อาจจะดูสวนกระแสไปหน่อย เพราะปัจจุบัน part2 ได้ฉายจบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวไม่ได้เป็นแฟนคลับเมะเรื่องนี้เท่าไหร่ เอาจริงๆบังเอิญไปเจอในNFที่เอาss3มาลง ในกระทู้นี้อาจจะมีการเปรียบเทียบกับsao ภาคก่อนๆบ้าง แต่ขอไม่พูดถึง ข้ามภาคmother rosario นะครับเพราะยังไม่ได้ดู
เริ่มกันเลย!!
สิ่งที่ไม่ชอบ หนังเปิดเรื่องได้น่าสนใจมาก ให้คนตั้งคำถามว่านี้ตูดูเมะถูกเรื่องใช่ไหม(ฮา) แล้วมาเล่าตอนหลังว่าคิริโตะต้องเทสระบบฟลักไลท์บลาๆ เรื่องมีการทรอดแทรกความรู้ด้านฮาร์ดแวร์ ซอร์ฟแวร์อยู่เรื่อยๆตลอดทั้งเรื่อง ไม่ได้ลึกจนเข้าใจยากจนเกินไปอยู่ในระดับที่กำลังน่าสนใจและเพิ่มมิติ แบ็คกราวให้เทคโนโลยีภายในเรื่อง ถือว่าเป็นสเน่ห์อย่างนึงของSAOเลยก็ว่าได้ มีการเฉลี่ยบทได้ดีกว่าภาคก่อนๆ มีตัวเอกที่เก่งพอๆกับพระเอกอย่างยูจิโอ แถมแอร์ไทม์ยังเกือบเท่าพระเอกอีกด้วย ปกติจะเห็นแต่คิริโตะโซโล่ตลอด ชอบการตั้งคำถามและประเด็นรองที่เกิดขึ้นในเรื่อง เช่น การทำฟลักไลต์เทียม(ก็คือมีชีวิตจิตใจเหมือนคนจริงๆ)ภายในโลกสังเคราะฑ์ หรือก้อปปี้ฟล้กไลท์ตัวเอง แบบนี้ถือว่าผิดศีลธรรมรึปล่าว?? น่าเสียดายที่เป็นแค่ประเด็นรองไม่ได้มีการขยี้หรือขยายเท่าไหร่ ฉากต่อสู้สนุกมันส์ดี จุดเด่นภาคนี้อีกอย่างคือการใช้สกิลเป็นคำสั่งcommandเหมือนในคอม เวลาเปิดอันติก็เป็นรูปเฟืองเครื่องจักรแทนที่จะเป็นวงเวทย์เหมือนเรื่องอื่นๆ อันนี้เรามองว่ามันแปลกใหม่ดีที่จับคอมพิวเตอร์กับแนวต่างโลกมามิกซ์รวมกันได้ เริ่มให้อารมณ์เครียดกดดันเหมือนตอนเราดูsaoภาคแรก ตายคือตายจริง แขนขาขาด(ฉากในโรงเรียนนี้พีคมาก555) ทำให้ผมมองว่ามันไม่ใช่เมะให้เด็กดูละ555แต่ผมชอบ
สิ่งที่ชอบ ให้ลืมเรื่องที่ผมบอกไม่ใช่เมะให้เด็กดูได้เลย5555 ช่วงแรกถึงกลางpressingดีมาตลอด มาเสียตอนช่วงบุกปราสาทช่วงสุดท้าย คืออืดมากก อารัมภาบทกันนานมาก ทั้งที่พูดไปมีแต่น้ำและเป็นอะไรที่เดาเรื่องง่ายรู้ว่าสุดท้ายยูจิโอก็ต้องโดนล้างสมองแล้วสู่กับพระเอกอยู่ดี พลอตครีเช่ อารมณ์แบบตะลุยปราสาท12ราศี บุกโซไซตีไปช่วยลูเคีย ตะลุยด่านไปเรื่อยๆ เอาง่ายๆคือถ้าตัดเรื่องฉาก18+ เลือดกระฉูดกับประเด็นที่ใส่มาตอนต้นเรื่อง(ที่ดูน่าสนใจแต่ไม่เล่นต่อ) มันก็คือเมะโชเน็นแนวตลาดดีๆนี่เอง มีตัวละครหลายๆตัวที่เหมือนจะสำคัญ แต่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปใช้ตัวละครเปลืองมาก เช่น รุ่นพี่รุ่นน้องที่โรงเรียนดาบ หรือฮาเร็มคิริโตะ ที่เหมือนจะมีบทแค่นั่งเป็นเพื่อนเม้ากับอาซึนะแค่นั้นเอง เข้าใจครับว่าจะให้ทุกตัวมันมีซีเควนซ์ของตัวเองไม่ได้ไม่งั้นเรื่องหลักไม่เดินพอดี แต่คือให้เขามีบทหรือหน้าที่สำคัญ-ขับเคลื่อนเรื่องไปข้างหน้ามากกว่านี้ได้(แต่อาจจะมาพาร์ท2ก็ได้เนอะ)
