สวัสดีค่ะ เราสมัครพันทิปครั้งแรกไม่รู้จะพิมพ์รู้เรื่องมั้ยแต่เรารู้สึกแย่จนไม่รู้จะหันหน้าปรึกษาใครจริงๆ ค่ะ
ตอนนี้เราตั้งครรภ์ไตรมาสสุดท้ายอีก 2-3 เดือนคลอดแล้วแต่เจอปัญหามากมายจนกระทบกับเด็กไม่มีหยุด
ทุกอย่างเริ่มต้นจากเราตัดสินใจเป็นซิงเกิลมัม ครอบครัวเราเข้าใจ แล้วเรียกให้เรากลับบ้านมาอยู่ด้วย เราก็คิดว่าน่าจะได้พักผ่อนจึงตอบรับไปแต่ความจริงมันไม่ใช่เลยค่ะ
ครอบครัวเราเป็นครอบครัวใหญ่และค่อนข้างมีชีวิตการเงินติดขัดเล็กน้อยเราตั้งครรภ์อยู่จึงออกไปทำงานไม่ได้แต่ก็ตัดสินใจแต่งนิยายเพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัว
รายได้จากแต่งนิยายของเราตกเดือนละหมื่นถึงสองหมื่นซึ่งทั้งหมดนั้นเราไม่เคยใช้เพื่อตัวเองสักบาทเราไม่มีเงินเก็บให้ลูกและยังเป็นหนี้ครั้งแรกในชีวิตเพราะครอบครัวขอร้องให้กู้
เราเห็นแก่ครอบครัวจึงช่วยเรื่อยๆ แต่มันถมไม่พอเขาคาดหวังในตัวเราสูงมากและคอยกดดันให้เราแต่งนิยายมากขึ้นเพื่อให้มีรายได้จุนเจือครอบครัวมากกว่านี้ จนวันนึงมันถึงจุดแตกหักเขาโมโหที่เรามีเงินให้เขาไม่เท่าที่ต้องการเขาเลยปาของใส่พร้อมไล่เราให้ไปตายหรือไปอยู่ไหนก็ไปเราเครียดมากคืนนั้นทั้งคืนเราเจ็บท้องหนักจนนอนไม่ได้เราโทรหาเพื่อนที่กรุงเทพทั้งน้ำตาและสะอื้นลั่นห้องเพราะมันเจ็บท้องมากจริงๆ เพื่อนเลยตัดสินใจให้เรากลับโดยเตรียมทุกอย่างและหาทางช่วยเหลือเราเต็มที่
เราวางแผนลับๆ เพราะรู้ว่าถ้าคนในบ้านทราบว่าเราจะไปต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ จนวันที่ไปตรวจครรภ์ล่าสุดหมอบอกเรามีภาวะเด็กน้ำหนักน้อยกว่าเกณและเครียดสะสมแถมมีสายสะดือพาดคอเด็กด้วย
เราเหมือนช็อตหนักเพราะนี่ไตรมาสสุดท้ายแล้วแต่เด็กในครรภ์กลับดูไม่พร้อมออกมาเลย เราทำอะไรไม่ถูกคิดแค่ว่าเราอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกต่อไปทั้งที่จะคลอดอีกไม่กี่เดือน
เพื่อนหาบ้านให้เราอยู่ในกรุงเทพสำเร็จโดยไม่ต้องจ่ายค่าบ้านน้ำไฟสักบาทและเพื่อนยังรีโนเวทบ้านให้หมดเป็นหมื่นๆ เราซึ้งใจมันมากแต่พอครอบครัวเรารู้ว่าเราจะไปก็ทะเลาะกันหนัก เขาบอกว่าเราโง่จะไปมีปัญญาดูแลลูกได้ไงอยู่ที่นี่แทนที่จะคว้าโอกาสความเจริญไว้ แล้วไปใครจะดูแลหลังคลอดจะทำยังไงต่อ เด็กอ่อนมักอ่อนไหวมาก เขาทั้งด่าทั้งกดดันจนเราเครียดอีกรอบ เราปล่อยโฮตอนไปทำเรื่องย้ายสิทธิ คือเรายอมรับว่าหลังคลอดค่อนข้างจะหนักหนาสำหรับเราแน่ๆ แต่เราประเมินแล้วว่าเราอยู่ที่บ้านไม่ไหวเหมือนกันเราเคยคิดจะอดทนจนมันลากมาถึงไตรมาสสามแต่สุดท้ายมันทนไม่ไหวจริงๆ สุขภาพจิตเราแย่มากๆ มากแบบที่ว่าเคยคิดอยากตาย ก่อนท้องเราก็เคยพบแพทย์มาแล้วด้วย แต่ทางบ้านเขาไม่เข้าใจด้านนี้ของเรา แถมอยู่ที่นี่เด็กในครรภ์มีแต่แย่ลงแค่น้ำหนักน้อยกว่าเกณเราก็แทบประสาทแล้ว จะเก็บเงินเพื่อเขายังทำไม่ได้ แค่ซื้อชุด 3 ตัว 500 ให้ลูกยังไม่มีปัญญาเลยค่ะทั้งที่เราหาเงินได้เดือนละเกือบหมื่นสองหมื่น เราไม่อยากให้ลูกคลอดออกมาโดยที่เราไม่มีความมั่นคงแถมมีหนี้ติดตัวอีก เราไม่คิดที่จะเปลี่ยนใจแต่เราอยากถามแนวทางทุกคนและคุณแม่ที่มีประสบการณ์หน่อยน่ะค่ะว่าเราควรจะวางแผนหลังคลอดยังไงดี เรามีลูกคนแรกถ้าจะเลี้ยงก็อยากให้เขาได้ดี เรามืดมนหนทางและรู้สึกแย่จริงๆ ค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
