อินเดียประเทศที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่และร่ำรวยอารยธรรมที่สุดในโลก ความงามเป็นสิ่ง
ที่กำหนดอินเดียและอดีตอันยาวนานตั้งแต่วัฒนธรรมอันรุ่งโรจน์ไปจนถึง
ผู้หญิงอินเดียเป็นที่อิจฉาของประเทศเพื่อนบ้าน
ด้วยผู้คนผสมผสานหลากหลายเผ่าพันธุ์ดังนั้น
หญิงงามในประวัติศาสตร์จึงไม่ได้มีเพียงแค่หนึ่งถึงสองคน ความงามในบรรทัดฐาน
ของสตรีอินเดียไม่ได้หมายถึงแค่รูปงามเพียงอย่างเดียวจะถูกจัดว่างามแต่ยังต้องมาพร้อมไปด้วย ศักดิ์ศรี ศีล ปัญญา และ ความกล้าหาญ
รานี ปัทมวตี
รานีปัทมวตีแห่งเมืองจิตคต ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในหญิงงามที่สุด
ในประวัติศาสตร์อินเดียจนกวีเปอร์เชียอย่าง มาลิก โมฮัมหมัด จายาซี่
เปรียบเปรยนางว่ามีความงามมากอย่างประหลาดราวกับใช้เวทย์มนต์สร้างขึ้นมา
นอกจากนี้เธอยังเป็น เฮเลนออฟทรอยด์ของอินเดีย เพราะแม้แต่กษัตริย์ทั่วทั้งชมพูทวีป
เปอร์เชีย อาหรับ มองโกล เติร์ก ต่างปรารถนาจะทำสงครามแย่งชิงตัวนางมาครอบครอง
จนอาณาจักรราชปุตถูกโจมตีจนเมืองแทบร้างเพราะความงามของพระนางปัทมวตีที่มี
คนกล่าวว่าความสวยของเธอนั้นต้องคำสาปนำมาสู่หายนะ เดิมทีนางเป็นพระธิดาของ
กษัตริย์สิงหลหรือศรีลังกาและพระนางจำปาวตี พระนามของปัทมวตีเดิมคือราชกุมารี ปัทมิณี
ตลอดเวลานอกจากสตรีแล้วจะมีผู้ชายเพียงแค่ข้ารับใช้กับพ่อของนางกับราชารัตทานแห่ง
ราชปุตที่เป็นสามีที่เคยเห็นนาง นางจะมีผ้าคลุมหน้าเสมอ ความงามของนางดังไปแม้
กระทั้งถึงหู คาลิด อะลาอูดดิน สุลต่านแห่งเดลฮีที่ต้องแอบมายลโฉมปัทมวตี
ที่ปราสาทน้อยกลางน้ำที่อะลาอุดดินได้เห็นเพียงแค่เงาสะท้อนของนางจากน้ำเพียงชั่วครู่
เท่านั้นก็ตัดสินใจใช้แผนจับตัวพระสวามีของปัทมวตีมาเป็นตัวประกันเพื่อจะให้ทาง
ราชปุตแลกตัวนางกับพระราชา
ภาพพระราชวังน้อยกลางน้ำที่ประทับเล่นชมดอกบัวของปัทมวตี
ซึ่งในภายหลังทำให้เกิดสงครามและ
โศกนาฏกรรมต่างๆตามมามากมายเช่นการที่นางเป็นผู้นำนางในจำนวนหนึ่งหมื่นสี่พันกว่า
คนทำพิธี จอฮาร์ เดินลงหลุมไฟจอฮาร์ กูนตายทั้งพระราชวัง เพราะหนีการปฏิสัมพันธ์กับ
อะลาอุดดิน คาลิด สุรต่าน แห่งเดลฮี กษัตริย์เติร์กผู้ที่พวกราชปุตเรียกพวกนี้
ว่าคนเถือนที่จะถือว่าเป็นฝ่ายพ้ายแพ้หากไม่ได้ยลโฉมของพระนางปัทมวตีซึ่งถือว่า
ศักดิ์ศรีของนางสูงส่งกว่า จนแม้ปัจจุบันนี้ที่bollywoodได้นำเอาเรื่องราวของเธอไป