เเล้วเรื่องฮาเร็มคิริโตะนี้ถามจริงๆ โตะมันก็มีแฟนอยู่แล้วจะจิ้นกับคู่อื่นแต่ลึกๆก็รู้ว่าเรือล่มตั้งแต่ไม่พาย ส่วนตัวคิดว่าถ้าให้โตะโสดแต่อาซึนะเต็งหนึ่งแบบนี้ยังดูเข้าท่ากว่ายังได้จิ้นกับคนอื่นบ้าง อะกลับเข้าเรื่องต่อ!! ตอนนั้นที่รู้ว่าต้อวตะลุย100ชั้นเพื่อไปช่วย.. ในใจตูคิดว่าแนวนี้อีกแล้วหรอฟะ แล้วพอไปเจอบอสที่แก้ผ้าสู้?? ซึ่งมันไม่ได้ดูน่าสนใจอมันดูเหมือนโรคจิตมากกว่า และอันนี้เป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบที่สุด เหมือนอะไรจะเกิดก็เกิด ตัวร้ายอยู่ดีๆก็เสกพลังนู้นนี่นั้นมา ประเด็นคือไม่ได้ปูมาก่อนเลยเหมือนตอนนั้นคิดพลังไรให้บอสได้ก็ใส่ๆไป อธิบายนิดๆหน่อยๆWTF หรืออย่างไอ้โตะที่อยู่ดีๆก็ใช้อวาตาร์จากSAOได้ มันยิ่งดูยัดเลย ถ้าบอสมันมีแค่1-2ก๊อกยัโอเคแต่อันนี้มันเกินไป้
สรุป เหมือนจะไม่ชอบมากกว่าชอบครับ ถึงเรื่องนี้จะมีแงค์ประกอปหลายๆจุดที่ยูนีคดี และเพิ่มในส่วนที่ไม่เคยมีมาก่อนในsao อย่างตัวเอกชายที่เก่งพอๆกับคิริโตะอะไรแบบนี้ แต่ก็ยังมีข้อเสียเดิมๆที่ยังแก้ไม่ได้เยอะพอสมควร ถ้าเทียบจากที่เคยดูมาทั้งหมด ผมชอบกันเกลออนไลน์สุดนะ ถึงจะไม่ได้เครียดกดดันเท่าภาคนี้ แต่การเล่า ดำเนินเรื่อง ความสมเหตุสมผลทำได้ค่อนข้างโอเคกว่า ถึงยังไงนี้ก็เป็นความเห็นส่วนตัวผมนะครับตนเรามีความชอบต่างกันได้นะครับ;)
บ่นหลังดู SAO war of underworld part1 จบ | สีที่ขาดหายไปจากsaoมานาน ปัญหาเดิมๆ
เริ่มกันเลย!!
สิ่งที่ไม่ชอบ หนังเปิดเรื่องได้น่าสนใจมาก ให้คนตั้งคำถามว่านี้ตูดูเมะถูกเรื่องใช่ไหม(ฮา) แล้วมาเล่าตอนหลังว่าคิริโตะต้องเทสระบบฟลักไลท์บลาๆ เรื่องมีการทรอดแทรกความรู้ด้านฮาร์ดแวร์ ซอร์ฟแวร์อยู่เรื่อยๆตลอดทั้งเรื่อง ไม่ได้ลึกจนเข้าใจยากจนเกินไปอยู่ในระดับที่กำลังน่าสนใจและเพิ่มมิติ แบ็คกราวให้เทคโนโลยีภายในเรื่อง ถือว่าเป็นสเน่ห์อย่างนึงของSAOเลยก็ว่าได้ มีการเฉลี่ยบทได้ดีกว่าภาคก่อนๆ มีตัวเอกที่เก่งพอๆกับพระเอกอย่างยูจิโอ แถมแอร์ไทม์ยังเกือบเท่าพระเอกอีกด้วย ปกติจะเห็นแต่คิริโตะโซโล่ตลอด ชอบการตั้งคำถามและประเด็นรองที่เกิดขึ้นในเรื่อง เช่น การทำฟลักไลต์เทียม(ก็คือมีชีวิตจิตใจเหมือนคนจริงๆ)ภายในโลกสังเคราะฑ์ หรือก้อปปี้ฟล้กไลท์ตัวเอง แบบนี้ถือว่าผิดศีลธรรมรึปล่าว?? น่าเสียดายที่เป็นแค่ประเด็นรองไม่ได้มีการขยี้หรือขยายเท่าไหร่ ฉากต่อสู้สนุกมันส์ดี จุดเด่นภาคนี้อีกอย่างคือการใช้สกิลเป็นคำสั่งcommandเหมือนในคอม เวลาเปิดอันติก็เป็นรูปเฟืองเครื่องจักรแทนที่จะเป็นวงเวทย์เหมือนเรื่องอื่นๆ อันนี้เรามองว่ามันแปลกใหม่ดีที่จับคอมพิวเตอร์กับแนวต่างโลกมามิกซ์รวมกันได้ เริ่มให้อารมณ์เครียดกดดันเหมือนตอนเราดูsaoภาคแรก ตายคือตายจริง แขนขาขาด(ฉากในโรงเรียนนี้พีคมาก555) ทำให้ผมมองว่ามันไม่ใช่เมะให้เด็กดูละ555แต่ผมชอบ
