เศรษฐกิจเราแย่มาก่อนโควิด ช่วงนั้นเตาอั้งโล่ขายดี
โควิดมาปุ๊บ เหมือนฟางเส้นสุดท้ายมีแต่คนโดนกระทบ เรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือกันระนาว
โควิดไม่จบง่ายเหมือนที่คิด ลากยาวจากต้นปี มาปลายปีแล้ว
รอบๆบ้านเราและทั่วโลก ยังวิกฤติ
ภาคการท่องเที่ยว ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เสือนอนกินแบบ aot ยังสะเทือน ต้องคิดใหม่ทำใหม่ ลดความพรี่เมี่ยมของราคาหุ้นลง และอาจลงได้อีกเยอะมาก
สายการบินบางสายจบเห่ ก่อนหน้านั้นก็ตีนก่ายหน้าผากอยู่แล้ว เพราะกลุ่มนี้แข่งขันสูงมาก
โควิดมา หยุดบิน ลดการขาดทุนด้วยนะเออ ยิ่งบินยิ่งขาดทุน มันคืออิหยังวะ?
กลุ่มโรงแรม รีสอร์ท โฮมสเตย์ ฟองสบู่มากมาแต่ก่อนโควิดแล้ว แห่ทำตามๆกันเหมือนร้านกาแฟ
หลังจากนี้คงมีดับไปเรื่อยๆ ผมเดาว่าจะเจ๊งไม่ต่ำกว่า 70% โดยเฉพาะทำเลที่ไม่ดี
กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม กู่ไม่กลับ นลท. หนีไปเพื่อนบ้านหมด บางนิคม เหมือนป่าช้าร้าง
อสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย ของใหม่ชละการก่อสร้าง
ของเก่าขายไม่ได้ กลุ่มนี้เน่ามาก่อนหน้า 2-3 ปี แล้ว แต่นับจากนี้มันจะหนักยิ่งกว่า
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ มันจะตีกลับมาที่กลุ่มสถาบันการเงินทั้งหลาย รอระเบิด npl ที่ไม่เคยเจอมาก่อน
กลุ่มยานยนต์ก็เน่า ดีลเลอร์ฟองสบู่มาก เยอะกว่าคนซื้อรถอีก ขาดทุนสะสมเยอะมาก(จากที่ดูข่าว)
เต๊นท์รถมือ2 ไม่ต้องพูดถึง ก่อนหน้านี้ก็เน่า ล้มหายตายจากไปเยอะ เต๊นท์ที่มีอยู่ก็ฝุ่นจับรถหนาเป็นคืบ
กลุ่มซื้อหนี้เน่า ทรัพย์ติดมือ ขายไม่ได้ มีค่าใช้จ่ายตลอด เน่าตามๆกันไป
บัณฑิตจบใหม่ ตำแหน่งงานประจำจะน้อยลงไปเรื่อยๆ
จะตกงานสะสมกันเรื่อยๆ วงการการศึกษาต้องคิดใหม่ทำใหม่
นักศึกษาก็น้อยลง ชนชั้นกลางก็ไม่ค่อยมีลูกเพราะค่าใช้จ่ายสูง
การเมือง ไม่ต้องพูดถึง
ด้วยเหตุนี้ผมจึงเลือกที่จะอยู่เฉยๆ ไม่ลงทุนในหุ้น เว้นแต่เดย์เทรดเล็กๆน้อยๆฆ่าเวลา
บางคนอาจบอกว่า เฮ้ย... รู้ขนาดนี้ทำไมไม่ s ไม่ put ล่ะ
ขอตอบว่า ผมไม่เล่นฟิวเจอร์ใดๆครับ ไม่สนับสนุนผลิตภัณฑ์แบบนี้
ปกติไม่ค่อยพิมพ์ยาวเท่าไร แต่พิมพ์แล้ว ถ้าคนมาอ่านแล้วคิดได้ ผมก็ได้บุญไปด้วย
แต่ทั้งหมดทั้งมวล ผมอาจมโนไปเอง
รันทด!!!!!!! ภายใน 1-3 ปีนี้ set ไม่น่าจะกลับมาง่ายๆ และอาจไป 900 > 800 > 700 ... (เหตุผลด้านใน)
โควิดมาปุ๊บ เหมือนฟางเส้นสุดท้ายมีแต่คนโดนกระทบ เรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือกันระนาว
โควิดไม่จบง่ายเหมือนที่คิด ลากยาวจากต้นปี มาปลายปีแล้ว
รอบๆบ้านเราและทั่วโลก ยังวิกฤติ
ภาคการท่องเที่ยว ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เสือนอนกินแบบ aot ยังสะเทือน ต้องคิดใหม่ทำใหม่ ลดความพรี่เมี่ยมของราคาหุ้นลง และอาจลงได้อีกเยอะมาก
สายการบินบางสายจบเห่ ก่อนหน้านั้นก็ตีนก่ายหน้าผากอยู่แล้ว เพราะกลุ่มนี้แข่งขันสูงมาก
โควิดมา หยุดบิน ลดการขาดทุนด้วยนะเออ ยิ่งบินยิ่งขาดทุน มันคืออิหยังวะ?
