มีเงินเหลือแค่ 1 บาท บันทึกนี้เป็นการเดินทางเพื่อเอาชีวิตรอด เนื่องจากประสบภัย Covid-19 ทุกอย่างหายหมด แถมไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 กู้ออมสินก็ไม่ได้รับการอนุมัติ ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือเงินแค่ 1 บาท ตั้งแต่เดือนเมษายน เป็นต้นมา จึงตัดสินใจว่าจะต้องมีชีวิตอยู่ให้ได้ (ทีแรกจะฆ่าตัวตายละ) อันดับแรกจะต้องมีอาหารกินก่อน โดยการรับแจกอาหารและหาตามตู้ปันสุข ที่อยู่ก็ขอนอนวัด หลัง ๆ บางวัดเราไปขอบ่อย ทางลูกศิษย์วัดดูบางคนเหมือนจะทำท่ารังเกียจ เลยต้องเปลี่ยนใหม่โดยการย้ายวัดไปเรื่อย ๆ
คำเตือน!!...
เรื่องราวที่ท่านจะอ่านต่อไปนี้เขียนตามศัพท์ภาษาอังกฤษที่ว่า Base on true story เป็นเรื่องราวที่อิงพื้นฐานเรื่องจริงแล้วมีการเสริมแต่งเรื่องราวให้สนุกสนานแฟนตาซีเข้ามาช่วยบ้างนิดหน่อยให้ผู้อ่านผ่อนคลาย (เรื่องจริงล้วน ๆ มันอาจจะหนักไป) ดังนั้นผู้ติดตามอ่านสามารถช่วยกันพิจารณาได้ว่าตรงไหนน่าจะจริงส่วนไหนน่าจะเป็นการเสริมแต่งขึ้นมา แล้วมาร่วมแสดงความคิดเห็น ช่วยกันแลกเปลี่ยนมุมมองได้ทุกคนครับ
ปล.1 ขอขอบคุณสมาชิกท่านแรก ๆ ที่มาแสดงความคิดเห็นในเรื่องราวที่เขียนว่าไม่น่าเชื่อในมุมมองของท่าน เพื่อความแฟร์กับผู้อ่านทุกท่านจึงเป็นที่มาของคำเตือนนี้ เพราะความจริงแท้หนึ่งเดียวนั้นมีเพียงผู้เขียนคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าอันไหนจริง ดังนั้นผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณ และสนุกสนานไปกับเรื่องราวที่อ่านอย่างใจเป็นกลาง พิจารณาไปด้วยกันว่าอันไหนน่าจะจริง อันไหนน่าจะแต่งเติมเพิ่มครับ
ปล.2 บอกไว้ก่อนว่าผู้เขียนไม่ใช่คนดีอะไรนะ เป็นคนธรรมดา สีเทา ๆ ทั่วไป มีดีมีเลวปน ๆ กันไป ไม่ได้เลิศเลอสูงส่ง แถมจนอีกต่างหาก Ha Ha Ha
เส้น Timeline ของเรื่อง จะมีสองเส้นขนานกันคือ เส้นที่หนึ่งดำเนินเรื่องไปตามเส้นเวลาปัจจุบันที่สุด ส่วนเส้นที่สองจะเป็นเรื่องแทรก ที่มาที่ไปของตัวละครต่าง ๆ หรือขยายความเข้าใจของสถานการณ์ต่าง ๆ แยกเป็นเรื่อง ๆ ไป ซึ่งผู้เขียนจะขึ้นหัวข้อว่าเรื่องแทรก เป็นเรื่องอะไร
----------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องแทรก
ประสบการณ์อันเลวร้ายในการใช้บริการตู้ปันสุข ณ วัดแห่งหนึ่ง
ตั้งค่า
อภิธานศัพท์ ก่อนอ่าน ใช้เฉพาะเรื่องนี้เท่านั้น (ประสบการณ์อันเลวร้ายในการใช้บริการตู้ปันสุข ณ วัดแห่งหนึ่ง)
Animal = สัตว์
It= มัน
You=มอ-อึ-งอ
Ha=หอ-อา-ไม้เอก
Ai=ออ-ไอ-ไม้โท
Here=ห-เอีย-ไม้โท
ประสบการณ์อันเลวร้ายในการใช้บริการตู้ปันสุข ที่วัดแห่งหนึ่ง
ภาพจำภาพแรก
“Ai-Animal เอ้ยยยย !! … You จะเอาไปทำไมเยอะแยะวะ เหลือไว้ไห้คนอื่นบ้าง..!!!..”
