รวมประสบการณ์ทางจิตของคุณ solardust

กระทู้นี้จะเป็นการรวบรวมประสบการณ์ทางจิตของคุณ solardust ซึ่งจะแบ่งออกเป็นตอนๆนะครับ

............

ประสบการณ์การรักษาอาการไมเกรนด้วยการทำสมาธิ
solardust


ประสบการณ์ตรงนะครับ เผื่อเป็นประโยชน์บ้าง
สมัยหนุ่มๆนะครับ ผมเป็นคนที่เล่นเกมส์จัดมาก และมีอาการเครียดกับเรื่องงานเนื่องจากมีงานบางอย่างที่ไม่เสร็จซักที
ต้องหิ้วกลับไปทำที่บ้านด้วย อาการปวดเริ่มสะสมขึ้นมาทีละเล็กละน้อย ปวดมั่ง ไม่ปวดมั่ง
จนถึงปวดมากทุกวัน
อาการปวด จะมีอาการปวดหัวข้างเดียวอยู่ตลอด ปวดจนน้ำตาไหล
ไปเข้าเครื่องแสกนสมอง ก็ไม่พบความผิดปรกติใดๆ
จนหมอต้องใช้วิธีจ่ายยามาให้กิน ยาตกเม็ดละเป็นร้อย กินวันละ 3 เม็ด
กินเสร็จก็มึน เบลอไปทั้งวัน อาการปวดก็ยังอยู่ แต่ความที่ปวดไป มึนไป เบลอไป เลยทำให้ไม่ทรมานเท่าที่เคย
ทีนี้ วันหนึ่ง ในห้องประชุม อยู่ๆมันก็ปวดจี๊ดขึ้นมาแบบที่ไม่เคยปวดขนาดนี้มาก่อน น้ำตาไหลพรากๆต่อหน้าคนทั้งห้องประชุม
ก็เลยลุกออกจากห้องประชุม ไปนั่งห้องอื่น แล้วกำหนดสติตามดู อาการปวด (ไม่รู้ใช้คำพูดถูกหรือเปล่านะครับ ถ้าไม่เหมาะสมก็ขออภัย)
--------------------------------
วิธีทำนะครับ
ผมใช้วิธีกำหนดพื้นที่ที่ปวดอยู่ให้เป็นทรงกลมเหมือนลูกบอล แล้วก็เพ่งเข้าไปที่ศูนย์กลางลูกบอลนั้น
เพราะฉนั้น ขอบเขตุของการดูของผมตอนนั้น จะเหลือแค่ศรีษะตั้งแต่ฐานรองสมอง ขึ้นไปจนถึงหนังศรีษะตอนบน
แล้วควบคุมความสงบที่ใช้ในการตามดูศูนย์กลางของความปวด ด้วยลมหายใจ
คือ เอาใจไปจดจ่อกับศูนย์กลางของพื้นที่ ที่กำลังปวดอยู่เป็นหลัก แล้วเอาลมหายใจคอยประคองไม่ให้ จิตหลุดไปจากการเฝ้าดูความเจ็บปวด
--------------------------------
ผลนะครับ
หลังจากดูไปซักพัก ก็รู้สึกเหมือนกับว่า พื้นที่ ที่เรากำหนดขอบเขตุไว้เพื่อตามหาศูนย์กลางความปวดนั้น
มันแยกออกจากร่างส่วนอื่นๆ ขึ้นมาเป็นทรงกลมจริงๆ
หลังจากดูไปอีกซักพัก ก็มองเห็นว่า อาการปวดจริงๆนั้น มาจากกล้ามเนื้อรอบๆกระโหลกมันหดตัว รัดกระโหลกจนปวด
ก็จัดการคลายมันออก
(คือผมเคยฝึกกายานุปัสนามานิดหน่อย เลยรู้ว่าอาการที่เกร็งกับอาการคลาย ต่างกันอย่างไร และจะคุมมันอย่างไร ได้แต่ละจุดในร่างกาย
แต่จะขอข้ามตรงนี้ไปนะครับ)
พอคลายออก ก็พบว่ามันปวดลึกเข้าไปอีก พอนั่งมองไปซักพัก ก็เห็นเหมือนเรามองเข้าไปในกระโหลก เห็นสมองสองซีกตั้งอยู่
ด้านที่ปวด มีอาการเกร็งและบวมเป็นก้อน ก็ทำเหมือนเดิม คือกำหนดให้อาการเกร็งของเนื้อสมองที่มองเห็น คลายตัวออก
พอคลายออก ก็พบว่ามันยังปวดลึกเข้าไปอีก พอมองเข้าไปซักพัก ก็เห็นว่าจริงๆแล้ว มันมีอาการปวด บิด เกร็ง มาจากสมองด้านใน
มีขนาดเท่าลูกปิงปองได้ ก็ทำวิธีเดิม คลายอาการเกร็งของมันออกอีก
พอคลายออก ก็พบว่ามันยังปวดลึกเข้าไปอีก พอมองเข้าไปซักพัก ทีนี้เหมือนโดนดูดเข้าไปในห้องมืด ที่มีขนาดเล็กประมาณปลายเข็มหรืออาจจะเล็กกว่านั้น
คืออยู่ๆก็รู้สึกว่า จุดที่เราตามหาอยู่ มันอยู่ข้างในสมอง แล้วก็เห็นเหมือนเป็นจุดเล็กๆ ประมาณปลายเข็มหมุดได้ โผล่ขึ้นมา กลางลูกปิงปองในเนื้อสมอง
แล้วอยู่ๆก็เหมือน จิตมันโดนดูด พุ่งตรงเข้าไปในจุดที่มองเห็นนั้น
พอเข้าไปแล้ว มันไม่ใช่จุดเล็กๆ มันกลายเป็นห้องมืดขนาดเบ้อเริ่ม
ในห้องมีของที่เป็นลักษณะเหมือนไม้ง่าม ที่เอาปลายง่าม จ่อกับปลายง่าม เป็นคู่ๆ เรียงอยู่เต็มไปหมด นับจำนวนไม่ทั่ว
ยกเว้นไอ้คู่ที่อยู่ตรงหน้า มันไม่ได้เอาปลายง่ามจ่อกับปลายง่าม แต่มันบิดไป 90 องศา ต่างจากคู่อื่นๆ
ผมก็กำหนดใจ ทำอาการเหมือนคลายกล้ามเนื้อ ที่ง่ามคู่ข้างหน้า
ก็เห็นว่า มันบิดกลับมาเหมือนคู่อื่นๆ แล้วก็รู้สึกเหมือนมีเสียงดังกรึ๊บ สะเทือนไปทั้งหัว
แล้วจิตก็ถอยออกมา แต่ไม่ได้ถอยธรรมดา มันถอยเหมือนตอนจะถอดกายทิพย์
คือมีอาการมองเห็นได้รอบตัว ทั้งๆที่หลับตาอยู่
แล้วตั้งแต่นั้นมา อาการปวดก็หายเป็นปลิดทิ้งไปเลย
ตั้งแต่หนุ่มจนแก่ อาการไมเกรนก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย
---------------------------------
ถ้าใครเป็นไมเกรนอยู่ แล้วมีพื้นทางด้นสมาธิอยู่บ้าง ก็ลองดูได้นะครับ
แค่มองเข้าไปในสมอง ลึกลงไป ลึกลงไป จนเจอจุดที่มีปัญหา แล้วก็คลายอาการเกร็งของมันออก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่