สวัสดีค่ะ ขอใช้พื้นที่ตรงนี้พูดความในใจเรื่องราวทั้งหมดที่มี
ดิฉันมีปัญหามากมายที่กำลังเจอ เรื่องเริ่มจาก ฉันได้คบกับคนๆนึงขอใช้นามสมมุติว่า #ทิว ในคำว่าคบในที่นี้คือแอบคบกันค่ะ เขามีแฟนอีกคนอยู่แล้ว เขาเป็น ตร. ฉันและพี่ทิวเราเริ่มความจากคำว่าเพื่อน สนิทกันเริ่มเล่นถึงเนื้อถึงตัวกันมากขึ้น ช่วงที่เราตกลงคบกันคือช่วงที่แฟนเขาท้องแล้วย้ายกลับไปอยู่ต่างจังหวัด ทำให้เรามีเวลาคุยกันเล่นกันมากขึ้น จนความสนิททำให้เรากลายเป็นมากกว่าเพื่อน ด้วยความที่เราสนิทกันมากเล่าทุกอย่างทุกเรื่องเราเลยเป็นทุกๆความสบายใจของเขา ขอย้อนกลับไปเรื่องแฟนของพี่ทิว เขาอายุมากกว่าพี่ทิว เขาออกจะดูเป็นคนโรคจิตนิดๆ แบบพวกจิตไม่ปกติ พี่ทิวจึงไม่กล้าพูดหรือระบายอะไรกับเขาทำให้ทุกเวลาที่พี่ทิวอยู่กับคนนั้น พี่ทิวจะเป็นอีกคนที่ต่างจากอยู่กับเรา พี่ทิวจะพูดเสมอว่าอยู่กับฉันเขาเป็นตัวของตัวเองพูดเล่นได้หัวเราะได้ ต่างจากอยู่กับอีกคนต้องเป็นผู้นำเป็นผู้ใหญ่มากๆ จนมาเกิดเรื่อง ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น เรากับพี่ทิวอยู่ด้วยกันตลอด 1 ปี อยู่ด้วยกันทุกวันโดยที่แฟนเขาอีกคนไม่รู้ นานๆทีพี่ทิวจะกลับไปหาที่ต่างจังหวัดทีนึง เราไม่เคยไปก้าวก่ายเรื่องของเขาสองคน เราอยู่ในที่ของเรา รู้สถานะตัวเองดี จนวันที่ทุกอย่างเลวร้าย ก่อนหน้าวันเกิดเหตุ เรากับพี่ทิวคุยและตกลงกันแวว่าทางพี่ทิวจะไปรับผู้หญิงคนนั้นกลับมาอยู่กรุงเทพ ซึ่งความจริงคือพี้ทิวไม่อยากให้มาแต่ทางผู้หญิงคนนั้นอยากมา พี่ทิวพยายามพลัดมาแล้วหลายต่อหลายครั้งจนหมดคำแก้ตัว คืนวันที่ 3 มิถุนายน เรานอนคุยกันว่าจะเอาอย่างไรต่อ เราร้องไห้แล้วพี่ทิวบอกว่าจะมาหาเราทุกวัน ให้เราอดทนอีกนิดเขาจะหาทางเลิกกับทางนั้นให้ได้ แล้วพี่ทิวก็พูดว่าอยากไปเที่ยวไหม เราจึงตกลงกันไปเที่ยวหัวหิน เช้ามืดวันนั้นพี่ทิวออกเวรก็โทรบอกให้เราอาบน้ำแต่งตัวจะไปรับไปหัวหิน จนเรามาถึงหัวหินตอน 12:30น. ไปเห็นที่พักไม่ตรงปกไม่เหมือนในรูปที่จองไว้จึงโมโหและไม่โอเคจึงตีรถจากหัวหินกลับกรุงเทพทันทีมาถึงห้อตอน 5 โมงเย็น พี่ทิวก็นอนจนตอน 3 ทุ่มมีคนโทรมาตามว่ามีงานด่วนให้พี่ทิวรีบไป เขาจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปทำงาน