กลับมาแล้วจ้า สำหรับ EP.2 Leh- Khardung La Pass- Nubra Valley หมู่บ้านTurtuk ติดชายแดนปากีสถาน 
Julley!!! จูเล่ ค่ะทุกคน (จริงๆแล้วเราควรจะ จูเล่กันตั้งแต่ EP.1 ละมะ ละมะ...

)
จูเล่เป็นคำทักทายของคนที่นี่ค่ะ คำศัพท์คำแรกและเป็นคำเดียวที่เรารู้
พยายามฟังแล้วนะ มันไม่เป็นผลจริงๆ หัดพูดไม่พอแล้วยังต้องหัดส่ายหัวอี๊ก
แต่โชคดีค่ะ คนที่นี่น่ารักพูดภาษาอังกฤษได้เยอะเลย รอดตัวเราไป

ว่าแล้วก็ลืมกล่าวต้อนรับทุกคนเข้าสู่ EP.2 อย่างเป็นทางการ (เสียงปรบมือต้อนรับ พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ)
อีพีนี้จะเป็นรูทที่เรามุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดียค่ะ เราจะย้ายฐานทัพไปอีกแคว้นนึงที่ชื่อว่า
Jammu Kashmir ซึ่งจะอยู่ติดกับประเทศปากีสถานจ้า
วันที่25 (วันที่ 3 ของการเดินทาง) : Leh- Khardung La Pass- Nubra Valley หมู่บ้านTurtuk ชายแดนปากีสถาน
เราเริ่มออกเดินทางจากเลห์ตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตื่น เพราะระยะทางวันนี้หลายพันลี้เลยเจ้าค่ะ แผนที่คร่าวๆก็ประมาณนี้แล
ไกลมะ ดูเหมือนไม่ไกลเนอะ 6 ชม.เอ้ง แหม่ บ้านเราขับรถลงใต้ก็พอๆกันแหละ
แต่ทุกคนสังเกตเห็นตัวเลขที่มันดูไม่สัมพันธ์กันบ่คะ ระยะทางเพียงแค่ 200กว่านิสๆ แต่ต้องขับรถถึง! 6 ชม.!!
เราขับรถกลับบ้านที่ใต้ 600กว่ากิโลเน้อ นี่ระยะทางสั้นกว่าสามเท่าเลยนะ หลังจากที่ข้าพเจ้าได้คิดคำนวณหาค่าความสัมพันธ์ของตัวเลขทั้งหมดแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้จากคนขับเค้าบอกว่า ....... ถนนมันตุงตัง ปุงปัง ลูกรังมากเลยอิหนู
แค่นั้นแหละ... อาเมนเจ้าค่ะ
พร้อมรับชะตากรรมกันยาวๆไป 6 ชม.
เรากำลังจะทำสถิตินั่งรถขึ้นบนเขาที่นานที่สุดในชีวิต
เดี๋ยวเราจะมาเล่าให้ฟังว่ามันสนุกสนานขนาดไหน ม่ะ!
และแน่นอนอาหารการกินเราก็ไม่มีพลาด แม่ครัวเตรียมพร้อมมาอย่างดี มาม่า ปลากระป๋องต้องแบก
รอบนี้สามแม่ครัวก็ได้ตีตั๋วฟรีมาอินเดียแบบชิวๆไปเลย ฮั่นแน่ ไม่อิจฉาสามแม่ครัวน้า
จุดหมายแรกที่เราจะต้องผ่านและเป็น Landmark ที่เราต้องไปเช็คอินก็คือ Khardung la Pass
เป็นถนนที่มอเตอร์ไซต์สามารถขับไปได้ในระดับความสูงที่สุดในโลก สูงถึง 18,380 ฟุตหรือ 5,602 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
