เราออกเดินทางวันที่ 21/09/2020 ถึงสนามบินเชียงใหม่ก็เที่ยงพอดี เช่ารถไว้เรียบร้อยแล้วตอนแรกจองในเว็บแต่แล้วซวยคือไม่มีเครดิตการ์ดในการบล้อควงเงินในการมัดจำก็เลยเปลี่ยนเป็นเช่ารถบ้านแทนโดยได้ Mazda 2 คู่ใจถูกใจที่มีระบบ Sport นี่ละ
รับรถเสร็จก็ขับรถไปเรื่อยๆหาคาเฟ่นั่งก่อนขึ้นดอย ตัดสินใจมาที่ภูฟิน เทอเรส วิวคือดี มาถึงร้านได้รูป2 รูป โทรศัพท์แบตหมด สายชาร์จพัง 5555

ดื่มด่ำกันเสร็จแล้วขึ้นดอยกันจ้า
โดยคืนแรกเราแพลนที่ไว้ที่ดอยชัวร์ญ่าเพราะคิดว่าอีกคืนไปนอนที่บ้านป่าบงเปียงไม่ไกล
ห้องก็ยังไม่ได้จอง เลยขับรถหาเรื่อยๆ สุดท้ายมาพักที่ บ้านพักสวนดอกไม้ เขาเห็นว่ามาคนเดียวเลยลดราคาให้ คืนนี้จ่ายแค่ 300 บาทเท่านั้นคุณผู้ชม
OMG !! save money ไปในตัวเนอะ
นี่คือวิวหลังห้องจ้า

จากนั้นก็เดินไปนั่งกินลมชมวิว กันสะหน่อย
คนรวยๆอย่างเราก็มาม่านี่แหละจ๊ะ 555
วิวคือดี อากาศคือดี ดึกมานี่ 12 องศานะจ๊ะ

ออกเดินทางกันต่อ ขึ้นไปที่ โปโป ปิงปิง โฮมสเตย์ ทางขึ้นก็โหดอยู่นะ

จากจุดกางเต็นท์ดอยชัวร์ญ่าขึ้นไปประมาน 25 นาที
ถึงแล้วจ้าาา โปโป ปิงปิง โฮมสเตย์
น้องอยากเข้าเฟรมด้วย 555555

ได้ข้าวไข่เจียวไปจานนึง ลาบปากเลยน้อนนน

ไปบนดอยอินทนนท์กันต่อ แวะที่ พระธาตุนภเมทินีดล-นภพลภูมิสิริ
บรรยากาศคือดีนะ แต่บนยอดดอยอินทนนท์เรามาหลายรอบมากแล้วเลยจอดแค่นี้


ป่ะ ไปในที่ที่ไปครั้งแรกดีกว่า ที่นี่คืออยากมานานแล้วแต่ไม่ได้มากลัวทางลำบากด้วย แต่บอกเลยว่าไม่ต้องกลัวเลยตอนนี้ทางสบายมาก
ถ้าใครมาคือเลี้ยวซ้ายขึ้นตรงด่านจุดตรวจที่ 2 ขับไปเรื่อยๆทางสบายแต่ทางชันหน่อยพยายามบีบแตรตรงโค้งลับสายตา
แทน แท่น แท๊นนนน มาถึงแล้วจ้าา บ้านป่าบงเปียง วันนี้เราได้จองที่พักที่ เลข่อทิ วิว โฮมสเตย์ เจ้าของต้อนรับดีมากเลย นั่งคุยกับเราอยู่นาน
แกบอกว่าถ้าหนูกลัว แม่จะให้น้องมานอนเป็นเพื่อน 5555555 เราตอบกลับไปว่า ไม่เป็นไรค่ะ ก็แอบกลัวอยู่ เพราะบ้านอยู่หลังสุดท้าย 5555
แต่วิวดีมากเลยนะ
นี่จ้าบ้านหลังนี้ที่เรานอน จากภาพถ่ายอยู่หน้าสุด มีระเบียงอยู่ด้านหน้า คือดี๊ ดี ค่าห้อง 600 บาทรวมอาหารเย็นเช้า



ช่วงอาหารเย็น นี่เป็นการล่อน้องหมาให้อยู่เป็นเพื่อน ตามภาพ 5555

คืนนี้แกต้องอยู่เป็นเพื่อนชั้น ฮ่า ฮ่า ฮ่า บอกเลยว่าาาาาาาา ดาวล้านดวงมากกก อันนี้คือดาวของจริง ดาวเต็มท้องฟ้าเลย ไม่มีกล้องดีดีแบบเขานะ
ถ่ายไม่ติด มีแต่กล้องโทรศัพท์ 555

