การเดินทาง: อุดรธานี - บึงกาฬ >> 2020  ( คำชะโนด,ภูสิงห์,ภูลังกา,ภูทอก)
วันที่ 12 - 14 กันยายน 2020
สมาชิก 5 ท่าน 

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิพ จขกท. ได้มีโอกาสไปเที่ยว ถ้ำนาคา จ.บึงกาฬ ก่อนปิดประกาศปิดถ้ำ ซึ้งทาง จขกท.ได้จองวันที่ 4 กย. และทางอุทยานให้อนุโลมให้คนที่จองก่อนวันที่ 9 กันยายน ขึ้นได้ จึงเป็นโชคดีกับทางทีมเรามากๆ (ตอนข่าวออกว่าถ้ำปิด ความรู้สึกคือเฟลเล็กน้อย เพราะได้จองทุกอย่างไว้เรียบร้อยหมดแล้ว) แต่ในที่สุด..ก็ได้ขึ้นเขาสมดังใจหวัง 
ยกเว้น ผาใจขาด เพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่าทางกรมอุทยานยังไม่ให้ขึ้น เพราะเป็นหน้าผา อาจจะเป็นอันตรายได้ ขอไปจัดการระบบระเบียบต่างๆ ให้เข้าที่เข้าทาง อาจจะได้ขึ้นในอนาคต แต่เราก็ยินดีคะ ได้ขึ้นมาถึงหัวพญานาค  และชมหินลายพญานาคก็ดีมากแล้ว 
ทริปนี้เป็นทริปที่ จขกท. อยากไปไหว้ที่คำชะโนดสักครั้ง แต่พูดมาหลายปี และได้ดูสื่อต่างๆของถ้ำนาคาและมีความเชื่อ ศรัทธากับพญานาคอยู่แล้ว และอยากไปชมความงามด้วยตัวเอง เลยเริ่มจัดทริปกันเลย...👉 
โดยเริ่มหาข้อมูลจากการรีวิวใน Pantip การเดินทาง ที่พัก เส้นทางต่างๆ แต่ยังมีไม่เยอะมาก เลยอยากแชร์ประสบการณ์ เผื่อเพื่อนๆคนไหนสนใจ ก็มา refer ได้เลยยน้า 😀
โดยการจะไปไหว้ถ้ำนาคา ต้องจองคิวก่อนนะ จองใน App QueQ ของอุทยานแห่งชาติภูลังกา โดยเปิดให้จองภายใน 15 วัน 
พอได้คิวแล้วค่อยจองเครื่องบินและที่พัก (เพื่อความชัวร์) 
สอบถามข้อมูลทาง FB https://www.facebook.com/PhulangkaTH 
(แต่ช่วงนี้ปิดนะคะ รอฟังข่าวอีกทีว่าจะเปิดเมื่อไหร่)

 ✈ การเดินทาง
โดยสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ (จองก่อนไปถ้ำแค่ 8 วัน แต่ราคาไม่แพง) ไป-กลับ ราคาประมาณคนละ 1,500 บาท
-ขาไป Flight Bangkok-Udon thani / SL600 / 12 Sep 2020 / 6:25AM
-ขากลับ  Flight Udon thani -Bangkok/ SL611 /14 Sep 2020/ 5:10PM
 🚙 รถเช่า 
รถเช่าของ Thai rent a car มีโปรโมชั่น 3 วัน ประมาณ 1,700 บาท (ราคาถูกอีก โชคดี..อิอิ) (แนะนำๆ)
🎪 ที่พัก
1. คืนแรก อาเซียนรีสอร์ท 1 คืน (ตัวเมืองบึงกาฬ) คืนละประมาณ 600 บาท
2. คืนที่สอง  คุณ ณ ปาล รีสอร์ท (อ.บึงโขงหลง) คืนละประมาณ 500-700 บาท (ที่พักสะอาด แนะนำๆ)
เจ้าของเป็น จนท.อุทยาน ขอคำปรึกษาในการเที่ยวได้ด้วย

