สวัสดีค่ะ วันนี้หนูมีเรื่องอยากจะมาปรึกษาพี่ๆน้องๆชาวพันทิปค่ะ
ต้องบอกก่อนนะคะว่าเมื่อก่อนเป็นเด็กที่โลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ชอบเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ถ้าจะออกจากห้องนั่นก็คือเวลากินข้าวหรืออาบน้ำเท่านั้น จะไม่ค่อยยุ่งกับใครมากนัก แต่หนูไม่ได้เป็นคนเงียบอะไรนะคะ เป็นคนสนุกสนาน เฮฮามากๆ เวลาอยู่โรงเรียนจะชอบอยู่กับเพื่อนเยอะๆค่ะ แต่ก็จะอยู่คนเดียวบ้างและก็ชอบใส่หูฟังฟังเพลงอยู่ในโลกของเรา กลับบ้านก็เฮฮากับคนที่บ้านปกติ แต่จะชอบอยู่ในโลกของตัวเองโดยการอยู่แต่ในห้อง ก็ตามภาษาวัยรุ่น
จนนานเข้า...
คนที่บ้านเริ่มบอกให้ออกมาจากในห้องบ้าง หรืออกไปเที่ยวหาความสุขซะบ้าง ไอ้เรานี่ก็เฉยๆเพราะหนูคิดว่าการอยู่ในห้องก็คือการหาความสุขของหนู หนูเป็นแบบนี้อยู่ 3 ปีเต็ม
จนนานเข้าไปอีก...
(ช่วงปิดเทอมใหญ่)
คนที่บ้านก็บอกแบบเดิม หนูก็เลยตัดสินใจออกมาจากในห้องบ้าง มานั่งกับพวกเขา หรือออกไปหาเพื่อนหรือไปเที่ยวบ้าง (เพื่อนที่ไปหาและไปเที่ยวคือเพื่อนสนิทมากๆที่อยู่ต่างรร.) จนหนูรู้สึกว่า เห้ย...มันก็ดีนะ จากที่ไม่เคยได้ออกมาหาเพื่อนหรือไปเที่ยวกับเพื่อนเลยเพราะคิดว่ามันวุ่นวาย แต่จริงๆมันไม่ได้ จนรู้สึกว่าการหาความสุขของหนูคือการออกไปเปิดหูเปิดตาด้านนอก แรกๆยอมรับเลยว่าออกไปทุกวันเพราะติดใจ จนคนที่บ้านเริ่มเตือนว่ามันเกินไป ไอ้เรามันก็รู้ตัวเลยหยุดๆลงบ้าง ไม่เที่ยวบ่อย และพฤติกรรมขังตัวเองอยู่แต่ในห้องก็หายไป หนูใช้เวลาว่างโดยการนั่งคุยกับครอบครัว บางทีก็ออกไปหาเพื่อนบ้าง
จนมาตอนนี้ หนูอายุ 19 ย่าง 20 ปีหนูเริ่มมีแฟนจากที่ไม่ได้มีมานาน ช่วงปิดเทอมใหญ่ที่ติดโควิด หนูอยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปเลยเพราะโควิด แต่มันก็ไม่ได้อะไรมาก แต่อีกใจก็อยากออกไปข้างนอกบ้าง อยากไปเจอแฟน อยากไปเจอเพื่อน จนมาเปิดเทอม โควิดก็เริ่มจาง ก็มาโรงเรียนปกติ จันทร์-ศุกร์ หนูรู้ว่าหน้าที่ของหนูคือเรียนหนังสือ หนูก็เรียน เรียนเสร็จก็กลับบ้าน (แฟนเรียนที่เดียวกันแผนกเดียวแต่คนสาขา) หนูกับเเฟนไม่ค่อยได้เจอกัน ถ้าได้เจอก็คือตอนพักเที่ยงที่ต่างคนก็ต้องต่างไปกินข้าวกับเพือนๆ แต่ตอนกลางคืนก็คอลคุยกันปกติ หนูกับแฟนเลยคิดว่าเราลองมีเวลาให้กันดูไหม เราสองคนตกลงว่า อาทิตย์นึงเราจะมีเวลาให้กัน 1 วัน มันก็ต้องตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ ทุกๆวันเสาร์ หนูจะไปเที่ยวเปิดหูเปิดตากับแฟนหนู
