ชีวิต : ดาวดำผู้ใช้ชีวิต

กระทู้คำถาม
ตอนจบใหม่ๆ วิธีหาเงินผมว่ามันค่อนข้างเป็นเรื่องง่ายมากนะครับ สมัครงานเรียกสัมภาษณ์ตกลงค่าจ้าง เริ่มงานสิ้นเดือนรับตังค์ มันมีอยู่แค่นั้น

แต่พูดถึงว่างานหายากไหม มัน...ก็พูดยากนะ ผมจบจากมหาลัยที่รุ่นก่อนๆ เขาสร้างชื่อและปูทางมาดี เรื่องงานเลยแบบไม่ต้องลุ้นอะไรเท่าไหร่ ตอนปีสุดท้ายใกล้จะจบ ก็มีหลายๆ บริษัททั้งไทยทั้งต่างชาติขออนุญาตมหาลัยเข้ามาแนะแนว และเปิดให้ลงชื่อสมัคร คืออารมณ์จบไปก็ไปทำงานกับเขาเลยอะไรแบบนั้น นั่นคือพูดถึงบริษัทที่เขาอยากได้แบบเฉพาะเจาะจงสาขา นอกจากของสาขาก็จะมีของมหาลัย คือเขาจะมีเปิดให้บริษัทต่างๆ มาเป็นบูทแนะนำบริษัทที่หอประชุมใหญ่อีกต่างหาก ก็เดินเข้าไปยื่นใบสมัครกันได้ตามสะดวก

หลายๆ คนได้ฟังอาจจะรู้สึกว่า ไม่ต้องคิดอะไร บริษัทไหนก็ทำๆ ไปเถอะ แปลกนะที่ผมกลับ...ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น ผมมีความรู้สึกว่า บริษัทที่เราอยากทำ...ไม่มีว่ะ มันอาจด้วยว่าตอนเรียนมหาลัยเราพูดเรื่องนี้กันบ่อย ว่าอยากทำงานที่ไหนยังไง ตัวผมเองมีธงอยู่ในใจไว้ว่า ผมจะทำงานกับบริษัทมหาชนเท่านั้น บริษัทอะไรที่ไม่ใช่มหาชนขอผ่านละกัน พอจบผมก็ยื่นใบสมัครของผมเอง และก็ได้ทำงานบริษัทมหาชนจริงๆ สมตั้งใจ

ตอนนั้นเจ็ดแปดปีก่อน ก็ได้เงินเดือนอยู่ที่ 15000 บาท แล้วนะ เพื่อนบางคนได้สูงกว่านั้นก็มี เยอะสุดในห้องที่เรียนด้วยกันจะเป็น 30000 กว่าบาทมั้ง ข้อดีข้อด้อยของแต่ละที่ก็แตกต่างกันไป บางที่เงินเดือนเยอะ แต่สวัสดิการน้อย บางที่เงินเดือนไม่มาก แต่สวัสดิการสูง ก็...ชั่งน้ำหนักกันเอา

ผมทำบริษัทแรกประมาณสองปีกว่าๆ ก็เรียนจบปริญญาโท บริษัทเดิมมันขยับยาก เลยสมัครบริษัทใหม่และก็ได้ ถือว่าก้าวกระโดดมาก จากบริษัทเดิมเป็นเอ็นจิเนียร์ บริษัทใหม่เป็นชีฟเอ็นจิเนียร์เลย เงินเดือนก็ขึ้นมาเกือบสี่เท่า

ก็ทำอยู่ประมาณสองสามปี เริ่มรู้สึกว่า...ชีวิตโดนครอบงำมากเกินไป เหมือนกับทุกลมหายใจของเราเป็นของบริษัทหมด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในโรงงาน เราก็ต้องเข้าพื้นที่ตลอด วันหยุดไม่หยุด ตีหนึ่งตีสองหรือตอนไหน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องอยู่หน้างาน รู้สึกว่าเงินเดือนตอนนั้นเป็นค่าจ้างที่น้อยสำหรับเรามากๆ ถ้าเทียบกับสิ่งที่เราให้บริษัท มัน...เป็นชีวิตที่ไม่รู้สึกมีความสุขเลย