Day 1 : คำชะโนด , เขาหินสามวาฬ (ภูสิงห์)
สำหรับทริปนี้ต้องบอกก่อนว่า จ.บึงกาฬ เป็นจังหวัดที่ไม่เคยคิดจะไปเลย เพราะคิดว่าเป็นจังหวัดเล็กๆ คิดว่าไม่มีอะไร แต่ผิดคาดมากๆ พอดูข้อมูลการท่องเที่ยว มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก สถานที่แต่ละที่คือมีแต่สวยๆ เป็นจังหวัดที่ยังคงธรรมชาติมากๆ ชาวบ้านยังอยู่กันแบบธรรมชาติ
(แต่ จขกท.ยังติดค้างที่เที่ยวหลายจุด แต่ตั้งใจว่าจะกลับไปอีกแน่นอน และคงไกล้ๆ ไม่ไกลจากนี้)
เริ่มจากเดินทางโดยเครื่องบินลงที่ จ.อุดรธานี เวลาประมาณ 7.30 น. จุดมุ่งหมายคือ คำชะโนด ได้รับรถเช่าและออกเดินทางกัน 
ได้แวะกินข้าวเช้า ที่ร้านป้าเดือน ป้าน่ารักมาก อธิบายทางและเล่าเรื่องนิดๆหน่อยๆ.. (เจอคนน่ารักตลอดทริป) จากนั่นก็ขับตาม GPS ไปคำชะโนด
จากสนามบินไปคำชะโนด ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.รวมแวะทานข้าว 2 ชม. ถึงประมาณ 10 โมงเช้า
ได้ไปลงทะเบียน เพราะไปช่วงโควิด ต้องจำกัดคนเข้า แต่อะไรๆก็เป็นใจ จังหวะดี ไม่ต้องรอ เดินเข้าไปเรื่อย ๆและคนเริ่มมาเรื่อยๆ 


 คำชะโนด จ.อุดร จขกท.มาครั้งแรก แต่ก็ประทับใจ ดูลึกลับ และรู้สึกอัศจรรย์กับเกาะของคำชะโนด โชคดีที่ได้มาไหว้ สมหวังดังใจ 
จากนั่นก็เดินทางต่อไป จ.บึงกาฬ เพราะเช็คเส้นทางจาก GPS ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม. ออกจากคำชะโนดประมาณ 11.30 น.
 
ระหว่างทางก็เจอจุดที่น่าสนใจ เป็นบึงบัวที่ไม่มีบัว (สถานที่ไม่แน่ใจว่าตรงไหน 😁) วิวน่าสนใจเลยถ่ายรูปเก็บไว้ (ท้องฟ้าสีสวย) 

 ขับไปถึง จ.บึงกาฬ ประมาณ 14.00 ไปเที่ยวต่อที่ เขาหินสามวาฬ ภูสิงห์ กินข้าวตรงบริเวณอุทยาน หลังจากนั่นก็ขึ้นไปลงทะเบียน ขึ้นเขาหินสามวาฬ  ต้องนั่งรถของทางอุทยาน ค่าบริการ 500 บาท ต่อคัน และมีเจ้าหน้าที่คนขับและอธิบายไประหว่างทางไป ตลอดทางที่ไป ทางไม่ค่อยดี เป็นหลุมเป็นบ่อ เป็นทางแนวกันไฟ ต้องใช้รถโฟว์วิลด์ขึ้นเท่านั่น ทางขึ้นลงทางเดียว สวนกัน แต่ชอบมาก แอดเวนเจอร์ดี ฮ่าฮา. 😅
จนท. แนะนำว่า หินสามวาฬสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี  แต่ช่วงเวลาที่แนะนำ คือ เวลาเช้า ซึ่งเป็นเวลาที่จะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นและสายหมอกบาง
การชมหินสามวาฬ (พ่อ แม่ ลูก) และจุดต่างๆ  (วิวสวยมาก ขนาดไปช่วงบ่าย ถ้าไปตอนเช้าคงฟินมาก) 
 
จนท.น่ารักมากคะ อธิบายและช่วยถ่ายรูป จุดแรกจะเป็นหัวสิงโตและไหว้พระหลวงพ่อพระสิงห์ และขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ระยะทางประมาณ ครึ่ง ชม.ก็ถึง
เขาหินสามวาฬ  แต่จนท.พาไปอีกฝั่งก่อนคือ จุดชมวิวถ้ำฤๅษี 
 
 นอกจากจุดชมวิวหินสามวาฬยังมีที่เที่ยวอื่น  ได้แก่ จุดชมวิวถ้ำฤๅษี , กำแพงภูสิงห์ , จุดชมวิวหินหัวช้าง ,หินช้าง , จุดชมวิวส้างร้อยบ่อ , ประตูภูสิงห์ 


ลงมาจากเขาหินสามวาฬ เวลาประมาณ 17.30 ก็เดินทางต่อไป ยังที่พัก อาเซี่ยนรีสอร์ท อ.เมืองบึงกาฬ 
ระหว่างทางก่อนถึงรีสอร์ท ได้ทานอาหารเย็น ที่ร้าน ครัวเคียงตะวัน ก่อนถึงรีสอร์ท 

