สวัสดีครับ จริงๆกระทู้นี้ผมขอตั้งมาเพื่อระบายแลกเปลี่ยนก็แล้วกัน
ต้องเกริ่นก่อนว่าผมกับที่บ้าน มีความชอบไม่เหมือนกันเลยแม้แต่นิด ผมถูกตำหนิกับสิ่งที่ทำทุกเรื่อง ยกเว้นตอนผมให้ตังกับที่บ้านแค่นั้น
แล้วหลังๆมานี้ จบก็เริ่มมาทำงาน เหน็ดเหนื่อยกลับบ้านมาไม่รู้จะคุยกับใคร คนที่บ้านพูดพูดไรไปก็โดนบ่นกลับมา เข้าใจว่าที่บ้านรักแต่การแสดง
ออกเขามันไม่ใช่ความรักสำหรับเรา เช่นการตักเตือนด้วยเสียงกระแทกๆ บ่น ว่าทอกับพฤติกรรมเล็กๆตลอดเวลา
มีวันนึงครับผมเลิกงานกลับบ้านมาเกือบเที่ยงคืน อยู่ดีๆ มีแมวตัวนึงเดินเข้ามาหาผมคลอเคลียที่เท้า แต่พอจะจับดันตะปุปมือผมเข้าให้
ผมก็เลยไล่มันไป วันต่อมามันก็มาคลอเคลียๆแบบเดิมอีก ร้องเงี้ยวๆ แต่ผมเลือกที่จะไม่จับมัน 555 เป็นอยู่แบบนี้ ประมาณเกือบอาทิตย์ 2 อาทิตย์
ผมก็เริ่มแพ้ท่าทางความโง่ของมัน ผมรู้สึกเวลาเล่นด้วยกันแล้วผมรู้สึกหายเหนื่อย หายเครียดไปเลย จนเริ่มอยากจะผูกมิตรด้วย
ก็เลยไปปรึกษาเพื่อน เพื่อนก็เลยแนะนำขนมแมวเลียมาให้ บอกว่าอยู่หมัดเลยขนมนี้
ก็ลองเอามาให้มัน มันก็กินแบบชอบเลย ก็ทำแบบนี้อยู่เกือบเดือน อยู่ดีๆ ก็มีแมวอีกตัวโผล่มาจากไหนไม่รู้ ซึ่งมันดูกลัวคนมากๆ ไม่กล้าแม้แต่จะเข้ามาใกล้
ได้แต่คอยดูผมให้ขนมแมวตัวนี้อยู่ห่างๆ จนกระทั่งมันได้ลิ้มลองขนมเลีย หลังจากนั้นมันก็ร้องเรียกผมทุกครั้งที่ผมกลับบ้าน เพียงแค่เสียงประตูดัง
เจ้าสองตัวนี้ก็วิ่งมาแล้ว จนผมรู้สึกว่า มันเริ่มเปลืองตังแล้วละ ถ้าให้แบบนี้ อยากให้ได้กินอิ่มๆด้วย ผมก็เลยเปลี่ยนเป็นอาหารเม็ด ซึ่งตอนแรกให้ไป
มันแทบไม่กินกัน ต้องคอยเอาขนมแปะๆ ทีละชิ้น ถึงจะเริ่มชินกับอาหารเม็ด
เป็นแบบนี้ไปสักพัก จนหมู่บ้านเขาเริ่มมีเสียงอืออึงกันแล้ว แมวใคร ชอบมาขี้มาฉี่หน้าบ้าน ซึ่งแมวมันก็มีอีกหลายตัว
จนอยู่ดีๆแมวตัวแรก หายไปไหนก็ไม่รู้ หายไปเลย สำหรับผมคิดว่าเจ้าของน่าจะเลี้ยงแบบปิดไปแล้ว เพราะดูจากสุขภาพขนมันค่อนข้างดีกว่าตัวที่สอง
แต่หลังจากนั้นผมก้ให้ไอเจ้าตัวนี้กินทุกวัน ตอนผมกลับบ้านเป็นงี้เกือบปี มีวันนึงมันคาบนกมา แบบขนปลิวเต็มหน้าบ้านเลย เก็บยากมากกก ปวดหัว ดีนะที่ไม่มีใครเข้ามาเห็นก่อน ซึ่งนิสัยเจ้าตัวนี้ก็คือขี้กลัว ขี้ระแวง ซึ่งวันนี้ผ่านมานานแล้วมันก็ยังไม่ชอบให้จับที่หัว แต่ผมอุ้มเล่นอะไรได้หมดแล้ว แต่ก็ยังมีกลัวหวาดระแวงเหมือนเดิม