ภาพจริงคือ เราเห็นว่าข้าวน้ำในตู้ปันสุขมันกระจัดกระจาย เลยจัดวางให้ใหม่ จะได้สวยงามน่าดู คนที่มาหยิบทีหลังจะได้หยิบง่าย คนที่ด่าเราแอบมองอยู่ข้างหลัง ใกล ๆ จะเห็นว่า เราหยิบนั่นหยิบนี่เยอะแยะ แล้วยืนหยิบอยู่นานไม่ไปซักที เลยคิดไปเองว่าเราหยิบของไปเยอะ (คนนี้เป็นคนเฝ้าวัดผู้ชายมีอายุสูงวัยนิดหน่อย แถมตัวใหญ่รอบเอวหนามาก น้ำหนักเยอะ เดินไม่คล่อง อาศัยอยู่ในวัดนี้แหละ ชอบเดินมาด่าคนที่มาเอาของในตู้ปันสุข ด่าแบบไม่มีเหตุผลไปงั้นแหละ) ตอนหลังเจอคนที่มาเอาข้าวในตู้ปันสุขที่วัดนี้บ่อยพี่เค้ามาตั้งแต่ช่วงแรก ๆ (ก่อนหน้านั้นตังค์เรายังไม่หมด) บอกว่า ที่นี่ต้องรีบเอา รีบหยิบ แล้วรีบไป ได้อะไรก็เอา อย่ายืนเลือกนาน ไม่งั้น Ai คนนี้ It จะเข้ามาด่า
บางครั้งก็เดินมาด่าเราดื้อ ๆ เลยว่า เฮ้ยย อย่าเอาไปเยอะสิ Ai-Ha Youไม่เหลือให้คนอื่นเลย ทั้งที่เราหยิบแค่ ข้าวสวย 1 ถุง กับข้าว 1 ถุง น้ำ 1 ขวด
บางทีไปหาของในตู้ปันสุขตอนค่ำ มีคนขี่รถมอเตอร์ไซ (คล้ายตระเวณดูแลความเรียบร้อยรอบวัด) ขับมาใกล้ ๆ ตรงหน้าตู้ปันสุขที่เราหาของกินอยู่ เปิดไฟสูงจ่อส่องข้างหลังเรา เบิ้ลเครื่องอยู่ข้างหลังเราตั้งนาน เรานึกว่ารถพี่เค้าคงเสียเลยยังไม่ขยับไปไหน แต่พอเราหันไปมอง อ้าวว… จ้องหน้าเราแบบเหยียด ๆ ออกแนวกดดัน ไม่เป็นมิตร เบิ้ลเครื่องใส่เราต่อ จนเราต้องเดินออกมาจากตรงนั้น พอเราเดินใกลออกมาสักพักได้ยินเสียงสรรค์เสริญตามหลังเรามาว่า Ai-Animal เอ๊ยยย….. (คนนี้เป็นคนเฝ้าวัดมีอายุสูงวัยหน่อย ตัวผอม สายตาไม่เป็นมิตร อาศัยอยู่ในวัดนี้แหละ)
ได้เจอคนที่ไปเอาของที่ตู้ปันสุขบ่อย ๆ เป็นคุณน้าคุณป้าที่ท่าทางเป็นคนจนจริง ๆ คือจนมาตลอด (ส่วนเราก็จนมาก่อนเช่นกัน แต่ตอนนี้จนหนักกว่าเดิม จนยิ่งกว่าน้ากับป้าอีก Ha Ha Ha…) พอโดนพวกคนเฝ้าวัด (ที่ดูมีอายุสูงวัยหน่อย)ที่คอยมาด่า คอยมาว่า คอยด้อยค่าพวกเรา คุณน้าคุณป้าก้อกระซิบบอกเราว่า ช่าง It ใครจะด่า ใครจะว่าเรา อย่ามีเรื่อง มีอะไรที่กินได้ก้อกินนะหนุ่ม ผมนิน้ำตาตกในเลย อยากจะกราบขอบคุณคุณน้าคุณป้าตรงนั้นเลยที่ช่วยเตือนสติ
มาคิดดูก็ไม่รู้ว่าเราเคยไปทำอะไรให้คนเหล่านี้โกรธเคืองนะ ถึงได้มาด่าว่าหรือแสดงกริยาหยาบ ๆ แบบนี้กับพวกเราผู้ยากไร้
ปล. เราไม่ได้ว่าร้ายวัดนะครับ วัดอะดีมาก ดีสุด ๆ แต่เราเล่าถึงคนเฝ้าวัดครับ ที่แสดงกริยาหยาบ ๆ กับผู้ยากไร้
ปล.อีกที เราจะไม่กล่าวชื่อวัดได ๆ ในทางไม่ดีในเหตุการณนี้นะครับ แค่เล่าให้ฟังว่าเหตุการณเกิดที่วัดแห่งหนึ่งเท่านั้น และคนที่แสดงกริหยาบ ๆ กับเราก็แค่คนเฝ้าวัดเท่านั้น ไม่ใช่พระ ไม่ใช่เด็กวัด
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ประสบการณ์ดี ๆ ภาพสวยงามกับการใช้บริการตู้ปันสุข
เรื่องที่ 1.