[กึ่งระบาย] ปัญหารุมเร้าขณะตั้งครรภ์
ตอนนี้เราตั้งครรภ์ไตรมาสสุดท้ายอีก 2-3 เดือนคลอดแล้วแต่เจอปัญหามากมายจนกระทบกับเด็กไม่มีหยุด
ทุกอย่างเริ่มต้นจากเราตัดสินใจเป็นซิงเกิลมัม ครอบครัวเราเข้าใจ แล้วเรียกให้เรากลับบ้านมาอยู่ด้วย เราก็คิดว่าน่าจะได้พักผ่อนจึงตอบรับไปแต่ความจริงมันไม่ใช่เลยค่ะ
ครอบครัวเราเป็นครอบครัวใหญ่และค่อนข้างมีชีวิตการเงินติดขัดเล็กน้อยเราตั้งครรภ์อยู่จึงออกไปทำงานไม่ได้แต่ก็ตัดสินใจแต่งนิยายเพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัว
รายได้จากแต่งนิยายของเราตกเดือนละหมื่นถึงสองหมื่นซึ่งทั้งหมดนั้นเราไม่เคยใช้เพื่อตัวเองสักบาทเราไม่มีเงินเก็บให้ลูกและยังเป็นหนี้ครั้งแรกในชีวิตเพราะครอบครัวขอร้องให้กู้
เราเห็นแก่ครอบครัวจึงช่วยเรื่อยๆ แต่มันถมไม่พอเขาคาดหวังในตัวเราสูงมากและคอยกดดันให้เราแต่งนิยายมากขึ้นเพื่อให้มีรายได้จุนเจือครอบครัวมากกว่านี้ จนวันนึงมันถึงจุดแตกหักเขาโมโหที่เรามีเงินให้เขาไม่เท่าที่ต้องการเขาเลยปาของใส่พร้อมไล่เราให้ไปตายหรือไปอยู่ไหนก็ไปเราเครียดมากคืนนั้นทั้งคืนเราเจ็บท้องหนักจนนอนไม่ได้เราโทรหาเพื่อนที่กรุงเทพทั้งน้ำตาและสะอื้นลั่นห้องเพราะมันเจ็บท้องมากจริงๆ เพื่อนเลยตัดสินใจให้เรากลับโดยเตรียมทุกอย่างและหาทางช่วยเหลือเราเต็มที่
เราวางแผนลับๆ เพราะรู้ว่าถ้าคนในบ้านทราบว่าเราจะไปต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ จนวันที่ไปตรวจครรภ์ล่าสุดหมอบอกเรามีภาวะเด็กน้ำหนักน้อยกว่าเกณและเครียดสะสมแถมมีสายสะดือพาดคอเด็กด้วย
เราเหมือนช็อตหนักเพราะนี่ไตรมาสสุดท้ายแล้วแต่เด็กในครรภ์กลับดูไม่พร้อมออกมาเลย เราทำอะไรไม่ถูกคิดแค่ว่าเราอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกต่อไปทั้งที่จะคลอดอีกไม่กี่เดือน
เพื่อนหาบ้านให้เราอยู่ในกรุงเทพสำเร็จโดยไม่ต้องจ่ายค่าบ้านน้ำไฟสักบาทและเพื่อนยังรีโนเวทบ้านให้หมดเป็นหมื่นๆ เราซึ้งใจมันมากแต่พอครอบครัวเรารู้ว่าเราจะไปก็ทะเลาะกันหนัก เขาบอกว่าเราโง่จะไปมีปัญญาดูแลลูกได้ไงอยู่ที่นี่แทนที่จะคว้าโอกาสความเจริญไว้ แล้วไปใครจะดูแลหลังคลอดจะทำยังไงต่อ เด็กอ่อนมักอ่อนไหวมาก เขาทั้งด่าทั้งกดดันจนเราเครียดอีกรอบ เราปล่อยโฮตอนไปทำเรื่องย้ายสิทธิ คือเรายอมรับว่าหลังคลอดค่อนข้างจะหนักหนาสำหรับเราแน่ๆ แต่เราประเมินแล้วว่าเราอยู่ที่บ้านไม่ไหวเหมือนกันเราเคยคิดจะอดทนจนมันลากมาถึงไตรมาสสามแต่สุดท้ายมันทนไม่ไหวจริงๆ สุขภาพจิตเราแย่มากๆ มากแบบที่ว่าเคยคิดอยากตาย ก่อนท้องเราก็เคยพบแพทย์มาแล้วด้วย แต่ทางบ้านเขาไม่เข้าใจด้านนี้ของเรา แถมอยู่ที่นี่เด็กในครรภ์มีแต่แย่ลงแค่น้ำหนักน้อยกว่าเกณเราก็แทบประสาทแล้ว จะเก็บเงินเพื่อเขายังทำไม่ได้ แค่ซื้อชุด 3 ตัว 500 ให้ลูกยังไม่มีปัญญาเลยค่ะทั้งที่เราหาเงินได้เดือนละเกือบหมื่นสองหมื่น เราไม่อยากให้ลูกคลอดออกมาโดยที่เราไม่มีความมั่นคงแถมมีหนี้ติดตัวอีก เราไม่คิดที่จะเปลี่ยนใจแต่เราอยากถามแนวทางทุกคนและคุณแม่ที่มีประสบการณ์หน่อยน่ะค่ะว่าเราควรจะวางแผนหลังคลอดยังไงดี เรามีลูกคนแรกถ้าจะเลี้ยงก็อยากให้เขาได้ดี เรามืดมนหนทางและรู้สึกแย่จริงๆ ค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
ขอบคุณจริงๆ ค่ะ