จนช่วงโควิตผมเริ่มใช้ชีวิตที่บ้าน ทำงานที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ผมก็ให้อาหารมันเหมือนเดิม คือมื้อดึกมื้อเดียวเพราะต้องแอบให้
แต่อยู่ดีๆมันเดินมาทางด้านหน้าต่างผม ช่วงกลางวันขณะที่ผมทำงานอยู่ ซึ่งงงมาก มันรู้ได้ยังไง พอมันมาทวงผมก็ลงไปข้างล่าง แค่เปิดประตูจากเมื่อกี้ที่อยู่ตรงหน้าต่าง อยุ่ดีๆวิ่งมาหน้าบ้านผมเฉยเลย ก็เลยให้มันกินแล้วก็ลูบๆเล่นกับมัน รุ้สึกสบายใจมาก แต่หลังๆผมเริ่มขี้เกียจเดินลงไปให้ทุกครั้งที่มันมาทวง
จนผมเริ่มอยากหาวิธีที่มันสะดวกๆหน่อย ทีนี้ผมก็เปิดหน้าต่างเพื่อให้มันก็กระโดดเขามาเลย ผมก็ให้มันกินแล้วก็อุ้มมันออกไปแทน
แต่พักหลังๆมานี้ผมรู้สึกผูกพันธ์กับเจ้าตัวนี้ขึ้นไปอีก จากที่ให้กินแล้วอุ้มออก เพราะกลัวคนที่บ้านรู้ จนตอนนี้คือให้กินให้อยู่ไปเลย
แล้วเวลาที่มันนอนเล่น มันยิ่งทำให้ผมหลงรักท่าทางโง่ๆของมันอีกครั้ง ก็ทำแบบนี้อยู่ไปสัก เดือน 2 เดือน ที่บ้านเริ่มรู้สึกว่าผมให้ให้อาหารทางหน้าต่าง
เพราะเวลาผมไม่อยู่มันจะมาเกาะขูดๆเรียก จนมุ้งรวดเป็นรอย ชาวบ้านในหมู่บ้านก็เริ่มเดือด มีการไลน์ บังคับให้คนในหมู่บ้านถ้าจะเลี้ยงแมวให้ติดป้ายคอ
ที่มีชื่อบ้านเลขที่ด้วย ซึ่งผมก็อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่เขาด่าว่ากัน แต่คือคนในหมู่บ้านนี้เลี้ยงแมวเยอะพอสมควร ซึ่งเวลาผมจะนอนผมก็อุ้มมันออกไป ตอนบ่ายๆมันก็ขอมานอนที่ห้องใหม่
ซึ่งมีอยู่วันนึง พี่ผมเปิดประตูเข้ามาเจอแมวนอนอยู่ ซึ่งตกใจแน่นอน อย่างที่บอก ผมกับทางบ้านทุกคนไม่ลงรอยกันเท่าไร ถึงพี่ไม่ได้ว่าผม แต่ก็แน่นอน
ฟ้องทุกคนที่อยู่ในบ้านแน่ๆ ผมก็โดนเตือนว่าอย่าให้อาหารแมว ชาวบ้านเขาเดือดร้อน ซึ่งผมก็เข้าใจ จะทำไงได้ที่บ้านเขาไม่ให้ผมเลี้ยง
แต่ผมก็ตัดใจไม่ได้ ก็ให้เข้ามาเรื่อยๆ จนพี่อีกคนเขาเอาตะแกรงมาบังไว้เลยไม่ให้กระโดดเข้ามาได้ ซึ่งแน่นหนามาก แต่แล้วยังไงเวลาที่ผมอยู่คนเดียวผมก็แอบตัดสายพลาสติกที่รัดตะแกรงออก แล้วก็ให้มันเข้ามา พอผมจะนอนก็อุ้มออกไปแล้วติดตะแกรง ซึ่งวันแรกที่ติดตะแกรง เสียงแมวร้องเรียกแบบเปลี่ยนไปจากทุกครั้งเลยผมรู้สึกได้ มันไม่กล้ากระโดดเข้ามาเลยเหมือนแต่ก่อน แต่มันจะมองๆแล้วค่อยโดดเข้ามา ซึ่งผมตัดใจไม่ได้แน่ๆ
ก่อนหน้านี้เหมือนทุกอย่างกำลังดี ผมมีแมวเป็นที่พักพิงทางจิตใจ แมวเริ่มอ้วนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผมดีใจมาก
แต่หลังจากที่เล่ามาข้างต้น มันทำให้ผมลำบากใจ ผมเริ่มมีปัญหาหนักขึ้นกับทุกคนที่บ้าน ซึ่งตอนนี้ผมไม่คุยกับใครเลย แม้กระทั่งแม่ของผม รวมถึงญาติ
(ตัวดีเลยอันนี้) ทุกครั้งที่ผมมีปัญหาไม่ว่าจากงานหรือครอบครัว ซึ่งแมวมันบรรเทาจิตใจในส่วนนี้ได้จริงๆ
จนหลังๆหนักเข้า ยึดอาหารแมวของผมไปหมด ผมท้อเลยครับ ผมไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร ผมไม่รู้จะหันไปปรึกษาใคร
จากที่รู้สึกว่าที่บ้าน ไม่เข้าใจเราแล้ว ตอนนี้ยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ เคยลองคุยตรงๆกับที่บ้าน ก็เหมือนเดิม
มันแย่มากเลยครับ ก็เลยมาเขียนระบาและแลกเปลี่ยนให้ทุกคนได้อ่านกัน
ซึ่งตอนนี้ผมก็วางแผนว่าจะเก็บเงินเพื่อปีหน้าจะได้ออกจากบ้านไปเริ่มต้นชีวิตของตัวเอง ซึ่งไม่รู้จะไปรอดมั้ย มันคงเป็นหนทางที่ดีที่สุด
ท้ายที่สุด อยากจะขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านข้อความอะไรก้ไม่รู้ 555
ถึงอย่างงั้น ก็อยากให้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แนะนำ หรือเล่าเรื่องของตนเองเลยได้เลยนะครับ ผมยินดีรับฟัง
ควรจะตัดใจไหมนะ....
ขอบคุณครับ
มีปัญหากับที่บ้านเพราะให้อาหารแมว
ต้องเกริ่นก่อนว่าผมกับที่บ้าน มีความชอบไม่เหมือนกันเลยแม้แต่นิด ผมถูกตำหนิกับสิ่งที่ทำทุกเรื่อง ยกเว้นตอนผมให้ตังกับที่บ้านแค่นั้น
แล้วหลังๆมานี้ จบก็เริ่มมาทำงาน เหน็ดเหนื่อยกลับบ้านมาไม่รู้จะคุยกับใคร คนที่บ้านพูดพูดไรไปก็โดนบ่นกลับมา เข้าใจว่าที่บ้านรักแต่การแสดง
ออกเขามันไม่ใช่ความรักสำหรับเรา เช่นการตักเตือนด้วยเสียงกระแทกๆ บ่น ว่าทอกับพฤติกรรมเล็กๆตลอดเวลา
มีวันนึงครับผมเลิกงานกลับบ้านมาเกือบเที่ยงคืน อยู่ดีๆ มีแมวตัวนึงเดินเข้ามาหาผมคลอเคลียที่เท้า แต่พอจะจับดันตะปุปมือผมเข้าให้
ผมก็เลยไล่มันไป วันต่อมามันก็มาคลอเคลียๆแบบเดิมอีก ร้องเงี้ยวๆ แต่ผมเลือกที่จะไม่จับมัน 555 เป็นอยู่แบบนี้ ประมาณเกือบอาทิตย์ 2 อาทิตย์
ผมก็เริ่มแพ้ท่าทางความโง่ของมัน ผมรู้สึกเวลาเล่นด้วยกันแล้วผมรู้สึกหายเหนื่อย หายเครียดไปเลย จนเริ่มอยากจะผูกมิตรด้วย
ก็เลยไปปรึกษาเพื่อน เพื่อนก็เลยแนะนำขนมแมวเลียมาให้ บอกว่าอยู่หมัดเลยขนมนี้
ก็ลองเอามาให้มัน มันก็กินแบบชอบเลย ก็ทำแบบนี้อยู่เกือบเดือน อยู่ดีๆ ก็มีแมวอีกตัวโผล่มาจากไหนไม่รู้ ซึ่งมันดูกลัวคนมากๆ ไม่กล้าแม้แต่จะเข้ามาใกล้