ทำเป็นหนังกระแสการต่อต้านภาพยนต์เรื่อง ปัทมวตี มิให้ฉายในรัฐของอินเดียที่มี
เจ้าเมืองสืบทอดเชื้อสายราชปุตหากมีฉากที่คาลืดอะลาอูดดิน สุลต่านแห่งเดลฮีได้ยล
โฉมหรือปฏิสัมพันธ์กับพระนางปัทมวตี เพราะบรรดาลูกหลานของสกุลราชปุตต้องการ
จะผดุงรักษาศักดิ์ศรีของพระนางว่าตามประวัติศาสตร์ความงามของนางนั้นสูงชั้นเกินกว่า
ที่พวกต่างชาติเช่นโมกุลได้ยลโฉม ซึ่งโชคดีที่หนังก็ทำออกมาในทำนองนั่นว่าในท้ายที่
สุดแม้กษัตริย์โมกุลจะเสียคนไปทั้งกองทัพหรือเสียอะไรไปมากมายก็ไม่อาจแม้แต่จะได้
เห็นดวงหน้าเต็มๆของพระนางปัทมวตี ซึ่งชิงหนีโดยการเดินเข้าหลุมไฟ จอฮารฺ กุน
ปกติแล้วการทำพิธีเผาตัวตายหมู่ใน จอฮาร์ กูน ห้องโถงไฟ จะปฏิบัติต่อหน้าศัตรูในกรณีที่เป็นข้าศึกต่างชาติ
เท่านั้น เช่นกองทัพกรีกของพระเจ้าอเล็คซานเดอร์หรือกองทัพมุสลิมฯลฯ
เพื่อการประกาศข่มขวัญศัตรูแม้ลมหายใจสุดท้าย ชาวอินเดียมองว่าตนมีอารยธรรมและ
ศักดิ์ศรีที่สูงกว่าชาวต่างชาติ เป็นคนเถื่อนและไม่มีวันที่ศัตรูจะ
ได้แม้แต่ยลโฉมสตรีชั้นสูงของราชปุต แต่หากสงครามเกิดขึ้นระหว่างราชาต่างแคว้นใน
อินเดียด้วยกันเองจะไม่มีพิธีกรรมนี้ เพราะชาวอินเดียต่างแคว้นกันล้วนมีข้อปฏิบัติที่เหมือน
กันเรื่องศีลธรรมและให้เกียรติกันและกันซึ่งมบัญญัติไว้ในข้อปฏิบัติของวรรณะพราหมณ์ฮินดู
รานี มิรา ไพ

รานีมิรา ไพคือสัญลักษณ์ของความงามที่ดีเลิศและความจงรักภักดีต่อพระกฤษณะ
เป็นบุคคลสำคัญของขบวนการภักติ เกิดในราชวงศ์ของพาลีราชสถานเจ้าหญิงกวีแห่งวงศ์ราชปุต
และผู้ศรัทธาแห่งทะเลทรายที่สวยงามในจังหวัดทางตะวันตกของรัฐราชสถานอินเดีย
ถึงอย่างนั้นเธอก็สร้างตัวเองให้เป็นคนบริสุทธิ์และมีเกียรติในฐานะราชปุต
ตอนที่เธออายุเพียงสี่ขวบแม่ของเธอเล่าเรื่องพิธีแต่งงานให้เธอฟัง
มีร่าผู้บริสุทธิ์ถามแม่ของเธอเมื่อมองไปที่การแต่งงานว่า“ ฉันจะแต่งงานกับใคร”
แม่ของ มีร่ายิ้มกว้างและชี้ไปที่รูปของพระกฤษณะและพูดติดตลกว่า
“ ลูกที่น่ารักของฉันมีร่า ศรีกฤษณะจะเป็นคู่สมรสของเธอ” จากนั้นเธอก็แสดงให้
เห็นถึงความทุ่มเทอย่างสุดซึ้งต่อองค์กฤษณะ น่าเสียดายที่มีร่าสูญเสียแม่
ไปไม่นานหลังจากนั้นเมื่อเธออายุ 7 ขวบ

ความทุ่มเทของเธอเริ่มต้นในวัยเด็กจิตใจของ มีร่า เตรียมพร้อมที่จะยอมรับ
องค์กฤษณะ เป็นสามีของเธอเท่านั้น เมื่อเธอโตขึ้น มีร่ามีความสุขมีมารยาท
อ่อนโยนเป็นมิตรมีความสามารถร้องเพลงด้วยเสียงที่ก้องกังวาน
