
สวัสดีค่าา ในที่สุดก็แอบหนีตัวขี้เกียจมาเจอกันได้สำเร็จซักที หลังจากห่างหายไปนานมากก!!! 555 พอจะสะบัดตัวขี้เกียจทิ้งได้บ้างแล้ว เลยรีบมารีวิวก่อนที่จะขี้เกียจอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มกันก็เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมี Twitter แล้วน้าาา 555 ขอฝากไว้สำหรับเพจเล็กๆของคนขี้เกียจ ที่ขยันกินเหลือเกินกันซักนิดนะคะ
FB : Momo no Paradise - モモのパラダイス
https://www.facebook.com/momonoparadise
IG : Momo.diarys
https://www.instagram.com/momo.diarys/
TW : วันนี้โมจังกินอะไร
https://twitter.com/mono_tabemono
ไปๆมาๆเหมือนว่าทวิตจะอัพบ่อยที่สุดซะแล้วว 555 ชอบแบบไหนลองตามไปดูกันได้น้าาา
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
สาเหตุหลักที่ต้องรีบมาในครั้งนี้เพราะได้ไปกิน Buffet Shabu Shabu ที่สุดยอดอีกร้านนึงของสายเนื้อมา (จริงๆก็ดูไม่รีบเท่าไหร่ เพราะเผลอแป๊ปเดียวจะหมดโปรอีกแย้ว T^T) นั่นก็คือที่นี่เลยค่ะ
Nikusho สาขาสุขุมวิท 71
ถ้าถามว่าสุดยอดตรงไหน? ก็ตรงที่ตอนนี้ทางร้านมีโปรลดราคาอยู่น่ะสิ!!! จาก 850 บาท++ เหลือแค่ 500 บาท++ เท่านั้นน ในราคานี้คือรวม Wagyu แล้วด้วยน้าาาาา มันแหล่มมากจริงๆ ทางร้านต่อโปรจนถึงสิ้นเดือนนี้ (ก.ย. 20) เห็นว่าน่าจะเป็นเดือนสุดท้ายแล้วนะคะ เพราะงั้นไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
แต่สำหรับคอเนื้อ คิดว่าถึงจะไม่มีโปร แต่ถ้ากินแบบบ้าพลังก็น่าจะคุ้มอยู่นะคะ
บรรยากาศ
บอกเลยว่าเป็นอีกร้านนึงที่ได้ฟีลญี่ปุ่นสุดๆไปเลยค่าาา แถมลูกค้าส่วนใหญ่ก็มีแต่คนญี่ปุ่นทั้งนั้น แล้วนี่คือตื่นเต้นจัด กลัวจะรอคิวนานเพราะเค้ามีโปร เลยขับรถไปรอตั้งแต่เปิดร้าน ผลคือเป็นลูกค้าโต๊ะแรกจ้าา 555 แต่ก็เลยได้เก็บบรรยากาศร้านแบบโล่งๆมาเป็นของแถม
เท่าที่ดูส่วนใหญ่ที่นั่งจะแยกให้เป็นล็อกๆอยู่แล้ว ดูเป็นส่วนตัวดี แถมยังตกแต่งด้วยไม้แบบบรรยากาศญี่ปุ๊นญี่ปุ่นซะด้วยสิ
อาหารส่วนใหญ่สั่งได้เลย แต่พวกผักคือตักเองที่บาร์ผักได้เลยนะ แล้วก็มีพวก Namuru หรือ ผักเครื่องเคียงต่างๆให้เลือกหลายตัวเลย หรือถ้าใครอยากกินแกงกะหรี่ปิดท้ายก็มีให้ตักตรงนี้เช่นกัน

เมนู
สำหรับน้ำซุปที่นี่จะเลือกได้ 2 รสชาติ จากทั้งหมด 8 รสชาติ พนักงานแนะนำดีอยู่นะคะ ถ้าสงสัยว่าตัวไหนคืออะไรถามได้ เพราะซุปบางอย่างจะเป็นชื่อแปลกๆที่ไม่เคยได้ยิน อย่างตัว Sukiyaki หรือ น้ำดำที่เราคุ้นเคย ที่ร้านจะใช้ชื่อว่า “Warashita Sauce” ตั้งแต่กินเมนู Sukiyaki ที่ไทยมา รู้สึกว่าร้านนี้รสชาติใกล้เคียงกับการกิน Suskiyaki ที่ญี่ปุ่นมากที่สุด นั่นคือรสชาติเข้มฝุดๆไปเลยย!!! (แต่ใส่น้ำให้เยอะเหมือนกินชาบูชาบูปกตินะ)
ปกติถ้าไปร้าน Sukiyaki ญี่ปุ่นแบบออริจินอล เค้าจะไม่เน้นซดน้ำซุปเยอะๆแบบบ้านเรา แต่จะเหมือนการเอาเนื้อลงไปผัดในกระทะ แล้วเติมน้ำใส่แบบพอขลุกขลิก และน้ำจะเป็นแบบเข้มข้นมากกก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้*ตัวอย่าง* ครั้งก่อนที่ไปญี่ปุ่นมีโอกาสได้กิน Sukiyaki ด้วยย สาบานว่านี่ใส่น้ำซุปแล้ว!!!