ได้แต่คอยดูผมให้ขนมแมวตัวนี้อยู่ห่างๆ จนกระทั่งมันได้ลิ้มลองขนมเลีย หลังจากนั้นมันก็ร้องเรียกผมทุกครั้งที่ผมกลับบ้าน เพียงแค่เสียงประตูดัง
เจ้าสองตัวนี้ก็วิ่งมาแล้ว จนผมรู้สึกว่า มันเริ่มเปลืองตังแล้วละ ถ้าให้แบบนี้ อยากให้ได้กินอิ่มๆด้วย ผมก็เลยเปลี่ยนเป็นอาหารเม็ด ซึ่งตอนแรกให้ไป
มันแทบไม่กินกัน ต้องคอยเอาขนมแปะๆ ทีละชิ้น ถึงจะเริ่มชินกับอาหารเม็ด
เป็นแบบนี้ไปสักพัก จนหมู่บ้านเขาเริ่มมีเสียงอืออึงกันแล้ว แมวใคร ชอบมาขี้มาฉี่หน้าบ้าน ซึ่งแมวมันก็มีอีกหลายตัว
จนอยู่ดีๆแมวตัวแรก หายไปไหนก็ไม่รู้ หายไปเลย สำหรับผมคิดว่าเจ้าของน่าจะเลี้ยงแบบปิดไปแล้ว เพราะดูจากสุขภาพขนมันค่อนข้างดีกว่าตัวที่สอง
แต่หลังจากนั้นผมก้ให้ไอเจ้าตัวนี้กินทุกวัน ตอนผมกลับบ้านเป็นงี้เกือบปี มีวันนึงมันคาบนกมา แบบขนปลิวเต็มหน้าบ้านเลย เก็บยากมากกก ปวดหัว ดีนะที่ไม่มีใครเข้ามาเห็นก่อน ซึ่งนิสัยเจ้าตัวนี้ก็คือขี้กลัว ขี้ระแวง ซึ่งวันนี้ผ่านมานานแล้วมันก็ยังไม่ชอบให้จับที่หัว แต่ผมอุ้มเล่นอะไรได้หมดแล้ว แต่ก็ยังมีกลัวหวาดระแวงเหมือนเดิม
จนช่วงโควิตผมเริ่มใช้ชีวิตที่บ้าน ทำงานที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ผมก็ให้อาหารมันเหมือนเดิม คือมื้อดึกมื้อเดียวเพราะต้องแอบให้
แต่อยู่ดีๆมันเดินมาทางด้านหน้าต่างผม ช่วงกลางวันขณะที่ผมทำงานอยู่ ซึ่งงงมาก มันรู้ได้ยังไง พอมันมาทวงผมก็ลงไปข้างล่าง แค่เปิดประตูจากเมื่อกี้ที่อยู่ตรงหน้าต่าง อยุ่ดีๆวิ่งมาหน้าบ้านผมเฉยเลย ก็เลยให้มันกินแล้วก็ลูบๆเล่นกับมัน รุ้สึกสบายใจมาก แต่หลังๆผมเริ่มขี้เกียจเดินลงไปให้ทุกครั้งที่มันมาทวง
จนผมเริ่มอยากหาวิธีที่มันสะดวกๆหน่อย ทีนี้ผมก็เปิดหน้าต่างเพื่อให้มันก็กระโดดเขามาเลย ผมก็ให้มันกินแล้วก็อุ้มมันออกไปแทน
แต่พักหลังๆมานี้ผมรู้สึกผูกพันธ์กับเจ้าตัวนี้ขึ้นไปอีก จากที่ให้กินแล้วอุ้มออก เพราะกลัวคนที่บ้านรู้ จนตอนนี้คือให้กินให้อยู่ไปเลย
แล้วเวลาที่มันนอนเล่น มันยิ่งทำให้ผมหลงรักท่าทางโง่ๆของมันอีกครั้ง ก็ทำแบบนี้อยู่ไปสัก เดือน 2 เดือน ที่บ้านเริ่มรู้สึกว่าผมให้ให้อาหารทางหน้าต่าง
เพราะเวลาผมไม่อยู่มันจะมาเกาะขูดๆเรียก จนมุ้งรวดเป็นรอย ชาวบ้านในหมู่บ้านก็เริ่มเดือด มีการไลน์ บังคับให้คนในหมู่บ้านถ้าจะเลี้ยงแมวให้ติดป้ายคอ
