จากข่าวลือเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ปัจจุบัน Nvidia ได้ปิดอภิมหาโครงการทางด้าน IT โดยการเข้าซื้อบริษัทออกแบบชุดคำสั่งชิปสัญชาติอังกฤษ ARM ที่ 4 หมื่นล้านดอลล่าห์

การเติบโตของ Nvidia จาก GPU สู่ปัญญาประดิษฐ์



Nvidia ก่อตั้งในปี 1993 ที่สหรัฐอมริกาโดยเน้นการผลิตหน่วยประมวลผลทางด้านกราฟิค (GPU) คุณภาพสูงสำหรับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โดยมีการ์ดจออันเลื่องชื่อลือชาเรื่องคุณภาพตระกูล GeForce เป็นตัวชูโรง คู่แข่งคนสำคัญของ Nvidia คือ AMD ที่ซื้อบริษัท ATI ไปครับ 

ตัว Nvidia มีการลงทุนที่น่าสนใจมากมายครับ โดย Nvidia เชื่อในการเพิ่มกำไรของบริษัทผ่านการลงทุนในตลาดที่มีการเติบโตสูงมากๆ เช่น การ์ดจอทรงประสิทธิภาพสำหรับเกมเมอร์ทั้งตั้งโต๊ะ Notebook ไปจนถึงมือถือ และ การให้บริการ datacenter ที่ครบวงจรครับ ทั้งหมดทั้งปวงทำให้ Nvidia มี market cap สูงถึง 3 แสนล้านเหรียญตั้งแต่ปี 2019 ครับ 

เมื่อ Softbank ต้องการเงินและ Nvidia ต้องการเทคโนโลยี ดีลยักษ์จึงบังเกิด

Softbank บริษัทจากแดนอาทิตย์อุทัยที่ขึ้นชื่อในการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีมากมายได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของ ARM บริษัทจากอังกฤษที่ออกแบบชุดคำสั่งบนชิปประมวลผล ในปี 2016 ทาง Softbank จึงลงทุน 3.2 หมื่นล้านดอลล่าห์เพื่อถือหุ้นใน ARM โดยหวังว่าเทคโนโลยีของ ARM จะเปลี่ยนโลกในที่สุด



อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีได้ย่อมมีเสีย Softbank ต้องการขายสินทรัพย์หรือกิจการบางส่วนเพื่อใช้หนี้จากการลงทุนต่างๆ และสำรองเงินสดเอาไว้ในมือ การขายกิจการเริ่มจากการขายหุ้นของ Alibaba และ T-Mobile ครับ แต่เงินก็ยังไม่พอ เป้าหมายในการขายรายต่อไปคือ ARM นั้นเอง

Nvidia ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของ ARM ที่จะมาต่อยอดธุรกิจของ Nvidia จึงจะเข้าซื้อหุ้นของ ARM โดยมีความคาดหวังจะรวมเทคโนโลยีของตน เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การออกแบบชิบต่างๆ เข้ากับองค์ความรู้ทางด้านการการออกแบบ และการจำหน่าย license เป็นที่คาดการณ์ว่าอาณาจักรของ Nvidia จะใหญ่ขึ้นอย่างมหาศาลจากการพัฒนาธุรกิจ AI รถไร้คนขับ การผลิตชิปสำหรับ IoT (Internet of Thing) และการจำหน่าย license กับการทำ R&D

Nvidia จึงเข้าซื้อหุ้นของ ARM ด้วยเงินสดและการแลกหุ้นมูลค่ารวม 4 หมื่นล้านดอลล่าห์ โดยผลของการแลกหุ้นทำให้ Softbank กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Nvidia เช่นกัน 

อนาคตของ ARM ภายใต้แม่ที่ชื่อ Nvidia
ถึงแม้ว่าการซื้อขายครั้งนี้จะทำให้เกิด win-win situation กับทุกฝ่าย แต่สิ่งที่รอ ARM กลับไม่โสภาเท่าไรเนื่องจาก

1.       Nvidia ตั้งเป้าผลตอบแทนอยู่ที่ 10% ดังนั้น ARM ต้องทำกำไรอย่างน้อย 4 พันล้านต่อปี ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายนัก โดยเฉพาะเมื่อโดนสั่งห้ามทำการค้ากับจีน และ Huawei ที่เป็นตลาดสำคัญ การลดคนปจนถึงการตัดงบต่างๆ เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุดเป็นสิ่งที่ ARM จะต้องเผชิญในเร็วๆ นี้

2.       เมื่อ ARM ไปรวมกับ Nvidia ที่ตลาดชิปและ license ทำให้ Nvidia ต้องเผชิญกับกฎหมาย Anti-trust ห้ามการผูกขาดตลาด และต้องยื่นเอกสารเพื่อชี้แจ้งและขออนุมัติไปทั่วโลก

3.       ลูกค้าของ ARM เช่น Intel ที่ผลิตชิป และ Qualcomm ที่พัฒนา AI สำหรับพาหนไร้คนขับจะเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Nvidia ทันที เหล่าบริษัทน้อยใหญ่ย่อมเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ นอกจากต้องกังวลว่า Nvidia จะไม่อนุญาตให้ ARM ขาย license ให้กับตนหรือไม่ ยังต้องกังวลว่า Nvidia จะบังคับขาย license พัฒนาขึ้นมาเองมัดรวมมาขายด้วย 

อย่างไรก็ตามดีลขนาดใหญ่ยักษ์นี้จะเป็นบททดสอบสำคัญของวงการ IT เทคโนโลยีที่โดนทั้ง Trade war ไปจนถึงการแข่งขันอันดุเดือดเลือดพล่าน จะเป็นอย่างไรต่อไปครับ
 
 ฝากติดตาม กด like กด share ข้อมูลดีๆ ได้ทาง https://www.facebook.com/Unboxthinking
หรือ https://www.blockdit.com/pages/5f4b6519e807060cb777cdbf ด้วยนะครับ ผมสัญญาว่าจะพยายามวิเคราะห์ข้อมูลดีๆ มาให้เรื่อยๆ นะครับผม

Ref https://www.reuters.com/article/us-arm-holdings-m-a-nvidia-breakingviews/breakingviews-nvidias-40-bln-arm-deal-is-risky-chess-move-idUSKBN26512P
https://nvidianews.nvidia.com/