ไปใช้บริการที่ตู้ปันสุขที่วัดแห่งหนึ่งได้สักสองอาทิตย์ สังเกตเห็น Pattern บางอย่างคือ ปกติเช้า ๆ เราจะไปหาของกินที่ตู้ปันสุข ช่วงเวลาประมาณหกโมงครึ่งถึงเจ็ดโมงเช้าทุกวัน แล้วจะพบว่ามีชุดข้าวน้ำแบบเดิม ๆ มาวางไว้ทุกวัน คือกับข้าวชนิดต่าง ๆ แยกอย่างละถุง ประมาณ 4-5 อย่าง ข้าวเปล่าและน้ำเปล่า จัดเป็นชุดคือกับข้าว 1 ข้าวเปล่า 1 น้ำเปล่า 1 จัดรวมใส่ถุงหิ้วไว้อย่างดี คำนวนด้วยสวยตาคร่าว ๆ ก็เกือบร้อยชุด ช่วงเวลาที่เราไปถึงก็จะมีคนเข้าแถวทยอยหยิบอยู่ก่อนละ เราก็ไปเข้าแถวต่อคิวแต่ก็สังเกตเห็นว่า ชุดข้าวน้ำที่วางในตู้นั้นเป็นชุดเดิม ๆ จัดมาอย่างดี (ไม่ได้ตินะครับ ขอให้มีมาเถอะ ทานได้ทุกอย่าง) พอมาถึงคิวเราได้อะไรก็เอา หลังจากที่สังเกตเห็นแบบนี้อยู่สองอาทิตย์เราก็อยากรู้ว่าใครเป็นคนจัดมาให้จะได้กราบขอบคุณตรงนั้นเลย วันถัดมาเลยไปรอดูตั้งแต่ตีห้า ดูของในตู้ปันสุข ยังไม่มีอะไร ตู้ว่างเปล่าเราเลยไปนั่งสังเกตอยู่ห่าง ๆ ประมาณเกือบหกโมงเช้า มีรถกระบะมาจอดใกล้ ๆ ตู้ปันสุข มีผู้ชายสามสี่คนอายุประมาณ 30 ปี ลงมาจากรถเปิดผ้าคลุมหลังรถออก ข้างในเห็นเป็นข้าวที่จัดเป็นชุดเหมือนที่เราเคยได้ กะคร่าว ๆ ก็เกือบร้อยชุด ชายทั้งสี่คนช่วยกันขนถุงข้าวที่จัดเป็นชุดไว้อย่างดีใส่ในตู้ปันสุข พอใส่ของหมดพี่ ๆ ก็ขับรถออกไป เราก็นึกขอบคุณในใจ อ๋อ…. พี่กลุ่มนี้นี่เอง ที่มีน้ำใจ สักพักจึงมีคนทยอยมาหยิบข้าวในตู้ เราก็หยิบมา 1 ชุด พอกลับมาก็เกิดสงสัยอีกว่า แล้วพี่เค้าเป็นใครหว่า เมื่อกี๊ยังไม่ได้ขอบคุณเลย วันถัดมาเราเลยไปใหม่ ไปเช้ามืดเหมือนเดิม และพอถึงช่วงเวลาเดิม รถคันเดิมมาจอด พี่ ๆ ที่มากับรถเอาข้าวที่จัดเป็นชุดใส่ตู้ เราเลยเข้าไปสอบถาม
เรา: พี่ครับ ขออนุญาตสอบถามครับ ว่าข้าวพวกนี้พวกพี่ ๆ เป็นเจ้าภาพจัดมาให้ใช่ใหมครับ ขอบคุณนะครับ
กลุ่มพี่ ๆ: ปล่าวครับ
เรา: งั้น เป็นใครหรือหน่วยงานไหนครับ ที่จัดมาให้ จะได้ขอบคุณได้ถูก
กลุ่มพี่ ๆ: พวกเราเป็นเด็กวัด มีหลวงพี่ท่านนึงท่านบิณทบาตรได้เยอะ เลยแบ่งมาให้ใส่ตู้
เรา: พอจะบอกได้ใหมครับว่าหลวงพี่ท่านไหน จะได้ขอบคุณท่าน
กลุ่มพี่ ๆ: ท่านอยู่วัดนี้แหละ
พี่เค้าตอบยิ้ม ๆ แล้วก็ขึ้นรถขับออกไป ปล่อยเรางง อยู่ตรงนั้น จนคนที่ทยอยมาเอาข้าวสะกิดเราให้ไปหยิบเอาข้าวว่า “รีบหยิบสิน้อง เดี๋ยวหมดนะ”
แต่ในใจก็ยังสงสัย
1.พี่กลุ่มนี้ ไม่ใช่เด็กวัดที่วัดนี้แน่นอน (ถ้าอยู่วัดนี้ ช่วงกลางวันต้องเห็นบ้าง)
2.ลักษณะท่าทาง พี่กลุ่มนี้ไม่ใช่ทรงของเด็กวัดนี้ เพราะวัฒธรรมองค์กรของเด็กวัดนี้จะไม่ใช่แบบนี้ (ผมมีความรู้เรื่องการสร้างวัฒนธรรมองค์กรและการวิเคราะห์พฤติกรรมองค์กรติดตัวผมอยู่ ผมดูออก มันไม่ได้หายไปพร้อมกับงานและเงิน Ha Ha Ha)
