ระหว่างที่ทั้งโลกกำลังจับตาสงครามการค้าระหว่างพญาอินทรีอเมริกาและพญามังกรจีน ความขัดแย้งขนาดย่อมๆ ระหว่างจีนกับออสเตรเลียก็เป็นที่จับตามองไม่ใช่น้อยครับ
หลังจากที่จีนพยายามแผ่อิทธิพลเข้ามาที่ Asia Pacific มากขึ้นเรื่อยๆ ออสเตรเลียได้ตระหนักถึงความสัมพันธ์กับจีนในอีกแง่มุมหนึ่ง ประเทศจีนไม่ได้เป็นเพียงคู่ค้าที่สำคัญของออสเตรเลียเท่านั้น แต่จีนยังเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยของออสเตรเลียอีกด้วย
ความสัมพันธ์ออสเตรเลีย-จีน ในอดีต – ยุคสมัยแห่งการร่วมมือ
ออสเตรเลียเป็นประเทศแรกๆ ในโลกที่ผูกสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน โดยออสเตรเลียและจีนเริ่มมีความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกันในปี 1972 นับเป็นเวลา 7 ปีก่อนที่อเมริกาจะให้การยอมรับรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนอย่างเต็มรูปแบบ
สินค้าที่สำคัญที่เชื่อมโยงทั้ง 2 ประเทศเข้าด้วยกันคือออสเตรเลียส่งออกแร่งเหล็ก (Iron ore), ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการช่วยพัฒนาจีนให้เป็นชาติมหาอำนาจในปัจจุบัน
ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ มาถึงจุดสูงสุดเมื่อทั้งคู่ลงนามในสัญญาการค้าเสรี (Free Trade Agreement) ในปี 2015 ซึ่งช่วยลดภาษีของภาคกสิกรรมและเปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญจากออสเตรเลียสามารถเข้าไปทำงานในประเทศจีนได้
ปัจจุบันจีนก็ยังนำเข้าแร่เหล็กจากออสเตรเลียเป็นจำนวนมาก คิดเป็น 60% ของแร่เหล็กนำเข้าทั้งหมดของประเทศจีน เนื่องจากแร่เหล็กจองออสเตรเลียเป็นแร่เห,กที่คุณภาพสูง โดยเฉพาะเมื่อจีนเริ่มกลับมาเดินสายการผลิตสินค้าเต็มตัวหลังสถาณการณ์ COVID-19 ดีขึ้น แร่เหล็กจากออสเตรเลียจึงเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ประเมิณค่าไม่ได้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของจีน
รอยร้าวที่เริ่มประทุ ความขัดแย้งที่ก่อตัวขึ้น
อย่างไรก็ตามสถาณการณ์ต่างๆ ก็เริ่มแย่ลง ในปี 2016 เมื่อจีนพยายามอ้างกรรมสิทธิ์เหนือเกาะต่างๆ ในทะเลจีนใต้ นอกจากนี้จีนก็พยายามขยายอิทธิพลเข้าออสเตรเลียโดยอาศัยอารบริจาคเงินให้กับนักการเมืองท้องถิ่นในออสเตรเลีย
เจ้าหน้าที่เนความปลอดภัยทาง IT ของออสเตรเลียยังระบุว่าทางจีนมีความพยายามจะโจมตีทาง Cyber เพื่อหาที่ตั้งทรัพยากรณ์หรือพื้นที่สำหรับลงทุนที่อาจเป็นประโยชน์ต่อจีน ถึงแม้ว่าท้ายที่สุด จีนจะออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ก็ตาม
สถาณการณ์ก็เลวร้ายลงเมื่อออสเตรเลียกลายเป็นประเทศแรกที่แบนสินค้าระบบเครือข่าย 5G ของบริษัท Huawei โดยให้เหตุผลเรื่องความมั่นคง และในปี 2020 ประเทศออสเตรเลียก็เป็นประเทศแรกๆ ที่ยื่นขอมติจาก WHO ในการสืบค้นที่มาของ COVID-19 พร้อมกับนานาประเทศ สร้างความไม่พอใจต่อพญามังกรเป็นอย่างมาก
จีนก็มีการตอบโต้โดยการลดการนำเข้าเนื้อวัวจากออสเตรเลีย ไปปจนถึงสอบสวนการทุ่มตลาด (Anti-dumping) ในสินค้าไวน์ อย่างไรก็ตามหากจีนยังต้องพึ่งพาแร่เหล็กคุณภาพดีจากออสเตรเลีย การจะดำเนินการอะไรก็คงเป็นไปด้วยความยากลำบากครับ แต่จากที่เห็นจีนก็เริ่มมีการพัฒนาให้สามารถผลิตถ่านหินใช้ภายในประเทศ คงขึ้นกับเวลาว่าจีนจะหาทางออกเรื่องนี้อย่างไรครับ
ฝากติดตาม กด like กด share ข้อมูลดีๆ ได้ทาง
https://www.facebook.com/Unbox-your-thinking-112756357217401 หรือ
https://www.blockdit.com/pages/5f4b6519e807060cb777cdbf ด้วยนะครับ
Ref
https://www.reuters.com/investigates/special-report/australia-china-relations/
https://www.ussc.edu.au/analysis/canberras-wolverines-threaten-our-connection-to-the-region
