ผมอายุพึ่งจะ22ปี เคยทำธุรกิจค้าขายเล็กๆน้อยๆมา2อย่างตั้งแต่ปวช1 ตอนนี้ปี3พึ่งเคยเปิดหน้าร้านเองครั้งแรก(โดยใช้เงินลงทุนที่เก็บจากที่ครอบครัวให้) บอกเลยว่าเหนื่อยมากๆครับ ตอนแรกคิดว่าอยากขยายมันต้องเป็นระบบแบบฝันหวาน มันจะต้องแตกต่างกว่าคนอื่นในตลาดไม่มากก็น้อย แต่มันไม่ใช่เลยมันเหนื่อยมากๆกำไรก็น้อยนิด(ขายอาหารครับกำไรน้อยแต่ว่าเน้นขายเยอะ)ผมซื้อวัตถุดิบมาน้อยครับ รายได้เฉลี่ยต่อวัน2500-3500 หักค่านู้นนี่เหลือกำไรถึงผม400-600ร้อยเองครับ ถ้าจ้างพนักงานมาทำคงเจ๊งไปแล้ว เปิดมา1อาทิตย์ เวลาปิดร้านเสร็จนั่งกัดฟันร้องไห้ทุกวันครับ ทำไมมันไม่เป็นแบบที่คิดไว้เลยว่ามันจะต้องดีกว่านี้ แขนขาเมื่อยมือเป็นแผลจากการทำอาหารทั้งวัน ล้าตัวมากครับ ขายหมดทุกวันนะครับแต่อย่างที่บอกผมซื้อวัตถุดิบมาน้อยหมูเฉลี่ยวันละ 5-7 โลเอง ใจผมอยากจะสู้ต่ออยู่นะ แต่พอมองคนที่เป็นพนักงานเงินเดือนในกรุงเทพฯแล้ว ผมอิจฉาเขามาก แต่งตัวดี สะอาด นั่งพิมพ์คอม กลางวันเดินหัวเราะกับเพื่อนๆ รู้สึกว่าพี่ๆเขามีความสุขมากกว่าผม ไม่ต้องแบกรับอะไรเลย ทำงานไม่กดดันอะไรสิ้นเดือนรอรับเงินเดือน ท้อครับแต่คงไม่คิดว่าจะถอยคิดว่าจะลองฮึดดูอีกสักครั้ง
อยากรู้ว่านักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างคุณตัน เจ้าสัวเจริญ เป็นต้น เขาเคยเสียน้ำตาให้กับความเหนื่อยความท้อบ้างไหมครับ เขาต้องทำธุรกิจกี่อย่างถึงจะพบความสำเร็จ หรือมีพี่ๆคนไหนเป็นนักธุรกิจช่วยแนะนำผมหรือสอนผมก็ได้นะครับ ยินดีรับฟังครับ
นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเขาเคย "ร้องไห้เสียน้ำตา" กันบ้างไหมครับ
อยากรู้ว่านักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างคุณตัน เจ้าสัวเจริญ เป็นต้น เขาเคยเสียน้ำตาให้กับความเหนื่อยความท้อบ้างไหมครับ เขาต้องทำธุรกิจกี่อย่างถึงจะพบความสำเร็จ หรือมีพี่ๆคนไหนเป็นนักธุรกิจช่วยแนะนำผมหรือสอนผมก็ได้นะครับ ยินดีรับฟังครับ