[CR] หลังรั้วหนามสามจังหวัดชายแดนใต้ ตอน 3วัน2คืนเติมพลังแห่งความสุขกันที่อ.เบตง จ.ยะลา


การเดินทางใน3จังหวัดชายแดนใต้ กระทู้นี้เรามาต่อกันที่อ.เบตง จ.ยะลากันค่ะ เมืองที่ใครๆก็ว่าถ้าไปที่ไหนแล้วไม่เจอทะเลหมอก มาเบตงเจอแน่นอน เรื่องนี้จริงเท็จยังไง ให้ภาพเล่าเรื่องละกันค่ะ
 
นอกจากเบตงจะขึ้นชื่อเรื่องความปังของทะเลหมอกแล้วนั้น Street Artก็ไม่ธรรมดา ภาพวาดฝาผนังมีให้ชมเยอะ อยู่ในเมืองเบตงเดินชิลๆได้เลย

แต่ถ้าหากใครใคร่เข้าหาธรรมชาติ บอกเลยป่าใต้คือที่สุด ถ้าไม่ติดทาคุจัง(ทาก) คงได้เจอกันสัก1 

จะมีกี่ยอดเขาที่สามารถชมวิวได้360องศา ไม่ว่าจะเป็นทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก แถมฟรีทางช้างเผือก 1ในนั้นคือที่นี่ ฆูนุงซีลีปัต ความฟินระดับ100 กับความปังปุริเย่ของทางช้างเผือก(Milky way Galaxy) ไม่ต้องถามหา ช้างกูอยู่ไหน มันอยู่ที่นี่จ้า(จริงๆมันอยู่ทุกที่นะคะ เผื่อใครอยากพบเจอช้างกันสักครั้ง มันอาศัยความมืดสนิท ไร้แสงรบกวน ถ้าฟ้าเคลียร์ ก็มีสิทธิจะได้เห็นกัน โดยจะสังเกตได้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงปลายเดือนตุลาคมค่ะ

ก่อนจะเริ่มเดินทางเปลี่ยนจังหวัดจากปัตตานีไปยะลา ฝากกระทู้ที่แล้วเราพาเที่ยว1วัน1คืนกับจุดเช็คอินในจ.ปัตตานี ใครที่สนใจแต่ยังไม่ได้อ่าน ย้อนกลับไปดูกันได้ที่>>>
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การเดินทางใน3จังหวัดชายแดนใต้นี้ ส่วนที่เป็นอุปสรรคในการเดินทางมากที่สุดสำหรับเราก็คือเวลาที่เดินทางค่อนข้างนาน ยิ่งถ้ารถโดยสารสาธารณะแล้วนั้นน่าจะเพลียกันไปข้าง และค่าใช้จ่ายรถโดยสารนี่แหละค่ะที่กินเงินค่าทริปเราไปมากสุด 

เริ่มต้นวันที่สอง ของทริป3จังหวัดชายแดนใต้ หลังจากที่เราแวะทานอาหารเช้าไปแล้ว ก็แวะเติมน้ำมันก่อนจะคืนรถไป92บาท ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์200บาท ส่วนปั๊มมีตรงวงเวียนหอนาฬิกา จะอยู่ใกล้ร้านที่เราเช่ารถเลยค่ะ