ก่อนออกจากห้องเราได้คุยโทรศัพท์กับยายอยู่ พี่ทิวยืนหน้าประตูแล้วพูดว่าพี่ไปแล้วนะ เราก็พะยักหน้า พี่ทิวเดินไปกดลิฟแล้วเดินกลับเปิดประตูห้องพูดอีกครั้งว่าพี่ไปแล้วนะ เราก็ไม่ได้สนใจอะไร จากคอนโดถึงโรงพักใช้เวลาประมาณ 3 นาที พอถึงโรงพักพี่ทิววีดีโอคอลมาบอกพี่มีงานด่วน พี่ไปทำงานก่อนนะ และถ่ายรูปตัวเองกำลังขึ้นมอไซค์ออกทำงาน นั้นคือคำพูดสุดท้าย ผ่านไป 30 นาที เราได้ยินเสียงรถร่วมดังสนั่นเราเลยพูดออกมาคนเดียวพูดแบบมีเสียงไม่ได้คิดในใจนะพูดว่าเสียงดังสนั่นขนาดนี้รีบไปรับใครนักหนา แล้วเราก็ลงคอนโดมาขี่รถไปซื้อก๊วยเตี๋ยวและก็ถ่ายรูปร้านก๊วยเตี๋ยวส่งให้พี่ทิวเพื่อถามว่าอยากกินไหม แต่ไม่มีการตอบกับ สิ้นสุดข้อความที่พิมถาม มีสายโทรเข้าจสกผู้ใหญ่ที่เรานับถือบอกว่าให้เรามาที่โงพยาบาลด่วน ด้วยความที่เราเคยชินกับการที่เวลาเขาจัลผู้หญิงมาจะขอให้เราไปช่วยค้นตัวให้เราเยคิดว่าคงเรียกให้ไปแบบเดิม จึงตอบกลับไปว่าขอไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ เสียงในสายเริ่มสั่นแล้วพูดว่ารีบมาเลยชุดอะไรก็มาเลย เราเริ่มใจไม่ดีเยถามกลับไปว่ามีอะไรรึป่าว ปายสายตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีว่าพี่ทิวโดนรถชน พร้อมกับบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก คำที่บอกว่าไม่เป็นอะไรมากทำให้เราใจชื่นมาหน่อยจึงขี่รถไปบ้านเพื่อรับน้องชายให้ไปเป็นเพื่อน พอถึงบ้านตะโกนบอกน้องชายว่าให้รีบลงมาไป รพ
เป็นเพื่อนหน่อยพี่ทิวโดนรถชน น้องชายหน้าซีด ตัวสั่น ระหว่างขับรถไป รพ. น้องชายร้องไห้โหตลอดทางจนเราสงสัยเลยถามเป็นอะไร น้องชายพูดกลับมาว่าทำใจดีๆนะ เมื่อดี้เพื่อนผมขับรถผ่านตรงที่พี่ทิวโดนชน มันถ่ายรูปส่งมาให้ดูบอกว่าตำรวจโดนรถชนสภาพเละมากจนผมเองก็จำไม่ได้จนพี้มาบอกผมถึงรู้ว่าในรูปนั้นคือพี่ทิว ตอนนั้นทุกอย่างสตั๊นทันที ทุกอย่างหยุดเหมือนโลกทั้งโลกดับ พอมาถึงโรงพยาบาลเราวิ่งเลยพี่ทิวไปเพราะมองยังไงก็ไม่ใช่พี่ทิว ภาพที่เห็นคือชายนอนกองเต็มไปด้วยเลือด หน้ายุบไปทั้งหน้า แขนขาผิดรูป เราล้มลงทันที หมอพยายามช่วยเต็มที่ ปั้มหัวใจถึง 7 ครั้งจนหมอบอกไม่ไหวแล้ว ทางแฟนอีกคนของพี่ทิวเดินทางขึ้นกรุงเทพมาถึงโรงพยาบาล