เราเป็นคนหนึ่ง ที่เคยเป็นพนักงานงานประจำ ทำงานกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน
ถามว่า ทฤษฎีการตลาด หรือการวิจัยต่างๆ ที่บอกว่า ทำยังไงจะประสบความสำเร็จในธุรกิจ ดิฉันคิดว่า ตัวเองพอมีความรู้ความเข้าใจระดับหนึ่ง
เพราะทำงานด้านนี้มา แต่พอมาทำธุรกิจเอง สิ่งสำคัญที่นอกจากความรู้เหล่านี้คือ เงินทุนที่แน่นพอ
ทฤษฎีบางอย่าง เป็นแนวทางให้เราเริ่มต้นทำธุรกิจได้ดี แต่ในสถานการณ์จริง บางทีทฤษฎีก็ใช่ไม่ได้
สิ่งที่นำมาใช้ ก็เช่น ทำสถิติสินค้าที่ลูกค้านิยมสั่ง วันที่ขายดีที่สุดในช่วงสัปดาห์ ช่วงที่ขายดีในช่วงเดือน การขยายช่องทางจัดจำหน่าย
อ้อ ลืมเล่าไปว่า ดิฉันออกมาทำร้านขายขนมปังปิ้ง ทำไมต้องขนมปังปิ้ง เพราะคุณแม่ทำไส้ขนมอร่อย เลยมีความฝันเล็กๆ ว่า อยากทำไส้ขนมขาย ขายได้ถึงขั้นขยายตลาดไปประเทศเพื่อนบ้านเลย ทั้งไส้หวานและน้ำพริกต่างๆ เคยเห็นมาม่าฟ้าธานี ที่เค้ามีคนต่อแถวยาวมากๆๆๆ ขายดีเพราะจุดเด่นตรงน้ำพริก เราก็คิดว่า น้ำพริกที่แม่ทำ ไม่เหมือนท้องตลาด และอร่อยมากก มันต้องมีเส้นทางให้เดินได้สิ ไส้ขนม เช่น สังขยา ใบเตย เผือกสด ชาไทย มะพร้าวอ่อน ถั่วกวน โดยเฉพาะน้ำสลัด คือ เป็นน้ำสลัดจริงๆ ไม่เหมือนของที่แพ็ควางขายตามห้าง เราต้องขายดีสิ
สุดท้าย ก็ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ มาทำเอง ในยุคโควิดรบกวนชีวิตทุกคน นายจ้างก็เริ่มจ่ายเงินเดือนไม่ตรงแล้ว นี่แหละ จุดเปลี่ยน แต่ทุนก็มีไม่มาก ด้วยสถานการณ์ชีวิตที่รับศึกหนักช่วงที่ผ่านมา
ตอนนี้ เปิดร้านขายขนมปังปิ้งได้ 1 เดือนพอดี ถามว่าอยู่ได้มั๊ย ก็ต้องบอกว่า ขายพอได้ทุนหมุนเวียน แต่ไม่ถึงกับใช้คำว่าขายดี เพราะมันดีเป็นบางวัน รายได้ (ยังไม่ได้หักค่าใช้จ่าย ตกวันละ 500-1,000 บาท) ก็มานั่งวิเคราะห์ว่า ตลาดที่เราไปเช่าล็อกขาย ไม่ค่อยมีคนมาซื้อของ มานั่งกินข้าวหรือเปล่า เพราะร้านอื่นๆ ก็บ่นเหมือนกัน มีหลายร้านที่มาได้ไม่นานก็ย้ายออก แต่เพราะวางมัดจำไปแล้ว สัญญา 6 เดือน เลยทำให้เรายังชั่งใจอยู่ว่า ต้องทนดูก่อน เราก็ไม่รู้ว่า คิดแบบนี้ถูกหรือผิด แต่จะลองดูอีกสัก 1-2 เดือน (บางคนว่ามันนานไป จะสายไป)
และเราก็เปิดขายที่บ้านเพิ่ม โดยผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ บวกกับขายในกลุ่มหมู่บ้าน