เมื่อถูกกดดันโดยไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับ รานา สังฆา ซึ่งเป็นกษัตริย์
ของมิวอาร์ เธอจึงตกลงเป็นกิจวัตรประจำวันของเธอหลังจากที่ภาระหน้าที่ใน
ครอบครัวของเธอเสร็จสิ้นแล้ว เธอจะไปที่สถานศักดิ์สิทธิ์ของ
พระกฤษณะเคารพบูชาร้องเพลงและร่ายรำต่อหน้ารูปปั้น
องค์กฤษณะอย่างทุ่มเทความจงรักภักดีต่อองค์กฤษณะของเธอกลายเป็น
สาเหตุที่ทำให้เธอถูกข่มเหง เธอต้องเผชิญกับความพยายามในการลอบ
สังหารหลายครั้งโดยญาติของสามีของเธอ แต่มักจะรอดพ้นความตายโดย
พรของพระเจ้า
เทวีอหิลยา ไพ
เทวีอหิลยา ไพ Devi Ahilya bai เป็นตัวอย่างของความรักและความเมตตา
เธอเป็นราชินีแห่งอาณาจักร Dhangar Malwa ด้วยความงดงามของ
ราชินีองค์นี้เป็นที่รู้จักในเรื่องการอุทิศตนทางศาสนา,พระเจ้าและ
คุณสมบัติของนักรบ ในช่วงชีวิตของเธอเธอต่อสู้กับสงครามมากมาย
และสร้างวัดและพันธมิตรมากมายทั่วประเทศโดยใช้เงินส่วนตัวของเธอ
พระสวามีของพระนางไม่เคยใช้ภาษีที่เก็บจากสาธารณะเพื่อการใช้
ส่วนตัวค่าใช้จ่ายส่วนตัวทั้งหมดได้มาจากรายได้จากทรัพย์สินที่เป็น
ของอหิลยาไพ ที่การทำบุญเป็นประเพณีของครอบครัวนี้
รายชื่อวัดและโครงการต่างๆค่อนข้างยาวและเกินขอบเขตที่จะบรรยายได้หมด
รานีสัมยุคตา
เธอแต่งงานกับ ปฐวี ราช เยาฮัน เธอสวยมากและเอาชนะผู้ชายหลายคน
ด้วยความฉลาดหลักแหลมของเธอ เรื่องราวความรักของ
สัมยุคตา และ ปฐวี โด่งดังมากในช่วงเวลาของพวกเขา
แต่เรื่องราวการตายของสัมยุคตานั้นช่างเจ็บปวดเหลือเกินหลังจากการตายของ ปฐวี
โดย โมฮัมหมัด กาวรี่ Muhammad Gauri สัมยุคตาถูกจับเปลื้องผ้าส่งมอบให้กับ
โมอินุดดิน Chishti และเขาส่งเธอต่อไปให้ทหารของ Gauri โดยไม่สวมเสื้อผ้า
จากนั้นทหารก็ทารุณกรรมฆ่าเธออย่างโหดเหี้ยม อย่างไรก็ตามไม่มีใครเขียนไว้ในประวัติศาสตร์จักรวรรดิโมกุล
อัคเทวี
เป็นเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์จัลลุคยา Chalukya ความงามของเธออยู่
ในคุณธรรมของเธอ นอกเหนือจากรูปลักษณ์แล้วเธอยังเป็นผู้ปกครอง
ที่ยอดเยี่ยม ดีพอ ๆ กันกับการใช้คำเจรจาและการใช้ดาบเธอรู้วิธีที่
จะครองใจผู้คนด้วยความรักและด้วยความกลัว ตำนานเล่าว่าครั้งหนึ่ง
เธอนำกองทัพและยึดป้อมโกคาเพื่อปราบกบฏไพระวี ในช่วงเวลา
แห่งสงครามและเป็นคนใจบุญที่แท้จริงในช่วงที่มีสันติภาพเธอ
เป็นที่รู้จักจากการให้ทุนสนับสนุนเสรีแก่ชาวเชนส์และชาวฮินดู
