เปิดตัว Ferrari Portofino M ม้าลำพองเปิดประทุน คันล่าสุด 7 ล้านกลางๆ

กระทู้ข่าว
Ferrari เปิดตัว Ferrari Portofino M รถ GT แบบ 2 ที่นั่ง เปิดประทุนได้ ขุมพลัง V8 เทอร์โบ 620 แรงม้า, Manettino แบบ 5 โหมด รวมถึงโหมด Race และเกียร์ 8 จังหวะรุ่นใหม่
 
   
  
เครื่องยนต์ (ENGINE)
เครื่องยนต์ความจุ 3,855cc ของ Portofino M ซึ่งอยู่ในตระกูลของขุมพลัง V8 เทอร์โบ ที่ได้รับรางวัล “International Engine of the Year” ถึง 4 ปีซ้อน ได้รับการปรับแต่งให้ปลดปล่อยพละกำลังได้ถึง 620 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที มากกว่าเฟอร์รารี่ Portofino ถึง 20 แรงม้า 
แรงบิดที่ระดับ 760 นิวตันเมตร ที่ 3,000-5,750 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด รุ่นใหม่ 
ทำอัตราเร่ง 0-100 ใน 3.45 วินาที และ 0-200 ใน 9.8 วินาที  TopSpeed >320 กิโลเมตร/ชั่วโมง

การออกแบบ (DESIGN)
รูปโฉมที่งดงามกลมกลืนของ Ferrari Portofino M ใหม่ เป็นผลผลิตที่เกิดจากจากการออกแบบระดับโลก องค์ประกอบต่างๆ ถูกทำให้ดูหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว โดยต่อยอดความสำเร็จมาจากดีไซน์ของ Portofino สิ่งเหล่านี้ถูกนำมาใช้กับทั้งตัวถังภายนอก ที่ซึ่งด้านหน้า, ด้านข้าง และส่วนท้ายรถ ผสานกันราวกับเป็นประติมากรรมชิ้นเดียวไร้รอยต่อ และในห้องโดยสารที่จัดเรียงส่วนเว้าส่วนโค้งตลอดจนเส้นสายโดยรอบให้สอดประสานกันอย่างมีสไตล์ ความเชื่อมโยงนี้สามารถเห็นได้จากปฏิสัมพันธ์ระหว่างภายนอกและภายในของรถ


พลศาสตร์ยานยนต์ (VEHICLE DYNAMICS)
ระบบควบคุมเสถียรภาพของ Portofino M เป็นที่รู้จักอย่างดีว่าคือระบบ Side Slip Control (SSC) ซึ่งรวมเอาชุดคำสั่งที่ให้ค่าประเมินตามเวลาจริงของมุมลื่นไถลด้านข้างเพื่อส่งไปยังระบบควบคุมต่างๆ ระบบ SSC จะทำงานสอดประสานกับการเข้าแทรกแซงเสถียรภาพของรถทั้งหมด เนื่องจากระบบต่างๆ ใช้ข้อมูลร่วมกันเพื่อให้ปฏิบัติการได้อย่างเป็นหนึ่งเดียว
 
ระบบ SSC เจเนอเรชั่นที่ 6 นี้ รวมเอา E-Diff, F1-TCS, SCM-E Frs และระบบควบคุม Ferrari Dynamics Enhancer (FDE) เข้าไว้ด้วยกัน FDE คือระบบควบคุมพลศาสตร์แนวขวาง (Lateral Dynamics) ที่ใช้ซอฟต์แวร์ของเฟอร์รารี่ในการปรับแรงดันน้ำมันเบรกของคาลิเปอร์ที่ล้อทั้งสี่ ในเฟอร์รารี่ Portofino M ระบบจะเปิดการทำงานเมื่อปรับสวิตช์ Manettino ไปที่โหมด Race เท่านั้น ระบบ FDE ได้รับการออกแบบเพื่อทำให้สามารถคาดการณ์พลศาสตร์แนวขวางที่เกิดขึ้นกับรถได้ดียิ่งขึ้นทั้งในขณะที่เข้าและออกจากโค้ง ด้วยการช่วยปรับให้พวงมาลัยและคันเร่งเพื่อให้ผู้ขับสามารถควบคุมรถได้ง่ายยิ่งขึ้น กล่าวได้ว่า FDE ไม่ใช่ระบบควบคุมการทรงตัว และคอยให้ความช่วยเหลือมากกว่าที่จะเข้ามาเพื่อแทนที่ระบบ VDC และระบบควบคุมการทรงตัว (ESC)

