จะมีกี่ยอดเขาที่สามารถชมวิวได้360องศา ไม่ว่าจะทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก แถมฟรีทางช้างเผือก 1ในนั้นคือที่นี่ ฆูนุงซีลีปัต อ.เบตง จ.ยะลา

ส่วนใหญ่แล้วคนมาที่นี่เขานิยมมาชมทะเลหมอกในช่วงเช้ากัน แต่หารู้ไม่ พระอาทิตย์ตกตอนเย็นก็สวยไม่แพ้กัน มองเห็นทัศนียภาพได้กว้างไกลไปสุดสายตา เมื่อฟ้าเปิดสามารถมองเห็นไปยังอัยเยอร์เวงได้เลย

และในส่วนของหมอกที่เบตงก็ขยันทำงานดี ทำงานเก่ง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อที่เขาบอกกันว่าใครมาเบตงแล้วเห็นทะเลหมอกทุกราย (อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละวันนะเราว่า บางวันอาจจะเยอะแบบทะเลหมอกเลย บางวันอาจจะหมอกสลับเขา แต่บางวันก็อาจมาแค่ฟุ้งๆ) แต่เชื่อเถอะไม่ว่าจะได้พบเจอหมอกในรูปแบบไหน เมื่อเราทำตัวกลมกลืนกับธรรมชาติแล้วนั้นเราจะเสมือน1เดียวกับมัน ขอแค่ได้สูดลมหายใจ ปล่อยวางความคิด มองทอดยาวสุดสายตา ผ่อนคลายสมอง แค่นี้ก็ได้รับพลังธรรมชาติไปเต็มๆแล้วล่ะ (ลองทำดูนะ มันดีจริงๆนะแก)

เราเดินทางไป3จังหวัดชายแดนใต้ค่ะ และค้างที่เบตง2คืน คืนแรกค้างในเมือง คืนที่สองเราออกนอกเมืองเบตงไปค้างแถวฆูนุงซีลีปัตค่ะ โดยขี่มอเตอร์ไซค์ที่เช่าจาก Foto Hostelค่ะ ทางที่ผ่านก็เป็นทางเขา ไม่ได้ลำบากอะไร มีแค่ทางชันที่ก่อนจะถึงที่พัก บิดไม่ไปแล้วผู้ซ้อนอย่างเราจำต้องโดดลงพร้อมเดินแบกเป้ลูกโตตามขึ้นไป แง๊

และนี่คือที่ซุกหัวนอนของเราค่ะ เราพักที่ Punapa Gunung Silipat ภูนภาแคมป์ปิ้ง (สามารถเข้าไปสอบถามและจองที่พักได้ในเพจ) ราคาเต็นท์ละ800บาท มีเครื่องนอนให้พร้อม ห้องน้ำรวมค่ะ จ่ายไปคนละ400บาทกับวิวประมาณนี้คือคุ้มแหละ มาถึงแล้วเห็นวิวได้แต่ว๊าวกับว๊าว

วันนั้นไปถึงที่พักเร็วค่ะ สัญญาณไม่ค่อยมี อากาศค่อนข้างร้อน จัดการรื้อกระเป๋าหยิบชุดที่บางที่สุดมาใส่ นั่งไปนั่งมาเหมือนคนไฮเปอร์ไม่มีอะไรทำ จากที่คิดว่าจะขึ้นไปชมทะเลหมอกตอนเช้าเลยตัดสินใจเดินขึ้นฆูนุงไปดูแสงเย็นเลย ตอนเช้าค่อยขึ้นมาอีกรอบ ฟิตจังวะเรา 

