สวัสดีครับผมพี ตั้งกระทู้นี้มาเพื่ออยากแชร์ประสบการณ์และอยากให้คุณผู้หญิงที่กำลังจะบอกเลิกแฟนหยุดอ่านก่อน ผมรู้ว่ามันไม่เปลี่ยนความคุณหรอก แต่มันอาจจะทำให้อีกฝ่ายนึงไม่รู้สึกแย่ขนาดผมก็เป็นไปได้ และทุกคนที่กำลังอกหักและถูกทิ้ง จำไว้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว
ความสัมพันธ์ครั้งที่ผมกำลังจะเล่าให้ฟังคือความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณน้ำ คุณน้ำเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีตัวเล็กน่ารัก แต่ส่วนที่ผมชอบเค้าหน่ะไม่ใช่เรื่องหน้าตาหรอก ย้อนกลับไปตอนรู้จักกันใหม่ๆ เค้าเป็นคนจ่ำม่ำนะ ไม่ถึงกับอ้วน แล้วก็ออกคล้ำๆนิดหน่อย แต่ผมเป็นผู้ชายสายเนิร์ดเลยควบคุมการกินของเค้าทำให้เค้าก็ผอมลงสุขภาพดีขึ้น ถึงอาจจะโดนบ่นมาบ้างก็ตาม 555 แล้วเขาก็ดูแลผิวตัวเองจนทำให้ขาวขึ้น คือพูดง่ายๆว่าทุกวันนี้ก็สวยแล้วแหละครับ ที่ผมชอบเค้าหน่ะคือเรื่องความเป็นคนชิวๆของเค้า เพราะผมเองก็เป็นผู้ชายชิวๆ ชอบอะไรง่ายๆ สบายๆ ลุยๆ แต่งตัวง่ายๆ อย่างเช่นพวกเสื้อบอลที่เค้าดราม่ากันไปช่วงนึงนั้นแหละ ผมรู้สึกว่าเวลาอยู่กับเค้าแล้วผมไม่ต้องพยายาม ไม่ต้องพยายามแต่งตัวให้หล่อ ไม่ต้องพยายามทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวผม ซึ่งผมกำลังจะบอกผู้อ่านทุกท่านว่าจงระวังไว้หากคุณเป็นสายชิวแบบนี้ เพราะมันจะส่งผลยังไงต่อชีวิตคุณผมจะเล่าให้ฟังในตอนหลัง ผมอยู่กับเค้ามาได้ประมาณ 3 ปีกว่าๆ จนไม่กี่วันมานี้เค้าได้มาบอกเลิกผมนั่นแหละ ตลอดความสัมพันธ์จากความชิวของผมในบางครั้งผมก็รู้สึกว่าเค้าพยายามเพิ่มความหวานในความสัมพันธ์มากกว่าผม ผมไม่เคยจำวันคบกัน วันครบรอบ วันเจอกันครั้งแรก ผมจำได้ก็แต่เพียงวันเกิดของเค้าเท่านั้นแหละ วันเกิดผมก็ไม่เคยซื้อของอะไรให้ ผมให้เป็นเงินสดแทน เพราะว่าสำหรับผม ผมโอเคนะ ช่วงวันเกิดผมเองผมยังลืมเลยจนพ่อแม่พี่สาวมาแฮปปี้เบิร์ดเดย์ถึงจะรู้ ผมเป็นคนไม่ได้ใส่ใจอะไรมากกับการให้ความสำคัญเล็กๆน้อยๆ ซึ่งนั่นก็เป็นอีกข้อเสียนึง ประกอบกับช่วงนี้ผมมีเป้าหมาย ผมอยากมีบ้าน อยากมีครอบครัว อะไรที่ผมประหยัดได้ผมก็ประหยัด จนอาจจะถึงขั้นที่เรียกได้ว่าช่วงนี้งกมากๆ 555 ซึ่งเราก็บอกับเค้าไปตรงๆนะ ซึ่งเค้าก็มีความฝันเหมือนกับเรา คิดเหมือนกับเรา แต่จริงๆแล้วคุณผู้ชายครับ ยังไงผู้หญิงเค้าก็อยากได้ของขวัญครับ ไม่ว่าเค้าจะบอกกับคุณว่าอย่างไรก็ตาม อันนี้ผมพิสูจน์มาให้พวกคุณแล้ว