เราจึงกลับออกมาไปอาบน้ำ นาทีนั้นเองหมอบอกคนไข้ไม่ไหวแล้ว แต่ไม่ยอมไป เพราะเราเข้าเยี่ยมไม่ได้ แฟนอีกคนมันไม่ให้เราเข้า จนทุกๆคนต้องไปขอบอกให้เราเข้าไป เพราะพี่ทิวห่วงเรา พอเราเชข้าไปเราไปกระซิบข้างๆหู บอกมาถึงแล้วนะ เจ็บมากไหม อย่าทนเลยนะ มันทรมาน ทันใดนั้นเสียงเครื่องวัดชีพจรดังลั้นพยาบาลวิ่งมาบอกคนเจ็บไปแล้ว พอทุกอย่างจบ ทุกคนรับรู้ว่าเราคือเมียน้อย จนจบงานศพ เราเดินทางกลับและขนของออกจากคอนโดเพื่อกลับไปอยู่บ้าน เพูดตามตรง 6 เดือนแรกเราไม่มีกระจิตกระใจทำไรเลย ร้องไห้หลับอยู่แบบนี้ซ้ำๆ จนเพื่อนๆเริ่มเข้ามาหาเริ่มพาไปนั้นไปนี่ จนเรื่องมาเกิด ที่เพื่อนเราคนนึงไปชอบพี่ตำรวจคนนึงซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพี่ทิว แรกๆเราเห็นดีด้วย สนับสนุนอย่างดีเพราะเราอยากมีตัวตนในสายตาพวกเขา หลังจากที่ทุกคนรู้ว่าเราเป็นเมียน้อย เพื้อนๆพี่ทิวพากันเกียจเรา ( อันนี้เราคิดเองนะ เพราะบางคนก็ดีกับเราปกติ ก็มีบางคนที่ทำท่าทีรังเกียจเรา ) สรุปเพื่อนเรากับเพื่อนพี่ทิวเริ่มคุยเริ่มคบกัน เรื่องมาเกิดตรงที่เพื่อนเรามันดันกลับไปหาแฟนเก่ามัน จนเราขอร้องให้คุยดับเพื่อนพี่ทิวเหมือนเดิมได้ไหม มันเลยบอกว่างั้นเอางี้ ให้รหัสเฟส ไลน์เรามาเพื่อให้เราปลอมเป็นมันในขณะที่มันอยู่กับแฟนของมัน เราก็ทำยอมรับเลยจากใจว่าเราทำเพราะเงินด้วย เพื่อนพี่ทิวให้เงินเพื่อนเราทีละมากๆๆๆ มันก็จะแบ่งให้เราตลอด จนมาความแตกว่าเราเป็นคนปลอมไปคุยเขาจับได้ว่าเพื่อนเราอยู่กับผู้ชาย เพื่อนพี่ทิวโมโหมาก จนจะแจ้งจับเราข้อหาหลอกลวงประมานนี้ แต่คงเป็นเพราะเขาเห็นแก่พี่ทิวเลยยอมอ่อนลง ให้เรานำเงินมาคืนทั้งหมด แต่เพื่อนเรามันหนีไปแล้ว เราต้องรับกรรมนี้เพียงคนเดียว เวลาผ่านไปเพื้อนพี่ทิวใจเย็นลง เริ่มพูดคุยกับเรา ให้โอกาสเรามากขึ้น จนเรามาทำรับจำนำรถ รถหนีไฟแนนซ์ ออกไปทางธุระกิจสีเทา เราจึงเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนพี่ทิวคนนั้นฟัง ครั้งนึงพี่เขาเคยพูดว่ามีปัญหาอะไรให้เราบอกว่าเป็นน้องเขา เราก็ทำแบบนี้มาสักพักจนมีเงินเป็นล้านในช่วงเวลาไใากี่เดือน เรื่องเรามีเงินผิดหูผิดตาดังไปถึงแฟนพี่ทิวอีกคนและพักพวกเขาที่ไม่ชอบเรา