3.ที่บอกว่าเป็นพระหลวงพี่ในวัดนี้บิณทบาตรได้เยอะแล้วแบ่งมาให้ ก็ยังสงสัย เพราะตอนที่พี่ ๆ เอาข้าวมาให้มันเช้ามาก พระวัดนี้บางรูปยังไม่ออกบิณทบาตรเลยและของบิณทบาตรต้องหลากหลายกระจัดกระจาย ไม่มาเป็นชุด Pattern เดียวกันแบบนี้
แต่ ณ เวลานี้ต้องขอขอบพระคุณกลุ่มพี่ ๆ กลุ่มนี้ด้วยครับ
ทุกเช้าที่เราไปตู้ปันสุขแห่งนี้ก็จะได้ข้าวน้ำเป็นชุดแบบนี้กลับมาทานตลอด
เป็นที่น่าเสียดายว่าหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ ทางวัดได้ยกเลิกตู้ปันสุขนั้นไป เลยไม่ได้รู้ความจริงว่า จริง ๆ แล้วคนที่เป็นเจ้าภาพจัดข้าวมาใส่ตู้ปันสุขให้ทุกเช้าคือใคร แต่ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพี่ ๆ กลุ่มนั้นจัดมาให้เอง หรือ ไม่ว่าจะเป็นหลวงพี่ที่อ้างถึง หรือ จะเป็นผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ไม่ประสงค์จะแสดงตัว ก็ขอกราบขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอบพระคุณครับ
เรื่องที่ 2.
ใช้บริการตู้ปันสุขที่วัดแห่งหนึ่งแถวที่พัก
ด้วยความที่เราเป็นผู้ใช้บริการตู้ปันสุขหน้าใหม่หลาย ๆ อย่างจึงดู เก้ ๆ กัง ๆ เงอะ ๆ งะ ๆ ผิดที่ ผิดจังหวะตลอด (ช่วงที่มีตู้ปันสุขช่วงแรก ๆ ตังค์ยังไม่หมด พอตังหมดจึงมาใช้บริการตู้ปันสุข เราเลยดูเป็นมือใหม่) เช่น มาเอาของที่ตู้แล้วไม่รีบเดินออก ยังดันไปยืนจัดของในตู้ให้สวยงามดูดีอีก อันนี้คือ You ทำความดีผิดที่ผิดจังหวะนะ ตอนนี้ เวลานี้ บทบาท You ไม่ใช่ผู้ให้แล้ว You คือผู้รับ บทบาท You ณ เวลานี้ คือ รีบเอารีบหยิบแล้วรีบไป จะได้อะไร ได้มาก ได้น้อย ก็ให้รีบออกไป ไม่งั้น Ai คนเฝ้าวัด It จะเข้ามาด่า You เหมือน You ไม่ใช่คนเลยแหละ
เรื่องประทับใจที่สวยงามคือ
มีพี่ ๆ ที่ใช้บริการตู้ปันสุขแห่งนี้มาก่อนคงจะสังเกตเห็นความใหม่และความไม่รู้ของผมแหละ พี่เค้าเลยมาแนะนำว่า
2.1.รีบหยิบ รีบไป ได้อะไรก็เอา อย่ายืนหน้าตู้นาน (แม้คุณจะเอาของแค่ชิ้นเดียว หรือ ไม่มีอะไรให้เอาเลย)
2.2.เวลาไหนที่จะไม่เจอคนเฝ้าวัดมาด่า พร้อมชี้เป้าว่าคนไหนบ้างที่ชอบมาด่า มาว่า มาด้อยค่าพวกเรา
2.3.อย่ามาใช้บริการตู้ปันสุขที่นี่ทุกวัน ให้เว้นไปหลาย ๆ วันค่อยวนมา พร้อมทั้งแนะนำตู้อื่น ๆ ว่าอยู่ที่ไหนบ้าง และจุดแจกข้าวที่เค้ามาแจกเป็นประจำทุกเช้ามีตารางเวลาให้ด้วย มีหลายจุดที่เดินไปได้ (ใกล แต่ก็จะเดินไปเพราะไม่มีเงินแล้ว) ให้สลับ ๆ ที่ไปอย่าไปจุดไหนติดต่อกันทุกวัน โดยเฉพาะที่ตู้ปันสุขตรงวัดนี้ที่คุณจะโดนด่าทุกครั้งที่คุณมา (ตรงกับเวลาที่คนเฝ้าวัดเหล่านี้อยู่)
เอาชีวิตรอด 100 วัน การเดินทางเพื่อชีวิตเนื่องจากวิกฤติ Covid-19 มีเงินเหลือแค่ 1 บาท Season 1
คำเตือน!!...
