Vivo X50 Pro 5G มากับจุดเด่นเรื่องการถ่ายภาพของกล้องหลังที่มีระบบกันสั่น Gimbol ตัวแรกของโลก ช่วยให้การถ่ายภาพและถ่ายวีดีโอมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น ช่วยให้การถ่ายภาพสวยงามและคมชัดยิ่งขึ้นนั้นเองครับ ด้านหน้าจอ Ultra O Screen โค้งแบบ 3D ความละเอียด FHD+ ที่แสดงผลได้สวยงามมากๆ รองรับค่าสีมาตราฐาน DCI-P3 Color Gamut แสดงค่าสีตรงและคมชัดยิ่งขึ้น พร้อมกับอัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90Hz ด้านขุมพลังจะใช้เป็น Qualcomm Snapdragon 765G รองรับเทคโนโลยี 5G สามารถใช้งาน 5G ได้ตั้งแต่แกะกล่องไม่ต้องรออัพเฟริมแวย์เพิ่ม ทั้งหมดนี้กับค่าตัว 24,999 บาท เดี๋ยวเราไปดูการใช้งานจริงพร้อมๆกันได้เลยครับว่าจะคุ้มมากขนาดไหน ไปเลย
SPEC Vivo X50 Pro 5G
หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด 2376×1080 พิกเซล อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90Hz
ชิปประมวผล Qualcomm Snapdragon 765G
RAM 8 GB
ROM UFS2.1 ขนาด 256 GB
รองรับเทคโนโลยี 5G NSA n41/n78
WiFi 2.4GHz + 5GHz Wi-Fi MIMO
Bluetooth 5.1 / NFC
ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch OS 10.5
กล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F/2.5
กล้องหลัง 4 เลนส์ (AI Quad-Camera) เลนส์หลักมีระบบกันสั่นแบบ Gimbal ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX598 / เลนส์ Portrait ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล / เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล / เลนส์ Periscope Telephoto ที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซูมสูงสุดถึง 60 เท่า
ชิปเสียง hifi AK4377A
แบตเตอรี่ 4315 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ vivo FlashCharge 2.0 ขนาด 33W
ราคา 24,999 บาท
แกะกล่องเช็คของ
อุปกรณ์ภายในกล่องของ Vivo X50 Pro 5G ทั้งหมดจะมีดังนี้
ตัวเครื่อง Vivo X50 Pro 5G
อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ รองรับ FlashCharge 2.0
สาย USB Type-C รองรับ FlashCharge 2.0
หูฟังแบบ 3.5 มม.
อแดปเตอร์แปลงช่องหูฟัง USB Type-C เป็น 3.5 มม.
เคสซิลิโคนใส
เข็มจิ้มถาดซิม
คู่มือและใบรับประกัน
วัสดุและการออกแบบดีไซน์
Vivo X50 Pro 5G มากับหน้าจอแบบ 3D Curved Screen หรือจอโค้งด้านข้างนั้นเองครับ ขนาดจอ 6.56 นิ้ว ความละเอียด 2376×1080 พิกเซล

การเจาะรูแบบ Ultra tiny punch hole สำหรับใส่กล้องหน้า เลนส์กล้องขนาดเล็กเพียง 3.96 มิลลิเมตร

การแสดงผลของหน้าจอ สามารถแสดงค่าสีมาตราฐาน DCI-P3 Color Gamut / รองรับ HDR10+ และมีค่ารีเฟรชหน้าจอ 90Hz อัตราการตอบสนองสูงถึง 180Hz ทำให้จอของ Vivo X50 Pro 5G แสดงผลหน้าจอได้สีตรงและดูสวยงามแถมทัชลื่นๆ เหมาะสำหรับการชมคอนเท็นหรือแม้แต่เล่นเกม ด้านการเล่นเกมจอยังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานผ่านเทคโนโลยี VEG เพื่อให้เหมาะกับการเล่นเกม ช่วยลดความร้อนของหน้าจอ

หน้าจอแสดงผลยังรองรับการสแกนนิ้วใต้จออีกด้วย

ด้านล่างตัวเครื่องจะมีลำโพงตัวเครื่อง / พอร์ต USB Type-C / ไมค์สนทนา และถาดซิมการ์ด ถาดซิมจะรองรับ 2 ซิมแบบนาโน ไม่รองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอก

ด้านขวาจะปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม power

ด้านบนจะมีไมค์ตัดเสียงรบกวนและสกรีนโลโก้ของการใช้งาน 5G PROFESSIONAL PHOTOGRAPHY มาให้

ด้านซ้ายจะปล่อยโล่ง

ฝาหลังวัสดุเป็นกระจก 3D Curved เหมือนจอด้านหน้า โดยด้านหลังจะมีชุดครอบเลนส์กล้องพร้อมไฟแฟลช

วัสดุและการออกแบบตัวเครื่อง ทำออกมาได้หรูหราจริง สมกับเป็นซีรี่ย์เรือธงของทางค่าย

ขนาดตัวเครื่อง 158.46 × 72.80 × 8.04 มม. น้ำหนัก 181.5 กรัม เมื่อถือใช้งาน
ระบบปฎิบัติการ
Vivo X50 Pro 5G มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch 10.5 ไอคอนต่างๆสามารถปรับเปลี่ยนได้และมีธีมไว้ให้เปลี่ยนการใช้งาน ฟังก์ชั่นการใช้งานอย่าง แอ๊พคู่ / ผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Jovi ยังมีมาให้ใช้งานปกติ
ประสิทธิภาพการใช้งาน
Vivo X50 Pro 5G เลือกใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 765G /GPU Adreno 620 ชิปประมวผลชุดนี้รองรับการใช้งาน 5G และสามารถตอบโจทน์การใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมส์บนความละเอียดจอ FHD+ ได้ดีครับ เล่นเกมไหลลื่นเลย ตัวเครื่องมีความร้อนเล็กน้อยไม่ถึงกับผิดปกติ
หน่วยความจำ RAM 8 GB / ROM UFS2.1 ขนาด 256 GB ไม่รองรับหน่วยความจำภายนอก

การเล่นเกมส์ยังมี Ultra Game Mode เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขณะเล่นเกมและยังมีโหมดสั่นแบบ 4D มาให้ด้วยครับเพื่อเพิ่มอรรถมากขึ้น
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหน้า ความละเอียดถึง 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5 โหมดการถ่ายภาพของกล้องหน้าให้มาครบมากๆ รองรับเทคโนโลยี AI สามารถปรับหรือตั้งค่าการเซลฟี่ได้ละเอียดมากๆ ถ่ายแบบหน้าชัดหลังละลายก็ดูสวยงาม

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
กล้องหลัง 4 เลนส์ (AI Quad-Camera) เลนส์หลักมีระบบกันสั่นแบบ Gimbal ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX598 / เลนส์ Portrait ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล / เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล / เลนส์ Periscope Telephoto ที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซูมสูงสุดถึง 60 เท่า
ระบบกันสั่นแบบ Gimbal จะมีเฉพาะในเลนส์หลักนะครับ ใช้งานได้ทั้งการถ่ายภาพนิ่งและการถ่ายวีดีโอ สำหรับภาพนิ่งจะช่วยให้การถ่ายภาพคมชัดมากขึ้น ภาพไม่เบลอ หมดปัญหาสำหรับคนมือไม่นิ่งขณะถ่ายภาพ ส่วนโหมดวีดีโอจะช่วยให้การถ่ายภาพดูสมูทขึ้น

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด AUTO เปิด AI

ภาพถ่ายโหมดมาโคร

ภาพถ่ายจากกล้องหลักถ่ายโหมดบุคคล จะได้ระยะเหมือนกล้อง Full frame ที่ระยะ 50 mm. F2.0 ภาพจะดูสวยงามมากๆฉากหลังจะดูเนียนตา หรือสามารถปรับระดับความเนียนของฉากหลังได้เช่นกันครับ ภาพตัวอย่างของโหมดบุคคลระยะ 50mm F2.0

ภาพถ่ายบุคคลแบบปรับความละลายเอง

ลูกเล่นเพิ่มเติมสำหรับโหมดบุคคล

เลนส์ Periscope จะใช้ระบบกันสั่นแบบ OIS สามารถซูมแบบออปติคอลได้ 5 เท่า และแบบดิจิตอลได้สูงสุด 60 เท่า