เขาเริ่มใส่ร้ายเรา พูดให้คนอื่นเกียจเรา จนทำให้เรากับเพื่อนพี่ทิวคนนั้นเริ่มผิดใจกันอีกครั้ง แต่เราก็ยังคงทำเรื้องรถจำนำต่อไป และยังคงใช้ชื่อพี่เขาช่วยให้งานเราง่ายขึ้น ขนมาวันนึง ลูกน้องเราพลาด ไปเอารถแล้วโดนไฟแนนซ์กับตำรวจรวบตัว มันซัดทอดถุงเราถึงพี่คนนั้น แต่ตำรวจก้เงียบหายไปโดยที่เราไม่รู้ว่าเขาจะเอายังไงต่อ ตอนนี้เราเครียดมาก เครียดเรื่องที่ลูกน้องโดนจับ เรื่องใช้ชื่อเพื่อนพี่ทิวแอบอ้าง เราเครียดจนกอนไม่ได้นอนไม่หลับ จึงหลบมาอยู่ที่อื่น ไม่กล้าติดต่อใคร ในหัวมีแต่คำพูดตัวเองบอกตายๆไปซะทุกอย่างจะจบ เราเริ่มเหมือนคนบ้า เราเริ่มสับสน เริ้มหาวิธีอยากฆ่าตัวตาย เรามีแค่ยายแก่ๆเราไม่อยากให้เขาคิดมาก ไม่อยากให้รับรู้ เราคุบคนเดียว ตอบตัวเอง เราไม่กลัวที่จะโดนจับ แต่เรากลัวที่เขาชื่อเขามาใช้ เรากลัวที่จะมีคยเกียจเรา เรากลัวที่จะถูกมองด้วยสายตาดูถูก ชีวิตเราเริ่มตกลงที่ต่ำจนตอนนี้เงินเก็บที่มีหมด เริ่มเป็นหนี้มากมายโดยที่ไม่บอกใคร ไม่มีคนคุยด้วยไม่มีใครให้ปรึกษา เราควรทำยังไงดี ในหัวมีแต่การฆ่าตัวตาย
เคยเครียดมากๆจนอยากจะฆ่าตัวตายไหมค่ะ มีวิธีอย่างไรให้ผ่อนคลายได้บ้าง
ดิฉันมีปัญหามากมายที่กำลังเจอ เรื่องเริ่มจาก ฉันได้คบกับคนๆนึงขอใช้นามสมมุติว่า #ทิว ในคำว่าคบในที่นี้คือแอบคบกันค่ะ เขามีแฟนอีกคนอยู่แล้ว เขาเป็น ตร. ฉันและพี่ทิวเราเริ่มความจากคำว่าเพื่อน สนิทกันเริ่มเล่นถึงเนื้อถึงตัวกันมากขึ้น ช่วงที่เราตกลงคบกันคือช่วงที่แฟนเขาท้องแล้วย้ายกลับไปอยู่ต่างจังหวัด ทำให้เรามีเวลาคุยกันเล่นกันมากขึ้น จนความสนิททำให้เรากลายเป็นมากกว่าเพื่อน ด้วยความที่เราสนิทกันมากเล่าทุกอย่างทุกเรื่องเราเลยเป็นทุกๆความสบายใจของเขา ขอย้อนกลับไปเรื่องแฟนของพี่ทิว เขาอายุมากกว่าพี่ทิว เขาออกจะดูเป็นคนโรคจิตนิดๆ แบบพวกจิตไม่ปกติ พี่ทิวจึงไม่กล้าพูดหรือระบายอะไรกับเขาทำให้ทุกเวลาที่พี่ทิวอยู่กับคนนั้น พี่ทิวจะเป็นอีกคนที่ต่างจากอยู่กับเรา พี่ทิวจะพูดเสมอว่าอยู่กับฉันเขาเป็นตัวของตัวเองพูดเล่นได้หัวเราะได้ ต่างจากอยู่กับอีกคนต้องเป็นผู้นำเป็นผู้ใหญ่มากๆ จนมาเกิดเรื่อง ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น