ส่วนไปเที่ยวกับเพื่อนหนูก็ไม่ได้ไปแล้ว เพราะเพื่อนก็ต่างย้ายไปเรียนมหาลัยต่างจังหวัด กับเพื่อนในห้องหนูไม่ได้คิดจะออกไปเที่ยวกัน หนูเลยเหลือแต่แฟน แต่ก็เที่ยวกันแค่สัปดาห์ละครั้ง มันดีมากค่ะเพราะจันทร์ถึงศุกร์เราเรียนหนักมากและเครียดมากๆ ได้ไปปลดปล่อยสักวันก็ดีมากพอแล้ว
แต่พอตอนนี้ คนที่บ้านกลับบอกว่าเราไม่ติดบ้านบ้านเลย เอาแต่เที่ยว เที่ยวมากเกินไปแล้ว(คนที่บ้านไม่ค่อยออกด้านนอก) ไอ้เราก็อธิบายไปตามความคิด และในความคิดของหนู หนูก็ไม่ได้รู้สึกว่าหนูเที่ยวบ่อยนะ สัปดาห์ละครั้งเพื่อหาความสุขทั้งกายและใจให้กับตัวเอง เรียนมันหนัก บางทีก็อยากเปิดหูเปิดตา อยากให้ความสุข อยากมีเวลาอยู่กับแฟน แต่ก็ไม่เคยทิ้งเวลาที่จะอยู่กับครอบครัวเลย เราก็แบ่งเวลาให้ตลอด
ในความคิดหนู การหาความสุขของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ความสุขของหนูคือเที่ยว หนูก็เที่ยวแต่ก็รู้ขอบเขต ไม่มากไป แต่พอคนที่บ้านหาความสุขหนูก็ไม่เคยห้ามเลยเพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมากๆ แต่พอหนูจะหาความสุขบ้าง เขากลับห้าม อธิบายก็ไม่ฟัง มันก็ขี้เกียจพูด พอเป็นเเบบนี้หนูก็เริ่มรู้สึกอึดอัดไม่อยากอยู่บ้านเพราะรู้สึกว่าคนที่บ้ายไม่เข้าใจ
หนูเกินไปรึเปล่าคะ?
พี่ๆชาวพันทิปช่วยแนะนำความคิดหรือให้คำปรึกษาหน่อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
การหาความสุขให้ตัวเอง...?
ต้องบอกก่อนนะคะว่าเมื่อก่อนเป็นเด็กที่โลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ชอบเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ถ้าจะออกจากห้องนั่นก็คือเวลากินข้าวหรืออาบน้ำเท่านั้น จะไม่ค่อยยุ่งกับใครมากนัก แต่หนูไม่ได้เป็นคนเงียบอะไรนะคะ เป็นคนสนุกสนาน เฮฮามากๆ เวลาอยู่โรงเรียนจะชอบอยู่กับเพื่อนเยอะๆค่ะ แต่ก็จะอยู่คนเดียวบ้างและก็ชอบใส่หูฟังฟังเพลงอยู่ในโลกของเรา กลับบ้านก็เฮฮากับคนที่บ้านปกติ แต่จะชอบอยู่ในโลกของตัวเองโดยการอยู่แต่ในห้อง ก็ตามภาษาวัยรุ่น
จนนานเข้า...
คนที่บ้านเริ่มบอกให้ออกมาจากในห้องบ้าง หรืออกไปเที่ยวหาความสุขซะบ้าง ไอ้เรานี่ก็เฉยๆเพราะหนูคิดว่าการอยู่ในห้องก็คือการหาความสุขของหนู หนูเป็นแบบนี้อยู่ 3 ปีเต็ม
จนนานเข้าไปอีก...
