ยืนยันอีกครั้ง ‘การแซงก์ชั่นหัวเว่ย’จะกลายเป็นการทำลายอุตสาหกรรมชิปสหรัฐฯ

มีโอกาสความเป็นไปได้ที่หัวเว่ยจะสามารถผลิตชิปเซตคิรินที่มีขนาด 7 นาโนเมตรซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีสุดล้ำในเวลานี้ ขึ้นมาภายในประเทศจีนโดยไม่มีการใช้อุปกรณ์สหรัฐฯใดๆ ได้ก่อนสิ้นปี 2021

ชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชช



จากการประมาณการหลายๆ ทางของแวดวงอุตสาหกรรมนี้ บ่งชี้ให้เห็นว่าหัวเว่ยมีการเก็บชิปเซตที่ผลิตขึ้นในไต้หวันเพื่อใช้กับพวกสมาร์ตโฟนระดับไฮ-เอนด์ของตน เอาไว้ในคลังเก็บเป็นจำนวนมากเพียงพอเพื่อการใช้ไปได้ 1 ปี และดังนั้นจึงอาจจะยังคงสามารถขายสมาร์ตโฟนตัวท็อปอย่างรุ่น เมต 40 ได้ต่อไปโดยไม่ขาดตอน จนกระทั่งศักยภาพการผลิตภายในจีนเองทยอยออกมาได้แล้ว


======================================

เวลาเดียวกัน หัวเว่ยกำลังขยายการดำเนินงานด้านการวิจัยและพัฒนาของตนออกไปอีก โดยที่น่าจับตามองคือในรัสเซีย ซึ่งบริษัทกำลังไปสร้างระบบบรอดแบนด์ 5จี ระดับชาติให้ประเทศนั้นอยู่
เหริน เจิ้งเฟย (Ren Zhengfei) ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย พูดเอาไว้เมื่อสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคมว่า “หลังจากสหรัฐฯใส่ชื่อของเราเข้าไปในบัญชีรายชื่อกิจการและบุคคลที่จะถูกแซงก์ชั่น (Entity List) เราก็ได้โยกย้ายการลงทุนของเราในสหรัฐฯไปยังรัสเซีย, เพิ่มการลงทุนในรัสเซีย, ขยายทีมนักวิทยาศาสตร์รัสเซียและเพิ่มเงินเดือนของพวกนักวิทยาศาสตร์รัสเซีย” ทั้งนี้ตามข้อความในเพจ วีแชต (Wechat) ของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียงทง (Shanghai Jiao Tong University)

========================================
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
7 นาโนมีในมืออยู่แล้วก่อนโดนแซงค์ชั่น
ไลโธกราฟี่ 5 นาโน ทำได้แล้วในแลปฯ เหลือแค่สร้างระดับอุตสาหกรรม

ไม่ได้เพิ่งทำ จีน ทำมานานแล้ว
Pilot Projects
In 2015, MIIT supported 46 pilot demonstration projects on various intelligent manufacturing solutions in relation to MIC 2025, and a full list is in the Appendix. Some of the pilot projects are still on-going and others have already finished, and all were led by a Chinese company or institute with support from MIIT. As the MIC 2025 initiative is now being implemented, new pilot projects are likely to listed and supported at both state level and by local provincial and municipal level governments.
https://www.mta.org.uk/system/files/resource/downloads/Made%20in%20China%202025%20Booklet%20One.pdf

#แก้ไขเพิ่มเติมอีกหน่อย

นี่คนอื่นเขาวิเคราะห์นะผมแค่เอามาฝาก


https://media-publications.bcg.com/flash/2020-03-07-How-Restrictions-to-Trade-with-China-Could-End-US-Semiconductor-Leadership.pdf