ตอนนั้นนอนคิดถึงบ้านทุกวัน อยากกลับบ้าน อยากเป็นคนกวาดถนน อยากขายส้มตำไก่ย่าง อยากขับวินมอไซค์ อยากทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ลูกจ้างเขา ประจวบเหมาะกับเพื่อนสมัยมัธยมอยากทำรับเหมาก่อสร้าง เลยคุยรายละเอียดกัน ใจเรามันไม่อยากทำงานบริษัทแล้ว เลยชวนเพื่อนคนอื่นๆ ที่คิดคล้ายๆ กันมาลงหุ้นตั้งกิจการ

แต่ชีวิตมันไม่ง่ายอย่างที่คิด หลังจากลาออกมาตั้งกิจการเปิดออฟฟิศอะไรต่างๆ ไม่มีงานเลยครับ ราวๆ ครึ่งปีไม่ได้งานเลย คุยตัวไหนก็หวืดคุยตัวไหนก็โดนตัดหน้า คนเรามันจะอยู่แบบไม่มีรายได้...ได้ยังไง เลยลงทุนเปิดร้านขายก๊วยจั๊บครับ คุณได้ยินไม่ผิดหรอกครับ จบวิศวะปริญญาโทมาขายก๊วยจั๊บ สัปดาห์แรกเพื่อนๆ ก็มาช่วยอุดหนุนบ้างไรบ้าง ก็เสมอตัวไปทุกวันๆ คือต้องเข้าใจว่าขายอาหารมันคือของสด ต้องลงทุนไปวันต่อวัน ลงทุนพันห้าขายได้พันหกไรแบบนี้

ขายก๊วยจั๊บอยู่หลายเดือนครับผม จนมาได้ทำงานรับเหมาตัวแรก ทำคอกหมูให้เขาครับ จากนั้นก็เริ่มมีคนรู้จัก ทั้งลูกค้าทั้งผู้รับเหมาด้วยกัน เขาก็มีโยนงานให้พวกเราบ้างไรบ้าง งานเล็กๆ ไม่เกี่ยงเลยครับ คือตอนนั้นรู้สึกกระหายมาก มีอะไรก็โยนมาเถอะ ทำดะเลยครับ ซ่อมหลังคา ติดกันสาด ทำโรงรถ ทำรางน้ำ ทาสีรั้ว พอเขารู้ว่าเราไม่เลือกงาน มีอะไรเขาก็คิดถึงพวกเรา จากไม่มีงานจนชั้นผลงานพุ่งสูงปรี๊ดในช่วงเวลาแค่ปีกว่าๆ

แต่ผมรู้สึกว่ามันโตเร็วเกินไป มีความหวาดหวั่นเพิ่มขึ้นทุกวันๆ จากทำงานแค่หลักหมื่น เพิ่มเป็นหลักแสน เพิ่มเป็นหลักล้าน ตอนนี้ถึงขั้นสิบล้านแล้ว ผมมองว่ามีโอกาสพลาดเหมือนกัน เลยตัดสินใจแยกตัวออกมาทำงานเล็กๆ ส่วนตัว ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับกิจการเดิมแล้ว

ชีวิตผมเป็นแบบนี้ครับ ฝ่ายไหนจะได้บริหารประเทศก็ไม่ได้รู้สึกต่างกัน คือ...ยังไงผมก็ต้องทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองเหมือนเดิม ไม่เคยคิดว่าจะมีรัฐบาลชุดไหน มาจ่ายเงินเดือนให้ผมเดือนละเป็นหมื่น โดยผมไม่ต้องทำอะไร

ปล. วันนี้รู้สึกอยู่ไกลคนพิเศษ ก็เลยเขียนอะไรเรื่อยเปื่อย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่