Day. 2  ถ้ำนาคา (ภูลังกา)
ออกจากที่พักเวลา 6.30 ตอนเช้า เพราะอยากไปทันให้ถึงรอบแรก คือ 8 โมงเช้า ขึ้นช่วงเช้า จะได้ไม่ร้อนและไม่เหนื่อยมาก
แวะเติมพลังงานอาหารเช้าที่ 7/11 ก่อนเข้าไปอุทยาน ถึงอุทยานประมาณ  8 โมงกว่าๆ ก็ลงทะเบียนขึ้นถ้ำ ตรงจุดทะเบียน นำหลักฐานการจองไปให้แก่ จนท. เสียค่าขึ้นและประกันประมาณคนละ 30 บาท จากนั่นก็เตรียมความพร้อม ร่างกายและจิตใจ  เครื่องดื่มและอาหารว่าง ที่พอใส่กระเป๋าได้ไม่หนัก 
#ใจพร้อม #กายพร้อม ลุยย... 💪


วันที่ขึ้นเขาไม่เจอฝนเลย (เช็คพยากรณ์อากาศแจ้งว่า จ.บึงกาฬฝนจะตกประมาณ 60% ของพื้นที่) อากาศถือว่าดี ไม่ร้อนมาก
ทางที่ไป เป็นทางชัน 95% มีทางเดินขลุขละ มีสลับกับบันไดบ้าง และมีเชือกให้เดินขึ้นไปตามทาง 
บางจุดอาจจะชันกว่าปกติ ต้องระมัดระวังในการเดินมากขึ้น ควรมีถุงมือมาเพราะตอนขากลับ ค่อนข้างต้องใช้เชือกในการดึง
จนท.ในการนำทาง จะมีแค่ทีมละ 1 คนผู้เดินทางที่ขึ้นไป ต้องระมัดระวังตัวเองและปฏิบัติตามกฏของอุทยาน
ในวันที่ จขกท. ไปเจอแต่ผู้ร่วมทริปที่น่ารักมาก ช่วยเหลือกันตลอดระหว่างการเดินขึ้นเขา
พอขึ้นไปถึง ก็ทึ่งกับความมหัศจรรย์ของหินลายพญานาค เป็นถ้ำที่มีลวดลายและรูปทรงคล้ายงูยักษ์ 
จขกท.ดีใจและรู้ถึงความศรัทธาของคนที่มาไหว้ เพราะเดินทางไกลด้วยเท้าค่อนข้างลำบากมาก 
แต่สิ่งหนี่งที่ควรระลึกไว้เลยคือ เราต้องเที่ยวอย่างมีจิตสำนึก สำรวมกาย วาจา ใจ และเอาของสิ่งใดขึ้นไป ก็เอาลงมาทุกชิ้น 
เราจะได้มีโอกาศกลับไปเที่ยวอีก 🙏
การขึ้นถ้ำนาคา​  ทางขึ้น​ระยะทาง​ 2​ KM.​ ทางชัน
ขึ้นเวลา​ 8.30 ลง​ 13.00​ (4ชม.ครึ่ง) นั่งรอรายการถ่ายทำ 1 ชม.
บอกก่อนว่าควรออกกำลังกายก่อนมาขึ้นมาจะดีมากๆ  เตรียมความพร้อมของร่างกาย
เพราะต้องปีนบันไดและเสียเหงือค่อนข้างเยอะ 
 

 พอลงมาจากถ้ำนาคา ก็หิวโซกันเลย ทางที่พักแนะนำ ร้านอาหาร หาดคำสมบูรณ์ บึงโขงหลง
 
วิวตอนเย็นของ บึงโขงหลง ก็สวยไม่แพ้กัน มานั่งดูพระอาทิตย์ตกดิน สวยมาก บรรยากาศดีสุดๆ
เมฆจับตัวเป็นก้อน จขกท.มองไป ก็คล้ายกับพญานาคอยู่น้า
  
Day 3 . ภูทอก
เป็นวันสุดท้ายของการเดินทาง จขกท.ไปขึ้นเขาที่ 3 คือ ภูทอก หรือ วัดเจติยาคีรีวิหาร 
จุดเด่นของภูทอก คือ เป็นสะพานไม้และบันไดวนขึ้นสู่ยอดเขา ใช้แรงงานคนสร้าง มีทั้งหมด 7 ชั้น วิว 360 องศา 
พอขึ้นไปแล้ว มีความหวาดเสียวเล็กน้อย เพราะค่อนข้างสูงและชัน ต้องระมัดระวังในการเดินขึ้นและตรงเดินทางเดิน
แต่ขึ้นไปถึงแล้วจะทึ่งกับความ Unseen ของวัด และบรรยากาศ สวยมาก ประทับใจ
ใช้เวลาขึ้นเขา - เดินรอบเขา - ไหว้พระ ใช้ประมาณ 2 ชม
ทางวัดเปิดให้ขึ้น 8 โมง แต่ จขกท.ไปถึง 7 นิดๆ แต่ก็ขึ้นได้ ขึ้นช่วงเช้าหรือเย็นๆ ดีกว่าคะ อากาศไม่ร้อน อากาศกำลังดี


ต่อคอมเม้นท์จ้า 👉