#แก้อีกครั้งเพิ่มเติมให้ด้านล่าง

ข่าว Published: 2020/7/9

A Chinese research institute has made a breakthrough in a new type of 5 nanometer (nm) laser lithography technology, which industry insiders believe could lay the foundation for research into a self-developed advanced lithography machine, a field in which China lags behind some developed Western countries.
- - - - ตัดออกบ้าง - - - -
ASML delivered 7nm EUV lithography machines last year.
The Netherlands-based firm also announced in June that it has made a significant development in its multi-beam inspection tool line for 5nm lithography machines.
ใครจะพูดว่าข่าวจากจีนไม่น่าเชื่อถือก็พูดได้นะ ตามสะดวกเลย หัวเราะ หัวเราะ หัวเราะ
https://www.globaltimes.cn/content/1194063.shtml
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
เหม็นขี้ฟันติ่งเหลือเกินเจ้าค่ะ ไอ้ที่เอามาแปะนี่ไร้เดียงสาล้วน ๆ EUV lithography นี่จีนวิจัยจนหัวหงอก อีกแสนล้านปีก็ยังทำไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ เอาข่าวสั้น ๆ มาแปะ ขรรมแพร๊พ โฮ๊ะๆๆๆๆๆ เพราะเจ้าของเทคโนโลยี และสร้างมาตรฐาน EUV เอาไว้นี่ คือ ASML เจ้าค่ะ วิจัยกันมาเป็นสิบปีแล้ว ที่จะพอจะแชร์จาก ASML มาได้บ้างก็เป็น lithography จากญี่ปุ่นเจ้าค่ะ คือ cannon และ nikon เจ้าค่ะ จีนไม่เคยอยู่ในสารบบเรื่องพวกนี้ ต่อให้ไม่ถูกกีดกัน ก็ไร้ซึ่งความสามารถเจ้าค่ะ จะทำ reverse engineering ยังไม่มีปัญญาเลยเจ้าค่ะ เพราะอุปกรณ์พวกนี้ ต้องใช้ precision tools ระดับเทพมาก ๆ ในการศึกษา ซึ่งจีนก็ไร้ความสามารถเรื่องนี้อีกเช่นกัน แค่ผลิตหัวลูกลื่นปากกาได้ ก็คุยโวไปเจ็ดย่านน้ำแล้ว ถ้ามัน breakthrough lithography ได้นี่ มันทุ่มไม่อั้นที่จะโม้กับชาวโลกได้เป็นเดือน ๆ แน่เจ้าค่ะ โฮ๊ะๆๆๆๆๆ

การกันจีนออกไปจากอุตสาหกรรมนี้ ไม่ได้ทำให้สหรัฐสูญเสียความเป็นผู้นำอะไรทั้งนั้นหรอกเจ้าค่ะ แต่กลายเป็นผลดีไปทั้งโลก เพราะราคาสินค้ามันจะเอื้ออำนวยให้เกิดการพัฒนาใหม่ ๆ และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขึ้นมาไม่ขาดสาย ตามแบบที่มันควรจะเป็น เพราะถ้าจีนเข้ามา มันก็จะทำแบบเดิม ๆ คือการทุ่มตลาด กดราคาสินค้า subsidy สารพัดโดย CCP เพื่อเป้าหมาย monopoly ให้ได้ ทำให้โครงสร้างราคาปั่นป่วน ไม่สะท้อนต้นทุนจริง บริษัทคู่แข่งจะขาดเงินทุนวิจัยในการพัฒนา เทคโนโลยีใหม่ ๆ ทางด้านนี้จะเกิดขึ้นน้อยลง ดังนั้นการมีจีนในอุตสาหกรรมนี้จะสร้างผลเสียชัด ๆ เจ้าค่ะ

ดังนั้นการต่อสู้จากการ subsidy โดย CCP ต้องทำแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ต้องเข้มข้นและรุนแรงแบบที่คุณปู่ทำนี่แหละเจ้าค่ะ ถึงจะดึงทุกอย่างกลับมาให้เป็นปกติได้ จีนไม่ได้มีความน่ากลัวในเรื่องเทคโนโลยีเจ้าค่ะ แต่ที่น่ากลัวคือการ subsidy ทุกรูปแบบเพื่อให้ธุรกิจของตัวเองได้เปรียบ ดังนั้นมาตรการที่เข้มข้นที่ huawei โดนอยู่ตอนนี้ คือห้ามบริษัทต่างชาติที่มีเทคโนโลยีสหรัฐค้าขายกับ huawei ไม่ได้ห้ามแค่บริษัทสหรัฐอย่างเดียว เป็นการ address ไปที่ CCP โดยตรงว่าบริษัทจีนจะโดนอย่างนี้อีกไม่ใช่น้อย ตอนนี้ ram,storage,pcb ,chip ต่าง ๆ ที่ใช้ใน network equipment ของ huawei ก็ถูกแบนเรียบ มีผลต่อดีล 5g project ของ huawei ทั่วโลกแน่นอน และบริษัทที่จะคว้าชิ้นปลามันเหล่านี้ไป ก็จะเป็น ericsson nokia samsung เห็นมั้ยเจ้าค่ะมีแต่ผลดีกับชาวโลกเจ้าค่ะ โฮ๊ะๆๆๆๆๆๆๆ

เชื่อเจ๊ได้เลย เพราะเจ๊ไม่เคยพลาด มาตรการ sanctions จีนทั้งระบบ กำลังจะถูกใช้เร็ว ๆ นี้แหละเจ้าค่ะ จับตาดูกันได้เลย โฮ๊ะๆๆๆๆๆๆๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่