แว้วแว้วแว้ววววววว (แค่ ว้าว คงจะธรรมดาไป)
ใช่ค่ะถนนที่สูงมาก 5602 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ความสูงระดับนี้คิดว่าโรคแพ้ความสูงจะกลับมาหาเราอีกมั๊ยให้ทาย
ไม่มีแล้วจ้า เราไม่เป็นอะไรอีกเลย
ไม่แปลกหรอกค่ะ เพราะเรานั่งรถมา เราค่อยๆไต่ระดับมาเรื่อยๆ ทำให้ร่างกายเราค่อยๆปรับตัว มันไม่ได้เป็นเหมือนวันแรก
นั่นเป็นเพราะเราลงเครื่องบินมา ร่างกายมาจากที่ระดับความสูงปกติ แล้วจู่ๆมาโผล่ที่ๆสูงมากๆ
แน่นอนว่าร่างกายอันบอบบางของเราคงรับไม่ไหวแน่นอน
เพราะฉันนั้น ทุกคนคะ วิธีแก้ปัญหาไม่ให้เป็นโรคแพ้ความสูงนะคะ ถ้าใครจะมาเลห์ เราแนะนำว่า
ให้ทุกคนขับรถมาจากไทยเลยค่ะ เราว่ามันช่วยได้มากๆ แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะถึงเมื่อไหร่นะคะ 55555555555
(จะทำจริงป่ะเนี๊ย เหมือนจะมีคนเคยขับมาอยู่นะ)
เห้ออออออออออออออ อยากเที่ยวก็ยอมรับชะตากรรมตัวเองไปซะ
จากเมืองเลห์มา เราเรียกชื่อคนขับไม่ถูก แต่เหมือนเรากับพี่นิตั้งชื่อให้เค้าว่า พี่บุญ
แต่พี่แกน่ารักมาก ใจดี๊ดี พูดเก๊งเก่ง ตามใจทุกอย่างเลย
เนี๊ย มาแบบส่วนตัวมันก็ดีแบบนี้แหละ อยากแวะไหนก็แวะได้เลย ไม่ต้องเกรงใจใคร คนข่งคนขับก็ไม่ต้องเกรงใจกันเลย 5555
เส้นทางระหวางไป Khardung La Pass มีวิวทิวทัศน์ที่เป็นเขา ไล่ระดับสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
ระหว่างเดินทางเราก็ผ่านจุดตรวจ ที่เราเคยบอกไว้ตอนแรกว่าเราต้องทำ Border pass ด้วย ถึงจะเข้ามาในโซนนี้ได้
เห็นมั๊ยค้า ว่าคุณลุงที่ตรวจใบผ่านแดนก็ยิ้ม คือทุกคนที่นี่น่ารักมากจริงๆค่ะ นั่งรถไปหัวใจชื้นมากเลยค่ะ
จากภูเขาดินโล้นๆ ไม่มีอะไร ก็เริ่มเห็นเป็นเขาหิน พอสูงขึ้นไปอีกก็เริ่มมีหิมะบางๆ แล้วก็หนาๆไปเรื่อยๆ
พี่นิค่ะ ตื่นเต้นมาก ยิ่งสูงยิ่งชอบใจ ถูกอกถูกใจ นั่งยิ้มไปตลอดทางเลย
“น้องๆๆๆ นั่นมันหิมะใช่มั๊ย พี่อยากลงไปเล่นกับหิมะ”
“พี่นิ เดี๊ยววววว เดี๋ยวได้เล่นแน่นอน เดี๋ยวน้องให้ลงไปคลุกเลย”
ว่าแล้วพี่นิก็ตั้งตารอเพื่อที่จะได้สัมผัสกับหิมะ
เห็นทางข้างล่างที่เราขึ้นมามั๊ยคะ ค่ะ ไม่เห็นใช่มั๊ยคะ เราก็ไม่เห็นเหมือนกันค่ะ
มันอยู่ตรงปู้นนนนนนนนนนนนไหนก็ไม่รุ ไกลลิบลับ เริ่มไม่เห็นเงาของหมู่บ้านละ
ซักพัก "สต๊อบบๆ สต๊อบบๆ"