ปัจจัยสำคัญอีกประการ คือการเพิ่มแรงกดให้กับแป้นเบรกมากยิ่งขึ้น เมื่อรวมกับการลดระยะทางของการเหยียบลงประมาณ 10% จึงให้การตอบสนองในขณะเบรกได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วกว่าเดิม
 
จุดประสงค์ของ Manettino แบบ 5 โหมด ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งในรถ GT เปิดประทุนของม้าลำพอง คือช่วยให้แฮนด์ลิ่งและการยึดเกาะของเฟอร์รารี่ Portofino M สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น ด้วยการเพิ่มโหมด Race เข้าไป โหมดนี้จะมุ่งเน้นไปที่อรรรสสูงสุดในการขับขี่ โดยทำงานร่วมกับระบบ Ferrari Dynamics Enhancer 


การตกแต่งภายนอก (EXTERIOR)
จากข้อเท็จจริงที่ว่า สมรรถนะของ Portofino M นั้นทรงพลังกว่า Portofino รุ่นมาตรฐาน ส่งผลให้เหล่านักออกแบบที่ Ferrari Styling Centre สามารถปรับเปลี่ยนดีไซน์ของรถเพื่อดึงบุคลิกของรถให้โดดเด่นและเน้นย้ำความเป็นรถสปอร์ตได้อย่างตรงประเด็นยิ่งขึ้น
กันชนหน้ามาพร้อมกับช่องรับอากาศอันงดงาม ช่วยขับให้ภาพลักษณ์ด้านหน้าของรถดุดัน นอกจากนั้นยังมีช่องระบายอากาศที่ด้านบนของซุ้มล้อ ซึ่งถูกเพิ่มเข้าไปเพื่อช่วยลดแรงต้านโดยรวมของรถ ส่วนหนึ่งของมวลอากาศที่ไหลออกมาจากแผงระบายความร้อนด้านหน้า จะถูกส่งตรงไปยังช่องระบายอากาศนี้ จากนั้นอากาศจะถูกเร่งความเร็วขึ้นเมื่อถูกปล่อยออกไป ผลลัพธ์ที่ได้จากการปรับปรุงประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์เห็นได้ชัดเจนจากการร่องที่กันชนหน้าซึ่งถูกเฉือนให้ดูไหลลื่นไปสู่ด้านข้างของตัวรถ เพิ่มภาพลักษณ์ที่กลมกลืนให้กับมุมมองด้านข้างได้เป็นอย่างดี และยังคงใช้เส้นสายด้านข้างที่เป็นเอกลักษณ์ของ Portofino มาจับคู่กับกันชนหน้าของ Ferrari Portofino M เพื่อเน้นให้เห็นเหลี่ยมสันของรถได้อย่างชัดเจน
กระจังหน้ามีครีบอลูมิเนียมแบบใหม่ที่มีสีตัดกัน ช่วยขับให้วัสดุคุณภาพสูงนี้โดดเด่นขึ้นที่ด้านท้าย ระบบไอเสียแบบใหม่ไม่มีหม้อพักไอเสียอีกต่อไป ส่งให้มุมมองด้านหลังของเฟอร์รารี่ Portofino M ดูกะทัดรัดกว่าเดิม ผลที่ได้คือกันชนหลังที่ดูปราดเปรียวเป็นพิเศษ รูปโฉมที่ดูเบาบางและมีสไตล์ที่เข้ากันได้ดีกับกันชนหน้า ช่วยสร้างสุนทรียภาพโดยรวมที่สอดคล้องกันมากขึ้น ดิฟฟิวเซอร์ได้รับการออกแบบใหม่หมด และเป็นคนละชิ้นกับกันชนหลัง ช่วยให้ลูกค้าสามารถสั่งเปลี่ยนเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ได้ เพื่อเน้นย้ำภาพลักษณ์แบบสปอร์ตของรถให้เด่นชัดขึ้นอีกขั้น ล้อแบบ Diamond-finish ได้รับการออกแบบขึ้นเป็นพิเศษสำหรับเฟอร์รารี่ Portofino M โดยเฉพาะ ดีไซน์สะท้อนให้เห็นถึงการพบกันระหว่างความสง่างามและความโฉบเฉี่ยว การออกแบบรูปทรงที่แปลกตาของก้านล้อและสีที่ตัดกันช่วยให้ล้อดูโดดเด่นยิ่งขึ้น