การเดินทางข้ามจังหวัดจากปัตตานีไปอ.เบตง ไม่มีรถตรงถึงนะคะ ต้องไปต่อรถในตัวเมืองยะลาเข้าอ.เบตง ซึ่งมีหลายวิธีค่ะ...
จากปัตตานี-ยะลา
- โดยสารรถจากขนส่งปัตตานีไปยะลา ( เข้าไปชมตารางการเดินรถได้ที่นี่ http://bus.pattanipao.go.th/?i=bustime
- รถไฟจากปัตตานีไปยะลา ต้องตรวจสอบรอบเวลาการเดินรถก่อนจะได้ไม่รอเสียเที่ยวน๊า
- แบบเหมารถ คือที่จังหวัดปัตตานีและยะลาเขาจะใช้รถเบนซ์เก่าๆมาทำเป็นแท็กซี่โดยสารค่ะ ค่ารถแท็กซี่400บาท เบอร์ติดต่อ 087-3977732  
จากยะลา-เบตง
- รถตู้ที่สหยะลาขนส่งเข้าเบตง เราไม่ทราบค่าโดยสาร โทรสอบถามที่เบอร์ 073-214123 ค่ะ
- โดยสารรถเบนซ์แท็กซี่ซึ่งคิวรถจะอยู่ข้างๆสถานีรถไฟยะลาเลยค่ะ คิววิศิษฐ์มีทั้งแบบเหมา780บาทและจอยกัน4คนคนละ195บาท เบอร์ติดต่อ 073-212161 , 073-230447

*ซึ่งแน่นอนว่าเราเหมาทั้งปัตตานี-ยะลา ยะลา-เบตงค่ะเพราะไม่รู้ต้องรอผู้โดย ท่านอื่นๆอีกนานแค่ไหน วิธีนี้เลยคิดว่าสะดวกและเซฟเวลาได้มากสุด เราเอามอเตอร์ไซค์ที่เช่าไปคืนแล้วก็โทรเรียกมารับที่ร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์เลยค่ะ ค่ารถแท็กซี่400บาท เบอร์ติดต่อ 087-3977732  ให้เขามาส่งที่คิวรถแท็กซี่เลย ซึ่งคิวรถจะอยู่ข้างๆสถานีรถไฟยะลาค่ะ คิววิศิษฐ์มีทั้งแบบเหมา780บาทและจอยกัน4คนคนละ195บาท เบอร์ติดต่อ 073-212161 , 073-230447 
***รวมค่ารถจากปัตตานีถึงยะลา 1,180บาท ก็ตกคนละ590บาท รวมตัวกับเพื่อนๆไปสัก4คนน่าจะช่วยแบ่งเบากันไปได้ค่ะ
***สำเนียงของคนท้องถิ่นจะฟังยากนิดนึง เหมือนเขามีสำเนียงมีภาษาเป็นของตัวเองที่เราอาจจะไม่คุ้นชินหู อาจจะมีความสื่อสารกันยากหน่อย
***สำหรับทั้งรถตู้และรถเบนซ์แท็กซี่(ในกรณีจอยกัน)จะออกก็ต่อเมื่อคนเต็ม ถ้าไปได้จังหวะก็ไม่ต้องรอนาน อันนี้คือไปลุ้นเอาค่ะว่าจะเสียเวลารอคนครบนานมั้ย

จากปัตตานีมายะลาก็ใช้เวลา30-40นาที ส่วนอำเภอเบตงอยู่ห่างจากตัวเมืองยะลา120กว่ากม. ใช้เวลาขับรถราว2ชั่วโมงครึ่ง( ขึ้นอยู่กับระดับความเร็วในการขับเคลื่อน ส่วนรถที่เราได้ขอถอนหายใจ22รอบ #รถไม่แรงแซงไปเลยจ้า ) ลักษณะทางโค้งไปตามเขา ขับขี่ไม่ยาก(เพราะไม่ได้ขับเอง อิอิ) จริงๆแล้วเราก็อยากแวะในตัวเมืองยะลาแต่เวลาไม่พอ ก็เข้าเบตงเลยค่ะ 

ข้อเสียของการนั่งแท็กซี่เบนซ์คือ มันร้อนมากๆๆๆๆๆเลย ไม่มีแอร์ และจากยะลา-เบตงได้รถที่ขับช้ามากเหมือนกลัวรถจะพัง เพราะได้ยินเสียงเครื่องเหมือนอะไหล่จะหลุดตลอด ก็เข้าใจนะคะว่ารถเก่าแล้ว มันคลาสสิคค่ะ ใครบอกมาเบตงต้องลองนั่ง บอกเลยว่านั่งเอาบรรยากาศระยะสั้นมันโอเค แต่นั่งนานด้วยสภาพอากาศร้อนและขับช้าถ้ามีตัวเลือกอื่นเราคงไม่นั่งอีก อันนี้แล้วแต่บุคคลนะคะ บางคนอาจจะชอบรู้สึกดี แต่เราก็ชอบนะแต่รู้สึกไม่ค่อยดีเพราะด้วยสภาพอากาศมันร้อนมากและขับช้าด้วยแหละ มันเลยไม่มีลม ร้อนขนาดไหนก็ลองจินตนาการเวลาเราจอดรถไว้กลางแดด แล้วเข้าไปนั่งตอนนั้นโดยไม่เปิดแอร์แล้วจะรู้ว่าเราพูดว่าร้อนๆคือมันร้อนจริง

1ในเหตุผลที่เลือกเหมารถจากยะลามาเบตงเลยหลักๆคือไม่อยากเสียเวลารอรถเต็ม และนี่เลยค่ะ ก่อนจะเข้าสู่เขตอำเภอธารโต เราจะได้พบกับสะพานข้ามเขื่อนบางลาง ถ้าโดยสารรถตู้มันแวะระหว่างทางไม่ได้ แต่ถ้าคุณเหมาแท็กซี่มาเลย บอกเขาให้แวะจอดสักแปปเขายินดีจอดให้เราค่ะ และนี่คือภาพความอุดมสมบูรณ์ของแนวผืนป่าฮาลาบาลา ป่าใต้นี่เขียวชื่นใจดีจริงๆ แทบไม่เห็นเขาหัวโล้นเลย ภายในเขื่อนสามารถนั่งเรือชมวิวได้ด้วยนะคะ จะมีทริปชุมชนอยู่ แต่เวลาเราไม่อำนวยจำต้องเลือกเลยต้องตัดทริปล่องเรือออกค่ะ

หลังจากฝ่าแดดฝ่าฝนฝ่าโค้งมา3ชั่วโมงได้ ก็มาถึงที่พักสุดฮิตในเมืองเบตง กับที่นี่ Foto Hostel ที่พักราคาหลักร้อยเริ่มต้นที่250บาท(ช่วงโปรโมชั่น ถึงสิ้นปี2563) อยู่ใจกลางเมืองเบตง ใกล้กับวงเวียนหอนาฬิกามากๆ เป็นศูนย์กลางที่สามารถเดินเที่ยวเล่นบริเวณโดยรอบได้เลยค่ะ เราพักที่นี่1คืน ห้องพักจะตั้งตามชื่อสถานที่ท่องเที่ยวค่ะแต่ละห้องก็เป็นเตียง2ชั้นมี4เตียงบ้าง 6เตียงบ้าง แต่ละเตียงมีปลั๊กไฟ ไว้บนหัวเตียง ที่แขวนผ้าทุกเตียงค่ะ จะเป็นห้องน้ำรวมนะคะ สะอาดดีค่ะ เรามาพักในวันเสาร์ก็จะราคาคนละ300บาท 

เก็บกระเป๋าเสร็จ เราก็ไปสำรวจโดยรอบกัน โดยได้ทำการติดต่อขอเช่ามอเตอร์ไซค์จากFoto Hostel ไว้แล้วราคา300บาทต่อวัน
 
เราแว้นออกจากตัวเมืองเบตงไปที่ป้ายสุดแดนสยาม ติดกับชายแดนมาเลเซีย ฝนก็ตกมาแบบขี่ต่อไม่ได้ ก็เลยจอดหลบฝนกันสักพักดีที่มีความเตรียมเสื้อกันฝนไปด้วย เวลานั้นประมาณ4โมงครึ่ง ได้เวลาด่านปิดประตูพอดี เราเลยใช้เวลาแค่แปปเดียวก็กลับ ระหว่างทางถนนดี วิวหลังฝนตกก็ดี บรรยากาศดี นี่แหละเหตุผลของการเดินทาง ระยะทางมักมีช่วงเวลาให้น่าจดจำเสมอ และก็ได้ผ่านมัสยิดกลางเบตงห่างจากตัวเมือง600เมตรได้ เลยขอเข้าไปเก็บภาพเป็นที่ระลึกหน่อย