และสนใจตลาดอีกที่หนึ่ง (หากตัดสินใจขายที่นี่ อาจจะไม่ขายที่ตลาดเดิมแล้ว) พอดีว่า มีตลาดแห่งหนึ่ง กำลังสร้างและกำลังจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ เค้าเปิดให้เช่าพื้นที่ ตัวโครงการเค้าติดถนนใหญ่ แต่ด้านหลังติดคลอง ล็อกในโครงการแบ่งเป็นโซนด้านหน้าติดถนน เป็นฟู้ดคอร์ท ส่วนถัดมาจะเป็นตู้คอนเทนเนอร์รอบๆ แล้วตรงกลางเป็นลานกิจกรรม ข้างลานกิจกรรม ตั้งเต็นท์ขนาด 2*2 ถ้าจะเลือกล็อก สำหรับขายขนมปังปิ้ง (มีเครื่องดื่มด้วย เช่น น้ำเต้าหู้คั้นสด ทำเอง) เราควรอยู่ตรงไหนที่นี่
คิดว่า ตอนนี้เราเลือกเดินเส้นทางนี้แล้ว ยังไงก็ต้องอดทน ทำให้สุด มันคงมีช่วงที่ต้องอดทนให้ลูกค้ารู้จักเรามากขึ้น เดี๋ยวก็คงจะดี
(บางที ก็หมดกำลังใจ เพราะสถานการณ์ครอบครัวที่ต้องดูแลก็ต้องใช้เงิน เงินประจำที่จะได้ทุกเดือนก็ไม่มีแล้ว แต่รายจ่ายมันคงที่ หรืออาจจะเพิ่มขึ้นจากค้าขายแต่ต้องหมุนเวียนให้ได้ หวังว่าธุรกิจที่ทำจะไปรอดแล้วทำให้ครอบครัวกินอิ่ม นอนหลับ)
เอาจริงๆ ตอนนี้ทุนก็เริ่มจะหมด จะกู้ลงทุนก็ยังทำไม่ได้เพราะติดเรื่องเป็นธุรกิจใหม่อีก (พอออกมาทำ มันไม่ง่ายจริงๆ)
อยากรู้ว่า ตอนเพื่อนๆ พี่ๆ ตัดสินใจออกมาทำธุรกิจกัน แล้วอยู่รอดได้มาจนถึงตอนนี้ มีแนวคิด หรือแนวทางยังไงกันบ้างคะ ที่ทำให้คนรู้จักธุรกิจเราเร็วขึ้น หรือเลือกทำเล เจาะกลุ่มลูกค้ายังไง หรือคำแนะนำเช่น การเลือกทำเล เป็นต้น
ขอขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับทุกๆ คำแนะนำค่ะ
เมื่อลาออกจากงานประจำมาค้าขาย ต้องทำยังไงให้ธุรกิจไปรอดคะ
ถามว่า ทฤษฎีการตลาด หรือการวิจัยต่างๆ ที่บอกว่า ทำยังไงจะประสบความสำเร็จในธุรกิจ ดิฉันคิดว่า ตัวเองพอมีความรู้ความเข้าใจระดับหนึ่ง
เพราะทำงานด้านนี้มา แต่พอมาทำธุรกิจเอง สิ่งสำคัญที่นอกจากความรู้เหล่านี้คือ เงินทุนที่แน่นพอ
ทฤษฎีบางอย่าง เป็นแนวทางให้เราเริ่มต้นทำธุรกิจได้ดี แต่ในสถานการณ์จริง บางทีทฤษฎีก็ใช่ไม่ได้
สิ่งที่นำมาใช้ ก็เช่น ทำสถิติสินค้าที่ลูกค้านิยมสั่ง วันที่ขายดีที่สุดในช่วงสัปดาห์ ช่วงที่ขายดีในช่วงเดือน การขยายช่องทางจัดจำหน่าย
อ้อ ลืมเล่าไปว่า ดิฉันออกมาทำร้านขายขนมปังปิ้ง ทำไมต้องขนมปังปิ้ง เพราะคุณแม่ทำไส้ขนมอร่อย เลยมีความฝันเล็กๆ ว่า อยากทำไส้ขนมขาย ขายได้ถึงขั้นขยายตลาดไปประเทศเพื่อนบ้านเลย ทั้งไส้หวานและน้ำพริกต่างๆ เคยเห็นมาม่าฟ้าธานี ที่เค้ามีคนต่อแถวยาวมากๆๆๆ ขายดีเพราะจุดเด่นตรงน้ำพริก เราก็คิดว่า น้ำพริกที่แม่ทำ ไม่เหมือนท้องตลาด และอร่อยมากก มันต้องมีเส้นทางให้เดินได้สิ ไส้ขนม เช่น สังขยา ใบเตย เผือกสด ชาไทย มะพร้าวอ่อน ถั่วกวน โดยเฉพาะน้ำสลัด คือ เป็นน้ำสลัดจริงๆ ไม่เหมือนของที่แพ็ควางขายตามห้าง เราต้องขายดีสิ