ที่มีชื่อบ้านเลขที่ด้วย ซึ่งผมก็อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่เขาด่าว่ากัน แต่คือคนในหมู่บ้านนี้เลี้ยงแมวเยอะพอสมควร ซึ่งเวลาผมจะนอนผมก็อุ้มมันออกไป ตอนบ่ายๆมันก็ขอมานอนที่ห้องใหม่
ซึ่งมีอยู่วันนึง พี่ผมเปิดประตูเข้ามาเจอแมวนอนอยู่ ซึ่งตกใจแน่นอน อย่างที่บอก ผมกับทางบ้านทุกคนไม่ลงรอยกันเท่าไร ถึงพี่ไม่ได้ว่าผม แต่ก็แน่นอน
ฟ้องทุกคนที่อยู่ในบ้านแน่ๆ ผมก็โดนเตือนว่าอย่าให้อาหารแมว ชาวบ้านเขาเดือดร้อน ซึ่งผมก็เข้าใจ จะทำไงได้ที่บ้านเขาไม่ให้ผมเลี้ยง
แต่ผมก็ตัดใจไม่ได้ ก็ให้เข้ามาเรื่อยๆ จนพี่อีกคนเขาเอาตะแกรงมาบังไว้เลยไม่ให้กระโดดเข้ามาได้ ซึ่งแน่นหนามาก แต่แล้วยังไงเวลาที่ผมอยู่คนเดียวผมก็แอบตัดสายพลาสติกที่รัดตะแกรงออก แล้วก็ให้มันเข้ามา พอผมจะนอนก็อุ้มออกไปแล้วติดตะแกรง ซึ่งวันแรกที่ติดตะแกรง เสียงแมวร้องเรียกแบบเปลี่ยนไปจากทุกครั้งเลยผมรู้สึกได้ มันไม่กล้ากระโดดเข้ามาเลยเหมือนแต่ก่อน แต่มันจะมองๆแล้วค่อยโดดเข้ามา ซึ่งผมตัดใจไม่ได้แน่ๆ
ก่อนหน้านี้เหมือนทุกอย่างกำลังดี ผมมีแมวเป็นที่พักพิงทางจิตใจ แมวเริ่มอ้วนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผมดีใจมาก
แต่หลังจากที่เล่ามาข้างต้น มันทำให้ผมลำบากใจ ผมเริ่มมีปัญหาหนักขึ้นกับทุกคนที่บ้าน ซึ่งตอนนี้ผมไม่คุยกับใครเลย แม้กระทั่งแม่ของผม รวมถึงญาติ
(ตัวดีเลยอันนี้) ทุกครั้งที่ผมมีปัญหาไม่ว่าจากงานหรือครอบครัว ซึ่งแมวมันบรรเทาจิตใจในส่วนนี้ได้จริงๆ
จนหลังๆหนักเข้า ยึดอาหารแมวของผมไปหมด ผมท้อเลยครับ ผมไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร ผมไม่รู้จะหันไปปรึกษาใคร
จากที่รู้สึกว่าที่บ้าน ไม่เข้าใจเราแล้ว ตอนนี้ยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ เคยลองคุยตรงๆกับที่บ้าน ก็เหมือนเดิม
มันแย่มากเลยครับ ก็เลยมาเขียนระบาและแลกเปลี่ยนให้ทุกคนได้อ่านกัน
ซึ่งตอนนี้ผมก็วางแผนว่าจะเก็บเงินเพื่อปีหน้าจะได้ออกจากบ้านไปเริ่มต้นชีวิตของตัวเอง ซึ่งไม่รู้จะไปรอดมั้ย มันคงเป็นหนทางที่ดีที่สุด
ท้ายที่สุด อยากจะขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านข้อความอะไรก้ไม่รู้ 555
ถึงอย่างงั้น ก็อยากให้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แนะนำ หรือเล่าเรื่องของตนเองเลยได้เลยนะครับ ผมยินดีรับฟัง
ควรจะตัดใจไหมนะ....
ขอบคุณครับ