คอลัมน์ by มะระหวาน เวปไซต์ไทยรัฐ
27 ก.ย. 2563
หลังจากที่ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่จากแดนกระทิงดุ พลาดถ้วยแชมป์เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ตอนนี้ทำเอาปัญหาต่างๆ พัดถาโถมเข้าใส่สโมสรอย่างหนักหน่วงตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา จนมีปัญหาดราม่ามากมายภายในทีม
เริ่มจากการที่ลิโอเนล เมสซี กองหน้าซุปเปอร์สตาร์และกัปตันทีม ได้ออกมาประกาศขอย้ายทีมเมื่อช่วงก่อนเปิดฤดูกาล
เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ช็อกมากๆ เพราะ เมสซีอยู่กับทีมมานานถึง 16 ปี และใครๆก็มองว่ากองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาคือไอคอนของ บาร์เซโลนา ยังไงก็จะแขวนสตั๊ดในถิ่นคัมป์นู ค่อนข้างจะแน่นอน
แต่อะไรที่ทำให้ดาวยิงวัย 31 ปีถึงขั้นต้องแตกหักกับสโมสรที่รักจนต้องขอย้ายออก
จากเห็นตามข่าวมีอยู่ 2 คนที่สร้างปัญหาจนทำให้เมสซีถึงต้องการอำลาทีม คนแรกโจเซฟ มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรเจ้าบุญทุ่ม และ คนที่สอง โรนัลด์ คูมัน กุนซือคนใหม่ชาวดัตช์
โดยรายแรกเมสซีไม่พอใจกับการบริหารในช่วง 2 ปีหลังอย่างมาก ส่วนรายสองก็เข้ามาปุ๊บก็โชว์เพาเวอร์ลดสิทธิพิเศษของเมสซีเกือบทั้งหมด
จึงไม่ยากที่เมสซีจะขออำลาทีม แต่สุดท้ายก็ยื้อจนรักษาตัวของกองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาเอาไว้ได้ แต่ด้วยความไม่เต็มใจเท่าไร
ดราม่าต่อมาสาวก “เจ้าบุญทุ่ม” ก็ออกมาประท้วงขับไล่บาร์โตเมวให้ลาออกจากตำแหน่งประธานสโมสรหลังไม่มีวี่แววว่าจะสามารถนำ ความยิ่งใหญ่กลับมาสู่สโมสรได้
จนทำให้สมาชิกของสโมสรได้ลงมติไม่ไว้วางใจจากสมาชิกสโมสรและลงมติถอดถอนบาร์โตเมวออกจากตำแหน่งทันที ซึ่งมีสมาชิกลงชื่อรวมถึง 20,687 รายด้วยกัน
โดยบาร์เซโลนามีเวลา 10 วัน ในการตั้งคณะกรรมการเพื่ออนุมัติและกำหนดวันลงมติในการลงเสียงไม่ไว้วางใจในตัวของบาร์โตเมว
และดราม่าสุดท้ายการถีบหัวส่งหลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย ให้พ้นจากทีมย้ายไปซบ “ตราหมี” แอตฯมาดริด คู่แข่งแย่งแชมป์ด้วยค่าตัว 5.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 220 ล้านบาท)
ซึ่งเรื่องนี้ทำเอาเมสซีเพื่อนเลิฟของอดีตดาวยิงลิเวอร์พูลเดือดดาลมากเลยทีเดียว
ซัวเรซถือว่าเป็นกำลังหลักของบาร์เซโลนา ตั้งแต่ย้ายมาจากลิเวอร์พูลในปี 2014 จนก้าวขึ้นมาเป็นดาวซัลโวอันดับ 3 ของสโมสร ยิงไป 198 ประตูจาก 283 นัดที่ลงสนาม และสามารถคว้าแชมป์ถึง 13 รายการกับ “เจ้าบุญทุ่ม”
แม้ว่าซัวเรซจะอายุ 33 ปี แต่ฟอร์มการเล่นของเขาก็ยังยอดเยี่ยมและเป็นที่พึ่งให้กับทีมได้
แต่คูมันเลือกที่จะใช้งานอองตวน กรีซมันน์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส เป็นกองหน้าเบอร์ 1 ทั้งๆ ที่ฟอร์มฤดูกาลที่แล้วค่อนข้างแย่ จนทำให้ซัวเรซ ต้องโดนบีบให้ย้ายออกในที่สุด
เมสซีถึงกับทนไม่ได้ออกมาโพสต์ถึงเพื่อนรักและโจมตีสโมสรอย่างหนักที่เฉดหัวซัวเรซ ออกจากทีม
บอกได้เลยว่าการกระทำแบบนี้นอกจาก เมสซีแล้วก็เชื่อว่าบรรดาแข้งเก๋าของทีมก็ไม่พอใจ
ตั้งแต่โรนัลด์ คูมัน เข้ามาก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างรวดเร็วจนแข้งที่อยู่มานานรับไม่ได้
ต้องรอลุ้นดูว่ากุนซือชาวดัตช์ที่มาถึงก็ใช้ไม้แข็งกำราบนักเตะเก๋าในทีมแบบนี้ จะอยู่รอดปลอดภัยตลอดฤดูกาลนี้หรือไม่
เพราะดูทรงแบบนี้มีคลื่นใต้น้ำแน่นอน ใครว่าเตะไล่โค้ชไม่มีจริง
ไม่เชื่อลองถามโจเซ มูรินโญ กุนซือของสเปอร์สดู เพราะมีประสบการณ์กับเรื่องนี้เยอะ!!