มาถึงตอนเช้า ก็มีทะเลหมอกให้ดูด้วยน่ะจ่ะ เดินไปเล็กน้อย

ถ่ายคนบ้างหมาบ้าง สลับกันไป


จากนั้นก็คิดอยู่ว่า จะเที่ยวในเชียงใหม่หรือจะไปบ้านรักษ์ไทยดี จากนี่ไปบ้านรักษ์ไทยก็เกือบ 5 ชม. เลย คิดอยู่นานอยากกลับไปที่นี่อีก ไม่รอช้าออกเดินทางเลยค่ะ ผู้หญิงคนเดียวออกเดินทางกันเล้ยยยยยย the paln is no plan คนที่ทำให้เรามีแรงบันดาลใจคือ พี่เบนซ์ The Gaijin trip
เราเดินทางคนละทางกับตอนมา ทางนี้จะลำบากหน่อย ตามคลิปพี่เบนซ์นะ แต่ว่าโชคดีฝนไม่ตกเลยไปได้อยู่ ก็ไป น้ำออกฮู ตามพี่เค้าเหมือนกัน 55555
แต่มันไม่มีอะไรค่าาา ท่านผู้ช้มมมมมม

อ่ะเดินทางมุ่งสู่บ้านรักษ์ไทย ทางไปก็สาหัสสากันอยู่ ถึงก็เย็นๆ
ถึงแล้ววววววววว ถึงที่นี่ ก็ต้องจัดชากันสักหน่อยกับบรรยากาศโครตฟิน
เจ้าของร้านเป็นมิตรมาก ชื่อร้าน Coffee Ban Din พี่เค้าเปิดเพลงฟังชิลๆ ขอเพลงได้ด้วยน่ะ 5555


คืนนี้เรานอนที่ ธนภัทร บ้านดิน ได้ราคา 500 บาท
ยามค่ำคืน

มาถึงตอนเช้า เราพักที่นี่ต่ออีกคืน
ออกไปดื่มชากันดีกว่า เราชอบชายอดน้ำค้าง เขาบอกว่าขึ้นชื่อที่นี่น่ะ

คนที่ไม่ได้พักที่นี่ถ้าจะขึ้นไปถ่ายรูปที่ไร่ชา ลีไวน์ รักไทย รีสอร์ท เปิด 10.00-17.00น. นะ

มานั่งต่อที่ร้าน Lee Wine Coffee กับบรรยากาศยามเย็น ดื่มด่ำจริงๆ เขามีเรือให้นั่งด้วย ราคาไม่แน่ใจน้าา

จากนั้นก็มานั่งชิลต่อที่ร้านเดิมเมื่อคืน 555555 เขาปิดให้ดึกอยู่ 5 ทุ่ม เป็นกันเองมาก
เช้ามาออกไปปางอุ๋งกันต่อ เราไปเขากำลังก็สร้างอยู่ด้วย สร้างสำหรับหน้าหนาวนี่โดยเฉพาะแน่ๆเลย 555