https://www.latrobe.edu.au/news/articles/2020/opinion/aus-china-relationship-is-in-a-hole
เมื่อออสเตรเลียจะสู้กับพญามังกร
หลังจากที่จีนพยายามแผ่อิทธิพลเข้ามาที่ Asia Pacific มากขึ้นเรื่อยๆ ออสเตรเลียได้ตระหนักถึงความสัมพันธ์กับจีนในอีกแง่มุมหนึ่ง ประเทศจีนไม่ได้เป็นเพียงคู่ค้าที่สำคัญของออสเตรเลียเท่านั้น แต่จีนยังเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยของออสเตรเลียอีกด้วย
ความสัมพันธ์ออสเตรเลีย-จีน ในอดีต – ยุคสมัยแห่งการร่วมมือ
ออสเตรเลียเป็นประเทศแรกๆ ในโลกที่ผูกสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน โดยออสเตรเลียและจีนเริ่มมีความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกันในปี 1972 นับเป็นเวลา 7 ปีก่อนที่อเมริกาจะให้การยอมรับรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนอย่างเต็มรูปแบบ
สินค้าที่สำคัญที่เชื่อมโยงทั้ง 2 ประเทศเข้าด้วยกันคือออสเตรเลียส่งออกแร่งเหล็ก (Iron ore), ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการช่วยพัฒนาจีนให้เป็นชาติมหาอำนาจในปัจจุบัน
ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ มาถึงจุดสูงสุดเมื่อทั้งคู่ลงนามในสัญญาการค้าเสรี (Free Trade Agreement) ในปี 2015 ซึ่งช่วยลดภาษีของภาคกสิกรรมและเปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญจากออสเตรเลียสามารถเข้าไปทำงานในประเทศจีนได้
ปัจจุบันจีนก็ยังนำเข้าแร่เหล็กจากออสเตรเลียเป็นจำนวนมาก คิดเป็น 60% ของแร่เหล็กนำเข้าทั้งหมดของประเทศจีน เนื่องจากแร่เหล็กจองออสเตรเลียเป็นแร่เห,กที่คุณภาพสูง โดยเฉพาะเมื่อจีนเริ่มกลับมาเดินสายการผลิตสินค้าเต็มตัวหลังสถาณการณ์ COVID-19 ดีขึ้น แร่เหล็กจากออสเตรเลียจึงเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ประเมิณค่าไม่ได้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของจีน
รอยร้าวที่เริ่มประทุ ความขัดแย้งที่ก่อตัวขึ้น
อย่างไรก็ตามสถาณการณ์ต่างๆ ก็เริ่มแย่ลง ในปี 2016 เมื่อจีนพยายามอ้างกรรมสิทธิ์เหนือเกาะต่างๆ ในทะเลจีนใต้ นอกจากนี้จีนก็พยายามขยายอิทธิพลเข้าออสเตรเลียโดยอาศัยอารบริจาคเงินให้กับนักการเมืองท้องถิ่นในออสเตรเลีย
เจ้าหน้าที่เนความปลอดภัยทาง IT ของออสเตรเลียยังระบุว่าทางจีนมีความพยายามจะโจมตีทาง Cyber เพื่อหาที่ตั้งทรัพยากรณ์หรือพื้นที่สำหรับลงทุนที่อาจเป็นประโยชน์ต่อจีน ถึงแม้ว่าท้ายที่สุด จีนจะออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ก็ตาม
สถาณการณ์ก็เลวร้ายลงเมื่อออสเตรเลียกลายเป็นประเทศแรกที่แบนสินค้าระบบเครือข่าย 5G ของบริษัท Huawei โดยให้เหตุผลเรื่องความมั่นคง และในปี 2020 ประเทศออสเตรเลียก็เป็นประเทศแรกๆ ที่ยื่นขอมติจาก WHO ในการสืบค้นที่มาของ COVID-19 พร้อมกับนานาประเทศ สร้างความไม่พอใจต่อพญามังกรเป็นอย่างมาก
จีนก็มีการตอบโต้โดยการลดการนำเข้าเนื้อวัวจากออสเตรเลีย ไปปจนถึงสอบสวนการทุ่มตลาด (Anti-dumping) ในสินค้าไวน์ อย่างไรก็ตามหากจีนยังต้องพึ่งพาแร่เหล็กคุณภาพดีจากออสเตรเลีย การจะดำเนินการอะไรก็คงเป็นไปด้วยความยากลำบากครับ แต่จากที่เห็นจีนก็เริ่มมีการพัฒนาให้สามารถผลิตถ่านหินใช้ภายในประเทศ คงขึ้นกับเวลาว่าจีนจะหาทางออกเรื่องนี้อย่างไรครับ
ฝากติดตาม กด like กด share ข้อมูลดีๆ ได้ทาง https://www.facebook.com/Unbox-your-thinking-112756357217401 หรือ https://www.blockdit.com/pages/5f4b6519e807060cb777cdbf ด้วยนะครับ
Ref
https://www.reuters.com/investigates/special-report/australia-china-relations/
https://www.ussc.edu.au/analysis/canberras-wolverines-threaten-our-connection-to-the-region
https://www.latrobe.edu.au/news/articles/2020/opinion/aus-china-relationship-is-in-a-hole