มะระหวาน
บาร์ซ่าดราม่าไม่เลิก
27 ก.ย. 2563
หลังจากที่ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่จากแดนกระทิงดุ พลาดถ้วยแชมป์เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ตอนนี้ทำเอาปัญหาต่างๆ พัดถาโถมเข้าใส่สโมสรอย่างหนักหน่วงตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา จนมีปัญหาดราม่ามากมายภายในทีม
เริ่มจากการที่ลิโอเนล เมสซี กองหน้าซุปเปอร์สตาร์และกัปตันทีม ได้ออกมาประกาศขอย้ายทีมเมื่อช่วงก่อนเปิดฤดูกาล
เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ช็อกมากๆ เพราะ เมสซีอยู่กับทีมมานานถึง 16 ปี และใครๆก็มองว่ากองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาคือไอคอนของ บาร์เซโลนา ยังไงก็จะแขวนสตั๊ดในถิ่นคัมป์นู ค่อนข้างจะแน่นอน
แต่อะไรที่ทำให้ดาวยิงวัย 31 ปีถึงขั้นต้องแตกหักกับสโมสรที่รักจนต้องขอย้ายออก
จากเห็นตามข่าวมีอยู่ 2 คนที่สร้างปัญหาจนทำให้เมสซีถึงต้องการอำลาทีม คนแรกโจเซฟ มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรเจ้าบุญทุ่ม และ คนที่สอง โรนัลด์ คูมัน กุนซือคนใหม่ชาวดัตช์
โดยรายแรกเมสซีไม่พอใจกับการบริหารในช่วง 2 ปีหลังอย่างมาก ส่วนรายสองก็เข้ามาปุ๊บก็โชว์เพาเวอร์ลดสิทธิพิเศษของเมสซีเกือบทั้งหมด
จึงไม่ยากที่เมสซีจะขออำลาทีม แต่สุดท้ายก็ยื้อจนรักษาตัวของกองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาเอาไว้ได้ แต่ด้วยความไม่เต็มใจเท่าไร
ดราม่าต่อมาสาวก “เจ้าบุญทุ่ม” ก็ออกมาประท้วงขับไล่บาร์โตเมวให้ลาออกจากตำแหน่งประธานสโมสรหลังไม่มีวี่แววว่าจะสามารถนำ ความยิ่งใหญ่กลับมาสู่สโมสรได้
จนทำให้สมาชิกของสโมสรได้ลงมติไม่ไว้วางใจจากสมาชิกสโมสรและลงมติถอดถอนบาร์โตเมวออกจากตำแหน่งทันที ซึ่งมีสมาชิกลงชื่อรวมถึง 20,687 รายด้วยกัน
โดยบาร์เซโลนามีเวลา 10 วัน ในการตั้งคณะกรรมการเพื่ออนุมัติและกำหนดวันลงมติในการลงเสียงไม่ไว้วางใจในตัวของบาร์โตเมว
และดราม่าสุดท้ายการถีบหัวส่งหลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย ให้พ้นจากทีมย้ายไปซบ “ตราหมี” แอตฯมาดริด คู่แข่งแย่งแชมป์ด้วยค่าตัว 5.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 220 ล้านบาท)
ซึ่งเรื่องนี้ทำเอาเมสซีเพื่อนเลิฟของอดีตดาวยิงลิเวอร์พูลเดือดดาลมากเลยทีเดียว
ซัวเรซถือว่าเป็นกำลังหลักของบาร์เซโลนา ตั้งแต่ย้ายมาจากลิเวอร์พูลในปี 2014 จนก้าวขึ้นมาเป็นดาวซัลโวอันดับ 3 ของสโมสร ยิงไป 198 ประตูจาก 283 นัดที่ลงสนาม และสามารถคว้าแชมป์ถึง 13 รายการกับ “เจ้าบุญทุ่ม”
แม้ว่าซัวเรซจะอายุ 33 ปี แต่ฟอร์มการเล่นของเขาก็ยังยอดเยี่ยมและเป็นที่พึ่งให้กับทีมได้
แต่คูมันเลือกที่จะใช้งานอองตวน กรีซมันน์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส เป็นกองหน้าเบอร์ 1 ทั้งๆ ที่ฟอร์มฤดูกาลที่แล้วค่อนข้างแย่ จนทำให้ซัวเรซ ต้องโดนบีบให้ย้ายออกในที่สุด
เมสซีถึงกับทนไม่ได้ออกมาโพสต์ถึงเพื่อนรักและโจมตีสโมสรอย่างหนักที่เฉดหัวซัวเรซ ออกจากทีม
บอกได้เลยว่าการกระทำแบบนี้นอกจาก เมสซีแล้วก็เชื่อว่าบรรดาแข้งเก๋าของทีมก็ไม่พอใจ
ตั้งแต่โรนัลด์ คูมัน เข้ามาก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างรวดเร็วจนแข้งที่อยู่มานานรับไม่ได้
ต้องรอลุ้นดูว่ากุนซือชาวดัตช์ที่มาถึงก็ใช้ไม้แข็งกำราบนักเตะเก๋าในทีมแบบนี้ จะอยู่รอดปลอดภัยตลอดฤดูกาลนี้หรือไม่
เพราะดูทรงแบบนี้มีคลื่นใต้น้ำแน่นอน ใครว่าเตะไล่โค้ชไม่มีจริง
ไม่เชื่อลองถามโจเซ มูรินโญ กุนซือของสเปอร์สดู เพราะมีประสบการณ์กับเรื่องนี้เยอะ!!
มะระหวาน