ที่บ้านผมทำธุรกิจให้เช่าครับ ก็เป็นแบบเล็กๆ น้อยๆ เก็บเล็กเก็บน้อยผสมกันไป ไม่ได้ลำบากแต่ก็ยังไม่สบาย ไหนจะผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19

ปีก่อน ผมฟ้องขับไล่ผู้เช่าหลายรายเลยครับ เสียเวลาเป็นปีกว่าจะย้ายออกหมด ค่าทนายก็หลายบาทอยู่ครับ
ประสบการณ์จากการฟ้องขับไล่ทำให้ผมทราบว่า คนเซ็นสัญญาเช่ามีผลกับการฟ้องขับไล่มากๆ เลยครับ
เพราะผู้เช่าที่ผมฟ้องฯ หลายรายเข้าข่ายเป็นนอมินีมาเซ็นสัญญาเช่า

ผู้เช่าเขารวมหัวกันจ้างทนายมาสู้ เริ่มด้วยการถ่วงเวลาว่าทนายติดคดีอื่นอยู่ ขอเลื่อน (เลื่อนทีนึงก็หลายเดือนเหมือนกันครับ)
ทนายผู้เช่า (จำเลย) ยื่นข้อเสนอประนีประนอมให้ผมต้องยอม เพราะเขาพูดทำนองขู่ว่า (เขาพูดอ้อมๆ และสุภาพ แต่ก็ความหมายเดียวกัน)
ถ้าผมจะเอาชนะคดี ผมจะเสียเวลามากเพราะเขาจะถ่วงเวลา
ถ้าผมจะบังคับคดีก็ยุ่งยาก เพราะจำเลย ไม่มีอะไรให้บังคับคดี อายัดเงินเดือนก็ไม่ได้เพราะเขาไม่ได้ทำงานประจำ ยึดทรัพย์ก็ไม่ได้เพราะเขาไม่มีอะไรเป็นชื่อเขาเลย ทรัพย์สินก็เป็นชื่อของคนอื่นๆ ในบ้าน
 
และทนายผู้เช่าก็เกลี้ยกล่อมให้ผมยอมประนีประนอม บอกผมทำนองว่าให้ผู้เช่าย้ายออกไปได้ถือว่าดีที่สุดแล้ว ให้ผมเห็นใจผู้เช่า
ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นผมเรียกคืนอะไรไม่ได้เลย (จริงๆ เรียกคืนในขั้นตอนบังคับคดีได้ครับ แต่คุณทนายผมก็พูดตรงกันกับทนายผู้เช่า ที่บอกว่ายุ่งยากมากครับ ไม่คุ้มกับเวลาที่เสียไป เพราะคู่กรณีไม่มีอะไรให้อายัดเลย)
 
หลังจากเหตุการณ์นี้ ผมมานั่งดูสัญญาเช่ารายอื่นทุกฉบับที่เหลืออยู่ ซึ่งทำให้ผมพบว่า บ้านของผู้เช่าหลายรายให้คนในบ้านที่ไม่มีงานประจำมาเซ็นสัญญาเช่า เช่น เอาผู้สูงอายุมาเซ็น เอาพี่หรือน้องที่ไม่มีงานทำมาเซ็น ทำให้ผมคิดว่า คงไม่ให้เซ็นเป็นผู้เช่าแล้วครับ ไม่งั้นถ้ามีการฟ้องขับไล่อีกก็จะเสียเปรียบ
ส่วนคนในบ้านที่มีงานประจำทำ เงินเดือนน่าจะสูง มีรถขับ (บางบ้านมีรถหลายคันด้วย) ใส่ทองเส้นโตหลายเส้น ไม่ยอมมาเซ็นสัญญาฯ

เร็วๆ นี้ สัญญาเช่าก็กำลังทยอยเริ่มหมดสัญญาเช่าครับ ก็เลยคิดว่าสัญญาเช่าใหม่จะป้องกันด้วยการให้คนมาเซ็นสัญญาเช่าต้องเป็นคนที่มีงานประจำทำ โดยการขอหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า เขามีงานประจำทำ ปกติเรียกหลักฐานอะไรได้บ้างครับ
ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยให้ได้เปรียบเพิ่มขึ้นได้ไหมครับ แต่คิดว่าน่าได้เปรียบมากขึ้นนะครับ

ขอบคุณครับ