เรากับพี่ทิวอยู่ด้วยกันตลอด 1 ปี อยู่ด้วยกันทุกวันโดยที่แฟนเขาอีกคนไม่รู้ นานๆทีพี่ทิวจะกลับไปหาที่ต่างจังหวัดทีนึง เราไม่เคยไปก้าวก่ายเรื่องของเขาสองคน เราอยู่ในที่ของเรา รู้สถานะตัวเองดี จนวันที่ทุกอย่างเลวร้าย ก่อนหน้าวันเกิดเหตุ เรากับพี่ทิวคุยและตกลงกันแวว่าทางพี่ทิวจะไปรับผู้หญิงคนนั้นกลับมาอยู่กรุงเทพ ซึ่งความจริงคือพี้ทิวไม่อยากให้มาแต่ทางผู้หญิงคนนั้นอยากมา พี่ทิวพยายามพลัดมาแล้วหลายต่อหลายครั้งจนหมดคำแก้ตัว คืนวันที่ 3 มิถุนายน เรานอนคุยกันว่าจะเอาอย่างไรต่อ เราร้องไห้แล้วพี่ทิวบอกว่าจะมาหาเราทุกวัน ให้เราอดทนอีกนิดเขาจะหาทางเลิกกับทางนั้นให้ได้ แล้วพี่ทิวก็พูดว่าอยากไปเที่ยวไหม เราจึงตกลงกันไปเที่ยวหัวหิน เช้ามืดวันนั้นพี่ทิวออกเวรก็โทรบอกให้เราอาบน้ำแต่งตัวจะไปรับไปหัวหิน จนเรามาถึงหัวหินตอน 12:30น. ไปเห็นที่พักไม่ตรงปกไม่เหมือนในรูปที่จองไว้จึงโมโหและไม่โอเคจึงตีรถจากหัวหินกลับกรุงเทพทันทีมาถึงห้อตอน 5 โมงเย็น พี่ทิวก็นอนจนตอน 3 ทุ่มมีคนโทรมาตามว่ามีงานด่วนให้พี่ทิวรีบไป เขาจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปทำงาน ก่อนออกจากห้องเราได้คุยโทรศัพท์กับยายอยู่ พี่ทิวยืนหน้าประตูแล้วพูดว่าพี่ไปแล้วนะ เราก็พะยักหน้า พี่ทิวเดินไปกดลิฟแล้วเดินกลับเปิดประตูห้องพูดอีกครั้งว่าพี่ไปแล้วนะ เราก็ไม่ได้สนใจอะไร จากคอนโดถึงโรงพักใช้เวลาประมาณ 3 นาที พอถึงโรงพักพี่ทิววีดีโอคอลมาบอกพี่มีงานด่วน พี่ไปทำงานก่อนนะ และถ่ายรูปตัวเองกำลังขึ้นมอไซค์ออกทำงาน นั้นคือคำพูดสุดท้าย ผ่านไป 30 นาที เราได้ยินเสียงรถร่วมดังสนั่นเราเลยพูดออกมาคนเดียวพูดแบบมีเสียงไม่ได้คิดในใจนะพูดว่าเสียงดังสนั่นขนาดนี้รีบไปรับใครนักหนา แล้วเราก็ลงคอนโดมาขี่รถไปซื้อก๊วยเตี๋ยวและก็ถ่ายรูปร้านก๊วยเตี๋ยวส่งให้พี่ทิวเพื่อถามว่าอยากกินไหม แต่ไม่มีการตอบกับ สิ้นสุดข้อความที่พิมถาม มีสายโทรเข้าจสกผู้ใหญ่ที่เรานับถือบอกว่าให้เรามาที่โงพยาบาลด่วน ด้วยความที่เราเคยชินกับการที่เวลาเขาจัลผู้หญิงมาจะขอให้เราไปช่วยค้นตัวให้เราเยคิดว่าคงเรียกให้ไปแบบเดิม จึงตอบกลับไปว่าขอไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ เสียงในสายเริ่มสั่นแล้วพูดว่ารีบมาเลยชุดอะไรก็มาเลย