านไปได้ด้วยดี ครั้งที่สองครั้งที่สามก็ตามมา จนมาถึงเหยื่อรายนี้ รายล่าสุด!

               หนึ่งทุ่มตรงเป็นเวลาที่อรวีกับวิภาเลิกงานเช่นกัน ถนนตัดผ่านหน้าออฟฟิศมีรถราวิ่งผ่านกันจ้าระหวั่น ทั้งรถส่วนตัว รถรับส่งพนักงาน ตรงข้ามอีกฝากถนนเป็นตลาดสด มีผู้คนเดินไปจับจ่ายใช้สอยเยอะเหมือนกัน วิภาเธอเก็บกระเป๋าเตรียมกลับบ้านเสร็จก่อนอรวี แต่ก็ต้องรอกลับพร้อมกันอยู่ดี วิภาเธอจึงเดินมารอเพื่อนที่หน้าออฟฟิศ ยืนดูรถติดหนึบเป็นตังเมย์แล้วก็บ่นอุบอิบคนเดียว

               เธอห้อยกระเป๋าของเธอไว้ที่รถมอเตอร์ไซค์ พนักงานตัวเล็ก ๆ เงินเดือนน้อย ๆ อย่างเธอกับอรวี ยังต้องใช้มอเตอร์ไซค์เป็นยานพาหนะ ยังไม่มีกำลังพอที่จะซื้อรถยนต์มาทำงาน เธอห้อยกระเป๋าแบบนี้เป็นประจำทุกวันด้วยความชะล่าใจ เพราะเธอคิดว่าตนเองยืนอยู่เฝ้าอยู่ไม่ห่าง คงไม่มีใครกล้าบ้าบิ่นมาหยิบไปหรอก เธอคิดผิด! ระหว่างนั้นเธอสังเกตเห็นผู้ชายวัยกลางคนเดินไปเดินมาระหว่างร้านสะดวกซื้อกับตลาดสดอยู่หลายรอบ เธอยืนมองเขา แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรคงจะเป็นคนแถวนี้มาเดินตลาดสดนั่นล่ะ และชายคนนั้นก็เดินข้ามถนนมาฝั่งที่เธอยืนอยู่

               วิภาชักรำคาญอรวีอยู่ในใจ จะทำอะไรนักหนาเลิกงานแล้วเนี่ย เธออยากกลับบ้านเต็มทนแล้ว นี่ก็ยืนรอตั้งนานยังไม่เดินออกมาจากออฟฟิศอีก จะบ่นก็ไม่ได้ อรวีเป็นหัวหน้าของเธอ ด้วยความชะล่าใจ หรือความเคยชิน เธอยืนหันหลังให้กระเป๋าของตัวเองที่ห้อยอยู่มอเตอร์ไซค์ หันหน้าเข้าไปดูอรวีว่าทำอะไรอยู่ในออฟฟิศชักช้าเหลือเกิน นี่ก็เลยเวลาเลิกงานจะครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอรู้สึกว่ามีคนมายืนอยู่ข้างหลังเธอ ยืนอยู่ตรงมอเตอร์ไซค์ นึกขึ้นมาได้ว่าตนกำลังยืนหันหลังให้กระเป๋าอยู่ จึงรีบหันมา แต่ไม่ทันแล้ว!

               ผู้ชายคนนั้นเธอจำได้ คนที่มันเดินวกไปวนมาอยู่หลายรอบเมื่อครู่ มันหยิบกระเป๋าของเธอไป และก็รีบวิ่งหนีไป วิภาตกใจแต่ไม่ร้องเรียกให้คนช่วย เธอตกใจเกินกว่าจะร้องในทันที มันไม่เหมือนในละครที่จะมีบุรุษขี่ม้าขาวมาช่วย ที่จะวิ่งไปต่อยกับขโมยแล้วนำกระเป๋ามาคืนไม่มี มันไม่ใช่จะแหกปากโวยวายในทันที เธอพึ่งรู้ว่าเรื่องจริงมันเป็นแบบนี้ วิภาได้แต่อึ้งทำอะไรไม่ถูก คนที่เห็นเหตุการณ์เริ่มเดินเข้ามาหาเธอ

               “พี่!เค้าเอากระเป๋าหนูไปแล้ว”