เอาจริงๆคือ Plan is no Plan แพลนอะไรมาก็ได้แค่แพลนให้รู้คร่าวๆถึงเวลาจริงก็ไม่ใช่อย่างที่เราคิดเสมอไป เราก็แค่ปล่อยมันไปตามสถานการณ์ใช้เวลาตรงนั้นให้แฮปปี้ก็พอ เรากลับมาถึงในเมือง จอดมอเตอร์ไซค์ไว้แล้วเดินเล่น ชมStreet Art เลาะไปเรื่อย ภาพสวยๆทั้งนั้นค่ะ
*ชมStreet Art3จังหวัดชายแดนใต้เพิ่มเติมได้ที่>>>
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

และรอบๆวงเวียนนาฬิกา ก็มีจุดให้ได้เช็คอินถ่ายรูปอัพโซเชี่ยลอีกหลายจุด เริ่มจาก
- ตู้ไปรษณีย์ยักษ์
- อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์
- วงเวียนหอนาฬิกา
- ตึกสีๆ
และที่ที่อยากให้ไปคือ ศูนย์กีฬากลางหุบเขาและสวนสุดสยาม เป็นสวนสาธารณะและสนามกีฬา ทางไปคือลอดอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ไปแล้วขับขึ้นเขาไปหน่อย มันเป็นสถานที่ให้คนได้มาออกกำลังกาย มาพักผ่อนได้ดีมากอ่ะแก และยังชมวิวเมืองจากพิพิธภัณฑ์เมืองเบตงได้อีกด้วย น่าเสียดายเราขึ้นไปช้า เขากั้นปิดแล้วได้แต่แอบซูมไปได้มาภาพนึง

ตั้งแต่เล่าเรื่องมา จะสังเกตุว่าเราไม่ค่อยได้พูดถึงจุดตรวจของทหารเลย ไม่ใช่ไม่มีนะคะ มีเยอะเลยแหละ ระหว่างทางที่ผ่านแรกๆตื่นเต้นผ่านเรื่อยๆเริ่มมีความชินคงความรู้สึกเดียวกับคนในพื้นที่3จังหวัดชายแดนใต้ละมั้ง ภายใต้ความน่ากลัวมันมีความอุ่นใจ พี่ๆทหาร ตำรวจ อาสาสมัครทุกคนใน3จังหวัดชายแดนใต้ต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมากๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ

มาถึงถิ่นก็ต้องอินแล้วแหละ กับร้านอาหารต้าเหยิน ที่พี่ฟก เจ้าของโฮสเทลแนะนำมา เมนูที่มาต้องสั่งก็คือไก่เบตง เคาหยก แต่ละจานได้เยอะนะคะ ราคารวมก็5ร้อยกว่าบาท (คิดถึงไก่เบตง อยากกินอีก) 

ทานเสร็จก็ไปเดินย่อยกันหน่อย กับมุมเสาไฟฟ้าวงเวียนนาฬิกาที่มีนกมาเกาะจนน่าขนลุก คือมันเยอะมากกกกกกกก มาจากไหนกัน และก็เดินต่อไปถ่ายไฟที่อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ค่ะ 

เวลาที่นี่เดินช้าจัง เหมือนอยากหยุดเวลาไว้ที่ความสุขตรงนี้แหละ ใกล้ๆโฟโต้โฮสเทล จะมีร้านให้นั่งดื่มได้ จะกาแฟ หรือแอลกอฮอล์ ใครอยากนั่งชิลๆก่อนก็มาที่ร้านนี้ได้ค่ะ จะอยู่ในส่วนของด้านล่าง Modern Thai Hotel

จบคืนที่สองอย่างสวยงาม พบกับรุ่งสางวันที่สามของทริป3จังหวัดชายแดนใต้ต่อกันที่commentค่ะ
v
v
v
ชื่อสินค้า:   เบตง ยะลา ฆูนุงซีลีปัต อัยเยอร์เวง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่