โหมดกลางคืน
*** พอดีผมมีเวลาทดสอบเครื่องเพียง 7 วันเท่านั้น ไม่สามารถทดสอบโหมดการถ่ายภาพได้ครบแบบละเอียดมาให้ชม เดี๋ยวจะกลับมารีวิวเรื่องกล้องแบบละเอียดแยกให้อีกบทความนะครับ เพราะเรื่องกล้องของเขาใส่มาให้เยอะจริง ต้องใช้เวลานิดนึง
คุณสมบัติพิเศษ
- ชิป HiFi AK4377A ช่วยให้การฟังเพลง ดูหนัง รวมไปถึงเล่นเกม เพิ่มอรรถรสมากขึ้น
- ใช้งาน 5G ได้ตั้งแต่แกะกล่อง
แบตเตอรี่
Vivo X50 Pro 5G ให้แบตเตอรี่มาที่ 4315 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ vivo FlashCharge 2.0 ขนาด 33W ช่วงที่ผมทดสอบอาจจะสนุกกับการถ่ายภาพมากไปนิดครับพร้อมกับการเปิดใช้งาน 5G ตลอด เช้าถึงเย็นแบตหมดพอดีเลย ถ้าใช้งานทั่วไปคงถึงดึกๆก่อนนอนค่อยชาร์จก็ได้
สรุป
Vivo X50 Pro 5G ฉีกกฎของการถ่ายภาพฝั่งสมาร์ทโฟน เป็นรุ่นแรกที่มีระบบกันสั่นแบบ Gimbal ที่ใช้งานได้จริงๆไม่ได้มีแค่ไว้โชว์ ทำให้การถ่ายภาพหรือถ่ายวีดีโอเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน ภาพถ่ายคมชัดแน่นอนครับ สำหรับคนที่เน้นกล้องโดยเฉพาะกล้องหลังตัวนี้คือที่สุดแล้วครับกับงบ 24,999 บาท ไม่ผิดหวังแน่นอน
[SR] รีวิว Vivo X50 Pro สมาร์ทโฟน 5G ที่มีระบบกันสั่น Gimbol ตัวแรกของโลก
Vivo X50 Pro 5G มากับจุดเด่นเรื่องการถ่ายภาพของกล้องหลังที่มีระบบกันสั่น Gimbol ตัวแรกของโลก ช่วยให้การถ่ายภาพและถ่ายวีดีโอมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น ช่วยให้การถ่ายภาพสวยงามและคมชัดยิ่งขึ้นนั้นเองครับ ด้านหน้าจอ Ultra O Screen โค้งแบบ 3D ความละเอียด FHD+ ที่แสดงผลได้สวยงามมากๆ รองรับค่าสีมาตราฐาน DCI-P3 Color Gamut แสดงค่าสีตรงและคมชัดยิ่งขึ้น พร้อมกับอัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90Hz ด้านขุมพลังจะใช้เป็น Qualcomm Snapdragon 765G รองรับเทคโนโลยี 5G สามารถใช้งาน 5G ได้ตั้งแต่แกะกล่องไม่ต้องรออัพเฟริมแวย์เพิ่ม ทั้งหมดนี้กับค่าตัว 24,999 บาท เดี๋ยวเราไปดูการใช้งานจริงพร้อมๆกันได้เลยครับว่าจะคุ้มมากขนาดไหน ไปเลย
SPEC Vivo X50 Pro 5G
หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด 2376×1080 พิกเซล อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90Hz
ชิปประมวผล Qualcomm Snapdragon 765G
RAM 8 GB
ROM UFS2.1 ขนาด 256 GB
รองรับเทคโนโลยี 5G NSA n41/n78
WiFi 2.4GHz + 5GHz Wi-Fi MIMO
Bluetooth 5.1 / NFC
ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch OS 10.5
กล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F/2.5
กล้องหลัง 4 เลนส์ (AI Quad-Camera) เลนส์หลักมีระบบกันสั่นแบบ Gimbal ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX598 / เลนส์ Portrait ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล / เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล / เลนส์ Periscope Telephoto ที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซูมสูงสุดถึง 60 เท่า