เรื่องราวที่ท่านจะอ่านต่อไปนี้เขียนตามศัพท์ภาษาอังกฤษที่ว่า Base on true story เป็นเรื่องราวที่อิงพื้นฐานเรื่องจริงแล้วมีการเสริมแต่งเรื่องราวให้สนุกสนานแฟนตาซีเข้ามาช่วยบ้างนิดหน่อยให้ผู้อ่านผ่อนคลาย (เรื่องจริงล้วน ๆ มันอาจจะหนักไป) ดังนั้นผู้ติดตามอ่านสามารถช่วยกันพิจารณาได้ว่าตรงไหนน่าจะจริงส่วนไหนน่าจะเป็นการเสริมแต่งขึ้นมา แล้วมาร่วมแสดงความคิดเห็น ช่วยกันแลกเปลี่ยนมุมมองได้ทุกคนครับ
ปล.1 ขอขอบคุณสมาชิกท่านแรก ๆ ที่มาแสดงความคิดเห็นในเรื่องราวที่เขียนว่าไม่น่าเชื่อในมุมมองของท่าน เพื่อความแฟร์กับผู้อ่านทุกท่านจึงเป็นที่มาของคำเตือนนี้ เพราะความจริงแท้หนึ่งเดียวนั้นมีเพียงผู้เขียนคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าอันไหนจริง ดังนั้นผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณ และสนุกสนานไปกับเรื่องราวที่อ่านอย่างใจเป็นกลาง พิจารณาไปด้วยกันว่าอันไหนน่าจะจริง อันไหนน่าจะแต่งเติมเพิ่มครับ
ปล.2 บอกไว้ก่อนว่าผู้เขียนไม่ใช่คนดีอะไรนะ เป็นคนธรรมดา สีเทา ๆ ทั่วไป มีดีมีเลวปน ๆ กันไป ไม่ได้เลิศเลอสูงส่ง แถมจนอีกต่างหาก Ha Ha Ha
เส้น Timeline ของเรื่อง จะมีสองเส้นขนานกันคือ เส้นที่หนึ่งดำเนินเรื่องไปตามเส้นเวลาปัจจุบันที่สุด ส่วนเส้นที่สองจะเป็นเรื่องแทรก ที่มาที่ไปของตัวละครต่าง ๆ หรือขยายความเข้าใจของสถานการณ์ต่าง ๆ แยกเป็นเรื่อง ๆ ไป ซึ่งผู้เขียนจะขึ้นหัวข้อว่าเรื่องแทรก เป็นเรื่องอะไร
----------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องแทรก
ประสบการณ์อันเลวร้ายในการใช้บริการตู้ปันสุข ณ วัดแห่งหนึ่ง
ตั้งค่า อภิธานศัพท์ ก่อนอ่าน ใช้เฉพาะเรื่องนี้เท่านั้น (ประสบการณ์อันเลวร้ายในการใช้บริการตู้ปันสุข ณ วัดแห่งหนึ่ง)
Animal = สัตว์
It= มัน
You=มอ-อึ-งอ
Ha=หอ-อา-ไม้เอก
Ai=ออ-ไอ-ไม้โท
Here=ห-เอีย-ไม้โท
ประสบการณ์อันเลวร้ายในการใช้บริการตู้ปันสุข ที่วัดแห่งหนึ่ง
ภาพจำภาพแรก
“Ai-Animal เอ้ยยยย !! … You จะเอาไปทำไมเยอะแยะวะ เหลือไว้ไห้คนอื่นบ้าง..!!!..”