และสำหรับคนที่ไปกินมากกว่า 3 คนขึ้นไป พิเศษอีกอย่างคือจะกินได้ทั้งชาบูชาบูและหมูกระทะจ้า ส่วนเราไป แค่ 2 เลยเลือกได้แค่อย่างใดอย่างหนึ่ง T_T วันนี้เราก็เลยกินเป็น Shabu Shabu และเลือกซุปเป็น Warashita Sauce กับ Ago-Dashi ค่ะ รสชาตเหมือนซุปดำกับซุปใสที่คุ้นเคย
ส่วนตัว Buffet จะมีให้เลือกเป็นคอร์สๆ แบ่งเป็น A B และ C แต่แน่นอนว่าเรามาเพื่อโปร เลยต้องเลือก C อยู่แล้วจ้าาา สนนราคาโปรโมชั่นอยู่ที่คนละ 500 บาท++ ราคานี้คือรวม Akami (วากิวเนื้อแดง) / Shimofuri Gyu (เนื้อลายหินอ่อน) Usugiri Tongue (ลิ้นวัว) บอกเลยว่ากินแค่เนื้อก็คุ้มแย้วว แถมยังมีพวกของว่าง ของทอดต่างๆให้เลือกอีกตรึม ถ้าใครเป็นสายอิซากายะน่าจะชอบ เพราะมีเมนูที่คุ้นเคยให้เลือกหลายตัว ถือว่าโอเคเลย
พวกเนื้อหมูดูบางไปหน่อย แต่ก็โอเค ไม่เหนียว เคี้ยวง่าย
พวกซีฟู้ดก็ดีนะ ปลื้มกุ้งกับหอยเชลล์ ตัวกุ้งเนื้อแน่นอยู่ ชอบที่สุดคือไม่มีหัว และปลอกเปลือกเรียบร้อยแล้ว เหมาะกับคนขี้เกียจแบบเฮา!!! แต่หอยนางรมเฉยๆ ส่วนนึงน่าจะไม่ค่อยชินกับการกินแบบต้มสุกด้วยล่ะมั้ง จริงๆตัวใหญ่อยู่นะ แต่คิดว่าหน้าตาก็แอบแปลกๆนิดหน่อย
ส่วนพระเอกของงานคือปลื้มเป็นพิเศษ นานๆทีจะได้เจอเนื้อลายสวยแบบนี้ แนะนำว่าควรไปช่วงเปิดร้านนะ

นอกจากเนื้อแล้ว พวกอาหารว่างก็เป็นอีกอย่างที่ปลื้ม แต่คือพี่เล่นจัด 1 ออเดอร์มาเซ็ทใหญ่มากก!!! นึกว่าสั่งของจริง 555 บอกเลยแค่เต้าหู้ก็เกือบจุกตายแล้ว แต่รสชาติโอเคเลยย ตัวไส้กรอกอาราบิกิก็ดี โครอกเกะครีมก็โอเค อีกอย่างที่แนะนำว่าห้ามพลาดคือโรสบีฟ แต่ก็จานใหญ่อีกตามเคย
แนะนำอีกอย่างสำหรับคนที่อยากกินพวกของทอดหรืออาหารว่างอื่นๆเยอะๆให้รีบสั่งนะ เพราะใช้เวลาพอสมควร
ใครชอบแบบหนักท้องก็มีอุด้งให้สั่งเพิ่มด้วย ลองกินกับแกงกะหรี่ก็ไม่เลวนะะ
อ้ออ แต่ยังไม่รวมน้ำนะ สามารถสั่งน้ำรีฟีลเพิ่มได้ โดยถ้ากินแค่ชาเขียวอย่างเดียวจะอยู่ที่ 30 บาท แต่ถ้าเลือกแบบ 99 บาท จะได้ Soft Drink อื่นๆ รวมถึง Calpis ไม่อั้นด้วย แต่ . . . เรามาเพื่อเนื้อ เพราะงั้นแค่ชาอย่างเดียวก็พอและ แต่เป็นชาที่ไม่เหมือนชาเขียวนะ 555 ออกขมๆ แต่ก็กินได้อยู่