ซึ่งความสัมพันธ์ครั้งนี้แหละคือความตั้งใจให้ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะผมรู้สึกเจ็บปวดมาก ผมไม่เคยรู้สึกกลัวมาก่อนจากที่เล่าว่าเป็นสายลุยนั่นแหละ ผมผ่านปีนเขา เดินเขา บันจี้จั๊ม โดดร่ม ทุกอย่างที่กล่าวมานี้ไม่มีอันไหนทำให้ผมรู้สึกกลัวได้เลย จนวันที่เค้ามาบอกว่าเลิกคุยกันนั่นแหละมือเท้าผมนี่เย็นไปหมด รู้สึกกลัวแบบสุดๆ ความคิดผมตอนนี้คือคนที่เค้าผ่านมาก่อนเราเค้าผ่านมันไปได้ยังไงนะ ท้าวความก่อนว่าช่วงนี้ผมได้ทุนมาศึกษาต่อในต่างประเทศ หลังจากเค้าบอกเลิกผมมานี้ ผมเรียนอะไรไม่รู้เรื่องเลย ความรู้สึกถ้าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดคงจะตรงกับคำว่าฟุ้งซ่านมากที่สุด รู้สึกไม่สามารถควบคุมสมาธิให้จดจ่อกับเรื่องที่เรียนอยู่ได้ฟังสักพักสมองก็จะคิดไปถึงเรื่องเก่าๆเอง ซึ่งทำให้เกิดปัญหากับการศึกษาของผมมากในขณะนี้ เรียนไม่รู้เรื่อง อาจารย์ถามมาตอบไม่ได้ ซึ่งการศึกษาในระบบของต่างประเทศนั้นผู้ศึกษาจะต้องมีปฏิสัมพันธ์ในทุกหัวข้อ พูดง่ายๆคือผมต้องแสดงความคิดเห็นในทุกๆหัวข้อเพื่อที่จะผ่านการประเมินนั้นแหละ แต่สมาธิผมมันหลุดลอยบ่อยๆ ประกอบกับการศึกษาเป็นภาษาอังกฤษ ระบบประมวลผลของผมก็รวนไปหมด 555 เหตุผลที่เค้าบอกเลิกกับผมคือผมไม่เคยเติมความหวานให้เค้าเลย ซึ่งอันนี้ผมคิดว่ามันเป็นเพราะเราแตกต่างกันมากในด้านทัศนคติ ผมคิดว่าหลายๆอย่างที่ผมทำให้เค้านั้นเป็นการแสดงความรักแบบว่าให้เค้ารู้สึกว่าเรารักเค้าโดยไม่บอกรักนั่นแหละ ซึ่งผมคิดไปเองว่าเค้าคงรับรู้ได้ถึงความรักผ่านการแสดงออกไปแบบนั้น แต่ในทางกลับกันเค้าไม่ได้คิดแบบนั้น ซึ่งจนถึงตอนที่ผมเลิกกับเค้าแล้วนั้นผมก็ไม่สามารถพูดได้ว่าผมรู้ว่าเค้าต้องการการเติมความหวานแบบไหน คำหวาน มุกเล็กๆ ถ่ายภาพตลกๆ ผมก็มีให้ แต่ก็ไม่เท่ากับตอนที่จีบกันใหม่ๆอันนี้ยอมรับ จนทำให้ผมคิดเองว่าเค้าคงจะเบื่อเรานั่นแหละ เพราะผมย้อนกลับไปอ่านข้อความเก่าๆ ผมก็ยังรู้สึกดีมีความสุข แต่เค้ากลับมองว่ามันเป็นเรื่องน่าเบื่อไปซะแล้ว สุดท้ายนี้ก็อยากฝากถึงผู้อ่านที่เป็นผู้ชายสายชิว+เนิร์ดทุกท่านนะครับ ผมพบว่าความสุขของพวกเรานั้นหาง่ายกว่าคนทั่วไป แค่ได้มีคนนึงๆอยู่ข้างๆเรา เราก็มีความสุขแล้ว ไม่ต้องซื้อของหรือทำอะไรให้เกินพอดี เราก็พอใจแล้ว แต่อย่าลืมคิดถึงความรู้สึกของคนที่อยู่ข้างๆเราด้วยว่า เค้ามีความต้องการมากกว่าเรา อย่าเอามาตรฐานของเราไปวัดกับความสุขของเค้าอะไรที่พอสำหรับเรามันอาจจะน้อยไปสำหรับเค้าก็ได้ อย่าเอาตัวเองเป็นเกณฑ์วัด