สุดท้าย ก็ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ มาทำเอง ในยุคโควิดรบกวนชีวิตทุกคน นายจ้างก็เริ่มจ่ายเงินเดือนไม่ตรงแล้ว นี่แหละ จุดเปลี่ยน แต่ทุนก็มีไม่มาก ด้วยสถานการณ์ชีวิตที่รับศึกหนักช่วงที่ผ่านมา
ตอนนี้ เปิดร้านขายขนมปังปิ้งได้ 1 เดือนพอดี ถามว่าอยู่ได้มั๊ย ก็ต้องบอกว่า ขายพอได้ทุนหมุนเวียน แต่ไม่ถึงกับใช้คำว่าขายดี เพราะมันดีเป็นบางวัน รายได้ (ยังไม่ได้หักค่าใช้จ่าย ตกวันละ 500-1,000 บาท) ก็มานั่งวิเคราะห์ว่า ตลาดที่เราไปเช่าล็อกขาย ไม่ค่อยมีคนมาซื้อของ มานั่งกินข้าวหรือเปล่า เพราะร้านอื่นๆ ก็บ่นเหมือนกัน มีหลายร้านที่มาได้ไม่นานก็ย้ายออก แต่เพราะวางมัดจำไปแล้ว สัญญา 6 เดือน เลยทำให้เรายังชั่งใจอยู่ว่า ต้องทนดูก่อน เราก็ไม่รู้ว่า คิดแบบนี้ถูกหรือผิด แต่จะลองดูอีกสัก 1-2 เดือน (บางคนว่ามันนานไป จะสายไป)
และเราก็เปิดขายที่บ้านเพิ่ม โดยผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ บวกกับขายในกลุ่มหมู่บ้าน
และสนใจตลาดอีกที่หนึ่ง (หากตัดสินใจขายที่นี่ อาจจะไม่ขายที่ตลาดเดิมแล้ว) พอดีว่า มีตลาดแห่งหนึ่ง กำลังสร้างและกำลังจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ เค้าเปิดให้เช่าพื้นที่ ตัวโครงการเค้าติดถนนใหญ่ แต่ด้านหลังติดคลอง ล็อกในโครงการแบ่งเป็นโซนด้านหน้าติดถนน เป็นฟู้ดคอร์ท ส่วนถัดมาจะเป็นตู้คอนเทนเนอร์รอบๆ แล้วตรงกลางเป็นลานกิจกรรม ข้างลานกิจกรรม ตั้งเต็นท์ขนาด 2*2 ถ้าจะเลือกล็อก สำหรับขายขนมปังปิ้ง (มีเครื่องดื่มด้วย เช่น น้ำเต้าหู้คั้นสด ทำเอง) เราควรอยู่ตรงไหนที่นี่
คิดว่า ตอนนี้เราเลือกเดินเส้นทางนี้แล้ว ยังไงก็ต้องอดทน ทำให้สุด มันคงมีช่วงที่ต้องอดทนให้ลูกค้ารู้จักเรามากขึ้น เดี๋ยวก็คงจะดี
(บางที ก็หมดกำลังใจ เพราะสถานการณ์ครอบครัวที่ต้องดูแลก็ต้องใช้เงิน เงินประจำที่จะได้ทุกเดือนก็ไม่มีแล้ว แต่รายจ่ายมันคงที่ หรืออาจจะเพิ่มขึ้นจากค้าขายแต่ต้องหมุนเวียนให้ได้ หวังว่าธุรกิจที่ทำจะไปรอดแล้วทำให้ครอบครัวกินอิ่ม นอนหลับ)
เอาจริงๆ ตอนนี้ทุนก็เริ่มจะหมด จะกู้ลงทุนก็ยังทำไม่ได้เพราะติดเรื่องเป็นธุรกิจใหม่อีก (พอออกมาทำ มันไม่ง่ายจริงๆ)
อยากรู้ว่า ตอนเพื่อนๆ พี่ๆ ตัดสินใจออกมาทำธุรกิจกัน แล้วอยู่รอดได้มาจนถึงตอนนี้ มีแนวคิด หรือแนวทางยังไงกันบ้างคะ ที่ทำให้คนรู้จักธุรกิจเราเร็วขึ้น หรือเลือกทำเล เจาะกลุ่มลูกค้ายังไง หรือคำแนะนำเช่น การเลือกทำเล เป็นต้น
ขอขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับทุกๆ คำแนะนำค่ะ