(ช่วงปิดเทอมใหญ่)
คนที่บ้านก็บอกแบบเดิม หนูก็เลยตัดสินใจออกมาจากในห้องบ้าง มานั่งกับพวกเขา หรือออกไปหาเพื่อนหรือไปเที่ยวบ้าง (เพื่อนที่ไปหาและไปเที่ยวคือเพื่อนสนิทมากๆที่อยู่ต่างรร.) จนหนูรู้สึกว่า เห้ย...มันก็ดีนะ จากที่ไม่เคยได้ออกมาหาเพื่อนหรือไปเที่ยวกับเพื่อนเลยเพราะคิดว่ามันวุ่นวาย แต่จริงๆมันไม่ได้ จนรู้สึกว่าการหาความสุขของหนูคือการออกไปเปิดหูเปิดตาด้านนอก แรกๆยอมรับเลยว่าออกไปทุกวันเพราะติดใจ จนคนที่บ้านเริ่มเตือนว่ามันเกินไป ไอ้เรามันก็รู้ตัวเลยหยุดๆลงบ้าง ไม่เที่ยวบ่อย และพฤติกรรมขังตัวเองอยู่แต่ในห้องก็หายไป หนูใช้เวลาว่างโดยการนั่งคุยกับครอบครัว บางทีก็ออกไปหาเพื่อนบ้าง
จนมาตอนนี้ หนูอายุ 19 ย่าง 20 ปีหนูเริ่มมีแฟนจากที่ไม่ได้มีมานาน ช่วงปิดเทอมใหญ่ที่ติดโควิด หนูอยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปเลยเพราะโควิด แต่มันก็ไม่ได้อะไรมาก แต่อีกใจก็อยากออกไปข้างนอกบ้าง อยากไปเจอแฟน อยากไปเจอเพื่อน จนมาเปิดเทอม โควิดก็เริ่มจาง ก็มาโรงเรียนปกติ จันทร์-ศุกร์ หนูรู้ว่าหน้าที่ของหนูคือเรียนหนังสือ หนูก็เรียน เรียนเสร็จก็กลับบ้าน (แฟนเรียนที่เดียวกันแผนกเดียวแต่คนสาขา) หนูกับเเฟนไม่ค่อยได้เจอกัน ถ้าได้เจอก็คือตอนพักเที่ยงที่ต่างคนก็ต้องต่างไปกินข้าวกับเพือนๆ แต่ตอนกลางคืนก็คอลคุยกันปกติ หนูกับแฟนเลยคิดว่าเราลองมีเวลาให้กันดูไหม เราสองคนตกลงว่า อาทิตย์นึงเราจะมีเวลาให้กัน 1 วัน มันก็ต้องตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ ทุกๆวันเสาร์ หนูจะไปเที่ยวเปิดหูเปิดตากับแฟนหนู
ส่วนไปเที่ยวกับเพื่อนหนูก็ไม่ได้ไปแล้ว เพราะเพื่อนก็ต่างย้ายไปเรียนมหาลัยต่างจังหวัด กับเพื่อนในห้องหนูไม่ได้คิดจะออกไปเที่ยวกัน หนูเลยเหลือแต่แฟน แต่ก็เที่ยวกันแค่สัปดาห์ละครั้ง มันดีมากค่ะเพราะจันทร์ถึงศุกร์เราเรียนหนักมากและเครียดมากๆ ได้ไปปลดปล่อยสักวันก็ดีมากพอแล้ว
แต่พอตอนนี้ คนที่บ้านกลับบอกว่าเราไม่ติดบ้านบ้านเลย เอาแต่เที่ยว เที่ยวมากเกินไปแล้ว(คนที่บ้านไม่ค่อยออกด้านนอก) ไอ้เราก็อธิบายไปตามความคิด และในความคิดของหนู หนูก็ไม่ได้รู้สึกว่าหนูเที่ยวบ่อยนะ สัปดาห์ละครั้งเพื่อหาความสุขทั้งกายและใจให้กับตัวเอง เรียนมันหนัก บางทีก็อยากเปิดหูเปิดตา อยากให้ความสุข อยากมีเวลาอยู่กับแฟน แต่ก็ไม่เคยทิ้งเวลาที่จะอยู่กับครอบครัวเลย เราก็แบ่งเวลาให้ตลอด
ในความคิดหนู การหาความสุขของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ความสุขของหนูคือเที่ยว หนูก็เที่ยวแต่ก็รู้ขอบเขต ไม่มากไป แต่พอคนที่บ้านหาความสุขหนูก็ไม่เคยห้ามเลยเพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมากๆ แต่พอหนูจะหาความสุขบ้าง เขากลับห้าม อธิบายก็ไม่ฟัง มันก็ขี้เกียจพูด พอเป็นเเบบนี้หนูก็เริ่มรู้สึกอึดอัดไม่อยากอยู่บ้านเพราะรู้สึกว่าคนที่บ้ายไม่เข้าใจ
หนูเกินไปรึเปล่าคะ?
พี่ๆชาวพันทิปช่วยแนะนำความคิดหรือให้คำปรึกษาหน่อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