พระนางสีดาเทวีมหารานีแห่งคาปูร์ธาลา

เป็นที่รู้จักในเรื่องความสวยงามฐานะสุภาพสตรีอินเดียยุค
คลาสสิกที่มีสไตล์แบบหญิงฝรั่งเธอพูดได้หลายภาษาเป็น
ที่รู้จักในเรื่องแฟชั่นเสื้อผ้าชุดที่ออกแบบโดย Mainbocher
ซึ่งเป็นนักออกแบบที่เป็นที่ต้องการของราชวงศ์อังกฤษ ราชินีแห่งอินเดีย
คนนี้แสดงให้เห็นถึงความหมายที่แท้จริงของการแต่งตัวให้คนทั้งโลกได้เห็น
เธอเป็นบุคคลสำคัญในสังคมของปี 1930 เธอยังเป็นแรงบันดาลใจให้
ไอร่า เกิร์ชวิน นักแต่งเพลงชาวอเมริกัน.....ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!รานีผู้แสนงาม
นีลลูเฟอร์

ความงามของออตโตมันและเจ้าหญิงแห่งไฮเดอราบาดนีลลูเฟอร์ เกิดที่
Goztepe Palace Istanbul แต่งงานกับ Moazzam Shah บุตรชายคนที่
สองของ นิซาม แห่งไฮเดอราบัดผู้ปกครองคนสุดท้าย เมื่ออายุ 16 ปี
เธอเป็นเจ้าหญิงในทุกแง่มุม เธอเป็นที่รู้จักจากงานสังคมสงเคราะห์
และวิถีชีวิตที่ฉูดฉาดเธอคือใบหน้าของผู้หญิงที่เปิดเสรีในยุคนั้น ค
วามเสียใจอย่างเดียวในชีวิตของเธอคือเธอไม่สามารถมีลูกได้ซึ่งนำไปสู่
การหย่าร้างในที่สุด เธอเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2532 (อายุ 73 ปี) ที่ปารีส
ลีลา ไนดู
เป็นนักแสดงหญิงชาวอินเดียที่แสดงในภาพยนตร์ภาษาฮินดีและ
ภาษาอังกฤษจำนวนเล็กน้อยรวมถึง Yeh Raste Hain Pyar Ke (1963)
ที่สร้างจากคดี Nanavati ในชีวิตจริงและ The Householder
ภาพยนตร์เรื่องแรกของ Merchant Ivory Productions เธอเป็น
Femina Miss India ในปี 2497 และได้รับการเสนอชื่อในนิตยสาร Vogue
ร่วมกับ Maharani Gayatri Devi ในรายชื่อ "10 ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก"
ซึ่งเป็นรายชื่อที่เธอได้รับการเสนอชื่ออย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1950 ถึง 1960
ในนิตยสารแฟชั่นที่มีชื่อเสียงทั่วโลก เธอเป็นที่จดจำในความงามคลาสสิกที่น่าทึ่งและสไตล์การแสดงที่ละเอียดอ่อน
มหารานี คยาตรีเทวี
เป็นที่รู้จักในฐานะสุภาพสตรีที่สวยที่สุดในยุคของเธอมหารานี
คยาตรีเทวีเกิดในฐานะเจ้าหญิงคยาตรีเทวีแห่งคูคพิหารพระธิดาของ
เจ้าชายจิตเทนทราและพระนางอินทิราราชจี นอกจากนี้เธอยังถูกรวมอยู่ในรายชื่อ 10
ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกของนิตยาสาร Vogue อีกด้วย
เธอมีชีวิตที่มั่งคั่งและเป็นราชมาตาแห่งแคว้นชัยปุระ