การตกแต่งภายใน  (INTERIOR)
เมื่อเปิดหลังคา Portofino M จะเผยให้เห็นจิตวิญญาณแห่งรถ GT และผู้ใช้จะต้องประทับใจกับความรู้สึกของรถที่กะทัดรัดและเป็นธรรมชาติ การออกแบบภายในห้องโดยสารนั้นสอดประสานกันอย่างเหนือชั้น ทีม Styling Centre เริ่มต้นจากการระบุข้อกำหนดเบื้องต้นที่จำเป็นต่อความสำเร็จในการออกแบบ นั่นก็คือการลดน้ำหนักและพื้นที่ที่เพียงพอสำหรับผู้โดยสารทุกคน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการเชื่อมโยงภายนอกรถและภายในห้องโดยสารเข้าด้วยกัน 

การรังสรรค์ภายในเริ่มต้นจากโครงสร้างแดชบอร์ดแบบหลายระดับสำหรับครึ่งบนของห้องโดยสาร จากนั้นออกแบบครึ่งล่างด้วยการเปิดพื้นที่ว่างเพื่อตัดความทึบตันออกไป ได้มาจากการลดทอนแทนที่จะเพิ่มปริมาณ การแบ่งแดชบอร์ดออกเป็นระดับต่างๆ กันไป ช่วยให้นักออกแบบจัดวางองค์ประกอบทางเทคนิคและอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถได้อย่างสมเหตุสมผล โดยยังคงใช้สถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์สำคัญได้เต็มพื้นที่ ครีบอลูมิเนียมแนวนอนตรงกึ่งกลางแดชบอร์ดช่วยแยกแผงควบคุม, ช่องแอร์ และจอแสดงผลสำหรับผู้โดยสาร ออกเป็นสัดส่วนบริเวณพื้นที่ด้านบน ฟังก์ชั่นการควบคุมอื่นๆ จะอยู่ที่ส่วนล่างโดยมีหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้วติดตั้งไว้ตรงกลาง เลย์เอาต์เช่นนี้บ่งบอกถึงความสะดวกในการใช้งานอันไร้ที่ติ และเน้นให้เห็นคุณภาพของทุกรายละเอียดผ่านการผสมผสานระหว่างองค์ประกอบต่างๆ และวัสดุสุดไฮเทค พร้อมด้วยการประกอบและการตกแต่งที่เป็นงานมืออันประณีตบรรจง
การจัดวางค็อกพิตแบบสมมาตรและพื้นที่เบาะหลังที่กว้างขวางนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนจากแบบแปลน หากมองในเรื่องของโครงสร้าง ห้องโดยสาร (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับรูปทรงของแดชบอร์ด) ประกอบด้วยพื้นที่ซึ่งแยกออกเป็นสองส่วน รวมเอาส่วนประกอบทางเทคนิคทั้งหมดเข้าด้วยกัน โดยมีสะพานเชื่อมต่อพื้นที่แผงควบคุมเข้ากับอุโมงค์กลาง 
 
เค้าโครงนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้โดยสาร และเพื่อเน้นย้ำให้เห็นสไตล์ของแผงประตู, มือจับ และส่วนควบคุมตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งมาให้ รวมไปถึงหน้าจอระบบสัมผัสส่วนกลางและส่วนผู้โดยสาร เบาะนั่งเป็นผลิตภัณฑ์จากโครงการวิจัยพิเศษ มีโครงสร้างซึ่งทำจากแมกนีเซียมที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ส่วนรองรับที่มีความหนาแตกต่างกันไปและพนักพิงที่มีความเพรียวบางเป็นพิเศษ ช่วยเพิ่มพื้นที่ให้กับผู้โดยสารตอนหลังได้มากยิ่งขึ้น
 