นี่คือทางเดินขึ้นฆูนุงค่ะ อยู่ด้านหลังที่พัก

ใครจะขึ้นยอดนี้ มีหลายทางเลือกจะเดินป่าแล้วแคมป์ในป่าก็ได้สะดวกเพราะมีทัวร์ของแบเฮงอยู่ ติดต่อได้ที่นี่>>> เพจ : ฆูนุงซีลีปัต - ฆูนุงซาลี Gunungsilipat จะขึ้นอีกทางนึงชันน้อยกว่า แต่ไม่มีห้องน้ำนะคะ ส่วนเราเลือกไปพักที่ภูนภาแคมป์ปิ้ง สาเหตุที่เลือกพักที่นี่เพราะมันสามารถเดินขึ้นเองได้เลย ระหว่างทางเดินมีสะตอด้วย ใครสอยมาได้ก็เอากลับไปกินได้เลย อร่อยด้วยนะ ส่วนระยะทางเราจับจากนาฬิกาประมาณ8ร้อยกว่าเมตร แต่น่าจะคิดผิดเพราะทางนี้มันชันจนเขาทำเชือกยางไว้ให้จับ มันจะเด้งๆหน่อย ถ้าใช้เชือกโดยเฉพาะน่าจะดีกว่า สภาพทางก็ไม่ได้เดินยากมากหรือง่ายเลย แต่ถ้าฝนตกคงจะสไลเดอร์ได้ ส่วนใครที่พักในเมืองก็มาขึ้นเองด้านหลังที่พักได้เหมือนกัน เราเห็นมีจอยทริปมาค่ะ

ขึ้นมาถึงแล้วไม่มีคนเลย เขาลูกนี้เป็นของเรา เย้ๆ ขึ้นมาบนนี้แล้วมีสัญญาณค่ะ มองลงไปจากด้านบนก็เห็นแคมป์ทั้งของที่เราพักและแคมป์จากทางแบเฮงด้วย 

แสงสาดส่องไปทั่วบนภูเขา อยู่ตรงเรามองไปไกลนั่นที่ไหน
อ่อมันคือskywalkอัยเยอร์เวงไง เห็นวิวไกลจากบนเขาฆูนุงเลย

ฮาาา กลอนก็มา คือแค่จะบอกว่ามาตอนไม่มีทะเลหมอกมันก็ดีนะ ทำให้เราได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม ความเขียวขจีทำให้มีชีวิตชีวา และที่เรามองเห็นไปถึงSkywalkได้ก็เพราะเราได้เจอกับแบเฮง ไกด์ทัวร์นำเที่ยวเดินป่าขึ้นฆูนุง เขาพากลุ่มขึ้นมาดูพระอาทิตย์ตกเหมือนกัน เราไม่ได้มากับกรุ๊ปเขาแต่เขาก็มีจิตวิญญาณความเป็นเจ้าบ้านที่ดี ให้คำแนะนำ ถ่ายมุมนี้สิ จุดนี้สิ ชี้นู้นนี่ให้ดูว่าอะไรอยู่ตรงไหน ซึ่งถ้าใครอยากถ่ายskywalkอัยเยอร์เวงต้องใช้เลนส์ประมาณ500mm.น่าจะถึง ได้แบบสวยงาม เราสุดได้แค่135mm.เลยได้มาแค่รูปมุมซ้ายบนค่ะ

แสงเย็นมันสวยจริงๆนะแก ละมุนสุด มันเดินไม่ไกลเดินไหวก็ควรขึ้นไป เพราะด้านบนวิว360องศา ไม่ว่าจะแสงเย็นหรือทะเลหมอกตอนเช้า ปังปุริเย่แน่นอน ตะวันเริ่มลับขอบฟ้า ได้เวลาลงเขาแล้วก่อนที่จะเดินยาก ร่ำลากับแบเฮง พร้อมกับคำชักชวนของแบเฮงว่าตอนเช้าขึ้นมากินกาแฟกัน เขาขนอุปกรณ์ขึ้นมาเป็นอาหารเช้าให้กับกรุ๊ปทัวร์ คนใต้ใจดีทุกคนแบบนี้รึเปล่านะ ขนาดเราไม่ได้มากับเขานะเนี่ยะ เราแนะนำเลยถ้าใครอยากเดินป่าแคมป์ในป่า ไปกับแบเฮงได้ค่ะ ทักไปเลยที่เพจ : ฆูนุงซีลีปัต - ฆูนุงซาลี Gunungsilipat

