สวัสดีค่ะ เรามีคำถามที่เราสับสนมาตลอดว่าสิ่งที่เราคิดมันถูกหรือผิด
เราแต่งงานมาประมาณ 2 ปี โดยรวมระยะเวลาคบกันคือ 10 ปี มันมีปัญหาหลายอย่างเกิดขึ้นมาตลอด
ทั้งเรื่องปรับตัวไม่ได้หลังจากชีวิตแต่งงาน ,สามีเคยนอกใจเราถึงขั้นอยากจะเลิกกับเรา
และเรื่องล่าสุดคือเรื่องที่เราทะเลาะกันโดยที่เราไม่รู้สาเหตุเลยว่าเรื่องที่ทะเลาะมันคืออะไร
เราเครียดมากว่าเราทำไรให้ไม่พอใจอีกหรอ ซึ่งสามีเราก้ไม่ตอบ เงียบและแยกกันอยู่
ช่วงเวลาที่แยกกันอยู่ทำให้เราคิดทบทวนว่าเราจะต้องทุกข์ใจแบบนี้ไปอีกกี่ครั้ง ทำให้เราได้บอกไปทางสามีว่าเราเหนื่อยกับชีวิตคู่แล้ว
เราไม่อยากอดทนกับอะไรอีกแล้ว
และได้แจ้งไปทางแม่สามีว่าเราตัดสินใจแบบนี้ ซึ่งก้เกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ เมื่อแม่สามีของเราก็ยกความดีของลูกชายทั้งหมดขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการไปรับไปส่งเราที่ทำงาน การไปรอและพาไปไหนต่อไหน คือเค้าพูดมาว่าเราจะหาผัวที่ไหนดีได้ขนาดนี้ ซึ่งมันทำให้เราปรี๊ดแตกว่า "เฮ้ย แค่นี้สามารถวัดได้แล้วหรอว่าดีเลิศ" ตลอดเวลาที่คบกันมาเราเป็นฝ่ายจ่ายค่าข้าวตลอดตั้งแต่คบกันจนถึงทุกวันนี้ เราเคยคุยกับเค้าว่า หารค่าข้าวคนละครึ่งบ้างได้ไหม เค้าก้จะจ่ายแค่วันสองวันแรก และก้เงียบหายไป ทั้งๆที่เค้ามีเงินเดือนมากกว่าเรา
ก่อนแต่งงานเราตกลงเรื่อง คชจ. ดังนี้ คชจ.ผ่อนบ้านเราหารครึ่งกัน ,ค่าน้ำมัน สามีจ่าย ,ค่าทางด่วนทุกวัน เราจ่าย และในส่วนเงินเดือนของตัวเองก็รับผิดชอบใครรับผิดชอบมัน แค่อย่ามาเบียดเบียนกัน
การที่แม่สามีเราบอกว่า คนเป็นภรรยาก้ต้องคอยซัพพอร์ทผัว ทำไมเราต้องคิดเล็กคิดน้อย เป็นผัวเป็นเมียกันเค้าไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแค่นี้หรอกนะ ทำให้เราสับสนว่าสิ่งที่เราคิดมันผิดๆจริงหรอ เราคิดว่าเราโดนเอาเปรียบ หรือจริงแล้วมันเป็นสิ่งที่ใครๆเค้าก้ทำกัน
เป็นภรรยาต้องซัพพอร์ทสามี
เราแต่งงานมาประมาณ 2 ปี โดยรวมระยะเวลาคบกันคือ 10 ปี มันมีปัญหาหลายอย่างเกิดขึ้นมาตลอด
ทั้งเรื่องปรับตัวไม่ได้หลังจากชีวิตแต่งงาน ,สามีเคยนอกใจเราถึงขั้นอยากจะเลิกกับเรา
และเรื่องล่าสุดคือเรื่องที่เราทะเลาะกันโดยที่เราไม่รู้สาเหตุเลยว่าเรื่องที่ทะเลาะมันคืออะไร
เราเครียดมากว่าเราทำไรให้ไม่พอใจอีกหรอ ซึ่งสามีเราก้ไม่ตอบ เงียบและแยกกันอยู่
ช่วงเวลาที่แยกกันอยู่ทำให้เราคิดทบทวนว่าเราจะต้องทุกข์ใจแบบนี้ไปอีกกี่ครั้ง ทำให้เราได้บอกไปทางสามีว่าเราเหนื่อยกับชีวิตคู่แล้ว
เราไม่อยากอดทนกับอะไรอีกแล้ว
และได้แจ้งไปทางแม่สามีว่าเราตัดสินใจแบบนี้ ซึ่งก้เกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ เมื่อแม่สามีของเราก็ยกความดีของลูกชายทั้งหมดขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการไปรับไปส่งเราที่ทำงาน การไปรอและพาไปไหนต่อไหน คือเค้าพูดมาว่าเราจะหาผัวที่ไหนดีได้ขนาดนี้ ซึ่งมันทำให้เราปรี๊ดแตกว่า "เฮ้ย แค่นี้สามารถวัดได้แล้วหรอว่าดีเลิศ" ตลอดเวลาที่คบกันมาเราเป็นฝ่ายจ่ายค่าข้าวตลอดตั้งแต่คบกันจนถึงทุกวันนี้ เราเคยคุยกับเค้าว่า หารค่าข้าวคนละครึ่งบ้างได้ไหม เค้าก้จะจ่ายแค่วันสองวันแรก และก้เงียบหายไป ทั้งๆที่เค้ามีเงินเดือนมากกว่าเรา
ก่อนแต่งงานเราตกลงเรื่อง คชจ. ดังนี้ คชจ.ผ่อนบ้านเราหารครึ่งกัน ,ค่าน้ำมัน สามีจ่าย ,ค่าทางด่วนทุกวัน เราจ่าย และในส่วนเงินเดือนของตัวเองก็รับผิดชอบใครรับผิดชอบมัน แค่อย่ามาเบียดเบียนกัน
การที่แม่สามีเราบอกว่า คนเป็นภรรยาก้ต้องคอยซัพพอร์ทผัว ทำไมเราต้องคิดเล็กคิดน้อย เป็นผัวเป็นเมียกันเค้าไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแค่นี้หรอกนะ ทำให้เราสับสนว่าสิ่งที่เราคิดมันผิดๆจริงหรอ เราคิดว่าเราโดนเอาเปรียบ หรือจริงแล้วมันเป็นสิ่งที่ใครๆเค้าก้ทำกัน