Top หญิงงามที่ในประวัติศาสตร์อินเดีย
อินเดียประเทศที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่และร่ำรวยอารยธรรมที่สุดในโลก ความงามเป็นสิ่ง
ที่กำหนดอินเดียและอดีตอันยาวนานตั้งแต่วัฒนธรรมอันรุ่งโรจน์ไปจนถึง
ผู้หญิงอินเดียเป็นที่อิจฉาของประเทศเพื่อนบ้าน
ด้วยผู้คนผสมผสานหลากหลายเผ่าพันธุ์ดังนั้น
หญิงงามในประวัติศาสตร์จึงไม่ได้มีเพียงแค่หนึ่งถึงสองคน ความงามในบรรทัดฐาน
ของสตรีอินเดียไม่ได้หมายถึงแค่รูปงามเพียงอย่างเดียวจะถูกจัดว่างามแต่ยังต้องมาพร้อมไปด้วย ศักดิ์ศรี ศีล ปัญญา และ ความกล้าหาญ
รานี ปัทมวตี
รานีปัทมวตีแห่งเมืองจิตคต ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในหญิงงามที่สุด
ในประวัติศาสตร์อินเดียจนกวีเปอร์เชียอย่าง มาลิก โมฮัมหมัด จายาซี่
เปรียบเปรยนางว่ามีความงามมากอย่างประหลาดราวกับใช้เวทย์มนต์สร้างขึ้นมา
นอกจากนี้เธอยังเป็น เฮเลนออฟทรอยด์ของอินเดีย เพราะแม้แต่กษัตริย์ทั่วทั้งชมพูทวีป
เปอร์เชีย อาหรับ มองโกล เติร์ก ต่างปรารถนาจะทำสงครามแย่งชิงตัวนางมาครอบครอง
จนอาณาจักรราชปุตถูกโจมตีจนเมืองแทบร้างเพราะความงามของพระนางปัทมวตีที่มี
คนกล่าวว่าความสวยของเธอนั้นต้องคำสาปนำมาสู่หายนะ เดิมทีนางเป็นพระธิดาของ
กษัตริย์สิงหลหรือศรีลังกาและพระนางจำปาวตี พระนามของปัทมวตีเดิมคือราชกุมารี ปัทมิณี
ตลอดเวลานอกจากสตรีแล้วจะมีผู้ชายเพียงแค่ข้ารับใช้กับพ่อของนางกับราชารัตทานแห่ง
ราชปุตที่เป็นสามีที่เคยเห็นนาง นางจะมีผ้าคลุมหน้าเสมอ ความงามของนางดังไปแม้
กระทั้งถึงหู คาลิด อะลาอูดดิน สุลต่านแห่งเดลฮีที่ต้องแอบมายลโฉมปัทมวตี
ที่ปราสาทน้อยกลางน้ำที่อะลาอุดดินได้เห็นเพียงแค่เงาสะท้อนของนางจากน้ำเพียงชั่วครู่
เท่านั้นก็ตัดสินใจใช้แผนจับตัวพระสวามีของปัทมวตีมาเป็นตัวประกันเพื่อจะให้ทาง
ราชปุตแลกตัวนางกับพระราชา
ภาพพระราชวังน้อยกลางน้ำที่ประทับเล่นชมดอกบัวของปัทมวตี
ซึ่งในภายหลังทำให้เกิดสงครามและ
โศกนาฏกรรมต่างๆตามมามากมายเช่นการที่นางเป็นผู้นำนางในจำนวนหนึ่งหมื่นสี่พันกว่า
คนทำพิธี จอฮาร์ เดินลงหลุมไฟจอฮาร์ กูนตายทั้งพระราชวัง เพราะหนีการปฏิสัมพันธ์กับ
อะลาอุดดิน คาลิด สุรต่าน แห่งเดลฮี กษัตริย์เติร์กผู้ที่พวกราชปุตเรียกพวกนี้
ว่าคนเถือนที่จะถือว่าเป็นฝ่ายพ้ายแพ้หากไม่ได้ยลโฉมของพระนางปัทมวตีซึ่งถือว่า
ศักดิ์ศรีของนางสูงส่งกว่า จนแม้ปัจจุบันนี้ที่bollywoodได้นำเอาเรื่องราวของเธอไป