ภาพจริงคือ เราเห็นว่าข้าวน้ำในตู้ปันสุขมันกระจัดกระจาย เลยจัดวางให้ใหม่ จะได้สวยงามน่าดู คนที่มาหยิบทีหลังจะได้หยิบง่าย คนที่ด่าเราแอบมองอยู่ข้างหลัง ใกล ๆ จะเห็นว่า เราหยิบนั่นหยิบนี่เยอะแยะ แล้วยืนหยิบอยู่นานไม่ไปซักที เลยคิดไปเองว่าเราหยิบของไปเยอะ (คนนี้เป็นคนเฝ้าวัดผู้ชายมีอายุสูงวัยนิดหน่อย แถมตัวใหญ่รอบเอวหนามาก น้ำหนักเยอะ เดินไม่คล่อง อาศัยอยู่ในวัดนี้แหละ ชอบเดินมาด่าคนที่มาเอาของในตู้ปันสุข ด่าแบบไม่มีเหตุผลไปงั้นแหละ) ตอนหลังเจอคนที่มาเอาข้าวในตู้ปันสุขที่วัดนี้บ่อยพี่เค้ามาตั้งแต่ช่วงแรก ๆ (ก่อนหน้านั้นตังค์เรายังไม่หมด) บอกว่า ที่นี่ต้องรีบเอา รีบหยิบ แล้วรีบไป ได้อะไรก็เอา อย่ายืนเลือกนาน ไม่งั้น Ai คนนี้ It จะเข้ามาด่า
บางครั้งก็เดินมาด่าเราดื้อ ๆ เลยว่า เฮ้ยย อย่าเอาไปเยอะสิ Ai-Ha Youไม่เหลือให้คนอื่นเลย ทั้งที่เราหยิบแค่ ข้าวสวย 1 ถุง กับข้าว 1 ถุง น้ำ 1 ขวด
บางทีไปหาของในตู้ปันสุขตอนค่ำ มีคนขี่รถมอเตอร์ไซ (คล้ายตระเวณดูแลความเรียบร้อยรอบวัด) ขับมาใกล้ ๆ ตรงหน้าตู้ปันสุขที่เราหาของกินอยู่ เปิดไฟสูงจ่อส่องข้างหลังเรา เบิ้ลเครื่องอยู่ข้างหลังเราตั้งนาน เรานึกว่ารถพี่เค้าคงเสียเลยยังไม่ขยับไปไหน แต่พอเราหันไปมอง อ้าวว… จ้องหน้าเราแบบเหยียด ๆ ออกแนวกดดัน ไม่เป็นมิตร เบิ้ลเครื่องใส่เราต่อ จนเราต้องเดินออกมาจากตรงนั้น พอเราเดินใกลออกมาสักพักได้ยินเสียงสรรค์เสริญตามหลังเรามาว่า Ai-Animal เอ๊ยยย….. (คนนี้เป็นคนเฝ้าวัดมีอายุสูงวัยหน่อย ตัวผอม สายตาไม่เป็นมิตร อาศัยอยู่ในวัดนี้แหละ)
ได้เจอคนที่ไปเอาของที่ตู้ปันสุขบ่อย ๆ เป็นคุณน้าคุณป้าที่ท่าทางเป็นคนจนจริง ๆ คือจนมาตลอด (ส่วนเราก็จนมาก่อนเช่นกัน แต่ตอนนี้จนหนักกว่าเดิม จนยิ่งกว่าน้ากับป้าอีก Ha Ha Ha…) พอโดนพวกคนเฝ้าวัด (ที่ดูมีอายุสูงวัยหน่อย)ที่คอยมาด่า คอยมาว่า คอยด้อยค่าพวกเรา คุณน้าคุณป้าก้อกระซิบบอกเราว่า ช่าง It ใครจะด่า ใครจะว่าเรา อย่ามีเรื่อง มีอะไรที่กินได้ก้อกินนะหนุ่ม ผมนิน้ำตาตกในเลย อยากจะกราบขอบคุณคุณน้าคุณป้าตรงนั้นเลยที่ช่วยเตือนสติ
มาคิดดูก็ไม่รู้ว่าเราเคยไปทำอะไรให้คนเหล่านี้โกรธเคืองนะ ถึงได้มาด่าว่าหรือแสดงกริยาหยาบ ๆ แบบนี้กับพวกเราผู้ยากไร้
ปล. เราไม่ได้ว่าร้ายวัดนะครับ วัดอะดีมาก ดีสุด ๆ แต่เราเล่าถึงคนเฝ้าวัดครับ ที่แสดงกริยาหยาบ ๆ กับผู้ยากไร้
ปล.อีกที เราจะไม่กล่าวชื่อวัดได ๆ ในทางไม่ดีในเหตุการณนี้นะครับ แค่เล่าให้ฟังว่าเหตุการณเกิดที่วัดแห่งหนึ่งเท่านั้น และคนที่แสดงกริหยาบ ๆ กับเราก็แค่คนเฝ้าวัดเท่านั้น ไม่ใช่พระ ไม่ใช่เด็กวัด
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ประสบการณ์ดี ๆ ภาพสวยงามกับการใช้บริการตู้ปันสุข
เรื่องที่ 1.