กลับลงมาแล้วด้วยสภาพยับเยิน อากาศมันร้อนตัวเปียกหัวฟูไปหมด หิวอีกต่างหาก อาหารเย็นของเรามื้อนี้สั่งกับทางภูนภาเป็นเซ็ตหมูกะทะ ชุดละ400บาท แล้วก็เอาสะตอที่สอยระหว่างทางมาย่างกินด้วย อร่อยดีแฮ่ะ

ก่อนจะไปอาบน้ำนอน ค่ำคืนนี้มีโชว์ระบำดวงดาวกับทางช้างเผือกฝ่ากลางเต็นท์ และพิเศษสุดๆได้เห็นดาวตกลูกใหญ่มากไฟสว่างว๊าปเลย แต่กล้องจับไม่ทัน ได้แต่เก็บไว้ในความทรงจำ

Morningจ้า เปิดเต็นท์ออกมาตอน6โมงเช้า อากาศเมื่อคืนค่อนไปทางร้อน ดีที่ทางเราเอาแป้งเย็นไปด้วย ฮาา ตัวช่วยให้หลับได้ 

หลังจากที่กลับลงมาจากยอดฆูนุงมีความเปลี่ยนใจว่า ดูทะเลหมอกหน้าที่พักก็ได้นะเหมือนกันแหละ ฮาา แต่ก็คิดถูกนะ เพราะต้องรีบเดินทางต่อค่อนข้างยาวนานที่สุดของทริปจึงต้องรีบออก ถ้าขึ้นไปก็เสียเวลาอีก และในเช้าวันนั้นหมอกต่ำ หมอกสลับเขา มันไม่ถึงกับเป็นทะเลหมอก แต่ก็สวยเหมือนกัน เราเลยเก็บภาพจากหน้าที่พักเลยไม่ได้ขึ้นไปชิมกาแฟของแบเฮงเลย ว่าจะถ่ายรูปด้วยกันสักหน่อย ไว้มีโอกาสคราวหน้าเนอะแบเฮง

อาหารเช้าเป็นเซ็ตอาหารท้องถิ่น ชุดละ200บาท ทานอาหารเช้าไปมองดูหมอกไป ฟินเบอร์ใหญ่เลยแหละ

เดินไปห้องน้ำ วิวสวยๆก็ยังตามเรามาอีก บ้าจริงน่า

แอบส่องขึ้นไปบนยอดฆูนุงหน่อยดีกว่า เห็นคนยืนอยู่ด้วย

ได้เวลาเก็บของเตรียมตัวไปต่อค่ะ อากาศตอนเช้าก็สบายๆไม่ถึงกับหนาวค่ะ

มุมนั้นก็สวยมุมนี้ก็สวย ไม่ได้ไปสักที ฮาาา

อยากมีเวลานั่งมองไปจนกว่าจะจางหาย

นี่ไง จอยกรุ๊ปจากในเมืองมาขึ้นฆูนุงได้นะคะ รถน่ารักจัง เจ้ากระป๋องเหลือง

ลาฆูนุงซีลีปัตกันไปด้วยสายหมอกนี้ แกทำให้เราแฮปปี้มากนะ ไว้มีโอกาสเราจะมาหาใหม่ 

พิกัด ภูนภา แคมป์ปิ้ง : เข้าได้ 2 ทางจากตัวเมืองเบตงขับไป กม.17 กับ กม.21
ถ้ามาถึงแล้วจาก กม.17 เข้าไปอีก6 กิโลถึงแคมป์ | จาก กม.21 เข้าไปอีก5 กิโลถึงแคมป์ 

***จะมีป้ายบอกแต่ต้องสังเกตนิดนึง เพราะไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่
***สัญญาณโทรศัพท์ไม่เสถียร มาเป็นพักๆแต่บนยอดฆูนุงเลย มีสัญญาณค่ะ

ติดตามเราต่อเพิ่มเติมได้ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้FB:ชอบเที่ยวมีไรปะ
https://www.facebook.com/BeCrazyAboutTravel/