ชิปเสียง hifi AK4377A
แบตเตอรี่ 4315 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ vivo FlashCharge 2.0 ขนาด 33W
ราคา 24,999 บาท
แกะกล่องเช็คของ
อุปกรณ์ภายในกล่องของ Vivo X50 Pro 5G ทั้งหมดจะมีดังนี้
ตัวเครื่อง Vivo X50 Pro 5G
อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ รองรับ FlashCharge 2.0
สาย USB Type-C รองรับ FlashCharge 2.0
หูฟังแบบ 3.5 มม.
อแดปเตอร์แปลงช่องหูฟัง USB Type-C เป็น 3.5 มม.
เคสซิลิโคนใส
เข็มจิ้มถาดซิม
คู่มือและใบรับประกัน
วัสดุและการออกแบบดีไซน์
Vivo X50 Pro 5G มากับหน้าจอแบบ 3D Curved Screen หรือจอโค้งด้านข้างนั้นเองครับ ขนาดจอ 6.56 นิ้ว ความละเอียด 2376×1080 พิกเซล
การเจาะรูแบบ Ultra tiny punch hole สำหรับใส่กล้องหน้า เลนส์กล้องขนาดเล็กเพียง 3.96 มิลลิเมตร
การแสดงผลของหน้าจอ สามารถแสดงค่าสีมาตราฐาน DCI-P3 Color Gamut / รองรับ HDR10+ และมีค่ารีเฟรชหน้าจอ 90Hz อัตราการตอบสนองสูงถึง 180Hz ทำให้จอของ Vivo X50 Pro 5G แสดงผลหน้าจอได้สีตรงและดูสวยงามแถมทัชลื่นๆ เหมาะสำหรับการชมคอนเท็นหรือแม้แต่เล่นเกม ด้านการเล่นเกมจอยังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานผ่านเทคโนโลยี VEG เพื่อให้เหมาะกับการเล่นเกม ช่วยลดความร้อนของหน้าจอ
หน้าจอแสดงผลยังรองรับการสแกนนิ้วใต้จออีกด้วย
ด้านล่างตัวเครื่องจะมีลำโพงตัวเครื่อง / พอร์ต USB Type-C / ไมค์สนทนา และถาดซิมการ์ด ถาดซิมจะรองรับ 2 ซิมแบบนาโน ไม่รองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอก
ด้านขวาจะปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม power
ด้านบนจะมีไมค์ตัดเสียงรบกวนและสกรีนโลโก้ของการใช้งาน 5G PROFESSIONAL PHOTOGRAPHY มาให้
ด้านซ้ายจะปล่อยโล่ง
ฝาหลังวัสดุเป็นกระจก 3D Curved เหมือนจอด้านหน้า โดยด้านหลังจะมีชุดครอบเลนส์กล้องพร้อมไฟแฟลช
วัสดุและการออกแบบตัวเครื่อง ทำออกมาได้หรูหราจริง สมกับเป็นซีรี่ย์เรือธงของทางค่าย
ขนาดตัวเครื่อง 158.46 × 72.80 × 8.04 มม. น้ำหนัก 181.5 กรัม เมื่อถือใช้งาน
ระบบปฎิบัติการ
Vivo X50 Pro 5G มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch 10.5 ไอคอนต่างๆสามารถปรับเปลี่ยนได้และมีธีมไว้ให้เปลี่ยนการใช้งาน ฟังก์ชั่นการใช้งานอย่าง แอ๊พคู่ / ผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Jovi ยังมีมาให้ใช้งานปกติ
ประสิทธิภาพการใช้งาน
Vivo X50 Pro 5G เลือกใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 765G /GPU Adreno 620 ชิปประมวผลชุดนี้รองรับการใช้งาน 5G และสามารถตอบโจทน์การใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมส์บนความละเอียดจอ FHD+ ได้ดีครับ เล่นเกมไหลลื่นเลย ตัวเครื่องมีความร้อนเล็กน้อยไม่ถึงกับผิดปกติ
หน่วยความจำ RAM 8 GB / ROM UFS2.1 ขนาด 256 GB ไม่รองรับหน่วยความจำภายนอก