กลุ่มโรงแรม รีสอร์ท โฮมสเตย์ ฟองสบู่มากมาแต่ก่อนโควิดแล้ว แห่ทำตามๆกันเหมือนร้านกาแฟ
หลังจากนี้คงมีดับไปเรื่อยๆ ผมเดาว่าจะเจ๊งไม่ต่ำกว่า 70% โดยเฉพาะทำเลที่ไม่ดี
กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม กู่ไม่กลับ นลท. หนีไปเพื่อนบ้านหมด บางนิคม เหมือนป่าช้าร้าง
อสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย ของใหม่ชละการก่อสร้าง
ของเก่าขายไม่ได้ กลุ่มนี้เน่ามาก่อนหน้า 2-3 ปี แล้ว แต่นับจากนี้มันจะหนักยิ่งกว่า
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ มันจะตีกลับมาที่กลุ่มสถาบันการเงินทั้งหลาย รอระเบิด npl ที่ไม่เคยเจอมาก่อน
กลุ่มยานยนต์ก็เน่า ดีลเลอร์ฟองสบู่มาก เยอะกว่าคนซื้อรถอีก ขาดทุนสะสมเยอะมาก(จากที่ดูข่าว)
เต๊นท์รถมือ2 ไม่ต้องพูดถึง ก่อนหน้านี้ก็เน่า ล้มหายตายจากไปเยอะ เต๊นท์ที่มีอยู่ก็ฝุ่นจับรถหนาเป็นคืบ
กลุ่มซื้อหนี้เน่า ทรัพย์ติดมือ ขายไม่ได้ มีค่าใช้จ่ายตลอด เน่าตามๆกันไป
บัณฑิตจบใหม่ ตำแหน่งงานประจำจะน้อยลงไปเรื่อยๆ
จะตกงานสะสมกันเรื่อยๆ วงการการศึกษาต้องคิดใหม่ทำใหม่
นักศึกษาก็น้อยลง ชนชั้นกลางก็ไม่ค่อยมีลูกเพราะค่าใช้จ่ายสูง
การเมือง ไม่ต้องพูดถึง
ด้วยเหตุนี้ผมจึงเลือกที่จะอยู่เฉยๆ ไม่ลงทุนในหุ้น เว้นแต่เดย์เทรดเล็กๆน้อยๆฆ่าเวลา
บางคนอาจบอกว่า เฮ้ย... รู้ขนาดนี้ทำไมไม่ s ไม่ put ล่ะ
ขอตอบว่า ผมไม่เล่นฟิวเจอร์ใดๆครับ ไม่สนับสนุนผลิตภัณฑ์แบบนี้
ปกติไม่ค่อยพิมพ์ยาวเท่าไร แต่พิมพ์แล้ว ถ้าคนมาอ่านแล้วคิดได้ ผมก็ได้บุญไปด้วย
แต่ทั้งหมดทั้งมวล ผมอาจมโนไปเอง