ไปใช้บริการที่ตู้ปันสุขที่วัดแห่งหนึ่งได้สักสองอาทิตย์ สังเกตเห็น Pattern บางอย่างคือ ปกติเช้า ๆ เราจะไปหาของกินที่ตู้ปันสุข ช่วงเวลาประมาณหกโมงครึ่งถึงเจ็ดโมงเช้าทุกวัน แล้วจะพบว่ามีชุดข้าวน้ำแบบเดิม ๆ มาวางไว้ทุกวัน คือกับข้าวชนิดต่าง ๆ แยกอย่างละถุง ประมาณ 4-5 อย่าง ข้าวเปล่าและน้ำเปล่า จัดเป็นชุดคือกับข้าว 1 ข้าวเปล่า 1 น้ำเปล่า 1 จัดรวมใส่ถุงหิ้วไว้อย่างดี คำนวนด้วยสวยตาคร่าว ๆ ก็เกือบร้อยชุด ช่วงเวลาที่เราไปถึงก็จะมีคนเข้าแถวทยอยหยิบอยู่ก่อนละ เราก็ไปเข้าแถวต่อคิวแต่ก็สังเกตเห็นว่า ชุดข้าวน้ำที่วางในตู้นั้นเป็นชุดเดิม ๆ จัดมาอย่างดี (ไม่ได้ตินะครับ ขอให้มีมาเถอะ ทานได้ทุกอย่าง) พอมาถึงคิวเราได้อะไรก็เอา หลังจากที่สังเกตเห็นแบบนี้อยู่สองอาทิตย์เราก็อยากรู้ว่าใครเป็นคนจัดมาให้จะได้กราบขอบคุณตรงนั้นเลย วันถัดมาเลยไปรอดูตั้งแต่ตีห้า ดูของในตู้ปันสุข ยังไม่มีอะไร ตู้ว่างเปล่าเราเลยไปนั่งสังเกตอยู่ห่าง ๆ ประมาณเกือบหกโมงเช้า มีรถกระบะมาจอดใกล้ ๆ ตู้ปันสุข มีผู้ชายสามสี่คนอายุประมาณ 30 ปี ลงมาจากรถเปิดผ้าคลุมหลังรถออก ข้างในเห็นเป็นข้าวที่จัดเป็นชุดเหมือนที่เราเคยได้ กะคร่าว ๆ ก็เกือบร้อยชุด ชายทั้งสี่คนช่วยกันขนถุงข้าวที่จัดเป็นชุดไว้อย่างดีใส่ในตู้ปันสุข พอใส่ของหมดพี่ ๆ ก็ขับรถออกไป เราก็นึกขอบคุณในใจ อ๋อ…. พี่กลุ่มนี้นี่เอง ที่มีน้ำใจ สักพักจึงมีคนทยอยมาหยิบข้าวในตู้ เราก็หยิบมา 1 ชุด พอกลับมาก็เกิดสงสัยอีกว่า แล้วพี่เค้าเป็นใครหว่า เมื่อกี๊ยังไม่ได้ขอบคุณเลย วันถัดมาเราเลยไปใหม่ ไปเช้ามืดเหมือนเดิม และพอถึงช่วงเวลาเดิม รถคันเดิมมาจอด พี่ ๆ ที่มากับรถเอาข้าวที่จัดเป็นชุดใส่ตู้ เราเลยเข้าไปสอบถาม
เรา: พี่ครับ ขออนุญาตสอบถามครับ ว่าข้าวพวกนี้พวกพี่ ๆ เป็นเจ้าภาพจัดมาให้ใช่ใหมครับ ขอบคุณนะครับ
กลุ่มพี่ ๆ: ปล่าวครับ
เรา: งั้น เป็นใครหรือหน่วยงานไหนครับ ที่จัดมาให้ จะได้ขอบคุณได้ถูก
กลุ่มพี่ ๆ: พวกเราเป็นเด็กวัด มีหลวงพี่ท่านนึงท่านบิณทบาตรได้เยอะ เลยแบ่งมาให้ใส่ตู้
เรา: พอจะบอกได้ใหมครับว่าหลวงพี่ท่านไหน จะได้ขอบคุณท่าน
กลุ่มพี่ ๆ: ท่านอยู่วัดนี้แหละ
พี่เค้าตอบยิ้ม ๆ แล้วก็ขึ้นรถขับออกไป ปล่อยเรางง อยู่ตรงนั้น จนคนที่ทยอยมาเอาข้าวสะกิดเราให้ไปหยิบเอาข้าวว่า “รีบหยิบสิน้อง เดี๋ยวหมดนะ”
แต่ในใจก็ยังสงสัย
1.พี่กลุ่มนี้ ไม่ใช่เด็กวัดที่วัดนี้แน่นอน (ถ้าอยู่วัดนี้ ช่วงกลางวันต้องเห็นบ้าง)
2.ลักษณะท่าทาง พี่กลุ่มนี้ไม่ใช่ทรงของเด็กวัดนี้ เพราะวัฒธรรมองค์กรของเด็กวัดนี้จะไม่ใช่แบบนี้ (ผมมีความรู้เรื่องการสร้างวัฒนธรรมองค์กรและการวิเคราะห์พฤติกรรมองค์กรติดตัวผมอยู่ ผมดูออก มันไม่ได้หายไปพร้อมกับงานและเงิน Ha Ha Ha)