แล้วก็ผู้อ่านที่เป็นฝ่ายหญิงที่คุณกำลังจะบอกเลิกแฟน อย่าตัดความสัมพันธ์แบบฉับพลันเหมือนที่ผมเจอบอกล่วงหน้าหน่อยก็ดี บอกว่าคุณรู้สึกยังไงไม่ชอบตรงไหน เปลี่ยนให้หน่อยได้มั้ย จะดีกว่านะครับ คุยกับฝ่ายชายก่อนเค้าอาจจะยอมเปลี่ยนเพื่อคุณก็ได้ สิ่งที่ผมเจอคือตื่นเช้ามาพบกับข้อความที่ว่าเราเลิกคุยกันเถอะ พูดตรงๆว่าคนที่กำลังจะไปหนะมันง่ายอยู่แล้วครับ แต่สำหรับคนที่ยังอยู่ในความสัมพันธ์หน่ะเค้ายังติดอยู่มันไปต่อแบบคุณยากนะครับ
และสิ่งที่ผมอยากจะฝาก ผมอยากจะฝากผู้อ่านทุกท่านให้แชร์โพสนี้ให้ไปถึงเค้าหน่อย ผมไม่มีโอกาสได้คุยกับเค้าแล้วหล่ะ เพราะเค้าบล็อคผมทุกช่องทางแล้ว ยังไงถ้าเค้าอ่านเค้าต้องรู้แน่แหละว่าเป็นผม ผมอยากให้เค้ารู้ว่าผมรักเค้ามากนะ ยังเสียใจอยู่ แต่ไม่ต้องห่วงผมนะ ผมเห็นมีคนมากมายผ่านมันไปได้ ผมก็ต้องผ่านไปได้เช่นกัน แค่ช่วงนี้มันคงจะหนักหน่อย แต่ถ้าเค้าได้อ่าน ข้อความนี้ผมจะมีความสุขมาก เพราะมีหลายอย่างในนี้ที่มันอยู่ในใจผมแต่มันไม่เคยออกจากปากผมเท่านั้นแหละ ขอบคุณที่อ่านนะครับ
ปล.ชื่อในกระทู้เป็นนามสมมุติขึ้นมานะครับ เพราะไม่อยากให้มีผลกระทบกับใคร
อ่านอาจจะงงๆ หน่อยผมลำดับความไม่ค่อยถูกเพราะบอกตรงๆว่าตอนนี้ก็ยังมึนๆอยู่
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกอาจจะโพสผิด หรือแท็กผิดยังไงก็แจ้งผมได้ ถ้าผิดผมยินดีลบให้ครับ
คุณผู้หญิงที่กำลังจะบอกเลิกแฟนหยุดอ่านก่อนครับ
ความสัมพันธ์ครั้งที่ผมกำลังจะเล่าให้ฟังคือความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณน้ำ คุณน้ำเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีตัวเล็กน่ารัก แต่ส่วนที่ผมชอบเค้าหน่ะไม่ใช่เรื่องหน้าตาหรอก ย้อนกลับไปตอนรู้จักกันใหม่ๆ เค้าเป็นคนจ่ำม่ำนะ ไม่ถึงกับอ้วน แล้วก็ออกคล้ำๆนิดหน่อย แต่ผมเป็นผู้ชายสายเนิร์ดเลยควบคุมการกินของเค้าทำให้เค้าก็ผอมลงสุขภาพดีขึ้น ถึงอาจจะโดนบ่นมาบ้างก็ตาม 555 แล้วเขาก็ดูแลผิวตัวเองจนทำให้ขาวขึ้น คือพูดง่ายๆว่าทุกวันนี้ก็สวยแล้วแหละครับ ที่ผมชอบเค้าหน่ะคือเรื่องความเป็นคนชิวๆของเค้า เพราะผมเองก็เป็นผู้ชายชิวๆ ชอบอะไรง่ายๆ สบายๆ ลุยๆ แต่งตัวง่ายๆ อย่างเช่นพวกเสื้อบอลที่เค้าดราม่ากันไปช่วงนึงนั้นแหละ ผมรู้สึกว่าเวลาอยู่กับเค้าแล้วผมไม่ต้องพยายาม ไม่ต้องพยายามแต่งตัวให้หล่อ ไม่ต้องพยายามทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวผม ซึ่งผมกำลังจะบอกผู้อ่านทุกท่านว่าจงระวังไว้หากคุณเป็นสายชิวแบบนี้ เพราะมันจะส่งผลยังไงต่อชีวิตคุณผมจะเล่าให้ฟังในตอนหลัง ผมอยู่กับเค้ามาได้ประมาณ 3 ปีกว่าๆ จนไม่กี่วันมานี้เค้าได้มาบอกเลิกผมนั่นแหละ ตลอดความสัมพันธ์จากความชิวของผมในบางครั้งผมก็รู้สึกว่าเค้าพยายามเพิ่มความหวานในความสัมพันธ์มากกว่าผม ผมไม่เคยจำวันคบกัน วันครบรอบ วันเจอกันครั้งแรก ผมจำได้ก็แต่เพียงวันเกิดของเค้าเท่านั้นแหละ วันเกิดผมก็ไม่เคยซื้อของอะไรให้ ผมให้เป็นเงินสดแทน เพราะว่าสำหรับผม ผมโอเคนะ ช่วงวันเกิดผมเองผมยังลืมเลยจนพ่อแม่พี่สาวมาแฮปปี้เบิร์ดเดย์ถึงจะรู้ ผมเป็นคนไม่ได้ใส่ใจอะไรมากกับการให้ความสำคัญเล็กๆน้อยๆ ซึ่งนั่นก็เป็นอีกข้อเสียนึง ประกอบกับช่วงนี้ผมมีเป้าหมาย ผมอยากมีบ้าน อยากมีครอบครัว อะไรที่ผมประหยัดได้ผมก็ประหยัด จนอาจจะถึงขั้นที่เรียกได้ว่าช่วงนี้งกมากๆ 555 ซึ่งเราก็บอกับเค้าไปตรงๆนะ ซึ่งเค้าก็มีความฝันเหมือนกับเรา คิดเหมือนกับเรา แต่จริงๆแล้วคุณผู้ชายครับ ยังไงผู้หญิงเค้าก็อยากได้ของขวัญครับ ไม่ว่าเค้าจะบอกกับคุณว่าอย่างไรก็ตาม อันนี้ผมพิสูจน์มาให้พวกคุณแล้ว ซึ่งความสัมพันธ์ครั้งนี้แหละคือความตั้งใจให้ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะผมรู้สึกเจ็บปวดมาก ผมไม่เคยรู้สึกกลัวมาก่อนจากที่เล่าว่าเป็นสายลุยนั่นแหละ ผมผ่านปีนเขา เดินเขา บันจี้จั๊ม โดดร่ม ทุกอย่างที่กล่าวมานี้ไม่มีอันไหนทำให้ผมรู้สึกกลัวได้เลย จนวันที่เค้ามาบอกว่าเลิกคุยกันนั่นแหละมือเท้าผมนี่เย็นไปหมด รู้สึกกลัวแบบสุดๆ ความคิดผมตอนนี้คือคนที่เค้าผ่านมาก่อนเราเค้าผ่านมันไปได้ยังไงนะ ท้าวความก่อนว่าช่วงนี้ผมได้ทุนมาศึกษาต่อในต่างประเทศ หลังจากเค้าบอกเลิกผมมานี้ ผมเรียนอะไรไม่รู้เรื่องเลย ความรู้สึกถ้าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดคงจะตรงกับคำว่าฟุ้งซ่านมากที่สุด รู้สึกไม่สามารถควบคุมสมาธิให้จดจ่อกับเรื่องที่เรียนอยู่ได้ฟังสักพักสมองก็จะคิดไปถึงเรื่องเก่าๆเอง ซึ่งทำให้เกิดปัญหากับการศึกษาของผมมากในขณะนี้ เรียนไม่รู้เรื่อง อาจารย์ถามมาตอบไม่ได้ ซึ่งการศึกษาในระบบของต่างประเทศนั้นผู้ศึกษาจะต้องมีปฏิสัมพันธ์ในทุกหัวข้อ พูดง่ายๆคือผมต้องแสดงความคิดเห็นในทุกๆหัวข้อเพื่อที่จะผ่านการประเมินนั้นแหละ แต่สมาธิผมมันหลุดลอยบ่อยๆ ประกอบกับการศึกษาเป็นภาษาอังกฤษ ระบบประมวลผลของผมก็รวนไปหมด 555 เหตุผลที่เค้าบอกเลิกกับผมคือผมไม่เคยเติมความหวานให้เค้าเลย ซึ่งอันนี้ผมคิดว่ามันเป็นเพราะเราแตกต่างกันมากในด้านทัศนคติ ผมคิดว่าหลายๆอย่างที่ผมทำให้เค้านั้นเป็นการแสดงความรักแบบว่าให้เค้ารู้สึกว่าเรารักเค้าโดยไม่บอกรักนั่นแหละ ซึ่งผมคิดไปเองว่าเค้าคงรับรู้ได้ถึงความรักผ่านการแสดงออกไปแบบนั้น แต่ในทางกลับกันเค้าไม่ได้คิดแบบนั้น ซึ่งจนถึงตอนที่ผมเลิกกับเค้าแล้วนั้นผมก็ไม่สามารถพูดได้ว่าผมรู้ว่าเค้าต้องการการเติมความหวานแบบไหน คำหวาน มุกเล็กๆ ถ่ายภาพตลกๆ ผมก็มีให้ แต่ก็ไม่เท่ากับตอนที่จีบกันใหม่ๆอันนี้ยอมรับ จนทำให้ผมคิดเองว่าเค้าคงจะเบื่อเรานั่นแหละ เพราะผมย้อนกลับไปอ่านข้อความเก่าๆ ผมก็ยังรู้สึกดีมีความสุข แต่เค้ากลับมองว่ามันเป็นเรื่องน่าเบื่อไปซะแล้ว สุดท้ายนี้ก็อยากฝากถึงผู้อ่านที่เป็นผู้ชายสายชิว+เนิร์ดทุกท่านนะครับ ผมพบว่าความสุขของพวกเรานั้นหาง่ายกว่าคนทั่วไป แค่ได้มีคนนึงๆอยู่ข้างๆเรา เราก็มีความสุขแล้ว ไม่ต้องซื้อของหรือทำอะไรให้เกินพอดี เราก็พอใจแล้ว แต่อย่าลืมคิดถึงความรู้สึกของคนที่อยู่ข้างๆเราด้วยว่า เค้ามีความต้องการมากกว่าเรา อย่าเอามาตรฐานของเราไปวัดกับความสุขของเค้าอะไรที่พอสำหรับเรามันอาจจะน้อยไปสำหรับเค้าก็ได้ อย่าเอาตัวเองเป็นเกณฑ์วัด แล้วก็ผู้อ่านที่เป็นฝ่ายหญิงที่คุณกำลังจะบอกเลิกแฟน อย่าตัดความสัมพันธ์แบบฉับพลันเหมือนที่ผมเจอบอกล่วงหน้าหน่อยก็ดี บอกว่าคุณรู้สึกยังไงไม่ชอบตรงไหน เปลี่ยนให้หน่อยได้มั้ย จะดีกว่านะครับ คุยกับฝ่ายชายก่อนเค้าอาจจะยอมเปลี่ยนเพื่อคุณก็ได้ สิ่งที่ผมเจอคือตื่นเช้ามาพบกับข้อความที่ว่าเราเลิกคุยกันเถอะ พูดตรงๆว่าคนที่กำลังจะไปหนะมันง่ายอยู่แล้วครับ แต่สำหรับคนที่ยังอยู่ในความสัมพันธ์หน่ะเค้ายังติดอยู่มันไปต่อแบบคุณยากนะครับ
และสิ่งที่ผมอยากจะฝาก ผมอยากจะฝากผู้อ่านทุกท่านให้แชร์โพสนี้ให้ไปถึงเค้าหน่อย ผมไม่มีโอกาสได้คุยกับเค้าแล้วหล่ะ เพราะเค้าบล็อคผมทุกช่องทางแล้ว ยังไงถ้าเค้าอ่านเค้าต้องรู้แน่แหละว่าเป็นผม ผมอยากให้เค้ารู้ว่าผมรักเค้ามากนะ ยังเสียใจอยู่ แต่ไม่ต้องห่วงผมนะ ผมเห็นมีคนมากมายผ่านมันไปได้ ผมก็ต้องผ่านไปได้เช่นกัน แค่ช่วงนี้มันคงจะหนักหน่อย แต่ถ้าเค้าได้อ่าน ข้อความนี้ผมจะมีความสุขมาก เพราะมีหลายอย่างในนี้ที่มันอยู่ในใจผมแต่มันไม่เคยออกจากปากผมเท่านั้นแหละ ขอบคุณที่อ่านนะครับ
ปล.ชื่อในกระทู้เป็นนามสมมุติขึ้นมานะครับ เพราะไม่อยากให้มีผลกระทบกับใคร
อ่านอาจจะงงๆ หน่อยผมลำดับความไม่ค่อยถูกเพราะบอกตรงๆว่าตอนนี้ก็ยังมึนๆอยู่
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกอาจจะโพสผิด หรือแท็กผิดยังไงก็แจ้งผมได้ ถ้าผิดผมยินดีลบให้ครับ