               เธอพูดได้เพียงเท่านี้กับคนที่เห็นเหตุการณ์ เภสัชคนหนึ่งเห็นเหตุการณ์พอดี เขามองเธอและเดินมาหาด้วยความเข้าใจ มีหลายคนที่อยู่บริเวณนี้เห็นเหตุการณ์ สีหน้าของเธอไม่วิตกกังวลเท่าไหร่ ก็แค่กระเป๋าเครื่องสำอาง เงินอยู่กับเธอ ในนั้นไม่มีอะไร แต่เสียดายเครื่องสำอางเธอพึ่งซื้อมาใหม่ ต้องเสียเงินซื้อใหม่ทั้งหมดเหรอ ใครจะโง่วางกระเป๋าเงินไว้แบบชะล่าใจอย่างนั้น ไอ้โจรโง่เอ้ย! เธอด่าในใจ แต่ก็นับว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่โดนขโมยกระเป๋าไปต่อหน้าต่อตา ตกใจอยู่เหมือนกัน

               ไอ้อ้นผู้ที่วิ่งราวกระเป๋าของหญิงสาวออฟฟิศรายหนึ่งได้ ใครใช้ให้เธอเผลอยืนหันหลังให้กระเป๋าล่ะ อ้นเดินสังเกตเธอมาสองรอบแล้ว รอบนี้ล่ะเสร็จแน่! อ้นเดินข้ามถนนมายังฝั่งที่เธอยืนอยู่ ไม่รู้เธอยืนรออะไรไม่ยอมกลับสักที แต่จะรออะไรก็ช่างเธอคือเหยื่อของอ้นในนั้นคงมีเงินอย่างน้อยหนึ่งพันบาท อ้นประเมินคร่าว ๆ แค่พันเดียวก็คุ้ม ได้เหล้าไปกินหลายวันหลายขวด

               เขาเดินข้ามถนนมาหยุดยืนใกล้  ๆ กับรถของเธอ ทำทีเป็นรอข้ามถนน ประจวบกับเธอยืนหันหลังให้กระเป๋าตัวเอง เขาค่อย ๆ ถอยหลังเข้ามาใกล้ ๆ ไม่ให้เธอรู้ตัว พอที่จะคว้ามันและวิ่งไปได้ง่าย ๆ เมื่อได้จังหวะเขารีบคว้ากระเป๋าของเธอและรีบวิ่งไปให้เร็วที่สุด เขาวิ่งไปแบบไม่คิดชีวิต แต่! ถนนข้างหน้ามันเป็นทางโค้งค่อนข้างหักศอก ถ้าคนไม่ชินทางอาจเกิดอุบัติเหตุได้ เขามัวแต่วิ่งและหันหน้ามาดูว่าเธอวิ่งตาม หรือร้องขอความช่วยเหลือหรือไม่ ลืมดูรถข้างหน้า เขาวิ่งไปประสานงากับรถสิบล้อเข้าอย่างจัง รถสิบล้อเบรกไม่ทันเพราะไม่คิดว่าจะมีคนวิ่งเข้าใส่รถแบบนี้ นอกจากคนจะคิดฆ่าตัวตายเท่านั้น

               รถสิบล้อเบรกไม่ทันเหยียบร่างของเขาเข้าอย่างจัง สภาพศพไม่ต้องคิด ด้วยความเบรกกระทันหันทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้อน รถคันที่วิ่งตามมาชนท้ายรถสิบล้อแต่ไม่มีใครเป็นอะไร สถานที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากออฟฟิศของเธอไม่มาก แทบจะเรียกว่าหน้าออฟฟิศเลยก็ได้ ผู้คนระแวกนั้นกำลังยืนคุยกับเธอที่โดนขโมยกระเป๋าอยู่หยก ๆ ต้องเปลี่ยนเป็นรีบวิ่งไปมุงดูเหตุการณ์รถชนกันทันที

               “น้อง! น้องรถชนคนตาย รู้มั้ยคนที่ตายคือใคร” เภสัชวัยกลางคนรีบเดินกลับมาส่งข่าวเธอหน้าตาตื่น

               “ใครคะพี่”

               “ก็เป็นไอ้ที่เอากระเป๋าน้องไปไง” วิภากับอรวีหน้าเหวอทันที หันมามองหน้ากัน พวกเธอยังไม่กลับในทันที มัวแต่ยืนคุยเรื่องเธอโดนกระชากกระเป๋าอยู่

               วิภาแอบสะใจอยู่ลึก ๆ ตาย ๆ ไปซะก็ดี พวกนี้อยู่ไปก็รกโลก เธอแสยะยิ้มนิดหน่อยไม่ให้ใครสังเกตเห็น กรรมตามทันตาเห็นจริง ๆ

               “อโหสิกรรมค่ะพี่ ให้เขาไปเถอะไม่เอาคืนหรอก” สุดท้ายพวกเธอต้องรอให้เจ้าหน้าที่เก็บศพของมันเรียบร้อยเสียก่อน พวกเธอถึงได้กลับ ไม่อยากขับรถผ่านศพของมัน และกระเป๋าวิภาก็ไม่ต้องการเอาคืนแล้ว ให้มันไปเลย

จบ...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่