ตลกร้านญี่ปุ่นอยู่อย่างคือชอบเสิร์ฟน้ำใส่แก้ว Asahi . . . แต่มันคือน้ำชาจริงจิ๊งงง 555
ที่ตั้งและการเดินทาง
ร้าน Nikusho สาขา สุขุมวิท 71 ตั้งอยู่ที่ซอย ปรีดีพนมยงค์ 3 สามารถเดินเข้ามาจากซอยสุขุมวิท 71 (พระโขนง) ได้เลย หรือจะเดินทะลุมาจากโครงการ
W-District ได้เลย สามารถจอดรถในโครงการได้ . . . แต่ปั๊มบัตรจอดรถไม่ได้นะ T^T
แนะนำว่ามาทาง BTS ง่ายกว่า ลงสถานีพระโขนงได้เลย
[CR] 500 บาท++ ก็กิน Buffet Wagyu ได้ ที่ Nikusho SKV.71 (Promotion นะ)
สวัสดีค่าา ในที่สุดก็แอบหนีตัวขี้เกียจมาเจอกันได้สำเร็จซักที หลังจากห่างหายไปนานมากก!!! 555 พอจะสะบัดตัวขี้เกียจทิ้งได้บ้างแล้ว เลยรีบมารีวิวก่อนที่จะขี้เกียจอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มกันก็เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมี Twitter แล้วน้าาา 555 ขอฝากไว้สำหรับเพจเล็กๆของคนขี้เกียจ ที่ขยันกินเหลือเกินกันซักนิดนะคะ
FB : Momo no Paradise - モモのパラダイス https://www.facebook.com/momonoparadise
IG : Momo.diarys https://www.instagram.com/momo.diarys/
TW : วันนี้โมจังกินอะไร https://twitter.com/mono_tabemono
ไปๆมาๆเหมือนว่าทวิตจะอัพบ่อยที่สุดซะแล้วว 555 ชอบแบบไหนลองตามไปดูกันได้น้าาา
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
สาเหตุหลักที่ต้องรีบมาในครั้งนี้เพราะได้ไปกิน Buffet Shabu Shabu ที่สุดยอดอีกร้านนึงของสายเนื้อมา (จริงๆก็ดูไม่รีบเท่าไหร่ เพราะเผลอแป๊ปเดียวจะหมดโปรอีกแย้ว T^T) นั่นก็คือที่นี่เลยค่ะ Nikusho สาขาสุขุมวิท 71
ถ้าถามว่าสุดยอดตรงไหน? ก็ตรงที่ตอนนี้ทางร้านมีโปรลดราคาอยู่น่ะสิ!!! จาก 850 บาท++ เหลือแค่ 500 บาท++ เท่านั้นน ในราคานี้คือรวม Wagyu แล้วด้วยน้าาาาา มันแหล่มมากจริงๆ ทางร้านต่อโปรจนถึงสิ้นเดือนนี้ (ก.ย. 20) เห็นว่าน่าจะเป็นเดือนสุดท้ายแล้วนะคะ เพราะงั้นไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
