จากหัวข้อข้างต้นเลยคับ ผมรู้สึกได้ว่าโลกที่พัฒนาไป โซเชียลที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น มันมีทั้งผลดีและผลเสีย
ยกตัวอย่างชีวิตคู่ผมเอง
1.ผมเคยทะเลาะเรื่องการลงสตอรี่กับแฟนการโพสต์รูปกับแฟน แฟนมักจะถามว่าทำไมไม่ลงสตอรี่เรื่องราวเขาบ่อยๆบ้าง ผมก็ให้เหตุผลว่าผมก็ลงบ่อยน่ะ แค่ตอนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันจึงไม่ได้ลง อีกทั้งผมยังโพสต์รูปบ่อยมากกว่าที่แฟนโพสต์เสียอีกในขณะที่แฟนโพสต์รูปเราน้อยมาก ผมคิดว่าหากเป็นคนสมัยก่อนคงไม่ต้องมาคิดมากเรื่องโพสต์รูปไม่โพสต์รูป โพสต์สตอรี่หรือไม่โพสต์สตอรี่ ผมรู้สึกคำว่าที่แฟนพูดว่า"เขาก็โพสต์สตอรี่มากกว่าเราต่อให้เขาจะโพสต์รูปน้อยกว่าเราก็ตาม" มันดูจะฟังไม่ขึ้น
2.ผมเคยทะเลาะกับแฟนเรื่องที่แฟนชอบขุดเรื่องราวของแฟนเก่ามาทะเลาะ โดยการไปหาโพสต์เก่าๆที่เกี่ยวเนื่องกับเรา แล้วเอามาเป็นเรื่องทะเลาะเอามาเปรียบเทียบ ผมคิดว่ามันไม่แฟร์เลย สมัยก่อนตอนเราคบกับแฟนเก่า แฟนปัจจุบันก็ไม่ได้มามีส่วนร่วมหนิ ตอนนั้นเราไม่ได้รู้จักกันด้วยซ้ำ จะมาขุดความหลังเก่าๆมาทะเลาะทำไม ถ้าไม่มีโซเชียลคงไม่ต้องทะเลาะแบบนี้
3.เชื่อว่าหลายคนก็คงเคยทะเลาะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ถึงขั้นบล็อคเฟสบุ๊คบล็อคไลน์หรือบล็อคไอจี ผมรู้สึกว่ามันดูจะเกินไปหน่อย ถ้าจะบล็อคกันทุกครั้ง ไม่ว่าเรื่องที่ทะเลาะจะเล็กหรือใหญ่ คุณควรบล็อคเฟสบล็อคไลน์หรือไอจีตามความเหมาะไหม ไม่ใช่ทำตามอารมณ์ตามอำเภอใจ ยิ่งบล็อคยิ่งเสียความรู้สึกไปอีก จะติดต่อจะง้ออะไรก็ยากขึ้น ถ้าไม่ถึงที่สุดก็ไม่สมควรจะทำแบบนั้นไหม กลายเป็นโลกโซเชียลกลับมามีอิทธิพลต่อเรามากไปอีก
4.การตั้งสถานะ เชื่อว่าเพื่อนๆคงตั้งสถานะการคบในโลกโซเชียลกันมากมายหลายคู่ แต่สำหรับผมถ้าทะเลาะกันหนึ่งครั้งแล้วประชดด้วยการลบสถานะคบกัน มันจะมีไว้ทำไมมันจะตั้งสถานะไปทำไม มันทำให้เสียความรู้สึกกันป่าวๆ ปัจจุบันผมจึงเลือกที่ไม่ตั้งมันเลย เพราะถ้าตั้งไปแล้วลบออกจะตั้งไปทำไม ผมขอไม่ตั้งจะดีกว่า การคบกันมันไม่ขึ้นอยู่กับสถานะคบในโซเชียล ขึ้นอยู่กับว่าเราคบกันเราให้เกียรติให้ความสำคัญและแสดงออกว่าเขาเป็นแฟนมากแค่ไหน