ทำเป็นหนังกระแสการต่อต้านภาพยนต์เรื่อง ปัทมวตี มิให้ฉายในรัฐของอินเดียที่มี
เจ้าเมืองสืบทอดเชื้อสายราชปุตหากมีฉากที่คาลืดอะลาอูดดิน สุลต่านแห่งเดลฮีได้ยล
โฉมหรือปฏิสัมพันธ์กับพระนางปัทมวตี เพราะบรรดาลูกหลานของสกุลราชปุตต้องการ
จะผดุงรักษาศักดิ์ศรีของพระนางว่าตามประวัติศาสตร์ความงามของนางนั้นสูงชั้นเกินกว่า
ที่พวกต่างชาติเช่นโมกุลได้ยลโฉม ซึ่งโชคดีที่หนังก็ทำออกมาในทำนองนั่นว่าในท้ายที่
สุดแม้กษัตริย์โมกุลจะเสียคนไปทั้งกองทัพหรือเสียอะไรไปมากมายก็ไม่อาจแม้แต่จะได้
เห็นดวงหน้าเต็มๆของพระนางปัทมวตี ซึ่งชิงหนีโดยการเดินเข้าหลุมไฟ จอฮารฺ กุน
ปกติแล้วการทำพิธีเผาตัวตายหมู่ใน จอฮาร์ กูน ห้องโถงไฟ จะปฏิบัติต่อหน้าศัตรูในกรณีที่เป็นข้าศึกต่างชาติ
เท่านั้น เช่นกองทัพกรีกของพระเจ้าอเล็คซานเดอร์หรือกองทัพมุสลิมฯลฯ
เพื่อการประกาศข่มขวัญศัตรูแม้ลมหายใจสุดท้าย ชาวอินเดียมองว่าตนมีอารยธรรมและ
ศักดิ์ศรีที่สูงกว่าชาวต่างชาติ เป็นคนเถื่อนและไม่มีวันที่ศัตรูจะ
ได้แม้แต่ยลโฉมสตรีชั้นสูงของราชปุต แต่หากสงครามเกิดขึ้นระหว่างราชาต่างแคว้นใน
อินเดียด้วยกันเองจะไม่มีพิธีกรรมนี้ เพราะชาวอินเดียต่างแคว้นกันล้วนมีข้อปฏิบัติที่เหมือน
กันเรื่องศีลธรรมและให้เกียรติกันและกันซึ่งมบัญญัติไว้ในข้อปฏิบัติของวรรณะพราหมณ์ฮินดู
รานี มิรา ไพ
รานีมิรา ไพคือสัญลักษณ์ของความงามที่ดีเลิศและความจงรักภักดีต่อพระกฤษณะ
เป็นบุคคลสำคัญของขบวนการภักติ เกิดในราชวงศ์ของพาลีราชสถานเจ้าหญิงกวีแห่งวงศ์ราชปุต
และผู้ศรัทธาแห่งทะเลทรายที่สวยงามในจังหวัดทางตะวันตกของรัฐราชสถานอินเดีย
ถึงอย่างนั้นเธอก็สร้างตัวเองให้เป็นคนบริสุทธิ์และมีเกียรติในฐานะราชปุต
ตอนที่เธออายุเพียงสี่ขวบแม่ของเธอเล่าเรื่องพิธีแต่งงานให้เธอฟัง
มีร่าผู้บริสุทธิ์ถามแม่ของเธอเมื่อมองไปที่การแต่งงานว่า“ ฉันจะแต่งงานกับใคร”
แม่ของ มีร่ายิ้มกว้างและชี้ไปที่รูปของพระกฤษณะและพูดติดตลกว่า
“ ลูกที่น่ารักของฉันมีร่า ศรีกฤษณะจะเป็นคู่สมรสของเธอ” จากนั้นเธอก็แสดงให้
เห็นถึงความทุ่มเทอย่างสุดซึ้งต่อองค์กฤษณะ น่าเสียดายที่มีร่าสูญเสียแม่
ไปไม่นานหลังจากนั้นเมื่อเธออายุ 7 ขวบ
ความทุ่มเทของเธอเริ่มต้นในวัยเด็กจิตใจของ มีร่า เตรียมพร้อมที่จะยอมรับ
องค์กฤษณะ เป็นสามีของเธอเท่านั้น เมื่อเธอโตขึ้น มีร่ามีความสุขมีมารยาท