แต่สำหรับคอเนื้อ คิดว่าถึงจะไม่มีโปร แต่ถ้ากินแบบบ้าพลังก็น่าจะคุ้มอยู่นะคะ
บรรยากาศ
บอกเลยว่าเป็นอีกร้านนึงที่ได้ฟีลญี่ปุ่นสุดๆไปเลยค่าาา แถมลูกค้าส่วนใหญ่ก็มีแต่คนญี่ปุ่นทั้งนั้น แล้วนี่คือตื่นเต้นจัด กลัวจะรอคิวนานเพราะเค้ามีโปร เลยขับรถไปรอตั้งแต่เปิดร้าน ผลคือเป็นลูกค้าโต๊ะแรกจ้าา 555 แต่ก็เลยได้เก็บบรรยากาศร้านแบบโล่งๆมาเป็นของแถม
เท่าที่ดูส่วนใหญ่ที่นั่งจะแยกให้เป็นล็อกๆอยู่แล้ว ดูเป็นส่วนตัวดี แถมยังตกแต่งด้วยไม้แบบบรรยากาศญี่ปุ๊นญี่ปุ่นซะด้วยสิ
อาหารส่วนใหญ่สั่งได้เลย แต่พวกผักคือตักเองที่บาร์ผักได้เลยนะ แล้วก็มีพวก Namuru หรือ ผักเครื่องเคียงต่างๆให้เลือกหลายตัวเลย หรือถ้าใครอยากกินแกงกะหรี่ปิดท้ายก็มีให้ตักตรงนี้เช่นกัน
เมนู
สำหรับน้ำซุปที่นี่จะเลือกได้ 2 รสชาติ จากทั้งหมด 8 รสชาติ พนักงานแนะนำดีอยู่นะคะ ถ้าสงสัยว่าตัวไหนคืออะไรถามได้ เพราะซุปบางอย่างจะเป็นชื่อแปลกๆที่ไม่เคยได้ยิน อย่างตัว Sukiyaki หรือ น้ำดำที่เราคุ้นเคย ที่ร้านจะใช้ชื่อว่า “Warashita Sauce” ตั้งแต่กินเมนู Sukiyaki ที่ไทยมา รู้สึกว่าร้านนี้รสชาติใกล้เคียงกับการกิน Suskiyaki ที่ญี่ปุ่นมากที่สุด นั่นคือรสชาติเข้มฝุดๆไปเลยย!!! (แต่ใส่น้ำให้เยอะเหมือนกินชาบูชาบูปกตินะ)
ปกติถ้าไปร้าน Sukiyaki ญี่ปุ่นแบบออริจินอล เค้าจะไม่เน้นซดน้ำซุปเยอะๆแบบบ้านเรา แต่จะเหมือนการเอาเนื้อลงไปผัดในกระทะ แล้วเติมน้ำใส่แบบพอขลุกขลิก และน้ำจะเป็นแบบเข้มข้นมากกก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และสำหรับคนที่ไปกินมากกว่า 3 คนขึ้นไป พิเศษอีกอย่างคือจะกินได้ทั้งชาบูชาบูและหมูกระทะจ้า ส่วนเราไป แค่ 2 เลยเลือกได้แค่อย่างใดอย่างหนึ่ง T_T วันนี้เราก็เลยกินเป็น Shabu Shabu และเลือกซุปเป็น Warashita Sauce กับ Ago-Dashi ค่ะ รสชาตเหมือนซุปดำกับซุปใสที่คุ้นเคย
ส่วนตัว Buffet จะมีให้เลือกเป็นคอร์สๆ แบ่งเป็น A B และ C แต่แน่นอนว่าเรามาเพื่อโปร เลยต้องเลือก C อยู่แล้วจ้าาา สนนราคาโปรโมชั่นอยู่ที่คนละ 500 บาท++ ราคานี้คือรวม Akami (วากิวเนื้อแดง) / Shimofuri Gyu (เนื้อลายหินอ่อน) Usugiri Tongue (ลิ้นวัว) บอกเลยว่ากินแค่เนื้อก็คุ้มแย้วว แถมยังมีพวกของว่าง ของทอดต่างๆให้เลือกอีกตรึม ถ้าใครเป็นสายอิซากายะน่าจะชอบ เพราะมีเมนูที่คุ้นเคยให้เลือกหลายตัว ถือว่าโอเคเลย