5.การคบกัน กับความเชื่อที่ต้องโทรศัพท์กันคุยโทรศัพท์กันบ่อยๆคุยกันทุกวัน ผมคิดว่ามันผิด เรื่องมันก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละบุคคล แต่สำหรับผมแล้วการโทรศัพท์คุยกัน ไม่จำเป็นต้องคุยกันทุกวัน แต่ให้คุยโทรคุยบ้าง ไม่ใช่ว่าจะไม่โทรเลย อาจจะโทรวันเว้นวันบ้าง หลังจากต่างฝ่ายต่างเคลียร์ธุระกันเสร็จทำงานกันเสร็จ แล้วค่อยมาโทรศัพท์คุยกันวันละนิดละหน่อย5นาที 10นาที 20นาที หรือเท่าไหร่ก็แล้วแต่ แต่สำหรับผม ความเชื่อที่คู่รักต้องคุยกันทุกวันคุยกันตลอดมันผิด เพราะต่างคนต่างต้องก็มีกิจกรรมส่วนตัวบ้าง จะมาแบ่งเวลาไปกับการโทรทั้งหมดมันก็ไม่ใช่ ซึ่งแฟนผมก็เป็นหนึ่งในนั้นเรื่องความต้องการที่จะให้ผมคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา ปัจจุบันเราปรับให้อยู่ในความเหมาะสมแล้ว
**หมายเหตุ : ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลมีข้อดีและมีข้อเสีย แต่อย่าให้โลกโซเชียลมามีอิทธิพลต่อเรามากเกินไป
แล้วเพื่อนๆหละ เคยมีประสบการณ์ที่โลกโซเชียลมามีอิทธิพลอะไรกับเราบ้าง คิดเหมือนผมไหม มีข้อดีข้อเสียอะไรยังไง มาแชร์ความคิดเห็นให้ฟังกันหน่อยคับ?
ว่าด้วยเรื่องโลกโซเชียลที่ปัจจุบันกลับมามีอิทธิพลต่อชีวิตคู่มากๆ เพื่อนๆคิดเหมือนกันไหม?
ยกตัวอย่างชีวิตคู่ผมเอง
1.ผมเคยทะเลาะเรื่องการลงสตอรี่กับแฟนการโพสต์รูปกับแฟน แฟนมักจะถามว่าทำไมไม่ลงสตอรี่เรื่องราวเขาบ่อยๆบ้าง ผมก็ให้เหตุผลว่าผมก็ลงบ่อยน่ะ แค่ตอนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันจึงไม่ได้ลง อีกทั้งผมยังโพสต์รูปบ่อยมากกว่าที่แฟนโพสต์เสียอีกในขณะที่แฟนโพสต์รูปเราน้อยมาก ผมคิดว่าหากเป็นคนสมัยก่อนคงไม่ต้องมาคิดมากเรื่องโพสต์รูปไม่โพสต์รูป โพสต์สตอรี่หรือไม่โพสต์สตอรี่ ผมรู้สึกคำว่าที่แฟนพูดว่า"เขาก็โพสต์สตอรี่มากกว่าเราต่อให้เขาจะโพสต์รูปน้อยกว่าเราก็ตาม" มันดูจะฟังไม่ขึ้น
2.ผมเคยทะเลาะกับแฟนเรื่องที่แฟนชอบขุดเรื่องราวของแฟนเก่ามาทะเลาะ โดยการไปหาโพสต์เก่าๆที่เกี่ยวเนื่องกับเรา แล้วเอามาเป็นเรื่องทะเลาะเอามาเปรียบเทียบ ผมคิดว่ามันไม่แฟร์เลย สมัยก่อนตอนเราคบกับแฟนเก่า แฟนปัจจุบันก็ไม่ได้มามีส่วนร่วมหนิ ตอนนั้นเราไม่ได้รู้จักกันด้วยซ้ำ จะมาขุดความหลังเก่าๆมาทะเลาะทำไม ถ้าไม่มีโซเชียลคงไม่ต้องทะเลาะแบบนี้