ระบบระบายอากาศ 3 ระดับสำหรับเบาะนั่งและพนักพิง รวมถึงระบบให้ความอบอุ่นบริเวณต้นคอสำหรับใช้ในฤดูหนาวก็มีให้เลือกเช่นกัน โดยอย่างหลังมีความร้อนให้เลือก 3 ระดับ และระบบจะปรับความเร็วการไหลของอากาศอุ่นจากพนักพิงศีรษะอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เหมาะสมกับความเร็วของรถ, อุณหภูมิภายนอก และตำแหน่งของหลังคา

ระบบข้อมูลและความบันเทิงในรถยนต์ (INFOTAINMENT AND HMI)
ระบบ HMI (Human-Machine Interface) ของเฟอร์รารี่ Portofino ติดตั้งไว้กึ่งกลางของมาตรวัดดิจิตอล พร้อมด้วยจอแสดงผลแบบ TFT ล้อมรอบมาตรวัดป้องกันแสงสะท้อนแบบแอนาล็อกทรงกลมขนาดใหญ่ ชุดมาตรวัดที่จัดวางไว้ในระนาบเดียวกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นนี้ ช่วยให้ผู้ขับสามารถอ่านค่าต่างๆ ได้ง่ายและเป็นธรรมชาติ ทั้งในด้านของมุมมองและทางกายภาพ ช่วยให้ตอบสนองได้ดีที่สุดในขณะขับขี่
 
 สามารถควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ของระบบอินโฟเทนเม้นต์ได้ผ่านหน้าจอระบบสัมผัสที่เอื้อมถึงได้ง่ายทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร ออกแบบมาให้เข้าถึงได้รวดเร็วที่สุดทั้งในแง่ของการใช้งานและเนื้อหา มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Multi-touch ความคมชัดสูง และ Split View ที่ช่วยให้สามารถชมข้อมูลที่แตกต่างกันได้ในคราวเดียวกัน รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto
 
 จอแสดงผลบนแดชบอร์ดฝั่งผู้โดยสารมีให้สั่งติดตั้งเป็นอุปกรณ์เสริม เชื่อมต่อกับจอหลักเพื่อแสดงความเร็วรถ, รอบเครื่องยนต์ และตำแหน่งเกียร์ หน้าจอสีขนาด 7 นิ้ว ความคมชัดสูงและเป็นระบบสัมผัส เปิดโอกาสให้ผู้โดยสารมีปฏิสัมพันธ์กับระบบต่างๆ ของรถได้ ผู้โดยสารสามารถเลือกฟังเพลง, ดูข้อมูลของระบบนำทาง หรือเลือกจุดน่าสนใจ (POI – Point of Interest) เช่น ร้านอาหาร ซึ่งจะผนวกรวมเข้ากับเส้นทางโดยอัตโนมัติ ราวกับผู้โดยสารได้กลายเป็นผู้ช่วยนักขับเลยทีเดียว
 
Advanced Driver Assistance System (ADAS) ที่มีให้สั่งติดตั้งสำหรับเฟอร์รารี่ Portofino นั้น ประกอบด้วย:
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go สำหรับขับขี่ในการจราจรทั่วไป
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่สามารถแจ้งเตือนผู้ขับถึงความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดการชนได้ และ เตรียมพร้อมเพื่อลดผลกระทบจากการชนด้านหน้า
• ระบบเตือนจุดอับสายตา ช่วยเตือนให้ผู้ขับทราบว่ากำลังมีพาหนะอยู่ในจุดอับสายตา
• ระบบเตือนออกนอกเลน พร้อมเสียง และ/หรือ ภาพแจ้งเตือนว่ารถได้ออกนอกเลนแล้ว
• ไฟสูงอัตโนมัติ ซึ่งจะเปิดและปิดไฟสูงโดยอัตโนมัติในขณะขับขี่เวลากลางคืน
• ระบบจดจำป้ายจราจร จะแสดงการจำกัดความเร็วบนถนน
• กล้องมองภาพรอบทิศทาง พร้อมการแสดงผลแบบ 3 มิติ
• ระบบแจ้งเตือนรถจากด้านหลัง ซึ่งจะเตือนให้ผู้ขับทราบหากมีสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวมากีดขวางเส้นทางในจุดบอดด้านหลังของรถขณะกำลังถอยหลัง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่