พวกเนื้อหมูดูบางไปหน่อย แต่ก็โอเค ไม่เหนียว เคี้ยวง่าย
พวกซีฟู้ดก็ดีนะ ปลื้มกุ้งกับหอยเชลล์ ตัวกุ้งเนื้อแน่นอยู่ ชอบที่สุดคือไม่มีหัว และปลอกเปลือกเรียบร้อยแล้ว เหมาะกับคนขี้เกียจแบบเฮา!!! แต่หอยนางรมเฉยๆ ส่วนนึงน่าจะไม่ค่อยชินกับการกินแบบต้มสุกด้วยล่ะมั้ง จริงๆตัวใหญ่อยู่นะ แต่คิดว่าหน้าตาก็แอบแปลกๆนิดหน่อย
ส่วนพระเอกของงานคือปลื้มเป็นพิเศษ นานๆทีจะได้เจอเนื้อลายสวยแบบนี้ แนะนำว่าควรไปช่วงเปิดร้านนะ
นอกจากเนื้อแล้ว พวกอาหารว่างก็เป็นอีกอย่างที่ปลื้ม แต่คือพี่เล่นจัด 1 ออเดอร์มาเซ็ทใหญ่มากก!!! นึกว่าสั่งของจริง 555 บอกเลยแค่เต้าหู้ก็เกือบจุกตายแล้ว แต่รสชาติโอเคเลยย ตัวไส้กรอกอาราบิกิก็ดี โครอกเกะครีมก็โอเค อีกอย่างที่แนะนำว่าห้ามพลาดคือโรสบีฟ แต่ก็จานใหญ่อีกตามเคย
แนะนำอีกอย่างสำหรับคนที่อยากกินพวกของทอดหรืออาหารว่างอื่นๆเยอะๆให้รีบสั่งนะ เพราะใช้เวลาพอสมควร
ใครชอบแบบหนักท้องก็มีอุด้งให้สั่งเพิ่มด้วย ลองกินกับแกงกะหรี่ก็ไม่เลวนะะ
อ้ออ แต่ยังไม่รวมน้ำนะ สามารถสั่งน้ำรีฟีลเพิ่มได้ โดยถ้ากินแค่ชาเขียวอย่างเดียวจะอยู่ที่ 30 บาท แต่ถ้าเลือกแบบ 99 บาท จะได้ Soft Drink อื่นๆ รวมถึง Calpis ไม่อั้นด้วย แต่ . . . เรามาเพื่อเนื้อ เพราะงั้นแค่ชาอย่างเดียวก็พอและ แต่เป็นชาที่ไม่เหมือนชาเขียวนะ 555 ออกขมๆ แต่ก็กินได้อยู่
ตลกร้านญี่ปุ่นอยู่อย่างคือชอบเสิร์ฟน้ำใส่แก้ว Asahi . . . แต่มันคือน้ำชาจริงจิ๊งงง 555
ที่ตั้งและการเดินทาง
ร้าน Nikusho สาขา สุขุมวิท 71 ตั้งอยู่ที่ซอย ปรีดีพนมยงค์ 3 สามารถเดินเข้ามาจากซอยสุขุมวิท 71 (พระโขนง) ได้เลย หรือจะเดินทะลุมาจากโครงการ
W-District ได้เลย สามารถจอดรถในโครงการได้ . . . แต่ปั๊มบัตรจอดรถไม่ได้นะ T^T
แนะนำว่ามาทาง BTS ง่ายกว่า ลงสถานีพระโขนงได้เลย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น