3.เชื่อว่าหลายคนก็คงเคยทะเลาะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ถึงขั้นบล็อคเฟสบุ๊คบล็อคไลน์หรือบล็อคไอจี ผมรู้สึกว่ามันดูจะเกินไปหน่อย ถ้าจะบล็อคกันทุกครั้ง ไม่ว่าเรื่องที่ทะเลาะจะเล็กหรือใหญ่ คุณควรบล็อคเฟสบล็อคไลน์หรือไอจีตามความเหมาะไหม ไม่ใช่ทำตามอารมณ์ตามอำเภอใจ ยิ่งบล็อคยิ่งเสียความรู้สึกไปอีก จะติดต่อจะง้ออะไรก็ยากขึ้น ถ้าไม่ถึงที่สุดก็ไม่สมควรจะทำแบบนั้นไหม กลายเป็นโลกโซเชียลกลับมามีอิทธิพลต่อเรามากไปอีก
4.การตั้งสถานะ เชื่อว่าเพื่อนๆคงตั้งสถานะการคบในโลกโซเชียลกันมากมายหลายคู่ แต่สำหรับผมถ้าทะเลาะกันหนึ่งครั้งแล้วประชดด้วยการลบสถานะคบกัน มันจะมีไว้ทำไมมันจะตั้งสถานะไปทำไม มันทำให้เสียความรู้สึกกันป่าวๆ ปัจจุบันผมจึงเลือกที่ไม่ตั้งมันเลย เพราะถ้าตั้งไปแล้วลบออกจะตั้งไปทำไม ผมขอไม่ตั้งจะดีกว่า การคบกันมันไม่ขึ้นอยู่กับสถานะคบในโซเชียล ขึ้นอยู่กับว่าเราคบกันเราให้เกียรติให้ความสำคัญและแสดงออกว่าเขาเป็นแฟนมากแค่ไหน
5.การคบกัน กับความเชื่อที่ต้องโทรศัพท์กันคุยโทรศัพท์กันบ่อยๆคุยกันทุกวัน ผมคิดว่ามันผิด เรื่องมันก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละบุคคล แต่สำหรับผมแล้วการโทรศัพท์คุยกัน ไม่จำเป็นต้องคุยกันทุกวัน แต่ให้คุยโทรคุยบ้าง ไม่ใช่ว่าจะไม่โทรเลย อาจจะโทรวันเว้นวันบ้าง หลังจากต่างฝ่ายต่างเคลียร์ธุระกันเสร็จทำงานกันเสร็จ แล้วค่อยมาโทรศัพท์คุยกันวันละนิดละหน่อย5นาที 10นาที 20นาที หรือเท่าไหร่ก็แล้วแต่ แต่สำหรับผม ความเชื่อที่คู่รักต้องคุยกันทุกวันคุยกันตลอดมันผิด เพราะต่างคนต่างต้องก็มีกิจกรรมส่วนตัวบ้าง จะมาแบ่งเวลาไปกับการโทรทั้งหมดมันก็ไม่ใช่ ซึ่งแฟนผมก็เป็นหนึ่งในนั้นเรื่องความต้องการที่จะให้ผมคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา ปัจจุบันเราปรับให้อยู่ในความเหมาะสมแล้ว
**หมายเหตุ : ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลมีข้อดีและมีข้อเสีย แต่อย่าให้โลกโซเชียลมามีอิทธิพลต่อเรามากเกินไป
แล้วเพื่อนๆหละ เคยมีประสบการณ์ที่โลกโซเชียลมามีอิทธิพลอะไรกับเราบ้าง คิดเหมือนผมไหม มีข้อดีข้อเสียอะไรยังไง มาแชร์ความคิดเห็นให้ฟังกันหน่อยคับ?