ไม่เคยตามไมค์มาก่อน เพิ่งมาตามเรื่องจริงจังเพราะข่าวนี้ บอกเลยว่าที่ผู้หญิงโดนถล่มไม่ใช่เพราะผู้ชาย แต่เพราะพฤติกรรมตัวเองล้วนๆ

สัมฝ่ายหญิงเมื่อหลายปีก่อน
ฝ่ายชายไม่มาเซ็นรับรองรองบุตร เพราะงั้นจะไม่ให้สิทธิฝ่ายชายแล้ว
ฝ่ายชายช่วยเหลือเรื่องค่าเลี้ยงดูบ้างนิดหน่อย แต่ไม่ค่อยพอเราก้ต้องหาเอง
ค่าเทอมลูกช่วยๆกันจ่าย
บอกเล่าความลำบากของการเป็น single mom ผ่านโซเชียลเป็นระยะ

สัมฝ่ายชายเมื่อหลายปีก่อน
เซ็นไม่ได้กับไม่ได้เซ็นไม่เหมือนกัน
ค่าใช้จ่ายลูกผมไม่ได้มีแค่30000 แต่ขอคุยกับ ผญ.เอง ไม่อยากให้ลูกมาเห็นว่าทะเลาะกันผ่านสื่อ
ผู้ชายแทบไม่เคยอธิบายอะไร และโดนทัวร์ลงลามไปทั้งครอบคระวอย่างไม่หยุดหย่อนเวลามีคนในครอบครัวพยายามจะมาพูดอะไร

ปัจจุบัน
เราเห็นมันเป็นข่าวขึ้นมาเพราะฝ่ายหญิงร้องห่มร้องไห้กลางโซเชียลว่าจะถูกพรากลูกจากอก ผู้ชายโดนด่าไปอีกมากมายนับไม่ถ้วน ฝ่ายชายเลยกางหลักฐานขึ้นมาว่าแค่จะขอปกครองร่วม และกางหลักฐานว่าตัวเองซัพพอร์ตเด็กมาแค่ไหนถึงควรได้สิทธินั้น
พอคราวนี้ผู้หญิงบอกว่าไม่เคยคุยเรื่องจดทะเบียนรับรองบุตรกับฝ่ายชาย แต่ไม่ปฏิเสธว่าผู้ชายซัพพอร์ตปีละเป็นล้านๆจริง รวมทั้งพี่เลี้ยงและคนขับรถ
ฝ่ายชายก้บอกว่าผญ.ไม่ให้ให้รอจนลูกตัดสินใจเอง

ทุกสิ่งทุกคำพูดทุกสัมภาษณ์ผู้ชายพูดเหมือนเดิมมาตลอด และไม่ได้ว่าร้ายอะไรฝ่ายหญิงเลย จนถึงปัจจุบันสิ่งที่เค้าพูดก้มีแค่เรื่องลูก และข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์ต่อการฟ้องร้องที่เขายอมโดนด่าไม่พูดมาตลอดแค่นั้น โดยไม่ไปแตะเรื่องส่วนตัวฝ่ายหญิง

เพราะฉะนั้นที่ผู้หญิงโดนด่านี่เพราะตัวเองล้วนๆ
แต่คนที่ด่าผู้หญิงเกินเลยไปบางเรื่อง ไปเรื่องใต้เตียงเค้าอะไรพวกนั้น ก้ควรจะใจร่มๆกันสักหน่อย เดี๋ยวจะได้ไปเดียวดายที่หน้าบัลลังก์กันเอา

การให้เกียรติอีกฝ่ายก็เป็นเรื่องของสิ่งที่ควรมีให้กันตามสมควรของมนุษย์ทั้งญ และช. ไม่เกี่ยวกับเพศ หากเราไม่ให้เกียรติคนอื่นก่อน การหวังจะได้รับเกียรติแต่เพียงฝ่ายเดียวก็ออกจะเป็นเรื่องเห็นแก่ตัวไปหน่อย

ส่วนเรื่องกอล์ฟ จำรายละเอียดไม่ได้แล้ว แต่มันก็มีหลายกรณีที่แสดงให้เห็นว่า ผู้ใหญ่บางคนไม่ได้มีวุฒิภาวะและพฤติกรรมควรแก่การนับถือเลย และการทะเลาะโต้เถียงกันเป็นเรื่องของการควบคุมอารมณ์ ทำได้ก็จะดี แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องแย่ขนาดนั้นในบางกรณี