เมื่อเราเห็นจุดๆหนึ่งที่สวยมากข้างทาง
แว๊วววววววววว ดีใจที่ได้ลงจากรถซักทีเพราะเมื่อยตูดสุดๆ
พอมองลงไปข้างล่างมันช่างวิดวิ้วดีจังเลย
แหม่ะ รถจิ๊ปคันนี้มันช่างเหมาะอะไรกับทริปเราขนาดนี้ เข้ากั๊นเข้ากัน

สวยมั๊ยค้าาาาาาา

สวยค้าาาาา สวยมากๆเลย

ถนนดินๆที่ทุกคนเห็น เวลารถวิ่งจริงๆก็เป็นแบบนี้เลยค่ะ เค้าไม่ได้ทำเป็นคอนกรีตหรือลาดยาง
แต่ก็ไม่ได้แย่มาก เพราะมันจะมีแย่กว่านี้เย้ออ
อันนี้ก็แค่ขรุกขรัก ระดับอนุบาลเท่านั้นค่ะ
ฮั่นแน่ ในที่สุดเราก็ได้ฤกษ์เปลี่ยนชุดซักที ก็ข้างบนมันหนาว(ไม่มีใครให้กอด) ก็เลยต้องควักเอาเสื้อสิงโตมาใส่ซะเลย
เมื่อเป็นที่พอใจแล้วเราก็บึ่งรถต่อไปยังเป้าหมายของเราเลย เราต้องทำเวลาจะเอ้อระเหยลอยชายไม่ได้
(เพราะไม่มีชายใดให้รอ เหมือนบนภูกระดึง)
5555555 โอ้ย เงียบดีจุง
หลังจากที่เราอดทนนั่งบนรถจิ๊ปมายาวนานเกือบครึ่งทาง (ยัง ยังไม่ได้ครึ่งทางเลย)
เราก็ถึง Khardung La ซ้ากกกกกที พี่บุญก็ลงไปยื่นเอกสารให้เรา
ยิปปี้ เย้ๆ ปังๆ ปุริก้า เสร็จแล้วพวกเรานั้นจะกระโดดลงจากรถไปถ่ายรูป
ณ ตอนนั้นความสูงที่ 5600 ถือว่าสูงมากๆ แต่เราสองคนกลับไม่มีอาการอะไรเลย
เราก็เดินดุ่มๆกันไป แบบไม่ลดสปีดและไม่เว้นระยะห่างด้วย (เว้นเพื่อ?)
เราก็เดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อยๆ หันซ้ายหันขวาไม่มีใครเลย เอ้าพี่นิไปไหน๊
มองลงไปข้างล่างก็ไม่มี ก็เลยเดินไปเรื่อยๆ ไปเจอดงหิมะ
นั่นแน่ มาแอบเล่นหิมะอยู่ตรงนี้นี่เอง
ตรงนี้หิมะเยอะมากๆๆๆ หนาเตอะเลย มีหรือเราจะพลาด หุหุ
หลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถเพื่อนที่จะไปต่อที่หมู่บ้าน Turtuk ซึ่งระยะทางยังอีกยาวไกลมาก
ทุกคนคะ ทุกคนเชื่อเราใช่มั๊ยคะ ว่าเราสามารถกินข้าวกันบนรถได้ ใช่ค่ะ เพื่อเป็นการประหยัดเวลา
เราก็กินข้าวกันบนรถ ซึ่งต่อให้เราจอดข้างทางเรา เราก็ต้องกินบนรถอยู่ดี เพราะเราเอาสามแม่ครัวมา
เราสามารถทำกิจกรรมทุกอย่างบนรถได้ แต่!! เราจะทำอะไรไม่ได้รู้มั๊ยคะ
ถูกเผงเลยค่ะ เราจะเขร้บนรถ ไม่ !ได้!
แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อพี่บุญกำลังขับรถอยู่บนเขา ที่ไต่ระดับลงมาเรื่อยๆ แล้วข้าพเจ้าปวดท้องเขร้

บรรลัยล่ะสิ ข้างทางไม่มีเพิงอะไรเลย
เราบอกพี่นิว่า พี่นิ น้องปวดท้อง อยากเข้าห้องน้ำ
ปกติตื่นเช้ามาถ่ายทุกวัน แต่วันนี้มันตื่นเช้าปกติมันก็เลยงง จับเวลาไม่ถูก
ก็เลยมาออกตอนนี้
เอาไงล่ะที่นี้

ไหวมั๊ยยยยย

ไม่ไหวล้าวววว

งั้นข้างทางเลยมะ

ห๊ะ! อะไรนะพี่ ข้างทางเลยหรอ

ใช่ๆ ข้างทางเลย พี่ก็ปวดฉี่เหมือนกัน ป่ะๆ

ก็ด้ะ ไหนก็ไหนๆละ
ว่าแล้วเราก็บอกพี่บุญ "สต๊อบบบบบบบ ไอว้อนทูพู้ "
ตอนบอกพี่บุญก็เขินๆนะ แต่พี่แกดูหน้าเราแล้ว มันคงจกลั้นไม่ไหวแล้วจริงๆแหละ
(จริงๆก็ไม่ต้องไปบอกพี่แกก็ได้ว่านะว่าจะ เขร้ แค่บอกว่าฉี่ก็พอ ก็เรามันซื่อ 55555)
แล้วพี่บุญก็บอกว่า โอเคๆ แปบนึงนะ เดี๋ยวหาทำเลดีๆให้
ในที่สุดเราก็ได้ทำเล ซึ่ง ! มันเป็นข้างทาง ข้างภูเขาหิน มีหิมะกะปริดกะปรอย อันโล่งโจ้ง หามีอะไรมาบังไม่
พี่บุญบอกว่าตรงนี้แหละ เซฟสุดละ
เราก็... เอาวะ เซฟก็เซฟ
พี่นิเห็นท่าไม่ดีก็เลยบอกว่า น้อง เอาร่มไปบังเลย จะได้ไม่มีคนเห็น
เห้ยยยย กู๊ดไอเดียค่ะ เราก็หยิบร่มไป แล้วหาทำเลเหมาะๆ หลบหลังก้อนหินปล่อยทุกข์เต็มที่
พี่นิก็เดินไปหาทำเล แยกก้อนหินกันคนละก้อน
แต่ที่แน่ๆ เราว่ารถที่ผ่านไปผ่านมาเห็นเราชัดม่กเพราะร่มคันสีเขียวอื๋อเลย 55555555
ส้วมธรรมชาติที่สูงที่สุดในโลกที่ข้าพเจ้าเคยปล่อยของเสียอออกมาก็จะประมาณนี้ค่ะ สาบานว่าคงไม่มีใครเห็นเล้ย (พี่นิอยู่ในดงหินเนียนมาก) 555
เราได้ไปแสดงความเป็นเจ้าของไว้เรียบร้อยแล้ว ด้วยโฉนดของเรา

..เดี๋ยวต่อค่ะ..
[CR] อินเดียแลนด์แดนต้องมนต์ (ใครไม่รัก ฉันรักอินเดีย) เดลี-เลห์-ชัยปุระ-อัครา EP.2
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้