อ่อนโยนเป็นมิตรมีความสามารถร้องเพลงด้วยเสียงที่ก้องกังวาน
เมื่อถูกกดดันโดยไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับ รานา สังฆา ซึ่งเป็นกษัตริย์
ของมิวอาร์ เธอจึงตกลงเป็นกิจวัตรประจำวันของเธอหลังจากที่ภาระหน้าที่ใน
ครอบครัวของเธอเสร็จสิ้นแล้ว เธอจะไปที่สถานศักดิ์สิทธิ์ของ
พระกฤษณะเคารพบูชาร้องเพลงและร่ายรำต่อหน้ารูปปั้น
องค์กฤษณะอย่างทุ่มเทความจงรักภักดีต่อองค์กฤษณะของเธอกลายเป็น
สาเหตุที่ทำให้เธอถูกข่มเหง เธอต้องเผชิญกับความพยายามในการลอบ
สังหารหลายครั้งโดยญาติของสามีของเธอ แต่มักจะรอดพ้นความตายโดย
พรของพระเจ้า
เทวีอหิลยา ไพ
เทวีอหิลยา ไพ Devi Ahilya bai เป็นตัวอย่างของความรักและความเมตตา
เธอเป็นราชินีแห่งอาณาจักร Dhangar Malwa ด้วยความงดงามของ
ราชินีองค์นี้เป็นที่รู้จักในเรื่องการอุทิศตนทางศาสนา,พระเจ้าและ
คุณสมบัติของนักรบ ในช่วงชีวิตของเธอเธอต่อสู้กับสงครามมากมาย
และสร้างวัดและพันธมิตรมากมายทั่วประเทศโดยใช้เงินส่วนตัวของเธอ
พระสวามีของพระนางไม่เคยใช้ภาษีที่เก็บจากสาธารณะเพื่อการใช้
ส่วนตัวค่าใช้จ่ายส่วนตัวทั้งหมดได้มาจากรายได้จากทรัพย์สินที่เป็น
ของอหิลยาไพ ที่การทำบุญเป็นประเพณีของครอบครัวนี้
รายชื่อวัดและโครงการต่างๆค่อนข้างยาวและเกินขอบเขตที่จะบรรยายได้หมด
รานีสัมยุคตา
เธอแต่งงานกับ ปฐวี ราช เยาฮัน เธอสวยมากและเอาชนะผู้ชายหลายคน
ด้วยความฉลาดหลักแหลมของเธอ เรื่องราวความรักของ
สัมยุคตา และ ปฐวี โด่งดังมากในช่วงเวลาของพวกเขา
แต่เรื่องราวการตายของสัมยุคตานั้นช่างเจ็บปวดเหลือเกินหลังจากการตายของ ปฐวี
โดย โมฮัมหมัด กาวรี่ Muhammad Gauri สัมยุคตาถูกจับเปลื้องผ้าส่งมอบให้กับ
โมอินุดดิน Chishti และเขาส่งเธอต่อไปให้ทหารของ Gauri โดยไม่สวมเสื้อผ้า
จากนั้นทหารก็ทารุณกรรมฆ่าเธออย่างโหดเหี้ยม อย่างไรก็ตามไม่มีใครเขียนไว้ในประวัติศาสตร์จักรวรรดิโมกุล
อัคเทวี
เป็นเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์จัลลุคยา Chalukya ความงามของเธออยู่
ในคุณธรรมของเธอ นอกเหนือจากรูปลักษณ์แล้วเธอยังเป็นผู้ปกครอง
ที่ยอดเยี่ยม ดีพอ ๆ กันกับการใช้คำเจรจาและการใช้ดาบเธอรู้วิธีที่
จะครองใจผู้คนด้วยความรักและด้วยความกลัว ตำนานเล่าว่าครั้งหนึ่ง
เธอนำกองทัพและยึดป้อมโกคาเพื่อปราบกบฏไพระวี ในช่วงเวลา
แห่งสงครามและเป็นคนใจบุญที่แท้จริงในช่วงที่มีสันติภาพเธอ
เป็นที่รู้จักจากการให้ทุนสนับสนุนเสรีแก่ชาวเชนส์และชาวฮินดู