สิ่งที่ชอบ ให้ลืมเรื่องที่ผมบอกไม่ใช่เมะให้เด็กดูได้เลย5555 ช่วงแรกถึงกลางpressingดีมาตลอด มาเสียตอนช่วงบุกปราสาทช่วงสุดท้าย คืออืดมากก อารัมภาบทกันนานมาก ทั้งที่พูดไปมีแต่น้ำและเป็นอะไรที่เดาเรื่องง่ายรู้ว่าสุดท้ายยูจิโอก็ต้องโดนล้างสมองแล้วสู่กับพระเอกอยู่ดี พลอตครีเช่ อารมณ์แบบตะลุยปราสาท12ราศี บุกโซไซตีไปช่วยลูเคีย ตะลุยด่านไปเรื่อยๆ เอาง่ายๆคือถ้าตัดเรื่องฉาก18+ เลือดกระฉูดกับประเด็นที่ใส่มาตอนต้นเรื่อง(ที่ดูน่าสนใจแต่ไม่เล่นต่อ) มันก็คือเมะโชเน็นแนวตลาดดีๆนี่เอง มีตัวละครหลายๆตัวที่เหมือนจะสำคัญ แต่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปใช้ตัวละครเปลืองมาก เช่น รุ่นพี่รุ่นน้องที่โรงเรียนดาบ หรือฮาเร็มคิริโตะ ที่เหมือนจะมีบทแค่นั่งเป็นเพื่อนเม้ากับอาซึนะแค่นั้นเอง เข้าใจครับว่าจะให้ทุกตัวมันมีซีเควนซ์ของตัวเองไม่ได้ไม่งั้นเรื่องหลักไม่เดินพอดี แต่คือให้เขามีบทหรือหน้าที่สำคัญ-ขับเคลื่อนเรื่องไปข้างหน้ามากกว่านี้ได้(แต่อาจจะมาพาร์ท2ก็ได้เนอะ)
เเล้วเรื่องฮาเร็มคิริโตะนี้ถามจริงๆ โตะมันก็มีแฟนอยู่แล้วจะจิ้นกับคู่อื่นแต่ลึกๆก็รู้ว่าเรือล่มตั้งแต่ไม่พาย ส่วนตัวคิดว่าถ้าให้โตะโสดแต่อาซึนะเต็งหนึ่งแบบนี้ยังดูเข้าท่ากว่ายังได้จิ้นกับคนอื่นบ้าง อะกลับเข้าเรื่องต่อ!! ตอนนั้นที่รู้ว่าต้อวตะลุย100ชั้นเพื่อไปช่วย.. ในใจตูคิดว่าแนวนี้อีกแล้วหรอฟะ แล้วพอไปเจอบอสที่แก้ผ้าสู้?? ซึ่งมันไม่ได้ดูน่าสนใจอมันดูเหมือนโรคจิตมากกว่า และอันนี้เป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบที่สุด เหมือนอะไรจะเกิดก็เกิด ตัวร้ายอยู่ดีๆก็เสกพลังนู้นนี่นั้นมา ประเด็นคือไม่ได้ปูมาก่อนเลยเหมือนตอนนั้นคิดพลังไรให้บอสได้ก็ใส่ๆไป อธิบายนิดๆหน่อยๆWTF หรืออย่างไอ้โตะที่อยู่ดีๆก็ใช้อวาตาร์จากSAOได้ มันยิ่งดูยัดเลย ถ้าบอสมันมีแค่1-2ก๊อกยัโอเคแต่อันนี้มันเกินไป้
สรุป เหมือนจะไม่ชอบมากกว่าชอบครับ ถึงเรื่องนี้จะมีแงค์ประกอปหลายๆจุดที่ยูนีคดี และเพิ่มในส่วนที่ไม่เคยมีมาก่อนในsao อย่างตัวเอกชายที่เก่งพอๆกับคิริโตะอะไรแบบนี้ แต่ก็ยังมีข้อเสียเดิมๆที่ยังแก้ไม่ได้เยอะพอสมควร ถ้าเทียบจากที่เคยดูมาทั้งหมด ผมชอบกันเกลออนไลน์สุดนะ ถึงจะไม่ได้เครียดกดดันเท่าภาคนี้ แต่การเล่า ดำเนินเรื่อง ความสมเหตุสมผลทำได้ค่อนข้างโอเคกว่า ถึงยังไงนี้ก็เป็นความเห็นส่วนตัวผมนะครับตนเรามีความชอบต่างกันได้นะครับ;)