เราเริ่มใจไม่ดีเยถามกลับไปว่ามีอะไรรึป่าว ปายสายตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีว่าพี่ทิวโดนรถชน พร้อมกับบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก คำที่บอกว่าไม่เป็นอะไรมากทำให้เราใจชื่นมาหน่อยจึงขี่รถไปบ้านเพื่อรับน้องชายให้ไปเป็นเพื่อน พอถึงบ้านตะโกนบอกน้องชายว่าให้รีบลงมาไป รพ
เป็นเพื่อนหน่อยพี่ทิวโดนรถชน น้องชายหน้าซีด ตัวสั่น ระหว่างขับรถไป รพ. น้องชายร้องไห้โหตลอดทางจนเราสงสัยเลยถามเป็นอะไร น้องชายพูดกลับมาว่าทำใจดีๆนะ เมื่อดี้เพื่อนผมขับรถผ่านตรงที่พี่ทิวโดนชน มันถ่ายรูปส่งมาให้ดูบอกว่าตำรวจโดนรถชนสภาพเละมากจนผมเองก็จำไม่ได้จนพี้มาบอกผมถึงรู้ว่าในรูปนั้นคือพี่ทิว ตอนนั้นทุกอย่างสตั๊นทันที ทุกอย่างหยุดเหมือนโลกทั้งโลกดับ พอมาถึงโรงพยาบาลเราวิ่งเลยพี่ทิวไปเพราะมองยังไงก็ไม่ใช่พี่ทิว ภาพที่เห็นคือชายนอนกองเต็มไปด้วยเลือด หน้ายุบไปทั้งหน้า แขนขาผิดรูป เราล้มลงทันที หมอพยายามช่วยเต็มที่ ปั้มหัวใจถึง 7 ครั้งจนหมอบอกไม่ไหวแล้ว ทางแฟนอีกคนของพี่ทิวเดินทางขึ้นกรุงเทพมาถึงโรงพยาบาล เราจึงกลับออกมาไปอาบน้ำ นาทีนั้นเองหมอบอกคนไข้ไม่ไหวแล้ว แต่ไม่ยอมไป เพราะเราเข้าเยี่ยมไม่ได้ แฟนอีกคนมันไม่ให้เราเข้า จนทุกๆคนต้องไปขอบอกให้เราเข้าไป เพราะพี่ทิวห่วงเรา พอเราเชข้าไปเราไปกระซิบข้างๆหู บอกมาถึงแล้วนะ เจ็บมากไหม อย่าทนเลยนะ มันทรมาน ทันใดนั้นเสียงเครื่องวัดชีพจรดังลั้นพยาบาลวิ่งมาบอกคนเจ็บไปแล้ว พอทุกอย่างจบ ทุกคนรับรู้ว่าเราคือเมียน้อย จนจบงานศพ เราเดินทางกลับและขนของออกจากคอนโดเพื่อกลับไปอยู่บ้าน เพูดตามตรง 6 เดือนแรกเราไม่มีกระจิตกระใจทำไรเลย ร้องไห้หลับอยู่แบบนี้ซ้ำๆ จนเพื่อนๆเริ่มเข้ามาหาเริ่มพาไปนั้นไปนี่ จนเรื่องมาเกิด ที่เพื่อนเราคนนึงไปชอบพี่ตำรวจคนนึงซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพี่ทิว แรกๆเราเห็นดีด้วย สนับสนุนอย่างดีเพราะเราอยากมีตัวตนในสายตาพวกเขา หลังจากที่ทุกคนรู้ว่าเราเป็นเมียน้อย เพื้อนๆพี่ทิวพากันเกียจเรา ( อันนี้เราคิดเองนะ เพราะบางคนก็ดีกับเราปกติ ก็มีบางคนที่ทำท่าทีรังเกียจเรา ) สรุปเพื่อนเรากับเพื่อนพี่ทิวเริ่มคุยเริ่มคบกัน