การเล่นเกมส์ยังมี Ultra Game Mode เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขณะเล่นเกมและยังมีโหมดสั่นแบบ 4D มาให้ด้วยครับเพื่อเพิ่มอรรถมากขึ้น
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหน้า ความละเอียดถึง 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5 โหมดการถ่ายภาพของกล้องหน้าให้มาครบมากๆ รองรับเทคโนโลยี AI สามารถปรับหรือตั้งค่าการเซลฟี่ได้ละเอียดมากๆ ถ่ายแบบหน้าชัดหลังละลายก็ดูสวยงาม
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
กล้องหลัง 4 เลนส์ (AI Quad-Camera) เลนส์หลักมีระบบกันสั่นแบบ Gimbal ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX598 / เลนส์ Portrait ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล / เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล / เลนส์ Periscope Telephoto ที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซูมสูงสุดถึง 60 เท่า
ระบบกันสั่นแบบ Gimbal จะมีเฉพาะในเลนส์หลักนะครับ ใช้งานได้ทั้งการถ่ายภาพนิ่งและการถ่ายวีดีโอ สำหรับภาพนิ่งจะช่วยให้การถ่ายภาพคมชัดมากขึ้น ภาพไม่เบลอ หมดปัญหาสำหรับคนมือไม่นิ่งขณะถ่ายภาพ ส่วนโหมดวีดีโอจะช่วยให้การถ่ายภาพดูสมูทขึ้น
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด AUTO เปิด AI
ภาพถ่ายโหมดมาโคร
ภาพถ่ายจากกล้องหลักถ่ายโหมดบุคคล จะได้ระยะเหมือนกล้อง Full frame ที่ระยะ 50 mm. F2.0 ภาพจะดูสวยงามมากๆฉากหลังจะดูเนียนตา หรือสามารถปรับระดับความเนียนของฉากหลังได้เช่นกันครับ ภาพตัวอย่างของโหมดบุคคลระยะ 50mm F2.0
ภาพถ่ายบุคคลแบบปรับความละลายเอง
ลูกเล่นเพิ่มเติมสำหรับโหมดบุคคล
เลนส์ Periscope จะใช้ระบบกันสั่นแบบ OIS สามารถซูมแบบออปติคอลได้ 5 เท่า และแบบดิจิตอลได้สูงสุด 60 เท่า
โหมดกลางคืน
*** พอดีผมมีเวลาทดสอบเครื่องเพียง 7 วันเท่านั้น ไม่สามารถทดสอบโหมดการถ่ายภาพได้ครบแบบละเอียดมาให้ชม เดี๋ยวจะกลับมารีวิวเรื่องกล้องแบบละเอียดแยกให้อีกบทความนะครับ เพราะเรื่องกล้องของเขาใส่มาให้เยอะจริง ต้องใช้เวลานิดนึง
คุณสมบัติพิเศษ
- ชิป HiFi AK4377A ช่วยให้การฟังเพลง ดูหนัง รวมไปถึงเล่นเกม เพิ่มอรรถรสมากขึ้น
- ใช้งาน 5G ได้ตั้งแต่แกะกล่อง
แบตเตอรี่
Vivo X50 Pro 5G ให้แบตเตอรี่มาที่ 4315 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ vivo FlashCharge 2.0 ขนาด 33W ช่วงที่ผมทดสอบอาจจะสนุกกับการถ่ายภาพมากไปนิดครับพร้อมกับการเปิดใช้งาน 5G ตลอด เช้าถึงเย็นแบตหมดพอดีเลย ถ้าใช้งานทั่วไปคงถึงดึกๆก่อนนอนค่อยชาร์จก็ได้
สรุป
Vivo X50 Pro 5G ฉีกกฎของการถ่ายภาพฝั่งสมาร์ทโฟน เป็นรุ่นแรกที่มีระบบกันสั่นแบบ Gimbal ที่ใช้งานได้จริงๆไม่ได้มีแค่ไว้โชว์ ทำให้การถ่ายภาพหรือถ่ายวีดีโอเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน ภาพถ่ายคมชัดแน่นอนครับ สำหรับคนที่เน้นกล้องโดยเฉพาะกล้องหลังตัวนี้คือที่สุดแล้วครับกับงบ 24,999 บาท ไม่ผิดหวังแน่นอน
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้