เรากลับทางปายทางหรรษามากมาย ก็มุ่งสู่เมืองเชียงใหม่ นอนในตัวเมือง 1 คืน ไฟท์กลับตอนเช้า
ทริปนี้คือคนเดียวจริงๆ มันก็รู้สึกดีนะ ชิลๆ อยากไปไหนก็ไปไม่มีแพลนอะไรเยอะแยะ ผ่อนคลายตัวเอง ไปคือไม่ต้องแย่งกันถ่ายรูปเยอะ สำหรับใครที่กลัววัดกับใจตัวเองหน่อย ลองดูสักครั้ง อาจจะติดใจก็ได้นะ
รีวิว เชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน ผู้หญิงคนเดียว 5 วัน 5 คืน แบบจุกๆ
รับรถเสร็จก็ขับรถไปเรื่อยๆหาคาเฟ่นั่งก่อนขึ้นดอย ตัดสินใจมาที่ภูฟิน เทอเรส วิวคือดี มาถึงร้านได้รูป2 รูป โทรศัพท์แบตหมด สายชาร์จพัง 5555
ดื่มด่ำกันเสร็จแล้วขึ้นดอยกันจ้า
โดยคืนแรกเราแพลนที่ไว้ที่ดอยชัวร์ญ่าเพราะคิดว่าอีกคืนไปนอนที่บ้านป่าบงเปียงไม่ไกล
ห้องก็ยังไม่ได้จอง เลยขับรถหาเรื่อยๆ สุดท้ายมาพักที่ บ้านพักสวนดอกไม้ เขาเห็นว่ามาคนเดียวเลยลดราคาให้ คืนนี้จ่ายแค่ 300 บาทเท่านั้นคุณผู้ชม
OMG !! save money ไปในตัวเนอะ
นี่คือวิวหลังห้องจ้า
คนรวยๆอย่างเราก็มาม่านี่แหละจ๊ะ 555
วิวคือดี อากาศคือดี ดึกมานี่ 12 องศานะจ๊ะ
ถึงแล้วจ้าาา โปโป ปิงปิง โฮมสเตย์
น้องอยากเข้าเฟรมด้วย 555555
บรรยากาศคือดีนะ แต่บนยอดดอยอินทนนท์เรามาหลายรอบมากแล้วเลยจอดแค่นี้
ถ้าใครมาคือเลี้ยวซ้ายขึ้นตรงด่านจุดตรวจที่ 2 ขับไปเรื่อยๆทางสบายแต่ทางชันหน่อยพยายามบีบแตรตรงโค้งลับสายตา
แทน แท่น แท๊นนนน มาถึงแล้วจ้าา บ้านป่าบงเปียง วันนี้เราได้จองที่พักที่ เลข่อทิ วิว โฮมสเตย์ เจ้าของต้อนรับดีมากเลย นั่งคุยกับเราอยู่นาน
แกบอกว่าถ้าหนูกลัว แม่จะให้น้องมานอนเป็นเพื่อน 5555555 เราตอบกลับไปว่า ไม่เป็นไรค่ะ ก็แอบกลัวอยู่ เพราะบ้านอยู่หลังสุดท้าย 5555
แต่วิวดีมากเลยนะ
นี่จ้าบ้านหลังนี้ที่เรานอน จากภาพถ่ายอยู่หน้าสุด มีระเบียงอยู่ด้านหน้า คือดี๊ ดี ค่าห้อง 600 บาทรวมอาหารเย็นเช้า
ช่วงอาหารเย็น นี่เป็นการล่อน้องหมาให้อยู่เป็นเพื่อน ตามภาพ 5555
ถ่ายไม่ติด มีแต่กล้องโทรศัพท์ 555
เราเดินทางคนละทางกับตอนมา ทางนี้จะลำบากหน่อย ตามคลิปพี่เบนซ์นะ แต่ว่าโชคดีฝนไม่ตกเลยไปได้อยู่ ก็ไป น้ำออกฮู ตามพี่เค้าเหมือนกัน 55555
แต่มันไม่มีอะไรค่าาา ท่านผู้ช้มมมมมม
ถึงแล้ววววววววว ถึงที่นี่ ก็ต้องจัดชากันสักหน่อยกับบรรยากาศโครตฟิน
เจ้าของร้านเป็นมิตรมาก ชื่อร้าน Coffee Ban Din พี่เค้าเปิดเพลงฟังชิลๆ ขอเพลงได้ด้วยน่ะ 5555
ยามค่ำคืน
ออกไปดื่มชากันดีกว่า เราชอบชายอดน้ำค้าง เขาบอกว่าขึ้นชื่อที่นี่น่ะ
จากนั้นก็มานั่งชิลต่อที่ร้านเดิมเมื่อคืน 555555 เขาปิดให้ดึกอยู่ 5 ทุ่ม เป็นกันเองมาก
เช้ามาออกไปปางอุ๋งกันต่อ เราไปเขากำลังก็สร้างอยู่ด้วย สร้างสำหรับหน้าหนาวนี่โดยเฉพาะแน่ๆเลย 555
ทริปนี้คือคนเดียวจริงๆ มันก็รู้สึกดีนะ ชิลๆ อยากไปไหนก็ไปไม่มีแพลนอะไรเยอะแยะ ผ่อนคลายตัวเอง ไปคือไม่ต้องแย่งกันถ่ายรูปเยอะ สำหรับใครที่กลัววัดกับใจตัวเองหน่อย ลองดูสักครั้ง อาจจะติดใจก็ได้นะ