เรื่องมาเกิดตรงที่เพื่อนเรามันดันกลับไปหาแฟนเก่ามัน จนเราขอร้องให้คุยดับเพื่อนพี่ทิวเหมือนเดิมได้ไหม มันเลยบอกว่างั้นเอางี้ ให้รหัสเฟส ไลน์เรามาเพื่อให้เราปลอมเป็นมันในขณะที่มันอยู่กับแฟนของมัน เราก็ทำยอมรับเลยจากใจว่าเราทำเพราะเงินด้วย เพื่อนพี่ทิวให้เงินเพื่อนเราทีละมากๆๆๆ มันก็จะแบ่งให้เราตลอด จนมาความแตกว่าเราเป็นคนปลอมไปคุยเขาจับได้ว่าเพื่อนเราอยู่กับผู้ชาย เพื่อนพี่ทิวโมโหมาก จนจะแจ้งจับเราข้อหาหลอกลวงประมานนี้ แต่คงเป็นเพราะเขาเห็นแก่พี่ทิวเลยยอมอ่อนลง ให้เรานำเงินมาคืนทั้งหมด แต่เพื่อนเรามันหนีไปแล้ว เราต้องรับกรรมนี้เพียงคนเดียว เวลาผ่านไปเพื้อนพี่ทิวใจเย็นลง เริ่มพูดคุยกับเรา ให้โอกาสเรามากขึ้น จนเรามาทำรับจำนำรถ รถหนีไฟแนนซ์ ออกไปทางธุระกิจสีเทา เราจึงเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนพี่ทิวคนนั้นฟัง ครั้งนึงพี่เขาเคยพูดว่ามีปัญหาอะไรให้เราบอกว่าเป็นน้องเขา เราก็ทำแบบนี้มาสักพักจนมีเงินเป็นล้านในช่วงเวลาไใากี่เดือน เรื่องเรามีเงินผิดหูผิดตาดังไปถึงแฟนพี่ทิวอีกคนและพักพวกเขาที่ไม่ชอบเรา เขาเริ่มใส่ร้ายเรา พูดให้คนอื่นเกียจเรา จนทำให้เรากับเพื่อนพี่ทิวคนนั้นเริ่มผิดใจกันอีกครั้ง แต่เราก็ยังคงทำเรื้องรถจำนำต่อไป และยังคงใช้ชื่อพี่เขาช่วยให้งานเราง่ายขึ้น ขนมาวันนึง ลูกน้องเราพลาด ไปเอารถแล้วโดนไฟแนนซ์กับตำรวจรวบตัว มันซัดทอดถุงเราถึงพี่คนนั้น แต่ตำรวจก้เงียบหายไปโดยที่เราไม่รู้ว่าเขาจะเอายังไงต่อ ตอนนี้เราเครียดมาก เครียดเรื่องที่ลูกน้องโดนจับ เรื่องใช้ชื่อเพื่อนพี่ทิวแอบอ้าง เราเครียดจนกอนไม่ได้นอนไม่หลับ จึงหลบมาอยู่ที่อื่น ไม่กล้าติดต่อใคร ในหัวมีแต่คำพูดตัวเองบอกตายๆไปซะทุกอย่างจะจบ เราเริ่มเหมือนคนบ้า เราเริ่มสับสน เริ้มหาวิธีอยากฆ่าตัวตาย เรามีแค่ยายแก่ๆเราไม่อยากให้เขาคิดมาก ไม่อยากให้รับรู้ เราคุบคนเดียว ตอบตัวเอง เราไม่กลัวที่จะโดนจับ แต่เรากลัวที่เขาชื่อเขามาใช้ เรากลัวที่จะมีคยเกียจเรา เรากลัวที่จะถูกมองด้วยสายตาดูถูก ชีวิตเราเริ่มตกลงที่ต่ำจนตอนนี้เงินเก็บที่มีหมด เริ่มเป็นหนี้มากมายโดยที่ไม่บอกใคร ไม่มีคนคุยด้วยไม่มีใครให้ปรึกษา เราควรทำยังไงดี ในหัวมีแต่การฆ่าตัวตาย