พระนางสีดาเทวีมหารานีแห่งคาปูร์ธาลา
เป็นที่รู้จักในเรื่องความสวยงามฐานะสุภาพสตรีอินเดียยุค
คลาสสิกที่มีสไตล์แบบหญิงฝรั่งเธอพูดได้หลายภาษาเป็น
ที่รู้จักในเรื่องแฟชั่นเสื้อผ้าชุดที่ออกแบบโดย Mainbocher
ซึ่งเป็นนักออกแบบที่เป็นที่ต้องการของราชวงศ์อังกฤษ ราชินีแห่งอินเดีย
คนนี้แสดงให้เห็นถึงความหมายที่แท้จริงของการแต่งตัวให้คนทั้งโลกได้เห็น
เธอเป็นบุคคลสำคัญในสังคมของปี 1930 เธอยังเป็นแรงบันดาลใจให้
ไอร่า เกิร์ชวิน นักแต่งเพลงชาวอเมริกัน.....ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!รานีผู้แสนงาม
นีลลูเฟอร์
ความงามของออตโตมันและเจ้าหญิงแห่งไฮเดอราบาดนีลลูเฟอร์ เกิดที่
Goztepe Palace Istanbul แต่งงานกับ Moazzam Shah บุตรชายคนที่
สองของ นิซาม แห่งไฮเดอราบัดผู้ปกครองคนสุดท้าย เมื่ออายุ 16 ปี
เธอเป็นเจ้าหญิงในทุกแง่มุม เธอเป็นที่รู้จักจากงานสังคมสงเคราะห์
และวิถีชีวิตที่ฉูดฉาดเธอคือใบหน้าของผู้หญิงที่เปิดเสรีในยุคนั้น ค
วามเสียใจอย่างเดียวในชีวิตของเธอคือเธอไม่สามารถมีลูกได้ซึ่งนำไปสู่
การหย่าร้างในที่สุด เธอเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2532 (อายุ 73 ปี) ที่ปารีส
ลีลา ไนดู
เป็นนักแสดงหญิงชาวอินเดียที่แสดงในภาพยนตร์ภาษาฮินดีและ
ภาษาอังกฤษจำนวนเล็กน้อยรวมถึง Yeh Raste Hain Pyar Ke (1963)
ที่สร้างจากคดี Nanavati ในชีวิตจริงและ The Householder
ภาพยนตร์เรื่องแรกของ Merchant Ivory Productions เธอเป็น
Femina Miss India ในปี 2497 และได้รับการเสนอชื่อในนิตยสาร Vogue
ร่วมกับ Maharani Gayatri Devi ในรายชื่อ "10 ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก"
ซึ่งเป็นรายชื่อที่เธอได้รับการเสนอชื่ออย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1950 ถึง 1960
ในนิตยสารแฟชั่นที่มีชื่อเสียงทั่วโลก เธอเป็นที่จดจำในความงามคลาสสิกที่น่าทึ่งและสไตล์การแสดงที่ละเอียดอ่อน
มหารานี คยาตรีเทวี
เป็นที่รู้จักในฐานะสุภาพสตรีที่สวยที่สุดในยุคของเธอมหารานี
คยาตรีเทวีเกิดในฐานะเจ้าหญิงคยาตรีเทวีแห่งคูคพิหารพระธิดาของ
เจ้าชายจิตเทนทราและพระนางอินทิราราชจี นอกจากนี้เธอยังถูกรวมอยู่ในรายชื่อ 10
ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกของนิตยาสาร Vogue อีกด้วย
เธอมีชีวิตที่มั่งคั่งและเป็นราชมาตาแห่งแคว้นชัยปุระ