แม่บ้านแบบนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องหาคนใหม่มาแทนมั้ยคะ

คือ ที่บ้าน จ้างคนมาดูแลแม่ที่เป็นอัมพฤกษ์ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เดินเองไม่ได้ ไปไหนต้องมีคนคอยประคอง ต้องหาข้าวให้กิน ทำหน้าที่เก็บกวาดทำความสะอาดบ้านทุกอย่าง

แรก ๆ มาอยู่เราให้ทดลองงาน 6  เดือน จ่ายค่าจ้างอยู่ที่ 9,000 บาท จ้างประจำ พอพ้นโปร ตอนนี้ขึ้นเงินเดือนให้เป็น 15,000 โดยมีค่าผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ให้แกเดือนละ 2,300 บาท บวกค่าน้ำมัน โดยเรามีเงินจ้างจริง 12,000 เป็นเงินบำนาญของแม่ ส่วนอีก 5,300 แบ่งเป็นค่าจ้างแม่บ้าน 3,000 และค่าผ่อนมอเตอร์ไซค์ 2,300 พี่สาวเราเป็นคนออกให้

ประเด็นอยู่ตรงนี้คือ แรก ๆ มาอยู่ก็มาอยู่ตัวคนเดียว พอผ่านทดลองงานได้หอบข้าวของมาอยู่ รวมถึงลูกอีก 2 เป็นชายโตทำงานแล้วคนหนึ่ง ซึ่งคนนี้ช่วยออกค่าห้องน้ำไฟเดือนละ 2,000 และลูกสาววัยมัธยมต้นอีกคนหนึ่ง และมีบางทีก็เอาแฟนแม่บ้านมานอนค้างที่บ้านด้วย  เห็นแกบอกว่าขอให้ลูกมาอยู่ด้วยเพราะเหงา เราก็เข้าใจ แต่ญาติ ๆฝั่งเรามีแต่คนไม่เห็นด้วยว่า เราจ้างเค้ามาทำงานก็ควรให้เค้ามาอยู่แค่คนเดียว ไม่ควรให้ลูก ๆ เค้ามาอยู่ด้วย
อยากสอบถามว่าประเด็นเรื่องเค้าเอาลูกมาอยู่ด้วย เพื่อน ๆ มีความเห็นกันว่าควรหรือไม่ควรอย่างไรบ้างคะ เพราะมันส่งผลต่อการยึดครองห้อง ที่จะตามมาดังนี้


คือ ตอนมาแรก ๆ เราให้แม่บ้านนอนเฝ้าแม่เราที่พื้น โดยปูฟูกหนา ๆ นอนหน้าเตียงแม่
พอสักพักเขาเริ่มขนของมาอยู่ ตอนแรกก็ให้อยู่ห้องแม่บ้าน พอเอาลูกสาวลูกชายมาอยู่ แกก็ขนของเข้ามาอยู่ในห้องแม่เรา คือ ต้องบอกก่อนว่า แม่เราไม่ได้นอนในห้องตั้งแต่แรกแล้ว เนื่องจากในห้องเป็นเตียงใหญ่ และไม่ใช่เตียงผู้ป่วย จึงให้แม่นอนตรงห้องรับแขก บางทีแฟนเค้ามาก็ม่านอนกันบนเตียงแม่เรา ซึ่งถามเค้า ๆ บอกแม่อนุญาติแล้ว ซึ่งเมื่อญาติเรารู้ก็ไม่พอใจมาก ส่วนแม่เราก็ไม่กล้าพูดอะไรมากก็ไม่รู้ทำไม

แต่ส่วนตัวเราเอง จะกลับมาเปลี่ยนเวรกับแกในวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันหยุดของแก และในวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่าง ๆ จึงทำให้ไม่คอยได้มีเวลาคุยกัน แต่ในเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของแม่ เราได้ให้แกบันทึกไว้ตลอด

นิสัยส่วนตัวดูลักษณะแกเป็นคนได้คืบจะเอาศอก และชอบรังแกคนและสัตว์ ล่าสุดเห็นแกขับรถแล้วไปถีบหมาที่ยืนข้างถนนอยู่คาตา ซึ่งจริง ๆ เรามองว่าแค่บีบแตรไล่หรือขับเลี่ยงไปอีกเลนที่ไม่มีรถสวนก็ได้แล้ว

และเมื่อไม่นานมานี้ลูกชายแกได้นำแลาปลาสวยงามมาเลี้ยง อันนี้สมควรให้เลี้ยงมั้ยคะ เพราะต้องใช้ไฟเสียบอ๊อกซีเจนในตู้ตลอดเวลาด้วย  เวลาไม่มีใครอยู่เราก็จะเป็นคนให้อาหารแทน อย่างเช่นวันหยุดยาวช่วงนี้

เราดูใจดีเกินไปมั้ยคะ

ควรจ้างคน ๆ นี้ต่อไปมั้ย
ถ้าถามในเรื่องการทำงานก็เป็นคนทำงานดี มีความรับผิดชอบ แต่เรื่องห้องกับเรื่องลูก ๆ แก เพื่อน ๆ มความคิดเห็นเป็นอย่างไรกันบ้างคะ

ญาติเราไม่เห็นด้วย แต่ไม่ได้ช่วยค่าใช้จ่ายอะไร แถมยังจะให้เราเอาญาติที่อายุ 60 กว่าอีกคนมาดูแลแม่แทนแก ส่วนแม่บ้านเรา 40 กลาง ๆ ค่ะ สุขภาพโดยรวมแข็งแรงดี แต่กับญาติ 60 กว่าที่อยากจะมาดูแลแม่เรา เราไม่เห็นด้วย เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นเตี้ยอุ้มค่อมค่ะ ไม่กล้าเสี่ยง

ส่วนแม่เราไม่หือไม่อืออะไร

ส่วนพี่สาวเราบอกให้เลี้ยงดูแม่บ้านให้ดี ๆ แกให้เหตุผลว่าคนหายาก ให้รักษาไว้

ส่วนตัวเราเองไม่ค่อยมีประสบการณ์ด้านการบริหารคน จึงอยากขอคำแนะนำหรือความคิดเห็นจากเพื่อน ๆ ในนี้ก่อนค่ะ

หรือใครเคยมีประสบการณ์การจ้างแม่บ้านลักษณะนี้แล้วมีวิธีจัดการอย่างไรก็ขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้เต็มที่เลยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่