3.ที่บอกว่าเป็นพระหลวงพี่ในวัดนี้บิณทบาตรได้เยอะแล้วแบ่งมาให้ ก็ยังสงสัย เพราะตอนที่พี่ ๆ เอาข้าวมาให้มันเช้ามาก พระวัดนี้บางรูปยังไม่ออกบิณทบาตรเลยและของบิณทบาตรต้องหลากหลายกระจัดกระจาย ไม่มาเป็นชุด Pattern เดียวกันแบบนี้
แต่ ณ เวลานี้ต้องขอขอบพระคุณกลุ่มพี่ ๆ กลุ่มนี้ด้วยครับ
ทุกเช้าที่เราไปตู้ปันสุขแห่งนี้ก็จะได้ข้าวน้ำเป็นชุดแบบนี้กลับมาทานตลอด
เป็นที่น่าเสียดายว่าหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ ทางวัดได้ยกเลิกตู้ปันสุขนั้นไป เลยไม่ได้รู้ความจริงว่า จริง ๆ แล้วคนที่เป็นเจ้าภาพจัดข้าวมาใส่ตู้ปันสุขให้ทุกเช้าคือใคร แต่ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพี่ ๆ กลุ่มนั้นจัดมาให้เอง หรือ ไม่ว่าจะเป็นหลวงพี่ที่อ้างถึง หรือ จะเป็นผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ไม่ประสงค์จะแสดงตัว ก็ขอกราบขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอบพระคุณครับ
เรื่องที่ 2.
ใช้บริการตู้ปันสุขที่วัดแห่งหนึ่งแถวที่พัก
ด้วยความที่เราเป็นผู้ใช้บริการตู้ปันสุขหน้าใหม่หลาย ๆ อย่างจึงดู เก้ ๆ กัง ๆ เงอะ ๆ งะ ๆ ผิดที่ ผิดจังหวะตลอด (ช่วงที่มีตู้ปันสุขช่วงแรก ๆ ตังค์ยังไม่หมด พอตังหมดจึงมาใช้บริการตู้ปันสุข เราเลยดูเป็นมือใหม่) เช่น มาเอาของที่ตู้แล้วไม่รีบเดินออก ยังดันไปยืนจัดของในตู้ให้สวยงามดูดีอีก อันนี้คือ You ทำความดีผิดที่ผิดจังหวะนะ ตอนนี้ เวลานี้ บทบาท You ไม่ใช่ผู้ให้แล้ว You คือผู้รับ บทบาท You ณ เวลานี้ คือ รีบเอารีบหยิบแล้วรีบไป จะได้อะไร ได้มาก ได้น้อย ก็ให้รีบออกไป ไม่งั้น Ai คนเฝ้าวัด It จะเข้ามาด่า You เหมือน You ไม่ใช่คนเลยแหละ
เรื่องประทับใจที่สวยงามคือ
มีพี่ ๆ ที่ใช้บริการตู้ปันสุขแห่งนี้มาก่อนคงจะสังเกตเห็นความใหม่และความไม่รู้ของผมแหละ พี่เค้าเลยมาแนะนำว่า
2.1.รีบหยิบ รีบไป ได้อะไรก็เอา อย่ายืนหน้าตู้นาน (แม้คุณจะเอาของแค่ชิ้นเดียว หรือ ไม่มีอะไรให้เอาเลย)
2.2.เวลาไหนที่จะไม่เจอคนเฝ้าวัดมาด่า พร้อมชี้เป้าว่าคนไหนบ้างที่ชอบมาด่า มาว่า มาด้อยค่าพวกเรา
2.3.อย่ามาใช้บริการตู้ปันสุขที่นี่ทุกวัน ให้เว้นไปหลาย ๆ วันค่อยวนมา พร้อมทั้งแนะนำตู้อื่น ๆ ว่าอยู่ที่ไหนบ้าง และจุดแจกข้าวที่เค้ามาแจกเป็นประจำทุกเช้ามีตารางเวลาให้ด้วย มีหลายจุดที่เดินไปได้ (ใกล แต่ก็จะเดินไปเพราะไม่มีเงินแล้ว) ให้สลับ ๆ ที่ไปอย่าไปจุดไหนติดต่อกันทุกวัน โดยเฉพาะที่ตู้ปันสุขตรงวัดนี้ที่คุณจะโดนด่าทุกครั้งที่คุณมา (ตรงกับเวลาที่คนเฝ้าวัดเหล่านี้อยู่)